ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 533 สถานะของเธอถูกเปิดเผย ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอแล้ว (11)

บทที่ 533 สถานะของเธอถูกเปิดเผย ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอแล้ว (11)

ทุกคนต่างก็รู้ว่าหลานสาวคนโตที่ตระกูลถังตามกลับมาได้คือคนปิดคดี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ได้ยินว่าเก่งกาจเหลือเกิน

ใครก็รู้ว่าภายภาคหน้าตระกูลถังจะรุ่งโรจน์ที่สุด

แต่ทุกคนต่างคาดเดาว่าเป็นเพราะตระกูลถังอย่างได้คนเก่งมาประดับตระกูล ถังหยุนเฉิงจึงรับมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม

ท่านย่าถังเห็นมีแขกทยอยกันมาเยอะมาก มองเฟิ่งเหมียวเหมียวอย่างสงสัย“ทำไมเชิญคนมามากอย่างนี้?”

“แม่ค่ะ หนูไม่ได้เชิญมาเลยค่ะ คาดว่าพอได้ข่าวก็คงมากันเอง”เฟิ่งเหมียวเหมียวก็รู้สึกเบื่อหน่าย เธอแค่จัดเตรียมตามจำนวนที่เชื้อเชิญเท่านั้น ตอนนี้จู่ๆก็มีคนมามากมายเช่นนี้ จะให้เธอทำอย่างไรดี?

“อืม”ท่านย่าถังตอบเสียงต่ำ พลางแอบถอนใจไปด้วย ทำไมท่านจะไม่เข้าใจ คนเราก็เป็นอย่างนี้กันทั้งนั้นแหละ

ดูจากภาพตรงหน้า ผู้ที่มีสถานะในแปดตระกูลใหญ่ก็คงจะพากันมาหมดทุกคนเป็นแน่ ซึ่งผู้ที่มีสัมพันธไมตรีแน่นแฟ้นกับตระกูลกู้ก็มาด้วย และผู้ที่ก่อนหน้านี้มีความสัมพันธ์ไม่สู้ดีนักกับเจ้าบ้านก็มาด้วยเช่นกัน

แน่นอนยังมีคนมีฐานะนอกเหนือจากแปดตระกูลใหญ่ด้วย

ส่วนคนบ้านตระกูลกู้ไม่ได้มา แต่ยังส่งของขวัญแสดงความยินดีมาให้โดยเฉพาะ

“แม่ค่ะ หนูยังได้ยินมาอีกเรื่องหนึ่งค่ะ”เฟิ่งเหมียวเหมียวมองหน้าแม่สามี เห็นได้ชัดว่าเสียงเบาลงเจือความกังวลใจเอาไว้หลายส่วน

“ยังมีเรื่องอะไรอีก?”ท่านย่าถังมองหน้าเธอ พลางขมวดคิ้ว ท่านย่ารู้ว่าเฟิ่งเหมียวเหมียวจัดงานได้อย่างเหมาะสมแน่นอน ถ้าตามหลักแล้วไม่น่าจะเกิดอะไรที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้

“ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแพร่ข่าวลือ บอกว่าตระกูลถังของพวกเราจะหาคู่ที่พอใจให้กับฉิ้นเอ๋อ คืนนี้จึงมีชายหนุ่มมากันเยอะมากค่ะ”ตอนที่เฟิ่งเหมียวเหมียวพูด ใบหน้ามีความกลัดกลุ้มอยู่หลายส่วน ตระกูลถังของพวกเขาเพิ่งหาตัวฉิ้นเอ๋อกลับมา จะรีบให้ฉิ้นเอ๋อแต่งออกไปได้ยังไง

แน่นอน เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่รู้ว่าลูกชายของตนเป็นคนปล่อยข่าวนี้ออกไปเอง

“ใครเป็นคนสร้างข่าวลือนี้ขึ้นมา?”ท่านย่าถังขมวดคิ้วแน่นๆ“ฉิ้นเอ๋อเพิ่งกลับเข้าบ้านตระกูลถัง เรื่องนี้จะใจร้อนอย่างนี้ได้ยังไง

ไม่เท่ากับกลายเป็นว่ากลัวฉิ้นเอ๋อจะไม่มีใครเอาหรอกเหรอ”

“ใช่ค่ะ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือนี้ และไม่รู้ว่าคนนั้นมีเป้าหมายอะไร?”เฟิ่งเหมียวเหมียวก็รู้สึกว่าเรื่องนี้เร่งรีบเกินไป มีบ้านไหนบ้างที่เพิ่งจะรับคนกลับเข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัว แต่รีบให้แต่งออกไป “คนนั้นต้องไม่มีเจตนาดีแน่ๆ ไร้คุณธรรมจริงๆ”

แน่นอน บัดนี้เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่รู้เลยสักนิดว่าคนที่เธอด่าจะเป็นลูกชายในไส้เธอเอง

“ช่างเถอะ ฉิ้นเอ๋อก็ไม่เด็กน้อย พวกเราก็ใช้โอกาสนี้ดูว่ามีคนเหมาะสมหรือไม่?เมื่อก่อนฉันแค่สนใจหาผู้หญิงที่คู่ควรกับถังหลินแต่ไม่เคยจับตาดูผู้ชายเลยสักคน”

ท่านย่าถังรู้สึกว่าในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ไม่สู้รักษาโอกาสนี้ไว้จะดีกว่าไหม

“เวลาก็ไม่เช้าแล้ว ตอนนี้มากันเยอะขนาดนี้ ทางบ้านคงต้อนรับกันไม่ทั่วถึง”ท่านย่าถังเห็นคนมากันมากขึ้นทุกที เช่นนั้นคนในบ้านก็ไม่พอใช้งานเสียแล้ว

“เรื่องนี้คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เมื่อกี้หนูเห็นท่าจะไม่ดี เลยสั่งกับข้าวมาจากโรงแรมแล้วค่ะ คงใกล้ส่งมาแล้ว และหนูยังได้จ้าง

บริกรของโรงแรมมาด้วยค่ะ และให้เอาโต๊ะเก้าอี้มาด้วยค่ะ แต่คนเยอะขนาดนี้คาดว่าห้องโถงคงไม่พออยู่”เฟิ่งเหมียวเหมียวเตรียมการเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ดูจากสถานการณ์ตรงหน้า ห้องโถงคงจะรองรับคนไม่ได้เท่านี้แน่ๆ?

หากรู้แต่แรกก็ไม่จัดที่บ้านแล้ว

“ตอนนี้เปลี่ยนสถานที่ไม่ทันแล้ว”ท่านย่าถังถอนหายใจ“เอาอย่างนี้ก่อนก็แล้วกัน”

“ฉิ้นเอ๋อเตรียมตัวถึงไหนแล้ว?ใกล้จะลงมาแล้วใช่ไหม?”ท่านย่าถังมองดูเวลา ตอนนี้ห้าโมงเย็นกว่าๆแล้ว ควรเริ่มงานเลี้ยงเสียที

“คุณแม่วางใจได้เลยค่ะ เมื่อกี้หนูถามแล้ว เกือบจะเสร็จแล้วค่ะ ตอนนี้หลันล๋านกำลังเลือกชุดราตรีเป็นเพื่อนอยู่ค่ะ น่าจะใกล้กลับมาแล้ว”

“หลันล๋านช่วยฉิ้นเอ๋อเลือกชุด ฉันก็หายห่วงแล้ว อย่าเห็นว่าเด็กคนนี้อายุน้อยๆนะ เธอมีพรสวรรค์ด้านการออกแบบมากๆเลย ก่อนหน้านี้ชุดราตรีของฉันขาดโดยไม่ทันระวัง เธอก็แก้ให้ฉันในงานเลย แต่กลับดูไม่ออกว่ามีการปรับแก้ตรงไหน ในทางกลับกันยิ่งรู้สึกเหมาะกันฉันกว่าเดิมเสียอีก”ท่านย่าถังพูดถึงหลันล๋านอย่างพึงพอใจ

“เพียงแต่เสียดายเด็กคนนี้มีโชคชะตาที่ขมขื่น ถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่เด็ก”จากนั้นท่านย่าถังก็ถอนหายใจเบาๆหนึ่งเฮือก

“พ่อแม่บังเกิดเกล้าของเธอก็ช่างใจร้ายจริงๆ โชคดีที่เยว่หรงเก็บมาชุบเลี้ยงฟูมฟักเหมือนกับเป็นลูกแท้ๆ หนูจึงคิดว่าเธอไม่ได้มีชีวิตที่ขมขื่นเลย แต่กลับโชคดีอีกต่างหาก”เฟิ่งเหมียวเหมียวไม่ใช่คนที่คิดมากให้บั่นทอนจิตใจ เธอมักจะคิดในแง่บวกเสมอ

“ไม่ใช่บอกว่า ตระกูลหลันเลี้ยงให้เหมือนเป็นลูกสะใภ้หรอกเหรอ?”ท่านย่าถังหัวเราะ อดเสริมขึ้นมาหนึ่งประโยคไม่ได้

“อืม เยว่หรงเอ็นดูเด็กคนนี้มาก เอ็นดูถึงขั้นไม่อยากให้แต่งไปอยู่บ้านคนอื่น ดังนั้นรอให้เธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่แล้วจะให้เป็นภรรยาของหลันเหยียนเฟิง ซึ่งเหยียนเฟิงไม่เห็นด้วยมาตลอด เพราะเรื่องนี้เหยียนเฟิงจึงได้ทะเลาะกับพวกเขาแล้วออกนอกประเทศไป เขาไม่กลับมาตั้งนานแล้ว ช่วงนี้เหยียนเฟิงไม่ได้ติดต่อกับพวกถังหลินเลยค่ะ”เฟิ่งเหมียวเหมียวกับไป่เยว่หรงมีความสัมพันธ์อันดีงาม ดังนั้นจึงรู้เรื่องนี้อย่างละเอียดยิบ

“เด็กหนุ่มคนนี้ไม่รู้ค่าที่ตัวอยู่ในความสุข ตอนนี้ไม่รู้จักรักษา รอให้ภรรยาหนีไปแล้ว เขาต้องเสียใจภายหลังเป็นแน่”ท่านย่าถังนึกถึงสายตาที่หลันเหยียนเฟิงมองหลันล๋านในงานเลี้ยงครั้งก่อนก็อดยิ้มไม่ได้

“ใช่ค่ะ? ถึงแม้จะถือโคมไฟก็ยากจะหาเจอเด็กอย่างหลันล๋าน ตอนนี้เธอยังเด็ก รอให้เธอโตอีกนิดจะมีคนปัญญาดีจีบไป ถึงตอนนั้นเหยียนเฟิงไม่มีแม้กระทั่งที่ร้องไห้แล้ว”เฟิ่งเหมียวเหมียวอดหัวเราะไม่ได้

ในเวลาเดียวกัน ภายในร้านชุดราตรีชั้นนำ

“สวย สวยมาก พี่ฉิ้นเอ๋อสวยมากเลยค่ะ ฉันว่าหากผู้ชายคนไหนเห็นพี่ต้องอยากขอแต่งงานไปซ่อนไว้ที่บ้านแน่ๆ”ตอนที่หลันล๋านเห็นเวินลั่วฉิงเปลี่ยนเสื้อออกมา อดมองอย่างตกตะลึงตาค้างไม่ได้“สวยจริงๆ”

เวินลั่วฉิงมองตัวเองในกระจกก็หยุดชะงักเล็กน้อย ไม่ชมไม่ได้ว่าชุดที่หลันล๋านช่วยเธอเลือกช่างเหมาะกับเธอเหลือเกิน เผยจุดเด่นทั้งหมดของเธอออกมาหมดเลย

อันที่จริงเวินลั่วฉิงรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องแต่งตัวให้เลิศหรูมากนัก แต่คุณยายกับเฟิ่งเหมียวเหมียวยังคงยืนกรานอย่างหนักแน่น เธอจึงไม่อาจปฏิเสธได้ลงคอ

“พี่ฉิ้นเอ๋อ เดี๋ยวตอนปรากฏตัวที่งานเลี้ยง ฉันรับรองว่าผู้ชายทั้งหมดต้องมองตาค้างแน่ๆ หนุ่มๆคงจะแย่งขอแต่งงานแน่ๆ คนเยอะขนาดนี้คงจะแย่งกันจนวุ่นเลย”หลันล๋านยิ้มอย่างกึ่งจริงกึ่งเท็จ

“คืนนี้มีแขกมาไม่มาก”เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเธอก็อมยิ้ม เธออยู่ตอนที่ท่านย่าถังสั่งการ บอกว่าคืนนี้ไม่เชิญคนเยอะ ยิ่งไปกว่านั้นท่านย่าถังยังกำชับเป็นพิเศษว่าห้ามเชิญคนบ้านตระกูลเย่ รวมทั้งเย่ซือเฉินด้วย

ดังนั้นคาดว่าเย่ซือเฉินก็คงไม่มาในงาน

“แขกไม่เยอะ?”หลันล๋านหยุดชะงัก ทำไมเธอได้ยินว่าแขกเยอะมากเป็นพิเศษ?หรือเธอจะฟังผิดเพี้ยนไป?

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset