ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 215 คุณชายสามเย่หึงหวงจนสามารถเข้าสู่มิติใหม่ได้ (1)

บทที่ 215 คุณชายสามเย่หึงหวงจนสามารถเข้าสู่มิติใหม่ได้ (1)

ดังนั้น สิ่งสำคัญในตอนนี้คือเธอต้องคิดหาวิธีทำให้คุณปู่เย่รีบยกบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้กับเย่ซือเฉิน เธอถึงจะไปได้อย่างสมเหตุสมผล

ตอนที่เย่ซือเฉินกลับมาถึงก็ดึกมากแล้ว เวินลั่วฉิงจึงได้นอนหลับไปแล้ว

พอวันที่สอง ฟ้ายังไม่ทนสว่างเย่ซือเฉินก็ได้รับสายจากจี้หซี

“พี่สาม ทางนี้เกิดเรื่องแล้ว พี่มาดูเร็วๆ”จี้หซีมีน้ำเสียงรีบร้อน แสดงถึงความรุนแรงของเรื่องที่เกิดขึ้น

เย่ซือเฉินยิ้มเยาะเย้ย ตอบสนองได้รวดเร็วดี เมื่อวานเขาเพิ่งจะหาคนแซ่ถังเจอ วันนี้คนแซ่ถังก็มีการเคลื่อนไหวแล้ว และเห็นได้ชัดว่าไม่ได้เคลื่อนไหวแบบธรรมดาด้วย

ดูเหมือนว่าคนแซ่ถังจะรู้เรื่องของเขาดีมาก มันจะใช่จะสืบได้ในเวลาวันสองวันนี้ ดังนั้นคนแซ่ถังน่าจะสืบประวัติของเขามานานแล้ว

นานแค่ไหนกัน?หรือจะเป็น 5 ปีก่อน!

5 ปีก่อน……

ดวงตาก้นลึกของเย่ซือเฉินกำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่

ไม่เป็นอะไร เขาจะดูสิว่าคนแซ่ถังจะทำอะไรได้?

ในเมื่อคนแซ่ถังอยากจะล่อเขาออกไป เขาก็จะให้ความร่วมมือหน่อยถึงจะสามารถล่อเสือออกจากถ้ำมาได้

เย่ซือเฉินไปที่ห้องนอนของเวินลั่วฉิงในเวลาอันเช้าตรู่ เวินลั่วฉิงยังไม่ได้ตื่นนอน เมื่อเขามองผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง มุมปากของเขาก็ค่อยๆยกขึ้น

พอเขากลับมา……

พอเขากลับมา คงจะสะสางทุกอย่างได้เรียบร้อยแล้ว พอถึงเวลานั้นเรื่องราวทุกอย่างก็จะกระจายเสียที เธอก็อย่าคิดจะปิดบังต่อไปอีกเลย

เขาก็ไม่อนุญาตให้เธอปิดบังต่อ

ตอนที่เวินลั่วฉิงตื่นนอน เย่ซือเฉินก็ออกไปแล้ว เวินลั่วฉิงรู้สึกคุ้นชินกับเรื่องนี้แล้ว จึงไม่ได้คิดอะไรมาก

เวินลั่วฉิงได้เดินทางไปที่บริษัทเวินซื่อกรุ้ปเหมือนปกติทุกวัน แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อเธอเพิ่งจะถึงหน้าตึกบริษัทเวินซื่อกรุ้ปก็เห็นมีคนมาดักรอ

เวินลั่วฉิงจ้องมองไป๋ยี่รุ่ยที่มาดักรอเธออยู่ ดวงตาไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ แต่สีหน้าไม่มีความผิดปกติใดๆ และไม่ได้พูดอะไรด้วย

“คุณกำลังหลบผมอยู่เหรอ?”ไป๋ยี่รุ่ยมาดักรอเธอโดยเฉพาะ เธอได้เปลี่ยนเบอร์และเขาตรวจหาเบอร์ใหม่ของเธอไม่เจอ เพราะเบอร์ใหม่ของเธอนั้นคนในบริษัทก็ไม่รู้เสียด้วยซ้ำช่วงนี้ไม่ว่าเขาจะนัดเจอเธอทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่เธอก็ปฏิเสธที่จะเข้าพบทุกครั้งเสมอมา

ดังนั้นเขาจึงได้แต่ดักรอเธออยู่ตรงนี้

“ไม่ใช่ มันไม่จำเป็น”เวินลั่วฉิงตอบด้วยเสียงเบาๆด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติหนึ่งประโยค หลบเขา?เธอไม่ได้คิดเช่นนั้น เพียงแต่รู้สึกไม่จำเป็นต้องพบแค่นั้นเอง

“ฉิงฉิง พวกเรามาคุยกันก่อนนะ”ไป๋ยี่รุ่ยแอบถอนหายใจหนึ่งครั้ง เขาดูออกว่าเธอนั้นเฉยชา และฟังออกว่าน้ำเสียงของเธอมีความห่างเหินกันมาเพียงใด ดังนั้นเขาต้องคุยกับเธอดีๆสักครั้งหนึ่ง

“ขอโทษค่ะ ระหว่างเราไม่มีอะไรต้องคุยกัน” สีหน้าเวินลั่วฉิงมีความเคร่งขรึม ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นเกิด เขากับเธอก็ได้จบลงกันแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก

เธอเป็นคนที่ไม่ชอบติดค้างอะไร จะไม่ปล่อยให้มีเยื่อใยหลงเหลืออยู่ เธอจะตัดขาดให้สนิทไปเลย

เวินลั่วฉิงพูดจบแล้วอยากจะเดินผ่านไป๋ยี่รุ่ยเข้าไปที่ตึกของบริษัทเวินซื่อกรุ้ป

ตอนนี้เป็นเวลาที่เข้ามาทำงาน นอกประตูมีคนมากมายกำลังจ้องมองมาที่พวกเขา เวินลั่วฉิงไม่อยากจะให้เกิดความเข้าใจผิดหรือไม่อยากให้เกิดปัญหาอะไรขึ้นมา

“คุณกับเย่ซือเฉินเป็นอะไรกัน?”ไป๋ยี่รุ่ยเห็นเธอจะเดินหนีไป จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาหนึ่งประโยคด้วยสีหน้าที่กลัดกลุ้มใจ ซึ่งน้ำเสียงเหมือนถามอย่างกับสามีจับได้ว่าภรรยาของคนมีชู้กับคนอื่นยังไงอย่างนั้น

เวินลั่วฉิงหยุดเดิน จ้องมองเขาแล้วนิ่งแล้วครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่เชื่องช้าว่า“มีความสัมพันธ์ฉานสามีภรรยากัน”

ตอนแรกเธอกับเย่ซือเฉินแต่งงานกันเป็นความลับที่รู้กันไม่กี่คน จึงได้เก็บเป็นความลัลบมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เวินลั่วฉิงกลับบอกไป๋ยี่รุ่ยอย่างง่ายดาย

เธอไม่อยากจะเกี่ยวพันอะไรกันกับไป๋ยี่รุ่ย เธอจึงคิดว่านี้เป็นสิ่งที่จะหยุดให้ไป๋ยี่รุ่ยเกิดความคิดที่เป็นไปไม่ได้

“ฉิงฉิง คุณไม่เคยพูดปมมาก่อนเลยนะ。”ไป๋ยี่รุ่ยตกตะลึง ถึงแม้วันนั้นคำพูดของเย่ซือเฉินจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ง่าย และเขาก็ไม่พอใจด้วย แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินจะมีความสัมพันธ์กันอย่างนี้

เขาไม่เชื่อว่าเธอกับเย่ซือเฉินจะเป็นสามีภรรยากัน ไม่เชื่อเด็ดขาด และไม่ยอมเชื่อเป็นอย่างมาก

“ค่ะ ดังนั้นสิ่งที่ฉันพูดจึงเป็นความจริงทั้งหมด”เวินลั่วฉิงมองเขาแล้วยิ้มเบาๆ“ดังนั้นฉันก็จะไม่คุยอะไรมากกับคุณไป๋แล้ว ฉันกลัวว่าสามีเห็นแล้วจะเข้าใจผิดได้”

คำพูดประโยคนี้ของเวินลั่วฉิงนั้นแสดงการปฏิเสธอย่างชัดเจนมาก

เธอคิดว่าไป๋ยี่รุ่ยน่าจะไม่คิดจะรั้งเธออีกต่อไป เวินลั่วฉิงจึงก้าวเท้าเดินต่อไปอีกครั้งหนึ่ง

“ฉิงฉิง”เพียงแต่ไป๋ยี่รุ่ยดึงข้อมือเธอไว้“พวกเราคุยกันก่อนนะ……”

ดวงตาของเวินลั่วฉิงเย็นชามากอย่างเห็นได้ชัด เขาจะไม่ยอมจบสิ้นกันใช่ไหม?เธอพูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว เขายังคิดจะทำอะไรอีก?

“พวกเรามาคุยกันเรื่องหุ้นส่วนของบริษัทเวินซื่อกรุ้ปกัน”ไป๋ยี่รุ่ยดูจากความเฉยชาที่เธอมีต่อเขา เขาจึงคิดว่าหากรั้งเธอด้วยเหตุผลความสัมพันธ์ของทั้งคู่คงจะไม่ได้ผล ดังนั้นเขาจึงพูดถึงเรื่องหุ้นส่วนของบริษัทเวินซื่อกรุ้ป

เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก หางคิ้วกระตุกเล็กน้อย เขาจะคุยเรื่องหุ้นส่วนของเวินซื่กรุ้ป?

หุ้นส่วนของบริษัทเวินซี่อกรุ้ปเกี่ยวอะไรกับเขา?

แต่เวินลั่วฉิงมีปฏิภาณไหวพริบเป็นเลิศ เธอจึงคิดได้ทันทีว่า ไป๋ยี่รุ่ยน่าจะกวาดซื้อหุ้นส่วนของบริษับเวินซื่อกรุ้ปตอนที่บริษัทอยู่ในวิกฤต

“คุณกวาดซื้อหุ้นส่วนของบริษัทเวินซื่อกรุ้ปแล้วเท่าไหร่?”ดวงตาของเวินลั่วฉิงหรี่ขึ้นเล็กน้อย เธออยากจะแน่ใจก่อนว่าไป๋ยี่รุ่ยซื้อหุ้นไปแล้วเท่านั้น เพราะมันคือประเด็นสำคัญ

“ร้อยละ 56”ไป๋ยี่รุ่ยตอบอย่างรวดเร็วและตรงไปตรงมา เพราะอัตราส่วนของตัวเลขนี้ทำให้เขามีสิทธิ์พูดได้

เวินลั่วฉิงรู้สึกตกใจ ไป๋ยี่รุ่ยมีหุ้นส่วนของเวินซื่อกรุ้ป ร้อยละ 56?

ตอนแรกคุณปู่เวินมีหุ้นอยู่ที่บริษัทเวินซื่อกรุ้ปร้อยละ 35 เวินจีหยันมีหุ้นอยู่ร้อยละ 12 เวินหรวนหรวนมีหุ้นร้อยละ 5 รวมกันเป็นร้อยละ 52

เพราะตระกูลเวินมีหุ้นส่วนรวมกันร้อยละ 52 ตอนแรกคุณปู่เวินจึงไม่ได้กังวลอะไรมากนัก

ดูเหมือนว่าตอนนี้เวินจีหยันกับเวินหรวนหรวนคงจะขายหุ้นให้กับไป๋ยี่รุ่ยเสียแล้ว

เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าหากไป๋ยี่รุ่ยถือหุ้นในบริษัทเวินซื่อกรุ้ปร้อยละ 56จริง ไป๋ยี่รุ่ยก็จะมีอำนาจในการสั่งการและตัดสินในบริษัทเวินซื่อกรุ้ป

สถานการณ์อย่างนี้ไม่มีผลดีกับตระกูลเวินเลย คุณปู่เป็นโรคหัวใจอยู่ด้วย หากคุณปู่รู้เรื่องนี้เข้า……

เวินลั่วฉิงกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ ดังนั้นจึงลืมสะบัดมือของไป๋ยี่รุ่ยที่จับแขนเธออยู่ทิ้ง

บัดนี้หน้าตึกบริษัทเวินซื่อกรุ้ปหนาแน่นไปด้วยผู้คน ทุกคนเริ่มซุบซิบนินทาว่าท่านประธานใหม่จะมีความสัมพันธ์อย่างไรกับประธานบริษัทฉิงรุ่ยกรุ้ป?

เลขาหลิวก็อยู่หน้าตึก จึงเห็นภาพที่เกิดขึ้นนี้ด้วย

ครั้งนี้เย่ซือเฉินออกไปทำงานนอกสถานที่ไม่ได้ให้เลขาหลิวติดตามไปด้วย แต่เย่ซือเฉินสั่งให้เลขาหลิวอยู่ดูแลงานที่ได้ร่วมลงทุนกับบริษัทเวินซื่อกรุ้ป เลขาหลิวรู้ดีว่าท่านประธานต้องการให้เขาจับตามองคุณนายไว้ให้ดี เขาควรจะรายงานให้ท่านประธานรับทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นดีไหมนะ!

หลังจากที่เลขาหลิวตริตรองดูแล จึงได้นำมือถือออกมาถ่ายรูปหนึ่งภาพ จากนั้นก็ส่งไปให้ประธานของตนดู

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset