ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 365 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (6)

บทที่ 365 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (6)

อันที่จริง เวินลั่วฉิงไม่เคยมีความรู้สึกที่ดีต่อคุณปู่เย่เลย แต่ว่าเมื่อกี้ไม่ง่ายที่จะได้เห็นคุณปู่เย่กล้าหาญครั้งหนึ่ง ช่วยแก้สถานะให้กับท่านปู่ถัง มันทำให้เธอเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อคุณปู่เย่ไปเล็กน้อย

กู้ชิ่งซินรังแกคนอื่นมากเกินไป คนที่ถูกรังแกถึงอย่างไรก็เป็นคุณปู่ของเย่ซือเฉิน เธอที่เป็นภรรยาของเย่ซือเฉิน ไม่สามารถทำได้ถึงขนาดนิ่งดูดายได้

คุณปู่เย่ถูกหยามหน้า ข่าวแพร่ออกไปเย่ซือเฉินก็จะเสียหน้า มันก็จะไม่ดีสำหรับเย่ซือเฉิน

แน่นอน เหตุผลที่เวินลั่วฉิงยืนออกมาก็เพราะเธอต้องการโอกาสนี้

เธอต้องการโอกาสที่จะทำให้คุณปู่เย่เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเธอ และจำเป็นต้องเป็นการเปลี่ยนมุมมองภายใต้ความตื่นตกใจ เพราะความรู้สึกแบบนั้นเด่นชัดรุนแรงที่สุด รุนแรงพอที่จะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากเกินไปชั่วขณะทำให้คนเราทำเรื่องที่หุนหันพลันแล่นได้

มีแต่แบบนี้ เธอถึงจะสามารถช่วยเย่ซือเฉินเอาหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปคืนจากคุณปู่เย่ได้

ตอนนี้เป็นโอกาสทองที่หาได้ยากมาก เธอก็ต้องไม่พลาดอยู่แล้ว

“เวินลั่วฉิง คนโง่อย่างเธอจะมาเล่นหมากรุกกับพี่ชายฉัน?” หลังจากกู้โร่วได้สติกลับมา ก็พุ่งเข้ามาโดยตรง ตะโกนใส่เวินลั่วฉิง

ทุกคนได้ยินคำพูดของกู้โร่วต่างก็พากันตะลึงไป เมื่อกี้กู้โร่ววิพากษ์วิจารณ์อยู่แค่ในมุมหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นคนที่รู้ฐานะของเวินลั่วฉิงไม่เยอะเท่าไหร่

นอกจากนี้ ความจริงคนที่อยู่ที่นี่ได้ยินชื่อเวินลั่วฉิงก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพียงแต่ได้ยินกู้โร่วเรียกเธอว่าคนโง่ ทุกคนต่างก็อดแปลกใจไม่ได้ คนโง่คนหนึ่งจะมาเล่นหมากรุกกับกู้ชิ่งซิน?

“พี่ชาย เธอเป็นคนโง่คนหนึ่ง เป็นคนโง่จริงๆ คุณหนูใหญ่ปัญญาอ่อนของตระกูลเวินนั้น ป่วยมาตั้งแต่เด็กแล้ว”

“เธอเป็นคนโง่? คนโง่อย่างเธอมายุ่งวุ่นวายอะไร?” ความจริงกู้ชิ่งซินต้องการหยามหน้าคุณปู่เย่ เดิมทีเขาคิดว่าในเมื่อผู้หญิงคนนี้บอกว่าจะเล่นแทนคุณปู่เย่สักพัก ตราบใดที่เขาไม่พูดว่าจบลง คุณปู่เย่ยังต้องกลับมาอย่างแน่นอน จากนั้นเขาก็จะหยามหน้าคุณปู่เย่ต่อ

แต่ว่า เขาคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนโง่

“ชิ เล่นหมากรุกกับคนโง่คนหนึ่ง? งั้นผมจะไม่กลายเป็นคนโง่เหรอ?” กู้ชิ่งซินพูดจาไม่มีความเกรงใจสักนิดเลยจริงๆ

แต่ว่าตอนที่เขามองไปทางเวินลั่วฉิง อดที่จะอึ้งไปไม่ได้ เขาเห็นเวินลั่วฉิงจู่ๆก็ยิ้มออกมา

หน้าที่เดิมทีเต็มไปฝ้ากระ มองไปแล้วเป็นหน้าที่ขี้เหร่อยู่ไม่น้อย เพราะรอยยิ้มจางๆนี้ ราวกับว่าจู่ๆก็มีความงดงามที่สามารถแทรกซึมเข้าไปถึงจิตวิญญาณเพิ่มขึ้นมากะทันหัน

ดูเหมือนจะงดงาม แต่กลับทำให้คนรู้สึกว่ากำลังเดินโซซัดโซเซอยู่บนหน้าผา มีความรู้สึกถึงอันตรายที่จะถูกดึงให้ลงไปในหุบเขาลึกได้ทุกเมื่อ

ณ ขณะนั้น จู่ๆกู้ชิ่งซินก็รู้สึกถึงความกลัวของมารที่กำลังเข้าสู่จิตใจ

คนของตระกูลกู้เคยชินกับการรังแกคนอื่น และในตระกูลกู้กู้ชิ่งซินก็เป็นคนที่ถูกตามใจที่สุดมาตั้งแต่เด็ก พูดได้เลยว่าไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น ไม่เคยเกรงกลัวอะไรมาก่อน แต่ว่าตอนนี้มองไปที่รอยยิ้มบางเบาแบบนั้นของเวินลั่วฉิงเขากลับรู้สึกกลัวขึ้นมา!

เวินลั่วฉิงไม่ได้มองเขาเลย และก็ไม่มีเจตนาจะฝืนใจ ได้ยินคำพูดของเขา ก็ลุกยืนขึ้น แต่ว่าตอนที่เธอยืนขึ้นมา พูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจมากกว่า “ถ้าคุณกังวลว่าจะแพ้ ก็ไม่ต้องเล่นแล้วกัน”

กู้ชิ่งซินได้สติกลับมา มองไปที่หน้าของเธออีกครั้ง แต่กลับพบว่าตอนนี้บนใบหน้าของเธอไม่มีรอยยิ้มเลย มีแต่ฝ้ากระเท่านั้นที่ยังคงอยู่ ยังขี้เหร่เหมือนเดิม

เห้ย เมื่อกี้เขาต้องตาลายไปแน่นอน กู้ชิ่งซินด่าในใจลึกๆคำหนึ่ง

เห็นเวินลั่วฉิงลุกขึ้นกำลังจะไป กู้ชิ่งซินก็คำรามด้วยความโกรธ “เธอว่าอะไรนะ? คนโง่อย่างเธอพูดว่าอะไรนะ? ฉันจะแพ้?”

เขาในตอนนี้ยังหยิ่งยโสเหมือนเดิม แต่ว่าการวางอำนาจนั้นอ่อนลงไปอย่างเห็นได้ชัด

เวินลั่วฉิงหยุดฝีเท้าเอาไว้ หันกลับมา มองไปทางเขา ราวกับว่ากำลังคิดทบทวนอย่างจริงจังมาก ถึงตอบกลับไปช้าๆว่า “ก็ไม่แน่”

คำพูดนั้นของเธอพูดได้เบามากๆ เบาเหมือนสายลมพัดผ่าน เดิมที่ไม่สามารถทำให้เกิดคลื่นได้ แต่ว่าตอนนี้ทุกคนได้ยินคำพูดนี้ของเธอแล้วกลับพากันตกใจไปตามๆกัน

เธอบอกว่าไม่แน่? ความหมายคือไม่แน่ว่ากู้ชิ่งซินจะแพ้เหรอ?

เธอต้องมีความไม่รู้ขนาดไหนถึงได้พูดแบบนี้ออกมา?

“นังหนูคนนี้น่าสนใจจริงๆ” ท่านย่าถังเดินเข้าไปแล้ว ยืนอยู่ใกล้ตัวท่านปู่ถังพูดเสียงต่ำออกมาคำหนึ่ง แต่สายตาทั้งคู่ของเธอกลับมองไปทางเวินลั่วฉิงตลอด และเปล่งประกายแปลกๆ

เธอรู้สึกว่าจากนี้ต้องมีอะไรดีๆดูแน่นอน

“อืม เป็นนังหนูที่พิเศษจริงๆ” มุมปากของท่านปู่ถังยิ้มเบาๆออกมาเล็กน้อย “จะว่าไปแล้ว ก็ถือว่านังหนูคนนี้ออกหน้าเพื่อผม ทวงคืนความยุติธรรมให้กับผม”

ท่านย่าถังหันกลับมาอย่างรวดเร็ว เหลือบมองไปที่ท่านปู่ถังครู่หนึ่ง “หน้าคุณทำไมถึงหนาอย่างนี้? ยายแก่ตัวเล็กที่สวยราวกับดอกไม้อย่างฉันยังไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้จากนังหนูเลย ทำไมคุณถึงได้รับการปฏิบัติแบบนี้”

ท่านปู่ถังได้ยินคำพูดของท่านย่าถัง อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มเบาๆ

“นังหนูคนนี้อวดดีสุดขอบจริงๆ แต่ก็ดึงดูดให้คนชอบจริงๆ” ความสนใจของท่านย่าถังมุ่งหน้าไปที่เวินลั่วฉิงอีกครั้ง

ท่านปู่ถังเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย อวดดีจนสุดขอบแล้ว?

มีความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

แต่มันก็ทำให้คนชอบจริงๆ

“เวินลั่วฉิง คนโง่อย่างเธอยังกล้าพูดจาโอหัง?” เดิมทีกู้โร่วก็เกลียดชังเวินลั่วฉิงเพราะเรื่องก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว ตอนนี้ได้ยินคำพูดนี้ของเวินลั่วฉิง ก็คำรามด้วยความไม่พอใจออกมาโดยตรง

เวินลั่วฉิงกลับไม่ได้ชายตามองไปที่เธอเลย มองข้ามเธอไปเลยโดยสิ้นเชิง

“แม่ง แกอย่าไปนะ นั่งลงมาเลย ฉันแข่งกับแก ถ้าฉันเล่นแกไม่ตาย ฉันไม่แซ่กู้” กู้ชิ่งซินเกิดในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของตระกูลกู้ เขามีพรสวรรค์และฉลาด ถูกประคบประหงมจนไม่กลัวสิ่งใดมาตั้งแต่เด็ก จองหองอวดดีไม่มีขอบเขต

เขาไม่เชื่อเด็ดขาด ว่าจะมีคนสามารถเอาชนะเขาจากการเล่นหมากรุกได้

เวินลั่วฉิงไม่ได้ไป แต่ก็ไม่ได้นั่งลง และก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองเขาอย่างแผ่วเบา

“เธอนั่งลง ฉันจะแข่งกับเธอ” ภายใต้แววตาเรียบเฉยที่ไม่มีใครเทียบได้นั้นของเธอ ไม่รู้ทำไมความหยิ่งยโสของกู้ชิ่งซินกลับหายไปกว่าครึ่ง น้ำเสียงและท่าทีก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

เวินลั่วฉิงถึงได้นั่งลงไปตรงข้ามเขา

ทุกคนต่างพากันตะลึงไป ปกติกู้ชิ่งซินคนนี้เป็นอันธพาลน้อยคนหนึ่ง ยโสโอหังจนเป็นนิสัย ไม่ฟังคำพูดของใครทั้งนั้น ทำไมตอนนี้กลับ……

อันธพาลน้อยที่ปกติยโสโอหังเมื่อกี้เปลี่ยนท่าทีไปเพราะสายตาเดียวของเวินลั่วฉิงงั้นเหรอ?

มีชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนรู้สึกว่าตาฝาดไป มองผิดไป

ใช่ ต้องมองผิดไปแน่ๆ

สีหน้าของท่านปู่กู้กลับขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่มองไปทางเวินลั่วฉิงในสายตามีความเย็นชาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา เธอเป็นใครกันแน่?

“ฉันให้เธอเริ่มก่อน” ถึงแม้เมื่อกี้กู้ชิ่งซินจะยับยั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมไปบ้างแล้วเล็กน้อย แต่ก็ยังแก้นิสัยจองหองอวดดีของเขาไม่ได้เหมือนเดิม

“ไม่ คุณก่อน ฉันไม่เป็น คุณเริ่มก่อน ฉันคอยเรียนรู้” เวินลั่วฉิงก้มหน้าลงเล็กน้อย ไม่ขยับเขยื้อน ไม่ไปแตะต้องเบี้ยหมากรุกด้วยซ้ำ คำพูดเรียบๆเฉยๆฟังไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึกใดๆเลย

ทุกคนต่างพากันสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง ความหมายของเธอคือเรียนไปด้วยเล่นไปด้วยงั้นเหรอ

ไม่ใช่มั้ง เธอเล่นหมากรุกไม่เป็นด้วยซ้ำ แต่กล้าไปเล่นกับกู้ชิ่งซิน?

นี่ไม่ใช่การรนหาที่ตายหรอกเหรอ?

แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงเล่นหมากรุกเป็น ตอนที่เธอเรียนจิตวิทยาเคยศึกษามาแล้วอย่างจริงจัง แต่ตอนนี้เธอจงใจพูดแบบนี้

กดขี่คนอื่นใครไม่เป็น วางใจได้ เธอจะต้องกดขี่เขาอย่างเต็มที่แน่นอน ทุ่มเทอย่างสุดความสามารถแน่นอน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset