ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 431 ผลตรวจ DNAออกมาแล้ว

บทที่ 431 ผลตรวจ DNAออกมาแล้ว

แต่ทว่าตอนนี้ผ่านไปตั้งหลายวันแล้ว ถังหลินยังไม่โทรศัพท์มาหาเธอเลย

เวินลั่วฉิงกำลังครุ่นคิดอยู่ หากคำนวณตามเวลา ผลตรวจคงจะออกมาแล้ว อาจเป็นเพราะเลือดไม่ตรงกันหรือพูดอีกแง่หนึ่งก็คือคุณแม่ของเธอไม่ใช่ลูกสาวที่หายสาบสูญของบ้านตระกูลถัง

ฉะนั้นถังหลินจึงไม่ได้โทรมาหาเธอ

สิ่งที่เวินลั่วฉิงไม่รู้ก็คือถังหลินได้โทรไปหาเธอแล้ว ซึ่งไม่เพียงแต่โทรครั้งเดียวเท่านั้น แต่จนแล้วจนรอบก็ไม่มีผู้รับสายเสียที

ถังหลินโทรหาเวินลั่วฉิงเป็นครั้งที่Nก็ยังคงไม่มีผู้รับสายอยู่แต่ เห็นได้ชัดว่าดวงตาของเขาเกิดประกายความเยือกเย็นออกมา จากนั้นถังหลินก็โทรหาถังไป๋เชียนโดยตรง

ส่วนถังไป๋เชียนนั้นรับสายอย่างเร็วควัน

“ถังไป๋เชียน คุณปิดกั้นมือถือของฉิงฉิงไม่ให้เธอได้รับสายเรียกเข้า”เมื่อรับสายถังหลินก็เอ่ยปากพูดทันที

ซึ่งน้ำเสียงของถังหลินในขณะนี้ไม่ใช่การซักไซ้ แต่คือความมั่นใจ

เรื่องนี้กระจ่างแจ้งอย่างไม่ต้องสงสัยว่าต้องเป็นฝีมือของถังไป๋เชียนแน่นอน

ถังไป๋เชียนไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่หัวเราะเย้ยหยันหนึ่งครั้ง

“ถังไป๋เชียน คุณแน่มากเลย ผมรู้ว่าคุณไม่อยากให้ฉิงฉิงกลับบ้านตระกูลถัง แต่ว่าคุณสามารถปิดบังเธอได้ตลอดชีวิตหรือไม่?”สีหน้าของถังหลินในขณะนี้เห็นได้ชัดว่าคือความเย็นชาที่เจือความสบายใจชิวๆเอาไว้ เขาคิดไม่ถึงว่าถังไป๋เชียนจะทำเลยเถอะได้ขนาดนี้

“ผมจะปกป้องเธอชั่วชีวิต”ครั้งนี้ถังไป๋เชียนเอ่ยปากพูดแล้ว ซึ่งน้ำเสียงมีความลุ่มลึกเล็กน้อย แต่สีหน้ากลับแน่วแน่เป็นอย่างสูง

เขาจะปกป้องเธอไปตลอดชีวิต ฉะนั้นชาตินี้เขาจะไม่ยอมให้เธอห่างจากตัวเขาเด็ดขาด

ถังหลินหัวเราะคิกคักเสียงเย็นออกมา

“คุณปกป้องเธอ?คิก คำว่าปกป้องสำหรับคุณก็คือคอยปกปิดเธอทุกเรื่องอยู่ร่ำไปหรือ?คำว่าปกป้องของคุณก็คือทำทุกวิถีทางเพื่อหลอกลวงเธออย่างนั้นหรือ?คำว่าปกป้องของคุณก็คือไม่ถามความคิดเห็นของเธอก็ตัดสินใจแทนเธออย่างนั้นหรือ?ถังไป๋เชียน คุณมีอะไร?มีสิทธิ์อะไรถึงได้ทำเช่นนี้?คุณเป็นอะไรกับเธอล่ะ?พูดไปแล้วอันที่จริงก็ไม่เป็นอะไรเลย”

ถังหลินที่ปกติจะเป็นคนพูดน้อยต่อยหนัก เป็นครั้งแรกที่เขาพูดหลักการสักยาวเหยียดเช่นนี้

อีกฝั่งหนึ่งของสาย สีหน้าของถังไป๋เชียนเคร่งขรึมขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแจ้ง

“ผมเป็นพี่ชายของเธอ เย่ซือเฉินเป็นสามีของเธอ ถึงแม้ตอนนี้จะหย่ากันแล้ว แต่ก็ยังเป็นสามีเก่าอยู่ดี แต่ว่าถังไป๋เชียน คุณไม่มีสถานะอะไรสำหรับเธอเสียเลย ฉะนั้นถังไป๋เชียนคุณมันตลกสิ้นดี”ถึงแม้ว่ามีโทรศัพท์เป็นสิ่งกีดกั้นทั้งสองคน แต่ถังหลินก็คาดเดาความรู้สึกในตอนนี้ของถังไป๋เชียนได้ จึงจงใจเสริมขึ้นมาอีกหลายประโยค

สีหน้าของถังไป๋เชียนเคร่งขรึมถึงขีดสุด อันที่จริงเรื่องพวกนี้คือสิ่งที่เขาใส่ใจมากที่สุด

แน่นอน เขายิ่งวิตกกังวลว่าเวินลั่วฉิงจะรู้ความจริงที่เขาทำเรื่องพวกนั้น

หากเธอรู้ ด้วยนิสัยของเธอ เกรงว่า……

“ถังไป๋เชียน คุณว่าถ้าหากให้ฉิงฉิงรู้ในสิ่งที่คุณได้กระทำลงไป เธอจะทำอย่างไรกันนะ?”ถังหลินรู้ดีว่าถังไป๋เชียนกลัวสิ่งใดมากที่สุด

“เธอไม่มีทางรู้หรอก”ถังไป๋เชียนตะคอกหนึ่งประโยคอย่างรวดเร็ว เขาให้เวินลั่วฉิงรู้ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด

“คิก”ถังหลินหัวเราะเยาะอีกครั้ง“ถังไป๋เชียน เรื่องตระกูลถังก็ไม่เท่าไหร่ คุณปิดบังได้ แต่เมื่อวานซืนคุณปู่เวินป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล จนป่านี้คุณปู่เวินยังไม่ฟื้นเลย แต่คุณก็ยังปกปิดเรื่องนี้กับฉินฉิงอยู่ หากคุณปู่เวินเกิดเป็นอะไรไป พอถึงเวลานั้นฉิงฉิงต้องเกลีดชังคุณไปตลอดชีวิตแน่นอน”

ถังไป๋เชียนตะลึงงัน สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วอย่างอารมณ์ เขาไม่รู้ว่าคุณปู่เวินไม่สบายเข้าโรงพยาบาลเลย แต่ทว่าเขาได้ปิดกั้นมือถือของเวินลั่วฉิงไม่ให้เจอสายเรียกเข้าจากที่อื่นจริง

ฉะนั้น สายจากตระกูลเวินก็โทรเข้ามาไม่ได้ด้วย

เพราะปกติจะไม่ค่อยมีคนโทรหาเวินลั่วฉิงเลย คนของพวกเขาก็ล้วนใช้อินเทอร์เน็ตสื่อสารกัน ฉะนั้นถังไป๋เชียนจึงกล้าทำเช่นนี้

เดิมทีเบอร์มือถือของเวินลั่วฉิง นอกจากมีคนในกลุ่มพวกเขารู้แล้วก็มีเพียงคุณปู่เวินรู้เท่านั้น และปกติคุณปู่เวินหากไม่มีธุระอะไรก็จะไม่ค่อยโทรหาเธอ ฉะนั้นเวินลั่วฉิงไม่ได้รับสายจากที่อื่นก็ไม่ได้ประหลาดใจอะไร

บัดนี้อารมณ์ของถังไป๋เชียนมีความซับซ้อนเล็กน้อย

ถังหลินบอกว่าเมื่อวานซืนคุณปู่เวินแอ็ดมิทเข้าโรงพยาบาล ตอนนี้ยังไม่ฟื้น ซึ่งแสดงว่าอาการหนักเอาการอยู่ หาก……

มือของถังไป๋เชียนที่กำมือถือไว้สั่นระริกอย่างเห็นได้ชัดเจน ส่วนถังหลินรู้ว่าเขาบรรลุวัตุประสงค์แล้ว ฉะนั้นจึงวางสายทิ้ง

หลังจากที่ถังหลินกดวางสาย ดวงตาทั้งคู่ก็จ้องมองผลตรวจDNA

มุมปากของเขาก็คลี่ยิ้มออกมา

ผลตรวจออกมาแล้วว่าเวินลั่วฉิงคือสายเลือดของตระกูลถังไม่ไม่ผิดคลาดอย่างแน่นอน

ฉะนั้นไม่ว่าจะช้าหรือเร็วฉิงฉิงก็ต้องกลับมาที่บ้านตระกูลถังอยู่ดี ไม่ใช่ว่าถังไป๋เชียนอยากจะกีดขวางก็จะทำได้ดั่งใจหมาย

มาพูดถึงเรื่องการตรวจDNAกัน ซึ่งรู้สึกว่าช่วงนี้จะมีความสลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก ลิ้นชักในที่ทำงานของเขายังมีผลตรวจDNAอีกหนึ่งฉบับ ซึ่งก็คือฉบับที่จี้หซีให้เขาเปลี่ยนนั่นเอง

เมื่อนึกถึงผลตรวจฉบับนั้น ดวงตาของถังหลินก็กะพริบถี่ ตอนนั้นเขาดูแค่แวบเดียวคล้ายกับว่ามีกลุ่มตัวเลขที่เขาคุ้นตามาเหลือเกิน

แต่ทว่าตอนนั้นกู้หนานมาพอดี เขาจึงไม่ได้ดูอย่างละเอียดลออ

ตอนนี้ถังหลินอยู่ที่บ้าน ไม่ได้อยู่ที่ทำงาน เขาคิดว่าพรุ่งนี้ไปดูผลตรวจอีกหนึ่งฉบับนั้นที่ห้องทำงาน

จากนั้นไม่นาน เวินลั่วฉิงก็ได้รับสายจากพ่อบ้านตระกูลเวิน

“คุณหนูใหญ่รับสายได้สักทีนะครับ โรคหัวใจคุณท่านกำเริบครับ ตอนนี้นอนอยู่ที่โรงพยาบาล คุณหนูใหญ่รีบกลับมานะครับ”หลายวันมานี้พ่อบ้านได้โทรหาเวินลั่วฉิงมาหลายรอบแล้ว แต่ก็โทรไม่ติดเลย ตอนนี้โทรติดสักที พ่อบ้านจึงโล่งใจไปได้บ้าง

“คุณปู่ป่วยนอนโรงพยาบาล?”เวินลั่วฉิงได้ยินคุณปู่เวินแอ็ดมิทเข้าโรงพยาบาลจึงรู้สึกเป็นห่วง เลยไม่ได้ติดใจคำพูดประโยคหน้าของพ่อบ้าน

“ครับ ครับ อาการของคุณท่านรุนแรงอยู่ครับ คุณหนูใหญ่รีบกลับมาเถอะ”พ่อบ้านก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่ขอให้เวินลั่วฉิงรีบกลับมาโดยเร็ว

เวินลั่วฉิงได้ยินว่าอาการของคุณปู่นั้นรุนแรงมาก จึงไม่กล้าเสียเวลาแม้แต่น้อย รีบกลับเมืองAด้วยความเร็วสูงสุด

เพียงแต่เวินลั่วฉิงได้ข่าวช้ากว่าเย่ซือเฉินไปหนึ่งคืน ฉะนั้นเย่ซือเฉินจึงได้กลับมาถึงเมืองAก่อนแล้ว และรอมาเป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม

แน่นอน ในหนึ่งวันมานี้เย่ซือเฉินไม่ได้อยู่เปล่าประโยชน์ เขาติดต่อหมอผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจที่ดีที่สุดมาช่วยให้การรักษากับคุณปู่เวิน

แต่เย่ซือเฉินไม่ได้เป็นคนออกหน้า

และเขาก็ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์บริษัทของตระกูลเวินแล้ว ตอนนี้บริษัทเวินซื่อกรุ้ปเหลือแค่เปลือกนอกเท่านั้น หากมีคนมาผลักอีกทีหนึ่งก็จะล้มละลายได้เลย แต่สิ่งที่เย่ซือเฉินประหลาดใจก็คือคนนั้นกลับยั้งมือในขั้นสุดท้าย

เป็นเพราะคุณปู่เวินป่วยเข้าโรงพยาบาล จึงเกิดความเมตตาเหรอ?

เย่ซือเฉินรู้สึกอย่างเลือนรางว่าเรื่องมันไม่ธรรมดาง่ายๆอย่างนี้หรอก

เดิมทีเย่ซือเฉินมั่นใจมากว่าคุณปู่เวินป่วยหนักจนเข้าโรงพยาบาล เวินลั่วฉิงจะต้องกลับมาเป็นแน่ แต่เขารอมาหนึ่งวันเต็มเธอก็ยังไม่กลับมาเสียที

บัดนี้เย่ซือเฉินนั่งอยู่ในห้องทำงานที่บริษัทตระกูลเย่กรุ้ป เห็นได้ชัดว่ากำลังเหม่อลอยอยู่

เพื่อหลบหน้าเขาแล้ว แม้แต่คุณปู่เวินป่วยเธอก็ไม่กลับมาดูเลยเหรอ?

ไม่ ไม่น่าจะใช่ เธอไม่ใช่คนอย่างนั้น เขารู้จักเธอดีว่าเธอเป็นคนที่ให้ความสำคัญในด้านความรู้สึกมากทีเดียว และคุณปู่เวินก็สำคัญมากสำหรับเธออีกด้วย ฉะนั้นเธอต้องกลับมาอยู่แล้ว กลับมาแน่นอน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset