ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 513 ลูกชายของคุณชายสามเย่ (1)

บทที่ 513 ลูกชายของคุณชายสามเย่ (1)

“หม่ามี๊ ทำไมหยุดเดินล่ะ หม่ามี๊อยากเล่นชิงช้าสวรรค์เหรอ” เมิ่งโร่ถิงเห็นเธอหยุดเดิน เห็นชิงช้าสวรรค์ที่อยู่ไม่ไกล ยิ้มเบาๆพูดว่า “ถึงแม้จะดูเด็กๆไป ขอแค่หม่ามี๊ชอบก็พอแล้ว ไปกันเถอะ ฉันจะไปเล่นเป็นเพื่อนหม่ามี๊เอง”

แต่ว่า เมิ่งหยูเยียนยืนนิ่งไม่ขยับ และไม่มีการตอบสนองใดๆทั้งสิ้น ดวงตาคู่นั้นจ้องไปที่ถังจื่อโม่ ความตะลึงในดวงตาก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น

“มีอะไรเหรอ ดูอะไรอยู่” เหลยเห้อเห็นว่าเธอดูแปลกๆไป มองตามสายตาเธอไป แต่ก็ไม่พบอะไร อดไม่ได้ที่จะแอบสงสัย

จากการจ้องมองของเธอ เธอน่าจะกำลังมองเด็กผู้ชายที่อยู่ไม่ไกล เด็กผู้ชายคนนั้นมีอะไรพิเศษหรือเปล่า

หน้าตาดี น่ารัก แต่เธอก็ไม่น่าจะมีปฏิกิริยาที่มากขนาดนี้นะ

เมิ่งหยูเยียนยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่มีปฏิกิริยาอะไร เหมือนไม่ได้ยินที่พวกเขาพูด แต่ว่า แต่เธอยกมือขึ้นเล็กน้อย ชี้ไปที่ถังจื่อโม่ มือสั่นมาก

“เกิดอะไรขึ้น” เหลยเห้อจับมือที่สั่นมากของเธอไว้ น้ำเสียงดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“หม่ามี๊ เกิดอะไรขึ้น” เมิ่งโร่ถิงก็เห็นว่ามันแปลกๆ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในน้ำเสียงมีความกังวลเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด

“เด็กผู้ชายคนนั้น เด็กผู้ชายคนนั้น เด็กผู้ชายคนนั้น………..” เมิ่งหยูเยียนมุมริมฝีปากขยับเล็กน้อย และพูดประโยคนั้นซ้ำๆ

“เด็กผู้ชายคนนั้นทำไมเหรอ ไม่เห็นมีอะไรแปลกนะ” เมิ่งโร่ถิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เด็กผู้ชายคนนั้นไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย ทำไมหม่ามี๊ถึงมีปฏิกิริยาเช่นนั้น

“เขา เขาเหมือนพี่ชายคุณตอนเด็กอย่างกับแกะ” เมิ่งหยูเยียนหายใจเข้าหนึ่งครั้ง พยายามทำให้ตัวเองสงบลง ในที่สุดก็พูดประโยคที่สมบูรณ์ออกมา

“อะไรนะ หมายความว่าไง” เมิ่งโร่ถิงตกใจ “เหมือนพี่ชายตอนเด็กอย่างกับแกะ หมายความว่าอย่างไร”

“คุณแน่ใจนะว่าไม่ดูผิด หรือไม่ได้จำผิด” เหลยเห้อจะใจเย็นในเวลาที่เกิดปัญหา เลยอดไม่ได้ที่จะถามเพิ่มเติม

เธอไม่มีรูปถ่ายตอยเด็กของเย่ซือเฉิน เพราะตอนที่เธอถูกคุณปู่เย่ขับไล่ออกมา ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาด้วยเลย ดังนั้น เขากับโร่ถิงจึงไม่เคยเห็นรูปวัยเด็กของเย่ซือเฉิน

ถ้าเธอบอกว่าแค่เหมือน ก็ไม่มีอะไรแปลก แต่เธอกลับบอกว่าเด็กผู้ชายคนนั้นเหมือนเย่ซือเฉินตอนเด็กอย่างกับแกะ

เหมือนอย่างกะแกะ

“ไม่มีทางที่ฉันจะดูผิด และไม่มีทางที่ฉันจะจำผิด เด็กคนนั้นเหมือนเฉินเฉินตอนเด็กเกือบทุกประการ” ในขณะที่เมิ่งหยูเยียนพูดประโยคนี้ น้ำเสียงดูมั่นใจมาก ลูกชายของเขา มันถูกสลักไว้ในใจของเธอ แล้วจะจำผิด จะดูผิดได้อย่างไร

“แม่ หรือว่านี่จะเป็นลูกนอกสมรสของพี่ชาย” เมิ่งโร่ถิงมีบุคลิกที่ไม่คิดรอบคอบ จึงพูดเช่นนี้ออกมาทันที

เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด ตัวของเมิ่งหยูเยียนก็แข็งอย่างเห็นได้ชัด เหมือนมาก เหมือนมากจริงๆ ดังนั้น เธอก็คิดเช่นนี้ในใจเช่นกัน

แต่ เธอก็รู้สึกว่าด้วยนิสัยและสไตล์ของลูกชาย เรื่องลูกนอกสมรสไม่น่าจะเป็นไปได้

“ผู้หญิงคนนั้นฉันยังไม่เคยเจอเลย ไม่รู้เป็นคนอย่างไร และทางพี่สะใภ้………” เมิ่งโร่ถิงมองไปทางเยว่หงหลิง ขมวดคิ้วอย่างหนัก “กว่าพี่ชายจะเจอคนที่ตัวเองชอบ ขอให้อย่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกเลย”

“ฉันว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ด้วยนิสัยของซือเฉินไม่น่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ ถ้าบังเอิญมีลูกจริงๆเขาจะไม่ปล่อยให้เด็กถูกปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ “เหลยเห้อเข้าใจเย่ซือเฉิน ดังนั้นเขาคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับตัวเย่ซือเฉินได้

“แต่หม่ามี๊บอกว่าเด็กผู้ชายคนนั้นเหมือนพี่ชายตอนเด็กอย่างกับแกะ ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อกัน ก็ไม่น่าจะเหมือนขนาดนั้น” เมิ่งโร่ถิงคิดตรงมาก และมีความสมเหตุสมผลด้วย

“เอาอย่างนี้ ฉันจะหาทางเข้าใกล้เด็กผู้ชายคนนั้น หาวิธีเอาเส้นผมของเขามา พวกเราไปตรวจDNAกัน” เหลยเห้อรู้สึกสงสัย เช่นนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือตรวจหาความจริง

“อย่า อย่าทำร้ายเด็กผู้ชายคนนั้น” เมิ่งหยูเยียนรีบขัด กังวลในเสียงเล็กน้อย

“ไม่ต้องกังวล ไม่หรอก ก็แค่เส้นผมเส้นเดียว” เหลยเห้อยิ้มแล้วปลอบใจเธอ

“ฉันไปเอง ฉันไปเอง” ดวงตาของเมิ่งหยูเยียนมองไปที่ถังจื่อโม่อีกครั้ง มีความหวังมากขึ้น

เธออยากเข้าใกล้เด็กคนนั้นมากขึ้น แม้จะได้แค่มองอยู่ไม่ไกล หรือได้พูดคุยกับเด็กบ้างเล็กน้อย “พวกคุณรอฉันที่นี่ ฉันไปเอง อย่าทำให้เด็กตกใจ” เมิ่งหยูเยียนริมฝีปากยกขึ้นมีรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า เห็นเด็กคนนี้ก็เหมือนได้เห็นซือเฉินตอนเด็ก

“ได้ ฟังคุณ” เหลยเห้อทำตามคำพูดของเธอเมิ่งโร่ถิงก็เลยพูดอะไรต่อไม่ได้

เมิ่งหยูเยียนร่างกายแข็งทื่อในขณะนี้ มือยังสั่นอยู่ แต่เธอก็ยังก้าวเท้าออกไป เดินตรงไปที่ถังจื่อโม่

“คุณอาเหลย คุณว่าฉันจะได้เป็นอาแล้วเหรอ” เมิ่งโร่ถิงกะพริบตา แววตาดูสับสน

“ถ้าพี่ของคุณได้เป็นพ่อจริงๆ คุณก็จะได้เป็นคุณอา” เหลยเห้อหันมามองเธอจากนั้นสายตาของเขาก็หันไปที่เมิ่งหยูเยียนอย่างรวดเร็ว

“นี่มันเรื่องไร้สาระไปไหม” เมิ่งโร่ถิงตะลึงอยู่สักพัก มองเขาอย่างไม่พอใจ

“ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกของพี่ชายจริง แล้วพี่สะใภ้จะทำอย่างไร” เมิ่งโร่ถิงถอนหายใจเล็กน้อยทันใดนั้นก็คิดว่าถ้าสิ่งนี้เป็นเรื่องจริง ก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากมาก

“ฉันดูออกว่า พี่ชายชอบพี่สะใภ้จริงๆ แต่ถ้าพี่ชายไปมีลูกกับผู้หญิงคนอื่น จะทำอย่างไร จะทำอย่างไรดี” เมิ่งโร่ถิงเริ่มกังวล

ดวงตาของเหลยเห้อกะพริบ ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกของเย่ซือเฉินจริง ด้วยนิสัยของเวินลั่วฉิงจะไม่มีทางยอมแต่งงานกับเย่ซือเฉินเป็นแน่

“คุณอย่างพึ่งกังวล ฉันรู้สึกว่าความเป็นไปได้ไม่มาก คุณก็รู้ เป็นเวลายี่สิบปีแล้วที่แม่ของคุณออกมาจากตระกูลเย่ ตอนนี้แม้แต่รูปถ่ายใบเดียวของพี่ชายคุณก็ยังไม่ได้นำออกมาด้วย เด็กคนนี้ดูแล้วก็น่าจะอายุห้าขวบ ก็แสดงว่า นั่นเป็นความทรงจำเมื่อยี่สิบปีของแม่คุณเท่านั้น ดังนั้น ฉันรู้สึกว่าเด็กคนนี้น่าจะแค่คล้ายพี่ชายคุณ และแม่ของคุณเพราะมีความปรารถนาอยู่ในใจ ดังนั้นจึงจับสับสน” นี่คือการวิเคราะห์ของเหลยเห้อ ก็มีความสมเหตุสมผล

“อืม หวังว่าเด็กคนนั้นจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพี่ชาย ฉันก็หวังว่าพี่ชายจะมีลูกเป็นของตัวเอง และต้องเป็นลูกที่พี่สะใภ้คลอดเท่านั้น เป็นคนที่พี่ชายชอบคลอด เช่นนี้พี่ชายถึงจะมีความสุข ไม่เช่นนั้น ถ้าให้พี่ชายต้องเลือกระหว่างคนสองคนมันจะโหดร้ายเกินไป” เมิ่งโร่ถิงแอบถอนหายใจ แม้ในใจยังมีความกังวลเล็กน้อย แต่ดีกว่าเมื่อครู่มาก

เมิ่งหยูเยียนเดินไปถึงหน้าถังจื่อโม่แล้ว ณ เวลานี้เยว่หงหลิงกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ข้างๆ

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset