ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 222 การเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ที่ทำให้คุณชายสามเย่โมโห (2)

บทที่222 การเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ที่ทำให้คุณชายสามเย่โมโห (2)

“นี่ตระกูลเวินคิดจะสานต่องานวิวาห์กับตระกูลเย่อเหรอ”

“เย่อหยู่เฟิงนั้นเหนือกว่าเย่อหยู่นานเป็นไหนๆ แม้ปกติเย่อหยู่เฟิงจะดูเถลไถลไม่เอาการเอางานไปบ้าง แต่ถ้าทำงานขึ้นมาก็ตั้งอกตั้งใจมากๆ ความสามารถก็ไม่เลวเลยทีเดียว ได้ยินมาว่าเขาทำการปฏิรูปไปไม่น้อยตั้งแต่เริ่มเข้าบริษัท ผลออกมายังไม่เลวเลยทีเดียว เย่อหยู่เฟิงนั้นถือเป็นนักธุรกิจพ่อหนุ่มไฟแรงได้เลย”

“เย่อหยู่เฟิงทั้งหน้าตาดี สดใสร่าเริง เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา สปอร์มาดแมนงั้นเเหรอ” อย่างเขานั้นพวกดึงดูดผู้หญิงชอบเป็นที่สุด กลัวว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเวินจะเอาไม่อยู่นะสิ”

“ดูเหมือนการจับแต่งงานครั้งนี้จะสำเร็จไปได้ด้วยดีนะ”

แต่เดิมสีหน้ามืดครึ้มจนเกือบกลายเป็นน้ำหมึกของเย่ซือเฉินนั่นยิ่งดูแย่เข้าไปใหญ่

เลขาหลิวตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน คนพวกข้างหลังนั้นพูดไม่ดูเหตุการณ์เลยเหรอเนี่ย นี่เป็นการราดน้ำมันบนกองไฟเลยนะ พวกเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ แต่เขายังอยากมีชีวิตอยู่นะ

“ทุกท่านครับ เรื่องคนอื่นนินทาให้มันน้อยๆหน่อยนะครับ”เลขาหลิวทำเพื่อรักษาชีวิตอันเล็กๆของตัวเองเอาไว้ และรักษาชีวิตของทุกเอาไว้ ซึ่งไม่พูดเตือนไม่ได้

ส่วนคำพูดของคนพวกนั้นเขาไม่เห็นด้วยไปซะหมด คุณหนูใหญ่ตระกูลเวินเป็นคุณหญิงของเขา ท่านประธานเสน่ห์แรงขนาดนี้คุณหญิงยังสามารถเอาอยู่เลย เด็กน้อยอย่างเย่อหยู่เฟิงไม่นับว่าเป็นอะไรเหรอ

แต่ละคนไม่รู้อะไรสักเลย

จู่ๆเย่ซือเฉินก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และในตอนนี้ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา จึงเห็นได้ชัดว่าต้องการจะโทร

“ท่านประธานพวกเรามีธุระด่วนกะหันทันที่สำคัญมาก คืนนี้จึงอยู่ด้วยกับทุกคนไม่ได้แล้วครับ ไว้พวกเราค่อยนักเวลากันใหม่นะครับ”เลขาหลิวนั้นไหวพริบดีสุดๆ จึงเข้าใจทันทีว่าท่านประธานนั้นต้องการจะโทรหาคุณหญิง

ดูเหมือนเรื่องคุยธุระวันนี้จะไม่สำเร็จซะแล้ว

พวกคนที่ตามข้างหลังแต่ละคนได้จ้องหน้าจ้องตากัน อย่างมึนงงเล็กน้อย แต่ว่า พวกเขาเห็นเย่ซือเฉินได้เดินห่างออกไปไกลแล้ว จึงไม่กล้าจะเอ่ยพูดอะไรอีก

เวินลั่วเฉินเพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ได้รับสายเย่ซือเฉิน “ฮัลโหล”เวินลั่งฉิงแอบถอนหายใจ เธอเดาถูกแล้วจริงๆ เขาเดินจากไปไม่ได้แปลว่าเรื่องราวมันจะจบไปด้วย แต่แปลว่าเรื่องราวมันจะมีมากยิ่งขึ้นแล้ว

เห็นได้อย่างชัดเจนว่านี่เป็นจังหวะการชำระบัญชีของเย่ซือเฉิน

เย่ซือเฉินไม่เอ่ยพูดอะไร ระยะห่างของสายโทรศัพท์ที่กั้นอยู่นั้นยังทำให้เวินลั่วฉิงรู้สึกหนาวๆเล็กน้อย

“คุณอยู่ไหน ฉันจะรีบไปหา” เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เธอต้องเริ่มก่อน ไม่งั้นความขัดแย้งจะเพิ่มขึ้นไปอีกแน่

ในสถานการณ์เช่นนี้ คนฉลาดอย่างเธอ ก็ไม่ควรต้องใช้ไม้แข็งกับเย่ซือเฉินสิ เรื่องเมื่อกี้นั้นทำให้คนเข้าใจผิดได้ง่ายเสียด้วย เรื่องเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยเธอคาดการณ์ไม่ถึง เพราะฉะนั้นเธอควรอธิบายดีๆให้เย่ซือเฉินเข้าใจ

“นอกโรงแรม”ในที่สุดเย่ซือเฉินเอ่ยเสียงออกมา เพียงแต่เสียงเย็นชามาก และเย็นชามากเหลือเกิน

เวินลั่วฉิงไม่รอช้าแม้แต่น้อย ก็รีบวิ่งออกไปข้างนอกโรงแรมอย่างรวดเร็วที่สุด ไม่สนใจเย่อหยู่เฟิงที่เพิ่งปีนขึ้นมาจากสระว่ายน้ำด้วยเนื้อตัวเปียกโชกไปหมด

ถ้าไม่ใช่เพราะเย่อหยู่เฟิงจู่ๆเกิดบ้าขึ้นมา ก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เย่อหยู่เฟิงนั่นเป็นตัวอันตรายจริงๆด้วย

หลังเวินลั่วฉิงวิ่งออกมาจากโรงแรมก็เห็นรถเย่ซือเฉินจอดรออยู่ด้านนอกประตู เธอจึงวิ่งไปหาอย่างรวดเร็ว แล้วขึ้นรถ เวินลั่วฉิงยังไม่ทันนั่งลงดีๆ สายตาเย็นชาของเย่ซือเฉินก็หันมามอง””เย่อหยู่เฟิงทั้งหน้าตาดี สดใสร่าเริง เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา สปอร์ตมาดแมนงั้นเหรอ”

เลขาหลิวที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งคนขับต้องพยายามอดกลั้นอย่างหนักเพื่อจะไม่ให้ตัวเองไอออกมา คำถามนี้ของท่านประธานของเขานั้นช่าง……เขารู้สึกว่าท่านประธานของเขานั้นช่างปัญญาอ่อนจริงๆ

เวินลั่วฉิงนิ่งอึ้ง นัยน์ตาเปล่งประกายเล็กน้อย

โอ้ย อยากจะบ้าตาย

นี่ใครพูดเรื่องบ้าๆบอๆเขาฟังกันนะ หรือคิดว่าเรื่องนี้ยังไม่ใหญ่พออีกใช่ไหม

เวินลั่วฉิงมองตาเย่ซือเฉิน ก็แอบสั่นในใจเล็กน้อย ตอนนี้เย่ซือเฉินน่ากลัวมากจริงๆ

เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าคำถามนี้ตอบไม่ง่ายเลย ถ้าตอบได้ไม่ดีละก็ ผลที่ตามมาช่างไม่กล้าคิดเลยจริงๆ

“ไม่รู้สิ ฉันไม่เคยสังเกตมาก่อน มีเหรอ”เวินลั่วฉิงมองเขา กะพริบตาปริๆ ด้วยท่าทางใสซื่อไร้เดียงสา และจริงใจสุดๆ

พูดจริงนะ เธอไม่เคยสังเกตมาก่อนว่าเย่อหยู่เฟิงนั้นหน้าตาดีหรือไม่ดี เพราะนั่นไม่เกี่ยวข้องกับเธอแม้แต่น้อย

เลขาหลิวฟังที่เวินลั่วฉิงพูด ก็อึ้งไปทันที จากนั้นก็กดไลก์ร้อยครั้งให้คุณหญิงของเขาภายในใจ

คุณหญิงนี่เก่งจริงๆ

คุณหญิงตอบแบบได้ใจสุดๆ

แค่คำว่าไม่เคยสังเกตก็เพียงพอต่อการพิสูจน์ได้ว่าในสายตาของคุณหญิงนั้นย่อหยู่เฟิงไม่มีผลอะไรเลยแม้แต่น้อย

คำพูดนี้ท่านประธานของเขายอมรับฟังอย่างแน่นอน

เย่ซือเฉินเหมือนตอบอืมอย่างเย็นชา สีหน้ามืดครึ้มที่เพียงพอต่อการทำคนตกใจจนตายได้ในตอนแรกนั้นเห็นได้ชัดว่ามีการคลายกังวลลง แต่ว่า เขายังคงทำหน้าบึ้งตึงเช่นเดิม แล้วไม่พูดอะไรต่ออีก

“คือวันนี้ฉันมาโรงแรมเป็นเพื่อนคุณปู่กับคุณย่าเหอน่ะ ฉันไม่รู้ว่าเย่อหยู่เฟิงโผล่มาอยู่ตรงนี้ได้ไง” เขาไม่ได้ถาม แต่เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าควรจะอธิบายให้เข้าใจสักนิดหนึ่ง เพราะเรื่องเมื่อกี้มันพิเศษเกินไปหน่อย เย่ซือเฉินทางมามองเธอ แล้วไม่พูดเช่นเดิม คำที่เธอพูดเขาเชื่อ แต่ว่าที่เขาโกรธไม่ได้เป็นเพราะเรื่องนี้

“ก่อนหน้านี้ที่เย่อหยู่เฟิงเอาเสื้อของเขามาคลุมบนตัวให้ฉัน ตอนนั้นฉันใส่แค่ชุดว่ายน้ำ และตอนนั้นคนเยอะเกินไป เพราะแบบนี้……”เวินลั่วฉิงไหวพริบดี จึงเข้าใจทันที จากนั้นก็อธิบายเรื่องเสื้อผ้าให้เข้าใจอีกครั้ง

เฮ้อ ผู้ชายคนนี้ขี้เก๊กชะมัด

“เย่อหยู่เฟิงเห็นแล้วเหรอ” เพียงแต่ ต่อจากนั้น เย่ซือเฉินก็หรี่ตามองอย่างรวดเร็ว เสียงก็เปลี่ยนเยือกเย็นขึ้นมาทันที

ที่จริงก่อนหน้านี้เขาก็นึกถึงเหตุการณ์แบบที่เธอพูดมาแล้ว ดังนั้นจึงพาคนให้ออกจากมา แต่แค่นึกถึงเธอใส่ชุดว่ายน้ำที่เซ็กซี่ถูกเย่อหยู่เฟิงเห็นเข้าแล้ว เขาก็มีความคิดที่อยากควักลูกตาเย่อหยู่เฟิงออกมาทันที

เวินลั่วฉิง”……”

นี่ทำไมยิ่งอธิบายยิ่งยุ่งยากเข้าไปใหญ่

“ไม่นะ ตอนนั้นบนตัวฉันมีผ้าขนหนูคลุมไว้แล้ว”

เวินลั่วฉิงอธิบายเพิ่มเติมอีกคำ

เฮ้อ ผู้ชายช่างเดาใจยากชะมัด ผู้ชายคนนี้รับมือได้ยากจริงๆ

สีหน้าเย่ซือเฉินดีขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็หันสายตามามองตรงข้างหน้า

เวินลั่วฉิงกระตุกมุมปากเบาๆ คุณชายสามเย่ คุณขี้เก๊กแบบนี้จะดีจริงเหรอ

ตลอดทางเย่ซือเฉินไม่พูดอะไรอีก เลขาหลิวส่งทั้งสองกลับที่คฤหาสน์โดยตรง

ตอนกลับไปถึงคฤหาสน์ก็ประมาณเกือบหกโมงเย็นแล้ว เวินลั่วฉิงรู้ว่าเย่ซือเฉินยังไม่ได้กินข้าวยังแน่นอน เวินลั่วฉิงเลยตัดสินใจลงมือเข้าครัว

มีคนเคยบอกไว้ว่าถ้ากินของคนอื่นแล้วก็จะพูดดีๆ

ถ้าเย่ซือเฉินกินอาหารที่เธอทำก็อาจเกรงใจไม่กล้าโกรธเธออีกก็เป็นไปได้

แต่ที่เวินลั่วฉิงไม่รู้คือ คำพูดนี้ใช้บนตัวคุณชายสามเย่ไม่เกิดผลอะไรทั้งนั้น

เวินลั่วฉิงทำอาหารออกมาไม่น้อย คุณชายสามเย่กินอย่างเอร็ดอร่อย เวินลั่วฉิงก็แอบโล่งใจเบาๆ

เพียงแต่จู่ๆเย่ซือเฉินก็เงยหน้ามามองเธอ แล้วเอ่ยปากพูด”พรุ่งนี้เป็นต้นไปต้องเข้าบริษัทกับฉันด้วย”

เรื่องวันนี้เขาจะไม่ถือสา แต่เขารู้สึกว่าตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปต้องให้เธออยู่ใกล้ตัวเขาทุกๆเวลา เขาออกไปไม่ถึงเวลาสองวัน เธอยังหว่านเสน่ห์ดึงดูดแมลงหวี่แมลงวันมาก่อกวนเขาตั้งหลายตัว และอย่างมีถังไป๋เชียนที่แอบซ่อนไว้อีกคน “ไปบริษัททำไม เรื่องในบริษัทฉันก็ไม่เข้าใจด้วย ฉันไม่อยากไปหรอก”ปฏิกิริยาแรกของเวินลั่วฉิงคือปฏิเสธ และปฏิเสธอย่างหนักแน่น

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset