บทที่268 ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณชายสามเย่โมโห(1)
“เล่นหมากรุกกับคุณปู่เล้งไง ทำไมคุณถึงกังวลมากแบบนั้น?”เวินลั่วฉิงหันมาสบตา แล้วมองไปที่เขา ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้า แต่การยิ้มอ่อนๆกลับทำให้เล้งหรงรู้สึกขนลุกเล็กน้อย
ในสถานการณ์นี้ เล้งหรงไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้ เขาก็หัวเราะ ทันใดนั้นเขาก็ขยับเข้าใกล้เวินลั่วฉิง พูดเบาๆว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นในตัวคุณ”
ความสามารถในการคุยจีบสาวของเล้งหรงนั้นคือว่าเก่งไม่เบาเลย
หลี่รุ่ยที่กำลังช่วยงานในครัวเห็นฉากนี้ รีบถือโทรศัพท์ แล้วถ่ายภาพนี้ไว้อย่างรวดเร็ว
ในรูป เวินลั่วฉิงนั่งอยู่บนโซฟา คุณชายเล้งยืนข้างหลัง ก้มตัวเล็กน้อย ใบหน้าของเขาโน้มไปด้านหน้าของเวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงเอียงหน้าของเธอเล็กน้อย สบตากับเล้งหรง ดูจากภาพถ่ายแล้ว ใบหน้าของทั้งสองใกล้กันมาก ใกล้สุดๆ เนื่องจากมุมถ่าย ดูเหมือน ปากของเล้งหรงจูบโดนใบหน้าของเธอ
ภาพดังกล่าวแสดงใบหน้าด้านข้างของเวินลั่วฉิง มองไม่เห็นฝ้ากระบนใบหน้าของเธอ เธอแลดูสวยมากจากมุมนั้น
ในรูปภาพ เวินลั่วฉิงกำลังยิ้ม ยิ้มได้สวยงามมาก สวยสุดๆ เล้งหรงก็ยิ้ม ยิ้มอย่างพอใจจนแก้มปริ
เวินลั่วฉิงไม่คาดคิดว่าจู่ๆเล้งหรงจะโน้มใบหน้าเข้ามา เมื่อเล้งหรงโน้มตัวมา เธอก็รีบหลบอย่างรวดเร็ว
จริงๆเธอหลบได้อย่างรวดเร็วทุกครั้ง ช่วงที่เธอใกล้ชิดกับเล้งหรงมากสุด ก็มีระยะห่างอยู่เหมือนกัน
แต่ภาพนั้นถ่ายจากช่วงเวลาและมุมกล้องที่เรียกได้ว่า ‘พอเหมาะพอดีมาก’!
หลี่รุ่ยรู้สึกพอใจกับภาพถ่ายมาก จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะโพสต์ลงโซเชียล แคปชั่นคือ ‘คู่กิ่งทองใบหยกในเวลานี้ ดูเหมาะสมมาก’
นี่เป็นเรื่องบังเอิญ หลี่รุ่ยเป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนกับน้องสาวของจี้หซี และยังคงเป็นเพื่อนที่ดีมาก
น้องสาวของจี้หซีเห็นโพสต์แล้วก็แชร์โพสต์ตามหลังจากที่เห็น และไม่ได้เปลี่ยนแคปชั่นเลยด้วยซ้ำ
แน่นอน ทั้งหมดนี้เวินลั่วฉิงไม่รู้ด้วยซํ้า เวินลั่วฉิงมองไปที่คุณปู่เล้ง รอให้คุณปู่เล้งแสดงความเห็น
“ดี พวกเรามาเล่นกันต่อ ”คุณปู่เล้งหมกมุ่นเรื่องการเล่นหมากรุก และอยากทดสอบเวินลั่วฉิงด้วย จึงไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
“นั้นพวกเราไปห้องอ่านหนังสือกัน”เวินลั่วฉิงหัวเราะเบาๆ เป็นไปตามที่เธอคาดหวัง
คุณปู่เล้งไม่ปฏิเสธแน่นอน
แต่ว่า คนอื่น ๆ ที่ตามไปห้องอ่านหนังสือเพื่อเห็นความสนุกสนานเวินลั่วฉิงก็ได้ห้ามเอาไว้ด้านนอกแม้แต่คุณปู่เวินกับเล้งหรงก็เช่นกัน
แผนของเธอคือไม่ให้เล้งหรงไปวุ่นวายข้างๆพวกเขา
“คุณปู่เล้ง งั้นเรามาเล่นแบบพนันกันมั้ยคะ?” ในห้องอ่านหนังสือ เวินลั่วฉิงไม่รีบร้อนที่จะเล่นหมากรุก แต่ก่อนอื่นพูดคุยเกี่ยวกับเงื่อนไขก่อน
“หนูต้องการพนันอะไรล่ะ?” คุณปู่เล้งหัวเราะเบา ๆ รู้แล้วว่ายัยหนูคนนี้มีจุดประสงค์อื่นแน่
ใครว่ายัยหนูคนนี้โง่? เธอเป็นคนที่มีไหวพริบอย่างเห็นได้ชัด เก่งและเฉลียวฉลาดเป็นคนน่ารักมาก!
“ถ้าฉันชนะ คุณห้ามพูดถึงเรื่องขอแต่งงานอีก เรื่องของหนุ่มสาวก็ให้หนุ่มสาวอย่างเราจัดการกันเอง คำพูดของเวินลั่วฉิงตรงไปตรงมา แต่เธอพูดให้คุณปู่เล้งมีพื้นที่ว่างมากพอ
ต้องให้คุณปู่เล้งยกเลิกเรื่องขอแต่งงาน ส่วนฝั่งเล้งหรงนั้นรับมือได้ง่ายอยู่แล้ว
“แล้วถ้าผมชนะล่ะ?”คุณปู่เล้งมองไปที่เธอ แล้วยิ้ม
“ถ้าคุณชนะ ฉันก็ยอมเรื่องขอแต่งงานของตระกูลเล้ง แม้จะให้เราจะแต่งงานกันในวันพรุ่งนี้ก็ยอมค่ะ ”เวินลั่วฉิงรู้ใจของคุณปู่เล้งเป็นอย่างดี ดังนั้น เธอเลยพูดต่อหน้า มีความมั่งใจสูง ไม่เหลือพื้นที่ใดๆเหลือให้ตนเองเลย
เธอรู้ว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่คุณปู่เล้งต้องการมากที่สุด เธอยังรู้อีกด้วยว่าคุณปู่เล้งมั่นใจในทักษะการเล่นหมากรุกของตนมาก
ดังนั้นการเดิมพันครั้งนี้คุณปู่เล้งยอมแน่นอน
ถ้าต้องการให้คุณปู่เล้งตกลง ฝั่งเธอต้องยอมกล้าลงทุนให้เต็มที่ถึงจะได้!
“ยัยหนู มีความกล้าพอนิ ”คุณปู่เล้งตะลึง สายตาดูมีความซับซ้อนมากขึ้นเล็กน้อย ยัยหนูนี่กล้าพอแล้ว เช่นเดียวกับตอนเขายังหนุ่ม
หนุ่มสาวที่มีความกล้าแบบนี้มีไม่มาก เขาพบว่ายัยหนูคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งถูกใจเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
“ยัยหนู คุณรู้ว่าผมชอบเล่นหมากรุก คุณรู้หรือไม่ ผมเล่นหมากรุกไม่เคยแพ้ใคร ” คุณปู่เล้งรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรรังแกรุ่นน้อง ควรจะเตือนเธอก่อน
“รู้แล้วค่ะ ” เวินลั่วฉิงยิ้ม สีหน้าท่าทางดูธรรมชาติ ไม่เห็นมีอะไรแปลก
คุณปู่เล้งตะลึงอีกครั้ง ยัยหนูคนนี้บ้าจนไม่มีที่สิ้นสุด เขาชักอยากเห็นว่าเธอจะเก่งแค่ไหนกัน “ได้ งั้นก็ตกลงตามที่เธอกล่าว”
“นั้นก็เริ่มเลยค่ะ ”เวินลั่วฉิงยิ้ม แล้วนิ่งสงบ
เห็นเธอแบบนี้ คุณปู่เล้งก็ไม่กล้าประมาท ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นเรื่องของการแต่งงานของหลานชายเขาด้วย แน่นอนว่าเขาจะแพ้ไม่ได้
เวลาผ่านไปนานแล้วที่จี้หซีเห็นโพสต์ที่น้องสาวโพสต์ในโซเชียล ตอนแรกเขาไม่สนใจ แต่ว่า เขาตะลึงเมื่อเห็นผู้หญิงในรูปถ่าย
แม้จะเห็นเพียงครึ่งหน้าด้านข้าง แม้ว่าเวินลั่วฉิงในตอนนี้จะสวยจนไม่เหมือนเวินลั่วฉิง แต่จี้หซียังจำได้บ้าง เขาดูแล้วเหมือนเวินลั่วฉิง
จี้หซีนึกแล้วนึกอีก จากนั้นก็บันทึกภาพข้อความที่น้องสาวส่งมาและแชร์ส่งไปให้เย่ซือเฉิน ด้วยแคปชั่นข้อความเดิม
“พี่สาม คนนี้ใช่พี่สะใภ้สามไหม? ผมดูแล้วรู้สึกเหมือนเล็กน้อย ”จี้หซีก็ไม่แน่ใจเช่นกัน เขาแค่ต้องการให้แน่ใจผ่านเย่ซือเฉิน
“แต่ว่า คนที่ยิ้มที่อยู่ข้างๆคือเล้งหรงใช่ไหม? เล้งหรงกับพี่สะใภ้สามไม่ได้อยู่ด้วยกันนิ? ต้องดูผิดคนแน่ ” จี้หซีรู้สึกไม่น่าเป็นไปได้ จากนั้นเขาก็ส่งข้อความไปหาเย่ซือเฉิน
แต่ว่า ชั่วขณะที่เย่ซือเฉินเห็นรูปถ่าย ดวงตาคู่หนึ่งเย็นลงอย่างสุดขีด ใบหน้าของเขาจมมืดลงอย่างสุดๆ
เมื่อเห็นแคปชั่นที่โพสต์อีกครั้ง ดูเหมือนว่าจะมีรอยยิ้มเล็กน้อยในดวงตาของเย่ซือเฉิน เป็นรอยยิ้มที่โกรธมาก คู่กิ่งทองใบหยก เหมาะสมกันมาก?
เขาเป็นสามีที่แท้จริงของเธอ เรื่องคู่กิ่งทองใบหยกนี้ถึงคิวเล้งหรงด้วยเหรอ?
“ไปบ้านตระกูลเวิน”ในขณะนี้เย่ซือเฉินมาถึงเมือง A แล้ว แล้วลงจากเครื่องบิน ขึ้นรถ น้ำเสียงของเขาเย็นชาจนทำให้คนตัวสั่น
เลขาหลิวถึงกับต้องแอบหายใจเข้าลึกๆ คุณพระช่วย ท่าทีของประธานน่ากลัวจัง ประธานไปบ้านตระกูลเวินด้วยสีหน้าแบบนี้ จะมีใครตายไหมเนี่ย?
บนรถ เย่ซือเฉินมองไปที่รูปถ่ายในโทรศัพท์ หรี่ตาเล็กลงทีละน้อย เรื่องที่ล้างพุทรา เขาก็รู้แล้วว่าเข้าใจผิด แต่ในรูปล่ะ?
ในรูปภาพ เห็นได้ชัดว่าเธอยิ้ม และเธอกำลังมองไปที่เล้งหรงแล้วยิ้ม และยังยิ้มซะสวยอีก
เธอไม่เคยยิ้มแบบนี้ต่อหน้าเขาเลย เล้งหรงไปขอแต่งงาน เธอยิ้มให้เล้งหรงเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?
เล้งหรงไปขอแต่งงาน เธอดีใจงั้นเหรอ?
ใบหน้าเธอและเล้งหรงจะติดกันอยู่แล้ว เล้งหรงกำลังจะจูบเธออยู่แล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ไม่รู้จักเลี่ยงคำนินทาเลยหรือไง?
ผู้หญิงบ้า เขาเพิ่งไปทำธุระเมื่อเช้านี้เท่าเอง เธอก็……
ดวงตาของเย่ซือเฉินแคบลงดูอันตรายมากขึ้น
เลขาหลิวซึ่งขับรถรู้สึกได้ถึงความกดอากาศที่ต่ำลงเป็นพิเศษภายในรถ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆเลย
เครื่องบินจอดในเมืองไม่ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อไปถึงในเมือง และไปบ้านตระกูลเวินระยะทางยังอีกไกล และต้องใช้เวลา
เย่ซือเฉินชักอยากจะบินข้ามไปในขณะนี้ซะเลย แล้วสายตาของเขาไปตกอยู่ที่ภาพถ่ายอีกครั้ง ต้องยอมรับว่า มองจากมุมนี้บนภาพถ่าย เธอดูสวยมากจริงๆ
