บทที่ 536 สถานะของเธอถูกเปิดเผย ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอแล้ว (14)
“พี่สามทายดูสิว่าผมเจอใคร？”คุณชายห้าฉิงไม่ได้ใส่ใจ สาเหตุหลักก็คือคุ้นชินแล้ว
“ใคร？”เย่ซือเฉินหยุดชะงัก พลางกะพริบตารัวๆ
“พี่ยังจำผู้หญิงที่ช่วยผมคลี่คลายคดีได้หรือไม่？ก็คือผู้หญิงที่พี่ไปดักรอที่สถานีตำรวจไง”ครั้งนี้คุณชายห้าฉิงไม่ได้ชักแม่น้ำทั้งห้ามาคุย แต่เป็นการพูดใจความสำคัญทันที
“อยู่ไหน？”นาทีต่อมา เย่ซือเฉินรีบลุกขึ้นยืน น้ำเสียงมีความร้อนรนใจหลายส่วน
“พี่สาม พี่แน่ใจว่าผู้หญิงห้าปีก่อนเป็นเวินลั่วฉิงแล้วไม่ใช่เหรอ？ดังนั้น พี่กับคุณถังน่าจะไม่มีความสัมพันธ์อะไรใช่ไหม？ทำไมพี่ยังตื่นเต้นอย่างนี้อีก？”คุณชายห้าฉิงได้ยินเย่ซือเฉินมีน้ำเสียงที่ร้อนใจ จึงอดหยุดชะงักไม่ได้
“พี่ถามว่าตอนนี้นายอยู่ที่ไหน？เจอเธอที่ไหน？”เย่ซือเฉินไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก ตอนนี้เขาแค่อยากรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนกันแน่？
“ผม ผมอยู่บ้านตระกูลถัง？เธอก็อยู่บ้านตระกูลถังด้วย เธอเป็นน้องสาวของพี่ใหญ่ ถังฉิ้นเอ๋อ”ใบหน้าคุณชายห้าฉิงเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ฟังเสียงตะคอกของเย่ซือเฉิน เขาจึงตอบด้วยจิตใต้สำนึก
มีชั่ววูบหนึ่งเย่ซือเฉินชะงักค้าง
เธออยู่บ้านตระกูลถัง？เธอเป็นน้องสาวของถังหลิน？
ถังฉิ้นเอ๋อ？เขารู้จักชื่อนี้ดี ตอนปิดคดีในกองทหารเธอก็ใช้ชื่อนี้ ดังนั้นจึงไม่ผิดอย่างแน่นอน
ฉะนั้นเธอคือน้องสาวของถังหลิน！！
ฉะนั้นเพราะสาเหตุนี้ถังหลินจึงปฏิบัติดีกับเธอเป็นพิเศษ？
ดังนั้นเธอก็คือคนครอบครัวตระกูลถัง！！
นาทีนี้ คุณชายสามเย่ไม่ได้กระดุกกระดิก รู้สึกสับสนวุ่นวายกะทันหัน
จู่ๆคุณชายสามเย่นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยพูดถึงถังหลินในแง่ลบกับเธอ อีกทั้งคล้ายกับยังบอกว่าตระกูลถังเจ้าเล่ห์เพทุบายกันทุกคน
คุณชายสามเย่นึกขึ้นได้อีกว่า ถังหลินให้เขาไปร่วมงานเลี้ยง แต่เขาบอกว่าไม่อยากไป เขาเหมือนจะพูดอีกว่าใครอยากไปก็ไปเอง？
“พี่สาม ผมบอกพี่นะ คนมาร่วมงานวันนี้ไม่น้อยเลย มีหนุ่มโสดมากันเพียบและยังเป็นคนยอดเยี่ยมกันทั้งนั้น ผมรู้สึกว่าโอกาสผมมีไม่มากนัก พี่ใหญ่ไม่มีน้ำใจเลย เคยบอกเขาว่าอย่าเชิญคนมาเยอะแล้วก็ไม่ฟังกันเลย……”คุณชายห้าฉิงมองจำนวนคนในห้องโถงพลันแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก
เขารู้สึกว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีผลดีกับเขาเอาเสียเลย
ดวงตาเย่ซือเฉินหรี่ขึ้น ถังหลินบอกว่าคืนนี้จะเลือกผู้ชายให้เธอ？
โอ้โห นาทีต่อมาคุณชายสามเย่ก็ก้าวเดินกะทันหัน รีบพุ่งออกไปด้านนอกอย่างเฉียบพลัน
เธอจะเลือกผู้ชาย？ผู้ชายที่เธอเลือกต้องเป็นเขาคนเดียวเท่านั้น
คุณชายห้าฉิงเห็นถูกตัดสาย มุมปากก็กระตุกเล็กน้อย พี่สามเคยบอกว่าไม่สนใจ ไม่อยากได้ ดังนั้นพี่สามคงเบื่อฟังคำพูดของเขาพลันกดวางสายของเขาทิ้ง
ฉะนั้นคุณชายห้าฉิงไม่ได้คิดอะไรมาก ยิ่งไม่ได้คิดลึกล้ำให้ถี่ถ้วน
“เมื่อกี้พี่โทรหาพี่สามเหรอ？”ไม่รู้ว่าเสี่ยวชีเดินมาอยู่ด้านข้างคุณชายห้าฉิงตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นกำลังจ้องมองเขาอยู่
“ใช่ แต่พี่สามไม่ได้สนใจแต่แรก ไม่อยากมา ดังนั้นจึงกดสายของพี่ทิ้ง”คุณชายห้าฉิงจ้องมองเสี่ยวชีพร้อมกับตอบอย่างเป็นธรรมชาติหนึ่งประโยค
เสี่ยวชีหยุดชะงัก จากนั้นก็กระตุกมุมปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร
บัดนี้คุณปู่ถังกำลังจูงเวินลั่วฉิงเข้ามายังห้องโถงด้านหน้า เริ่มแนะนำให้ทุกคนทราบ“คนนี้คือหลานสาวของผม——ถังฉิ้นเอ๋อ
เดิมทีพวกเรามีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง แต่ลูกสาวของพวกเราหายตัวไปตอนอายุห้าขวบ พวกเราตามหามานานหลายปี ในที่สุดก็หาเจอ เมื่อหลายปีก่อนลูกสาวของพวกเราหยุนชิงป่วยเสียชีวิตไปแล้ว คนนี้คือลูกสาวของหยุนชิง”ท่านปู่ถังอธิบายได้อย่างละเอียด เพราะไม่อยากให้คนนอกแพร่ข่าวลือไปมั่วซั่ว
เขารู้ว่าไม่ถึงหนึ่งวัน ด้านนอกก็มีข่าวลือไปต่าง ๆ นา ๆ
สำหรับเรื่องอื่นท่านปู่ถังไม่ต้องอธิบายให้มากความ เพราะชื่อถังฉิ้นเอ๋อนั้นเป็นที่รู้จักันดีในแปดตระกูลใหญ่ไปแล้ว
“เดิมทีผมยังสงสัยอยู่เลย ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง เด็กคนนี้มีหน้าตาละหม้ายคล้ายคลึงกับท่านย่าถังสมัยสาวๆมาก ต้องไม่ผิดอย่างแน่นอน ยินดีกับท่านปู่ถังและท่านย่าถังด้วยค่ะ”ท่านย่าหลี่มองเวินลั่วฉิงด้วยรอยยิ้มละมุน
“ใช่ เหมือนจริงๆ เหมือนกันอย่างกับแกะ”ท่านปู่หลี่พยักหน้าเล็กน้อย เพียงแต่สีหน้าของเขาแปลกพิลึกจ้องมองท่านปู่ถังแวบหนึ่ง
สุดท้ายก็อดพูดไม่ได้“ตาเฒ่าถังนี่โชคดีมาตลอดชีวิตเลย เด็กคนนี้เก่งกาจมาก！มีความสามารถมาก！เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน เรื่องดีๆอย่างนี้ทำไมถึงได้เกิดขึ้นแต่เขานะ”
เวลานี้ท่านปู่หลี่เอ่ยด้วยความรู้สึกที่เรียกว่าอิจฉาริษยาและชิงชัง
ตอนแรกคิดว่าตระกูลถังรับมาเป็นลูกบุญธรรมเสียอีก ได้ยินคำพูดของท่านปู่หลี่กับท่านย่าหลี่ก็ไม่มีใครสงสัยอีกต่อไป
“นายว่าพี่มีโอกาสสูงไหม？”สายตาคุณชายห้าฉิงจับจ้องอยู่แต่เวินลั่วฉิงตลอดเวลา อดถามขึ้นมาไม่ได้
“ผมรู้สึกว่าเดิมทีมีโอกาสสูงอยู่ แต่เมื่อกี้พี่ดันโทรหาพี่สามซะอย่างนั้น ดังนั้น……”เสี่ยวชีจงใจพูดแล้วหยุดกลางคัน เดิมทีเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพียงแค่เห็นพี่ห้าโทรหาพี่สาม จึงคิดความเป็นไปได้นี้ขึ้นมากะทันหัน
หากเป็นเช่นนี้จริงๆ พี่ห้าก็ไม่มีโอกาสแม้แต่นิดเดียว อย่าว่าแต่พี่ห้าเลย ผู้ชายคนอื่นที่อยู่ในงานก็ไม่มีโอกาสเช่นกัน
หากพี่สามของเขามาจริงๆ คนพวกนี้ยังมีสิทธิ์อะไรอีก？
ใครจะกล้าแย่งกับพี่สามของเขาได้？
“ทำไม？พี่สามบอกว่าไม่อยากได้ อีกทั้งวางสายของพี่ทิ้งด้วย？”คุณชายห้าฉิงหยุดชะงัก ดวงตาทั้งคู่กะพริบถี่ๆหลายครั้ง
“พี่สามไม่อยากมาจริงๆ เขาจะถามพี่ว่าอยู่ไหนไหม？”เสี่ยวชีทำตาขาวใส่คุณชายห้าฉิง
คุณชายห้าฉิงตัวแข็งทื่อพร้อมกับเบิกตากลมโต“แต่ว่า พี่สามตามหาเวินลั่วฉิงอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เหรอ？พี่สามอยากแต่งงานกับเวินลั่วฉิงอีกครั้งไม่ใช่เหรอ”
ครั้งนี้เสี่ยวชีชักสีหน้าใส่เขา ขี้เกียจตอบเขาแล้ว
ท่านปู่ถังแนะนำจบ ท่านย่าถังจับมือเวินลั่วฉิงไปกล่าวทักทายกับแขกทุกคน
ชายหนุ่มที่มาร่วมงาน ตอนแรกคิดว่าคุณหนูบ้านตระกูลถังขี้ริ้วขี้เหร่ ยังรู้สึกไม่ค่อยเต็มใจอยู่นิดๆ
ตอนนี้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของคุณหนูตระกูลถัง ทุกคนต่างกระตือรือร้นขึ้นมา อยากเบียดเข้าไปใกล้คุณหนูตระกูลถังมากๆ
เดิมทีมีคนคิดว่าตระกูลถังรับลูกสาวบุญธรรมเข้าบ้าน เมื่อได้ฟังคำพูดของท่านปู่ถัง ทุกคนต่างเข้าใจสถานะของคุณหนูถังในบ้านตระกูลถังแห่นนี้เป็นอย่างดี
ดังนั้นหนุ่มโสดทั้งหลายแหลกต่างอยากสู่ขอคุณหนูถังกันอย่างบ้าคลั่ง
“นายหมายความว่าพี่สามจะมาที่นี่？”คุณชายห้าฉิงขมวดคิ้ว ครุ่นคิดดูแล้วก็มองหน้าเสี่ยวชีอีกครั้ง
“พูดจาไร้สาระ？พี่ห้า ถึงตอนนี้พี่ยังไม่เข้าใจว่าเรื่องมันเป็นยังไงอีกเหรอ？”เสี่ยวชีมองหน้าคุณชายห้าฉิง ด้วยท่าทางเบะปาก
“พี่เป็นผู้บัญชาการสถานีตำรวจได้ยังไง？”
เสี่ยวชีผู้แสนจะน่ารักอดส่ายหัวไม่ได้ เรื่องนี้ยังกระจ่างไม่เพียงพอหรอกเหรอ？
