ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 277 ลูกทั้งสองคนมาหาถึงที่ … พ่อของหนูคือท่านประธานของพวกคุณ (5)

บทที่ 277 ลูกทั้งสองคนมาหาถึงที่ … พ่อของหนูคือท่านประธานของพวกคุณ (5)

“อืม ใช่จ๊ะ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ”เลขาหรวนพยักหน้าสองสามครั้ง

“ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด” ถังจื่อซีหน้าบึ้ง บ่นพึมพำออกมา

ความหมายของถังจื่อซีคือ ถ้าหากเป็นเพราะอยู่กับแม่เลยไม่ได้รับโทรศัพท์ ยังพอให้อภัยได้ แต่ถ้าหากเป็นเพราะประชุมแล้วไม่รับสายของเธอ ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด

เลขาหรวน : “…”

พนักงานต้อนรับ : “…”

ถังจื่อโม่ยิ้มเล็กน้อย พยักหน้าเห็นด้วย

“พี่คะ ลองใช้โทรศัพท์ของพี่โทรหาพ่อหน่อยสิ ถ้าหากเขาไม่รับสาย พวกเราก็กลับกันเถอะ ไม่อยากเจอเขาแล้ว” ถังจื่อซีแสดงให้เห็นว่าเธอโกรธแล้วนะ ถ้าหากเธอโกรธขึ้นมาเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ

ถังจื่อโม่มองไปที่เธออย่างเอือมระอา แต่ก็ปฏิเสธเธอไม่ลง เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา กดหาเบอร์ของเย่ซือเฉินแล้วโทรออก

ในห้องของเวินลั่วฉิง โทรศัพท์ของเย่ซือเฉินดังขึ้นมาอีกครั้ง

“โทรศัพท์นายดังอีกแล้ว ต้องมีเรื่องด่วนแน่ ๆ” เวินลั่วฉิงถูกเขาจูบจนหายใจไม่ถนัดเท่าไหร่ เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ก็ออกแรงจะผลักเขาออกไป

เย่ซือเฉินไม่สนใจสักนิด เขาโยนโทรศัพท์ลงพื้นไปแล้ว ตอนนี้จะไปสนใจมันได้ยังไง

เขาไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรสำคัญไปกว่าเรื่องที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้

เวินลั่วฉิงถอนหายใจ นายคนนี้ไม่มียาอะไรรักษาให้หายได้แล้ว

โทรศัพท์ยังดังไม่หยุด

ที่จริงเมื่อสักครู่เย่ซือเฉินไม่ได้โยนโทรศัพท์ไปไกลนัก เวินลั่วฉิงหันไปมองเล็กน้อย เห็นโทรศัพท์ของเขาพอดี

หน้าจอยังคงโชว์เบอร์โทรเข้า

เพียงแต่ เบอร์โทรศัพท์ที่เวินลั่วฉิงเห็นนั้นทำให้เธอรู้สึกตกตะลึง จนตัวแข็งทื่อไปทั้งตัว

เบอร์โทรศัพท์นั่น? ไม่ใช่เบอร์โทรของจื่อโม่หรอกเหรอ? จื่อโม่ทำไมถึงได้มีเบอร์โทรศัพท์ของเย่ซือเฉินได้นะ?

เย่ซือเฉินรู้สึกได้ถึงปฏิกิริยาของเธอ เลยอึ้งเล็กน้อย จากนั้นก็หยุดจูบเธอ : “ทำไมเหรอ? ทำให้เธอเจ็บเหรอ”

เขาคิดว่าเมื่อกี้จูบแรงเกินไป เลยทำให้เธอเจ็บ

แต่ทันใดนั้น เขาก็เห็นว่าสายตาของเธอมองไปยังโทรศัพท์ของเขา ดูท่าทางตกใจเล็กน้อย เหมือนกลัวอะไรอยู่

เขารู้จักเธอดี เวลาเจอเรื่องอะไรเธอค่อนข้างนิ่งเงียบ น้อยครั้งที่จะมีเรื่องอะไรทำให้เธอเป็นแบบนี้

สายตาเย่ซือเฉินมองไปทางนั้น จากนั้นก็เห็นเบอร์โทรศัพท์บนหน้าจอที่โทรเข้ามา

ดวงตาเย่ซือเฉินหรี่ลง เขาจำได้ดี คืนนั้น เขาตั้งใจหาเบอร์โทรศัพท์ของถังจื่อโม่จากโทรศัพท์ของเธอ ดังนั้นเขาแค่มองแวบเดียวก็จำเบอร์โทรนั้นได้ทันที

ทันใดนั้น เย่ซือเฉินก็ลุกขึ้นทันที ลงจากเตียงไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากพื้น

เวินลั่วฉิงเดิมทีตั้งใจจะลุกขึ้นไปขวางเขาไว้ แต่เธอก็คิดขึ้นมาได้ว่าถ้าตัวเองลุกลี้ลุกแบบนี้ จะยิ่งทำให้เขาสงสัยได้ ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงหยุดการกระทำของตัวเองไว้

เขายิ้มออกมาอย่างเย็นชา แล้วกดรับสาย เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าถังจื่อโม่โทรหาเขาคิดจะทำอะไรกันแน่?

เมื่อเห็นเย่ซือเฉินรับสาย วินาทีนั้น เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าหัวใจตัวเองแทบจะหลุดออกมา เธอไม่รู้ว่าถังจื่อโม่โทรหาเย่ซือเฉินทำไม แต่เธอรู้ว่าการที่เย่ซือเฉินรับโทรศัพท์สายนี้ เรื่องของจื่อโม่และจื่อซีคงปิดบังเขาไม่ได้แล้ว

เมื่อกี้เป็นเพราะเธอตกใจเกินเหตุ เมื่อเย่ซือเฉินมองเธอ เธอเก็บอาการไว้ไม่ทัน

เธอรู้ว่าคนฉลาดอย่างเขา ต้องเห็นว่าสีหน้าเธอมีอาการแปลกไปเลยสงสัยขึ้นมา จึงได้ลุกไปรับโทรศัพท์สายนั้น

ตอนนี้ เธอรู้สึกเสียใจที่ตัวเองทำพลาดไปเมื่อกี้

ตอนนี้ เธอคาดหวังให้เขากลับมาทำเรื่องที่กำลังทำอยู่เมื่อสักครู่นี้ต่อไป

แต่เวินลั่วฉิงไม่รู้ว่า ที่เย่ซือเฉินลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์ ไม่เพียงเพราะสีหน้าท่าทางเธอแปลกไป แต่เป็นเพราะเขารู้จักเบอร์นั้น

เวินลั่วฉิงยิ่งไม่รู้ว่า เย่ซือเฉินเคยถือโอกาสตอนที่เธอนอนหลับ แอบใช้โทรศัพท์ของเธอโทรไปหาถังจื่อโม่อีกด้วย

มือของเวินลั่วฉิงที่วางอยู่ในผ้าห่มผืนบางกำหมัดแน่น ดวงตาคู่นั้นจ้องมองไปที่เย่ซือเฉิน แม้ว่าปกติเธอเป็นคนใจเย็นขนาดไหน แต่ตอนนี้เธอกลับตื่นเต้น เพราะตื่นเต้น ทั้งตัวเธอตอนนี้จึงเกร็งไปหมด

เย่ซือเฉินเห็นปฏิกิริยาของเธอ ดวงตาก็หรี่ลงเล็กน้อย ดูท่าถังจื่อโม่คนนี้จะสำคัญกับเธอมากจริง ๆ

ค่ำวันนั้น ตอนที่เขาโทรหาถังจื่อโม่ เขาเดาว่าฝ่ายนั้นคือถังไป๋เชียน ฝ่ายนั้นไม่ได้ปฏิเสธ งั้นตอนนี้…

“ฮัลโหล” วินาทีที่เย่ซือเฉินกดรับสายนั้น น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาแหบพร่า แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความน่าหดหู่และอันตรายลดน้อยลงเลย

“…” ถังจื่อโม่ที่อยู่ในสายอึ้งไป ถึงแม้จะกั้นด้วยโทรศัพท์ แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงอันตรายที่น่ากลัวราวกับจะฆ่าแกงกัน

ถังจื่อโม่ถึงจะใจกล้าขนาดไหน แต่เขาก็เป็นเพียงเด็กน้อยอายุไม่ถึงห้าขวบ เมื่อได้ยินน้ำเสียงโมโหของเย่ซือเฉินก็ตกใจ ลืมว่าต้องพูดอะไรไปทันที

เวินลั่วฉิงดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย เขารับโทรศัพท์ก็รับไปสิ ทำไมต้องทำน้ำเสียงข่มขู่แบบนั้นด้วย?

เขาขู่ไปอย่างนี้ จื่อโม่ลูกของเธอจะเป็นยังไง?

เวินลั่วฉิงจ้องไปที่เย่ซือเฉิน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจเขา

เย่ซือเฉินที่มองเธออยู่ตลอด เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของเธอ ดวงตาที่หรี่ลงของเขายิ่งดูอันตรายมากขึ้น

“ทำไม? กล้าโทรมา แต่ไม่กล้าพูดเหรอ?” คุณชายสามเย่ที่ตอนนี้ไม่กล้าโมโหใส่ภรรยาตัวเอง เลยไประบายอารมณ์ใส่ ผู้ชาย ที่อยู่ในสาย

ถังจื่อโม่ที่อยู่ในสาย รู้สึกโกรธแล้ว หาว่าเขาไม่กล้าพูดงั้นเหรอ?

คนอย่างถังจื่อโม่เคยกลัวใครด้วยเหรอ?

ถังจื่อโม่คิดจะโมโหใส่อีกฝ่ายกลับไป

แต่ทันใดนั้นเอง มือของเขาก็ถูกจับไว้แน่น จากนั้นโทรศัพท์ก็ถูกวางสายไป

ถังจื่อโม่เงยหน้าขึ้นมา เมื่อเห็นเห่อถงถงที่กำลังโกรธ ตัวเขาที่เล็กอยู่แล้วก็ยิ่งหดเล็กลงไปอีก ไม่เหลือความโอหังอย่างเมื่อกี้เลยสักนิด

“พวกเธอสองคนไม่ยอมไปเรียน มาทำอะไรอยู่ที่นี่? คุณครูโทรหาฉัน บอกว่าพวกเธอสองคนไม่อยู่ที่โรงเรียน หาไม่เจอ พวกเธอรู้ไหมว่าฉันร้อนใจแค่ไหน เป็นห่วงมากขนาดไหน?” ใบหน้าเห่อถงถงในตอนนี้ดูโมโหมาก แต่ก็กลบความเป็นห่วงไว้ไม่ได้

ตอนที่เธอได้รับโทรศัพท์จากคุณครูอนุบาล เธอตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น ยังดีที่คุณครูอนุบาลเคยได้ยินถังจื่อซีพูดว่าจะไปหาพ่อ

โรงเรียนอนุบาลอยู่ไม่ไกลจากบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปนัก ดังนั้นเธอจึงรีบมาที่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป เมื่อเห็นเด็กทั้งสองคนปลอดภัยดี เธอจึงรู้สึกโล่งอก สบายใจขึ้นมา

แต่เมื่อเธอเห็นจื่อโม่กำลังโทรศัพท์อยู่นั้น ก็เดาได้ว่าน่าจะโทรหาเย่ซือเฉิน เธอจึงตกใจ รีบวิ่งเข้ามาทันที แล้วกดตัดสายโทรศัพท์ของถังจื่อโม่

หลายวันก่อน ฉิงฉิงบอกกับเธอว่า ผู้ชายคนนั้นเมื่อห้าปีก่อนอาจจะเป็นโม่เหยียน โม่เหยียน ชื่อเป็นแบบไหนคนก็นิสัยแบบนั้น ได้ยินมาว่าเขาน่ากลัวยิ่งกว่าพญายมอีกนะ

ถ้าหากผู้ชายเมื่อห้าปีก่อนคนนั้นคือโม่เหยียนจริง ๆ ถ้าหากฐานะที่แท้จริงของเด็กสองคนนี้ถูกเปิดเผย ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง!

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset