ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 276 ลูกทั้งสองคนมาหาถึงที่ … พ่อของหนูคือท่านประธานของพวกคุณ (4)

บทที่ 276 ลูกทั้งสองคนมาหาถึงที่ … พ่อของหนูคือท่านประธานของพวกคุณ (4)

แน่นอนว่าตอนนี้ เย่ซือเฉินจะรวบยอดคิดบัญชีเธอทั้งเก่าทั้งใหม่พร้อมกันทีเดียว!!

“ถ้าฉันจะบอกว่าไม่ได้คุยอะไรกัน นายจะเชื่อไหม?” เวินลั่วฉิงเอ่ยปากขึ้น เมื่อวานเธอกับเล้งหรงแทบจะไม่ได้พูดคุยอะไรกันจริง ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณปู่ดูยังไงว่าพวกเขาคุยกันอย่างมีความสุข

เย่ซือเฉินมองเธอ แล้วเม้มปากเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา คำพูดของเธอนั้นเขาเชื่ออยู่แล้ว แต่เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวานที่เล้งหรงไปพูดเรื่องแต่งงาน ไหนจะเรื่องส่งดอกกุหลาบมาหนึ่งคันรถบรรทุกอีก เขามองข้ามเรื่องนี้ไม่ได้จริง ๆ

อีกทั้ง เขารู้สึกว่าที่คุณปู่เวินพูดว่าพวกเขาคุยกันอย่างมีความสุข ไม่ใช่พูดลอย ๆ เท่านั้น แต่ยังมีรูปถ่ายใบนั้น…

แต่ในเมื่อเธอพูดออกมาแบบนี้ เขาก็เชื่อเธอ ไม่ว่ายังไง เขาก็รู้สึกว่าเธอไม่ได้หลอกเขา

สีหน้าเย่ซือเฉินค่อย ๆ ดูอบอุ่นขึ้นมา

“ที่รักคะ ฉันหิวแล้ว พวกเราไปทานข้าวกันดีไหม?” เวินลั่วฉิงถนัดเรื่องสังเกตสีหน้าและคำพูดของคน เมื่อเห็นว่าเขามีท่าทีเปลี่ยนไป จึงถือโอกาสออดอ้อนเขาทันที

ที่จริงแล้ว การออดอ้อนผู้ชายแบบนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตเธอเลย ถึงจะไม่ค่อยถนัดนัก แต่เพื่อเอาอกเอาใจคุณชายจอมหยิ่งที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เธอไม่ทำก็ไม่ได้

เธอรู้ดีว่า คุณชายท่านนี้แหย่ไม่ได้เด็ดขาด

เรื่องการออดอ้อนออเซาะนั้นเธอเรียนรู้มาจากลูกจื่อซีของเธอ น้ำเสียงนุ่มนวล อ่อนหวาน ออดอ้อน ทำให้คนที่ฟังไม่สามารถต้านทานได้ ทุกครั้งเธอเองก็ไม่สามารถต้านทานลูกอ้อนของจื่อซีได้เช่นกัน

วิธีออดอ้อนแบบนี้ เย่ซือเฉินก็ไม่สามารถต้านทานได้เช่นกัน แต่เวินลั่วฉิงมองข้ามอะไรบางอย่างไป

มองข้ามไปว่าเย่ซือเฉินเป็นผู้ชาย ผู้ชายที่เดิมทีเมื่อเห็นเธอก็ยากจะหักห้ามใจ ไม่สิ เมื่อเห็นเธอหักห้ามใจไม่ได้เลยสักนิดต่างหาก

ในตอนนี้ อารมณ์แบบนี้ สถานที่อย่างนี้ เธอออดอ้อนออเซาะเขา นั่นทำให้…

เย่ซือเฉินอึ้งเล็กน้อย ตาเริ่มพร่ามัว มือที่โอบเอวเธอนั้นเริ่มเคลื่อนขึ้นมา จากนั้นก็ออกแรง ทำให้ตัวเธอแนบชิดติดกับเขา : “ตอนนี้ฉันอยากกิน…เธอมากกว่า”

เมื่อพูดจบ เขาก็จูบเธออย่างดูดดื่มทันที

เวินลั่วฉิงอึ้งไปเลย นี่ไม่ใช่แบบที่เธอต้องการสักหน่อย

ทันใดนั้น ภายในห้อง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นโทรศัพท์ของเย่ซือเฉิน แต่เย่ซือเฉินไม่มีท่าทีว่าจะสนใจสักนิด เขายังคงจูบเธออย่างหนักหน่วง

“โทรศัพท์นาย โทรศัพท์นายดังอยู่” เวินลั่วฉิงออกแรงผลักเขา

แต่เย่ซือเฉินไม่สนใจสักนิด แถมยังดุเดือดยิ่งกว่าเดิมอีก

เวินลั่วฉิงพยายามยื่นมือออกไปเพื่อหยิบโทรศัพท์เขา แล้วยื่นไปให้เขา : “โทรศัพท์นาย รับโทรศัพท์เถอะ”

ตอนนี้เวินลั่วฉิงไม่รู้เลยว่าใครโทรเข้ามา

เวินลั่วฉิงยังคงอยู่บนตัวของเขา ดังนั้นจึงสามารถหยิบโทรศัพท์เขาได้

“ดูท่า ฉันคงจะพยายามไม่มากพอ…” เย่ซือเฉินไม่มองโทรศัพท์แม้แต่น้อย เขามองเพียงเธอ แล้วยิ้มชั่วร้ายออกมา เวลานี้เธอยังมีอารมณ์รับโทรศัพท์อีกเหรอ ดูท่า เขายังดุเดือดไม่มากพอสินะ

ดังนั้น เขาจึงยิ่งออกแรงฟัดเหวี่ยงกับเธอ

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ริมฝีปากเวินลั่วฉิงก็เผยอออก เขายังพยายามไม่มาพอเหรอ?

ตอนนี้เธอยังปวดเมื่อยไปทั้งตัว เขายังคิดจะทำอะไรอีก เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเขาไม่ใช่ เขามันเป็นสัตว์ดุร้ายที่คอยถลกหนังคนตัวหนึ่ง

โทรศัพท์ของเขายังคงดังไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าคนที่โทรมามุ่งมั่นมาก โทรโดยไม่คิดจะวางสายไป

“โทรศัพท์นาย นายรับโทรศัพท์ก่อนเถอะ อาจจะมีเรื่องด่วนอะไรก็ได้” เวินลั่วฉิงออกแรงปัดมือเขาที่กำลังลูบคลำอยู่บนตัวเธอ แล้วยัดโทรศัพท์เข้าไปในมือของเขา

เวินลั่วฉิงคิดจะฉวยโอกาสนี้หนีออกมา เธอไม่อยากอยู่บนเตียงกับเขาต่อไปแล้ว รู้สึกอันตราย อันตรายมากจริง ๆ

แต่ว่า เพียงแค่เธอขยับตัว แขนของเย่ซือเฉินก็โอบรัดเธอไว้อีกครั้ง

เวินลั่วฉิงรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมา เธอรู้สึกว่าทักษะของเธอแย่ลงเข้าเรื่อยแล้ว แค่จะหลบหลีกยังหนีไม่พ้น น่าอายชะมัดเลย เมื่อก่อนที่เคยฝึกฝนมาเปล่าประโยชน์จริง ๆ เลย

เย่ซือเฉินหันไปมองเบอร์โทรศัพท์บนหน้าจอ เห็นเป็นเบอร์แปลก เขาจึงรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต้องรับสาย

และทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็หยุดลง

เย่ซือเฉินยิ้มออกมา จากนั้นก็โยนโทรศัพท์ออกไป

โทรศัพท์ลอยกลางอากาศ แล้วหล่นลงไปบนพรม

เมื่อเห็นเขาโยนโทรศัพท์ทิ้ง เวินลั่วฉิงก็รู้สึกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้น ก็เป็นอย่างที่เธอคิดไว้

ขณะที่เขากำลังจะจูบเธออีกครั้ง เวินลั่วฉิงก็ตะโกนออกมาอย่างเหลืออด : “เย่ซือเฉิน นายยังเป็นคนอยู่ไหม”

“อย่าดื้อสิ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคุยเรื่องนี้กันนะ” เย่ซือเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาชอบเวลาเธออาละวาดที่สุดเลย ช่างน่ารักเสียจริง ท่าทางเธอตอนนี้ยิ่งน่าหลงใหลเหลือเกิน

“เย่ซือเฉิน นายไม่กลัวว่าจะออกแรงเยอะเกินจนตายเหรอ” เวินลั่วฉิงโมโหจนอยากจะกัดเขาให้ตาย

“วางใจได้ ไม่มีวันนั้นแน่นอน” สำหรับเรื่องนี้ คุณชายสามเย่มั่นใจมากเป็นพิเศษ เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะเล็กน้อย

ได้ยินที่เธอพูด เย่ซือเฉินก็คิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง เหมือนว่าเธอจะไม่ได้คุมกำเนิด ตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงตอนนี้ เธอไม่เคยคุมกำเนิดเลย

เธอไม่ได้คุมกำเนิด เขาก็ขยันทำการบ้านขนานี้ เธอน่าจะท้องได้ง่ายสิ?

ในใจเย่ซือเฉินรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที ถ้าหากสามารถท้องลูกสักคนได้คงดี ในเมื่อคิดได้อย่างนี้ คุณชายสามเย่รู้สึกว่าตัวเองต้องขยันทำการบ้านให้มากขึ้นไปอีก

“ไม่มีคนรับสาย” ณ ห้องโถงบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป พนักงานต้อนรับถอนหายใจออกมา มองไปยังเด็กน้อยสองคนด้วยแววตารู้สึกผิด

ไม่มีคนรับสาย เธอก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

ถังจื่อซีสีหน้าบึ้งตึง เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยพอใจแล้ว แต่ทันใดนั้น ดวงตาถังจื่อซีก็เป็นประกายขึ้นมา แล้วเอ่ยพูดในสิ่งที่ทำให้คนตกใจ : “พี่ หรือว่าตอนนี้พ่อกำลังอยู่กับแม่ กำลังทำเรื่องอย่างว่ากันอยู่ เลยไม่มีเวลารับโทรศัพท์?”

ไม่พูดไม่ได้ว่าสิ่งที่ถังจื่อซีพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!

ในขณะที่ถังจื่อซีพูดนั้น ดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์มาก ไม่รู้ว่าเธอเข้าใจเรื่องอย่างว่ามากน้อยแค่ไหน

“แค่ก แค่ก แค่ก…” ได้ยินในสิ่งที่ถังจื่อซีพูด พนักงานต้อนรับก็ตกใจมาก จนสำลักน้ำลายตัวเอง

ถังจื่อโม่ที่ยืนเก็กหล่อมาตลอดเมื่อได้ยินที่น้องสาวตัวเองพูด สีหน้าก็ดูตกตะลึงเล็กน้อย

เขาคิดว่าต้องเป็นมู่หรงดัวหยางพูดอะไรมั่ว ๆ กับน้องสาวเขาแน่ ๆ

“อะแฮ่ม อาจจะเป็นเพราะท่านประธานกำลังประชุม เลยไม่สะดวกรับสาย”เลขาหรวนอดไม่ได้ที่จะอะแฮ่มออกมา เพื่อหยุดไม่ให้ถังจื่อซีพูดอะไรต่อ

เวลานี้คือตอนเที่ยง ท่านประธานของพวกเขากำลังทำเรื่องอย่างว่าเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไง? ประธานของพวกเขาบ้างาน ตั้งใจทำงานมาก ท่านประธานตอนนี้ต้องประชุมอยู่แน่ ๆ เลยไม่ได้รับโทรศัพท์

“คุณหมายความว่าที่พ่อไม่รับสาย ไม่ใช่เพราะอยู่กับแม่ แต่เป็นเพราะกำลังประชุมเหรอ?” ถังจื่อซีเงยหน้าขึ้น มองไปที่เธอ คิ้วที่เหมือนใบหลิวนั้นขมวดเล็กน้อย

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset