ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 342 คุณชายสามเย่จับคนร้ายในที่เกิดเหตุ (2)

บทที่342 คุณชายสามเย่จับคนร้ายในที่เกิดเหตุ (2)

สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ก็ต้องขอบคุณฟ้าดิน? อย่างนั้นผู้ชายคนเมื่อกี้ก็คือมาเฟียที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาเหรอ?

“เหอะ มาเฟีย ถ้าเกิดว่าเป็นมาเฟียจริงๆก็ดีไปแล้ว…….” ใบหน้าของชายหนุ่มมีสีหน้าที่อ่านยากออกมา คำพูดเพิ่งจะพูดออกมาได้ครึ่งเดียวอยู่ๆก็หยุดไป แถมในน้ำเสียง ยังมีความหวาดกลัวอย่างชัดเจน

หญิงอ้วนได้ยินคำพูดของเขาก็ตกใจจนนิ่งไป นี่หมายความว่าน่ากลัวยิ่งกว่าพวกมาเฟีย?

อย่างนั้นตกลงว่าเป็นใครกันแน่? ตกลงว่าวันนี้เธอไปแหย่ให้ใครโกรธเข้าแล้ว?

เวินลั่วฉิงอุ้มถังจื่อซีเพิ่งจะออกมาจากออฟฟิศ ถังไป๋เชียนกลับเอาถังจื่อซีไปจากอ้อมอกของเวินลั่วฉิงแล้ว

เวินลั่วฉิงชะงักไป แต่กลับไม่ได้พูดอะไร แต่กลับยื่นมือออกไปจับกับถังจื่อโม่ มองเห็นรอยแผลบนมือของถังจื่อโม่ เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะปวดใจ

รถของถังไป๋เชียนจอดอยู่ที่จอดรถตรงห้างสรรพสินค้าด้านหน้า เวินลั่วฉิงเดินมาถึงทางออก ตอนที่เงยหน้า มองเห็นตึกใหญ่บริษัทตระกูลเย่ที่อยู่ไม่ไกลออกไปพอดี

เวินลั่วฉิงนึกได้ก่อนหน้านี้รับปากกับเย่ซือเฉินว่าจะไปหาเขาที่บริษัท แต่ว่าตอนนี้รับลูกๆทั้งสองคนออกมาแล้ว เธอไม่มีทางปล่อยเด็กทั้งสองคนไว้กับรุ่นพี่ ตัวเธอเองไปหาเย่ซือเฉิน

แถมจื่อโม่ยังได้รับบาดเจ็บด้วย เธออยากจะอยู่เป็นเพื่อนกับลูกๆทั้งสองคน

ยังไงก็ไปไม่ได้แล้ว แน่นอนว่าต้องโทรศัพท์บอกกับเย่ซือเฉิน ไม่อย่างนั้น จากนิสัยของเย่ซือเฉิน ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำเรื่องอะไรขึ้นมาอีก

มือของเวินลั่วฉิงยื่นไปทางกระเป๋าเสื้อโค้ท คิดไว้ว่าจะหยิบโทรศัพท์

ในตอนนี้ถังไป๋เชียนที่ประมาณว่ายืนอยู่ถัดจากเธอ มองเห็นท่าทางของเธอ นัยน์ตาของเขาก็เหมือนมีประกายแวบผ่านไป หลังจากนั้นอยู่ๆก็พูดขึ้น “เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นหยางชิงชิงก่อนขึ้น เป็นหยางชิงชิงที่อยากจะทำร้ายเด็กๆทั้งสองคน”

“เกิดอะไรขึ้น? หยางชิงชิง? เป็นใคร?” มือของเวินลั่วฉิงที่ยื่นไปทางกระเป๋าเสื้อโค้ทหยุดลง แล้วรีบเงยหน้า มองไปทางถังไป๋เชียน ในตอนนี้ เวินลั่วฉิงได้ยินว่ามีคนจะทำร้ายเด็กทั้งสองคน เรื่องอื่นๆก็ถูกลืมไปตามธรรมชาติ

“คู่หมั้นสาวของจี้หซี” ถังไป๋เชียนแอบถอนหายใจเบาๆ แล้วตอบกลับไปอย่างเป็นธรรมชาติมาก ทว่านัยน์ตาของเขากลับมองไปทางด้านหน้า ไม่ได้มองไปทางเวินลั่วฉิง

เพราะว่าเขารู้ในความสามารถของเวินลั่วฉิงดี ถ้าเกิดว่าในเวลานี้เขามองไปทางเวินลั่วฉิง เกรงว่าเวินลั่วฉิงจะเห็นแววตาแปลกประหลาดจากนัยน์ตาเขา

คำพูดที่เขาพูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมด ไม่มีปัญหา แต่ว่าเมื่อกี้เรื่องที่เขาเอาโทรศัพท์ของเธอมา เขาไม่อยากให้เธอรู้

“จี้หซี!” หัวคิ้วของเวินลั่วฉิงขมวดเล็กน้อย “พูดอย่านี้แล้ว คือมาเพราะถงถงอย่างนั้นเหรอ?”

“อือ” ถังไป๋เชียนตอบรับเบาๆ คำพูดหยุดไปเล็กน้อย ครั้งนี้ถึงได้เบนสายตากลับไปมองเธอ “เมื่อไม่กี่วันก่อน แม่ของจี้หซีให้คนมาเอาผมของจื่อโม่ไป เอาไปตรวจดีเอ็นเอ”

ในตอนนี้ อารมณ์ที่ไม่ควรจะมีอยู่พวกนั้น เขาได้เก็บซ่อนมันเอาไว้ ไม่เหลือไว้แม้แต่ร่องรอย

แถมในตอนนี้ เขารู้ว่าเรื่องที่พูด สำหรับเวินลั่วฉิงแล้วมันสำคัญมากพอ สำคัญมากจนเวินลั่วฉิงจะไม่ไปใส่ใจกับเรื่องอื่นๆ “มาเอาเส้นผมของจื่อโม่? เอาไปยังไงคะ?” หัวใจของเวินลั่วฉิงสั่นระรัว พวกเขามาเอาเส้นผมของจื่อโม่ ถ้าเกิดว่าทำให้จื่อโม่บาดเจ็บ……

“แม่ ผมไม่เป็นไรครับ ผมไม่เป็นอะไรเลย ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาเอาไปตอนไหน ผมเองไม่รู้ตัวเลย” ถังจื่อโม่เห็นความกังวลบนใบหน้าของเวินลั่วฉิง เลยรีบพูดปลอบใจไม่ไม่หยุด

เด็กน้อยถังจื่อโม่พูดโกหกไม่เป็น แต่ว่าในตอนนี้พูดแล้วกลับไม่มีแม้แต่พิรุธ

เวินลั่วฉิงกอดถังจื่อโม่เอาไว้แน่นในอ้อมกอด ใช่ ตอนนี้จื่อโม่ไม่เป็นอะไร แต่ว่าเธอเองก็อดที่จะหวาดกลัวไม่ได้

เธอเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่อง เธอไม่ได้ปกป้องเด็กทั้งสองให้ดี

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องราวมันจะซับซ้อนถึงขนาดนี้ แม่ของจี้หซีถึงขนาดที่ว่าให้คนมาเอาผมของจื่อโม่ไปตรวจดีเอ็นเอ

เอาผมของลูกของเธอไปตรวจกับจี้หซีด้วยตัวเอง แม่เขาสิ ตรวจออกมาเหมือนกันถึงได้แปลก

ถ้าเกิดว่าตรวจมาแล้วไม่ตรงกัน แม่ของจี้หซีจะปล่อยเด็กๆทั้งสองคนไหมนะ?

ใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าไม่มีทาง

จะเป็นแบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้ เธอไม่ยอมให้เด็กทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บอะไรอีกแล้ว

เธอต้องคิดแผนให้รอบคอบ

เธอรู้ว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะปกป้องเด็กทั้งสองคนก็คือรีบพาทั้งสองคนกลับไปยังประเทศM แต่ว่าเรื่องทางฝั่งเย่ซือเฉินยังไม่ได้แก้ไข ดูแล้วเธอคงเร่งมือหน่อยแล้ว

ยังไงเธอก็ไม่มีทางปล่อยให้ลูกของครอบครัวเธอมีอันตรายอะไรเด็ดขาด

“ขึ้นรถก่อน แล้วค่อยคุยกันเถอะ” ถังไป๋เชียนอุ้มเด็กทั้งสองคนขึ้นไปบนรถก่อน ในตอนนี้กำลังยืนอยู่หน้ารถเป็นเพื่อนเวินลั่วฉิง เขารู้ว่าที่นี่ใกล้กับบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป ดังนั้นเขาเลยไม่หวังว่าเธอจะยืนอยู่ที่นี่! เขากลัวว่าจะมีคนเห็น

ในบางครั้ง เรื่องราวมันก็ช่างบังเอิญเสียเหลือเกิน ในตอนนี้คุณชายห้าฉิงขับรถผ่านมาพอดี ในตอนที่สายตาของคุณชายห้าฉิงกำลังค่อยๆขยับเลื่อน ก็มองเห็นพวกเขาทางฝั่งนี้พอดี คุณชายห้าฉิงเป็นหัวหน้าตำรวจ สายตาของเขาดีมากๆ ดังนั้นแค่ปราดเดียวก็มองออกว่าเป็นเวินลั่วฉิง

ตอนนี้ ในห้องทำงานประธานบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป ดวงตาทั้งคู่ของเย่ซือเฉินกำลังหรี่ตามองอย่างอันตราย สีหน้าของเขาหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเพิ่งจะโทรศัพท์ ทั้งๆที่โทรติดแล้วแท้ๆ แต่ว่าหลังจากนั้นเธอก็ปิดเครื่องแล้ว

นี่เธอหมายความว่ายังไงกัน? ไม่รับโทรศัพท์ แถมยังปิดเครื่องอีก?

ปกติ เขามักจะคิดว่าจะต้องเคารพเธอ แต่ว่า ทุกๆครั้งที่เขาหาเธอไม่เจอ เขาแทบอยากจะฝังเครื่องติดตามเอาไว้บนตัวของเธอ

เย่ซือเฉินโทรหาเบอร์โทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงติดกันอยู่หลายครั้ง ปิดเครื่องทั้งหมด

เธอปิดเครื่องแล้ว เป็นธรรมดาที่เย่ซือเฉินจะติดต่อเธอไม่ได้ คิดถึงก่อนหน้านี้ที่เธอเคยบอกว่าอยู่ใกล้ๆกับบริษัท เขารู้ ว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยโกหกเขา เมื่อเธอบอกว่าอยู่ใกล้ๆกับบริษัท อย่างนั้นก็ต้องอยู่ใกล้ๆกับบริษัท

ดังนั้น เย่ซือเฉินเลยลงมาจากตึก เตรียมที่จะไปหาเธอ ไม่แน่ว่าอาจจะหาเธอเจอก็ได้ คุณชายห้าฉิงมองแล้วรู้ว่าเป็นเวินลั่วฉิง ก็เลยจอดรอ หลังจากนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรไปหาเบอร์ของเย่ซือเฉิน “พี่สาม ผมเจอMRSถังคนนั้นแล้ว ก็คือผู้หญิงที่สถานีตำรวจครั้งก่อน ที่พี่อยากจะรั้งตัวเอาไว้แต่ก็รั้งตัวไว้ไม่ได้”

เย่ซือเฉินในตอนนี้ลงมาจากตึกพอดี และในเวลานี้คุณชายห้าฉิงก็โทรมาหา

ได้ยินคำพูดของคุณชายห้าฉิง นัยน์ตาของเย่ซือเฉินก็เป็นประกายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ฉิงถิงพูดว่าเขาเจอMRSถังคนนั้น?

ฉินถิงไม่รู้ว่าเวินลั่วฉิงก็คือMRSถัง แต่ว่าเขารู้

ฉินถิงบอกว่าในตอนนี้เขาเห็นMRSถัง ที่เห็นจะต้องเป็นเวินลั่วฉิงแน่นอน แถมยังเป็นเวินลั่วฉิงที่ไม่ได้ปลอมตัว

เวินลั่วฉิงไม่ได้ปลอมตัว? ทำไมกัน?

เธอต่อหน้าเขา ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาก็มีท่าทางเสแสร้งตลอด

เขาเคยลองให้เธอเลิกปลอมตัวต่อหน้าเขา แต่ว่าเธอไม่ยอม แถมเธอเองก็ไม่เคยยอมรับว่าตัวเธอนั้นปลอมตัว อย่างนั้นตอนนี้มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เธอยอมไม่ปลอมตัว แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา? แถมยังอยู่บนถนนใหญ่อีกต่างหาก

ฝีเท้าของเย่ซือเฉินหยุดลง ส่วนลมหายใจก็หนักแน่นขึ้น

“พี่สาม พี่กำลังฟังอยู่หรือเปล่า?” ไม่ได้ยินคำตอบจากเย่ซือเฉิน คุณชายห้าฉิงกลับไม่ได้ประหลาดใจ เพราะว่าเวลาปกติเขาโทรหาพี่สาม พี่สามก็พูดน้อย ดังนั้นคุณชายห้าฉินก็เลยไม่ได้สนใจคนอื่นแล้วพูดต่อ “ผู้หญิงคนนี้สวยมากๆเลย ตอนแรกผมก็แค่ผ่านมา แต่ว่าแค่แวบเดียวก็มองเห็นเธอแล้ว แล้วก็จำเธอได้ แต่ว่าเธออยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง เป็นผู้ชายที่ดูท่าทางไม่เลวเลย น่าจะเป็นแฟนหนุ่มของเธอ……”

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset