ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 420 คุณชายสามเย่จะสติคลั่งแล้ว (3)

บทที่ 420 คุณชายสามเย่จะสติคลั่งแล้ว (3)

เวินลั่วฉิงเห็นการกระทำของเขาก็หยุดชะงักไปชั่วครู่ เนื่องจากต้องรักษามารยาท เธอจึงได้แต่ยื่นมือออกไปจับมือของเขา

เย่ซือเฉินจับมือเธอไว้อย่างแรง ซึ่งแรงจนรู้สึกปวด ผู้หญิงที่สมควรตายคนนี้ ไม่เห็นหน้าแค่ไม่กี่วัน เธอก็กลายเป็นคุณนายถังแล้วเหรอ?!

ใครอนุญาตให้เธอใช้นามสกุลของผู้ชายคนอื่นกันล่ะ?

“คุณเย่”เวินลั่วฉิงสัมผัสได้ว่าเขาจงใจใช้แรงบีบจับ เธอรู้สึกแอบตกใจแต่สีหน้าไม่ได้เผยความผิดปกติแต่อย่างใด มุมปากขยับเล็กน้อย พลางเรียกขานเบาๆ ซึ่งฟังอะไรไม่ออกจากน้ำเสียงเลย

เย่ซือเฉินได้ยินเธอเรียกคุณเย่ดวงตาก็หรี่ขึ้นทันที ดีงามเหลือเกิน ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน เธอกลายเป็นคุณนายถัง ส่วนเขาก็กลายเป็นคุณเย่ไปซะแล้ว

มือของเย่ซือเฉินยังคงจับอยู่ไม่ปล่อย การใช้แรงดึงอย่างกะทันหันและการกระทำของเขาที่กะทันหันด้วย เวินลั่วฉิงจึงถูกดึงเข้าใกล้มาไม่น้อย ซึ่งเกือบจะโน้มเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเขาแล้วเชียว โชคยังดีตอนที่ร่างกายเธอเกือบจะถูกตัวเขานั้น เธอก็พยายามหยุดเอาไว้สุดแรง

เห็นได้ชัดว่าสีหน้าของหัวหน้าเก๋อหลู่นั้นตกตะลึงเล็กน้อย แต่ก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว รีบกล่าวว่า “พวกคุณคุยกันก่อนนะครับผมยังมีธุระอื่นอีก”

พูดจบก็รีบห่างออกไปอย่างรวดเร็ว

“คุณเย่ เชิญสำรวมกิริยาด้วยค่ะ”เวินลั่วฉิงรู้สึกโมโหเล็กน้อย คนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่นะ?ตอนนี้อยู่ในที่สาธารณะเช่นนี้ เขากลับเหิมเกริมทำตามใจชอบอย่างนี้

บัดนี้เวินลั่วฉิงพยายามกดเสียงให้ต่ำที่สุด มีเพียงเย่ซือเฉินได้ยิน

แต่ทว่าเธอเห็นหัวหน้าเก๋อหลู่จงใจจะตีตนออกห่าง ก็ยิ่งเกิดความโมโหในใจขึ้นมา

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เธอกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ รุ่นพี่ก็เพิ่งออกไป ซึ่งเธอยังไม่แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น ฉะนั้นเวลานี้จะเกิดเหตุสุดวิสัยอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

ขณะที่เวินลั่วฉิงกำลังจะพูดก็พยายามใช้แรงฉุดมือของตนกลับมา

“สำรวม?”เย่ซือเฉินหัวเราะกะทันหัน ไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยมือ แต่กลับค่อยๆยกมือของเธอขึ้นมาอยู่ตรงหน้าเขา จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างลูบไล้ผิวอันเนียนประกายดุจหยกของเธอ

“ผมไม่เข้าใจสำรวมอะไรนั่นเลย หรือคุณนายถังสอนผมหน่อยว่าควรจะสำรวมอย่างไรดี?”ดวงตาของเย่ซือเฉินยกขึ้นมองเธอบัดนี้น้ำเสียงเต็มไปด้วยความแกล้งแหย่และหัวเราะเล็กน้อย

เวินลั่วฉิงรู้สึกโมโหเล็กน้อย เขาโตเป็นผู้ใหญ่อย่างนี้แล้วจะไม่รู้คำว่า สำรวมได้อย่างไรกัน?

เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจทำ

เพียงแต่พวกเขาหย่ากันแล้ว ตอนนี้เธอก็ไม่ได้ทำอะไรให้เขาไม่พอใจสักหน่อย แล้วจู่ๆเขาเป็นบ้าอะไรกันเนี่ย?

ตั้งแต่เธอเข้ามาเขาก็คอยแต่จ้องมองเธอตลอด เวินลั่วฉิงคิดว่าเขาน่าจะดูเธอออกแล้ว

แต่ว่า ถึงแม้เขาจะดูเธอออก เธอกับเขาก็หย่ากันแล้ว จึงไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันอีกต่อไป

รู้สึกว่านิ้วของเย่ซือเฉินถูไถ่อยู่บนมือของเธอตลอด เวินลั่วฉิงจึงได้ใช้แรงดึงมือของตนกลับมาอีกครั้ง

เพียงแต่เย่ซือเฉินไม่ให้เธอสมหวัง กว่าเขาจะจับมือเธอได้นั้นไม่ง่ายเลย จะยอมให้ปล่อยมือได้อย่างไรกัน

ผิวของเธอเนียนลื่นจนเขาเสียดายที่จะปล่อย

แต่ทาทีกับคำพูดของเธอทำให้เขารู้สึกโมโห เพราะเขาไม่ชอบให้เธอมาแปลงโฉมเสแสร้งแกล้งทำ ไม่ชอบเลยสักนิดเดียว ฉะนั้นบัดนี้เย่ซือเฉินอยากจะเปิดเผยการเสแสร้งของเธอเต็มทน

เย่ซือเฉินไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยมือ แต่กลับจับให้แน่นขึ้น มุมปากขยับยิ้มเบาๆ “พูดตามความจริง มือของคุณนายถังช่างอ่อนนุ่มและลื่นเหลือเกิน ทำให้ไม่อยากปล่อยเลย”

คำพูดของเขาในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ามีความล่วงเกินแฝงอยู่

เวินลั่วฉิงจ้องมองเขา ถึงแม้สีหน้ายังคงเรียบเฉยอยู่ แต่แววตากลับมีอารมณ์ก่อตัวขึ้นมาบ้างแล้ว

แต่ทว่าไม่นานเวินลั่วฉิงก็ปกปิดลง เธอรู้ว่าเวลานี้ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆไม่ได้เด็ดขาด

แน่นอน เย่ซือเฉินมองการตอบสนองของเธอออก มุมปากยกขึ้นพูดต่อว่า “ไม่ทราบว่าจุดอื่นของคุณนายถังจะเรียบเนียนนุ่มชวนให้คนหลงใหลอย่างนี้หรือเปล่า?”

มือข้างหนึ่งของเย่ซือเฉินไปจับที่เอวข้างของเธอกะทันหัน ด้วยท่าทางนัวเนียแบบคลุมเครือ ยิ่งไปกว่านั้นยังยิ้มอย่างลามกอีกด้วยว่า“อย่างเช่นตรงนี้……”

สีหน้าของเวินลั่วฉิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะทำเช่นนี้ ตำแหน่งที่นั่งในตอนนี้ถึงจะไม่โจ่งแจ้งเท่าใดนัก แต่ทว่าหากมีคนมองมาที่พวกเธอก็สามารถเห็นพวกเขา เห็นการกระทำของเขา

เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?

เวินลั่วฉิงกำลังคิด

จากนั้นมือของเย่ซือเฉินก็ย้ายไปตามเอวด้านบนของเธอ มุมปากที่ยกขึ้นเป็นรูปเรเดียนนั้นยิ่งเด่นชัดขึ้นกว่าเก่า “อย่างเช่นตรงนี้……”

มือของเขาเคลื่อนมาอยู่ตรงกรงซี่โครง ทันใดนั้นก็ย้ายไปอยู่ที่ตรงกลาง

เวินลั่วฉิงตกตะลึงทันที พลางถอยตัวไปด้านหลัง ซึ่งหลบเลี่ยงมือของเขาที่เกือบจะแตะต้องด้านหน้าของเธอได้แล้วอย่างหวุดหวิด

คนนี้บ้าแล้ว บ้าไปแล้วจริง กล้าทำอย่างนี้ในกลางสาธารณชนเช่นนี้ด้วย

หากไม่ใช่สถานที่ไม่เป็นใจ เวินลั่วฉิงจะด่าทอเขาสักยกใหญ่เลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาได้หย่ากันแล้ว เขายังทำอย่างนี้กับเธออีก……

ตอนนี้เวินลั่วฉิงรู้ว่าตัวเองจะเสียมารยาทไม่ได้ ฉะนั้นได้แต่จ้องมองเย่ซือเฉินแวบหนึ่งด้วยความตักเตือน

“ทำไม?เขินอายเหรอ?ไม่รู้ว่าคุณนายถังอยู่บนเตียงจะอายอย่างนี้ไหม?”แต่ทว่าเย่ซือเฉินไม่เพียงแต่ไม่สำรวมกิริยา แต่กลับยิ่งเหิมเกริมหยาบคายเข้าไปอีก ซึ่งพูดเชิงแบบคลุมเครือในฐานะคู่รัก ยิ่งไปกว่านั้นยังมี……

เวินลั่วฉิงแอบสูดลมหายใจเข้า รู้สึกใบหน้าจะร้อนรุ่มขึ้นมากะทันหัน เธอไม่รู้ว่าบัดนี้ตนหน้าแดงเรื่อหรือเปล่า เพราะเธอสามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้ แต่ไม่สามารถควบคุมปฏิกิริยาการตอบสนองของร่างกายได้

บัดนี้เย่ซือเฉินจงใจจะยั่วโมโหเธอ เธอจะเสแสร้งแกล้งทำ เขาก็จะยิ่งไม่ให้เธอทำ เขาจะฉีกหน้ากากที่แท้จริงของเธอออกมา

ฉะนั้นเขาจึงจงใจทำและพูดเช่นนั้น

อันที่จริง ขณะที่เย่ซือเฉินพูดอยู่นั้น เขาได้กดเสียงให้ต่ำที่สุดจนคนอื่นไม่มีทางได้ยิน และตอนที่เขากระทำกิริยาพวกนั้นก็จงใจใช้ร่างของตนบดบังสายตาผู้อื่นไว้ คนอื่นจึงมองไม่เห็นอย่างแน่นอน

บัดนี้เห็นเธอยังคงพยายามสุดแรงในการควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ ดวงตาของเขาก็หรี่ขึ้น เมื่อสักครู่ติ่งหูของเธอนั้นแดงแล้ว แสดงว่าเธอรู้สึกเขินอายนั่นเอง

อันที่จริงผู้หญิงคนนี้เก้อเขินได้ง่ายจริงๆ

“พูดตามความจริง ผมชอบให้คุณนายถังร้องครางอยู่ใต้ร่างกายของผม……”ทันใดนั้นร่างกายของเย่ซือเฉินก็โน้มตัวไปด้านหน้าเพื่อเข้าใกล้หูของเธอ พลางพูดอย่างจงใจ

เขาจะดูสิว่าเธอจะเล่นละครต่อไปได้สักกี่น้ำกัน??

“เย่……”เวินลั่วฉิงได้ฟังคำพูดของเขา สีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก หน้าอกเต้นตุบๆอย่างเห็นได้ชัด คำว่าเย่ซือเฉินเกือบจะหลุดออกจากปากอยู่แล้วเชียว

แต่ทว่าวินาทีสุดท้าย เธอก็พยายามอดกลั้นไว้สุดแรง

เธอรู้ว่าตอนนี้เย่ซือเฉินพยายามยั่วโมโหเธออยู่

ถึงแม้เธอไม่รู้ว่าเย่ซือเฉินหมายความว่ายังไงกันแน่?ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่?

แต่เธอรู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ เธอจะระเบิดความโกรธออกมาไม่ได้ จะให้เขาเป็นฝ่ายคุมเกมไม่ได้เด็ดขาด

เมื่อสักครู่เย่ซือเฉินรู้สึกได้ถึงความโกรธเคืองของเธออยู่แท้ๆ และรู้ว่าเมื่อกี้เธอเรียกชื่อตัวเองอยู่ ซึ่งทุกครั้งที่เธอโกรธก็จะเรียกชื่อของเขา

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset