บทที่ 538 สถานะของเธอถูกเปิดเผย ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอแล้ว (16)
ท่านคิดว่าเย่ซือเฉินจะเป็นคนฉลาดทันคน ไม่คิดว่าจะเลอะเลือนเพียงนี้ เชอะ เขาเพิ่งหย่ากับฉิงฉิงของท่านไม่นาน ก็ไปคลอเคลียกับผู้หญิงอื่นเสียแล้ว ผู้ชายอย่างนี้ไม่ใช่ของดีวิเศษแต่อย่างใด
“ตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อนุญาตให้ตระกูลเย่ทุกคนเข้ามาในบ้านตระกูลถังของพวกเรา”ดวงตาที่ลุ่มลึกอย่างเย็นยะเยือกของท่านย่าถัง บัดนี้มีความโกรธเคืองหลายส่วน ฟังคล้ายกับเน้นย้ำคำพูดก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้เป็นคำพูดที่หนักหน่วงอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนหน้านี้ท่านย่าถังเพียงแค่โกรธคุณปู่เย่เท่านั้น แต่ตอนนี้โกรธเย่ซือเฉินด้วยแล้ว ซึ่งคำพูดในตอนนี้ก็พูดเจาะจงไปถึงเย่ซือเฉินนั่นเอง
ดวงตาเวินลั่วฉิงกะพริบเร็วๆ เมื่อวานเย่ซือเฉินอยู่กับกู่หยิงหยิงทั้งวัน？
ดวงตาเวินลั่วฉิงมองไปยังกู่หยิงหยิงอีกครั้ง ตอนนี้กู่หยิงหยิงแต่งหน้าจัดเล็กน้อย ดูแล้วถือว่าประณีตใช้ได้
“คุณพูดเหลวไหล ฉันไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้”เซี่ยเถียนเถียนได้ยินว่าคุณชายสามเย่อยู่กับกู่หยิงหยิงทั้งวัน สีหน้าพลันเปลี่ยนไปมาหลายหน หล่อนไม่เชื่อ มันเป็นไปไม่ได้
สีหน้าโจว๋อันหนานที่อยู่ไม่ไกลนักเปลี่ยนไปด้วย กู่หยิงหยิงได้แต่งเข้าบ้านตระกูลเย่จริงๆเหรอ？เย่ซือเฉินเห็นด้วยไหม？
“มันเป็นเรื่องจริง ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไปถามคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ได้เลย และไปถามคุณชายสามเย่ได้เช่นกัน”กู่หลิงหลิงเห็นท่าทางของเซี่ยเถียนเถียนยิ่งได้ใจขึ้นมาใหญ่
ดวงตาเวินลั่วฉิงมองไปยังกู่หลิงหลิง ซึ่งกู่หลิงหลิงพูดอย่างมั่นใจมาก ดูเหมือนจะเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนพูดปดเลยสักนิดเดียว
กู่หยิงหยิงยืนนิ่งมาโดยตลอด ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ยอมรับและไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด เพียงแต่กู่หยิงหยิงก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา เวินลั่วฉิงจึงมองอารมณ์ของเธอไม่ออก
“เป็นไปได้ยังไง？เป็นไปได้ยังไง？คุณชายสามเย่จะชอบกู่หยิงหยิงได้ยังไง？”เซี่ยเถียนเถียนส่ายหัว เห็นได้ชัดว่ายากจะเชื่อ หรืออาจบอกว่ายากจะยอมรับได้
“ทำไมคุณชายสามเย่จะไม่ชอบพี่สามฉัน คืนนี้คุณชายสามเย่ยังนัดพี่สาวฉันไปกินข้าวแล้วดูหนังด้วยกัน”กู่หลิงหลิงยิ้มอย่างลำพองใจ เผยความโอ้อวดต่อไป
บัดนี้ดวงตาเวินลั่วฉิงจ้องมองกู่หลิงหลิง เธอดูออกว่ากู่หลิงหลิงพูดอย่างโอ้อวด แต่ไม่ได้พูดปดแต่อย่างใด
เวินลั่วฉิงเม้มปาก ตอนนี้คุณชายสามเย่รู้จักจีบผู้หญิงแล้ว มอบดอกไม้ ทานข้าว ดูหนัง ครบเครื่องทุกอย่าง
ราวกับว่าเธอเป็นคนสอนคุณชายสามเย่เองกับมือ
“หลิงหลิง ไปสูดอากาศบริสุทธิ์เป็นเพื่อนฉันหน่อย”กู่หยิงหยิงพูดขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งยังคงเป็นน้ำเสียงที่อ่อนโยน ไม่ช้าไม่เร็ว ดูแล้วมีความเป็นกุลสตรีผู้อ่อนนุ่มคนหนึ่ง
ระหว่างที่พูด หล่อนดึงตัวกู่หลิงหลิงไปที่ระเบียง ทิ้งเซี่ยเถียนเถียนให้อึ้งอยู่คนเดียว
“ดูท่าตระกูลเย่กับตระกูลกู่จะแต่งงานสานสัมพันธ์กันแล้ว จะต้องมีเรื่องมงคลเกิดขึ้นในไม่ช้านี้แน่ๆ”มีคนเริ่มซุบซิบเสียงเบาขึ้นมา
“ปกติคุณชายสามเย่ไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง หลายปีมานี้ ไม่เคยมีผู้หญิงอยู่ข้างกายคุณชายสามเย่เลยสักคน แต่ตอนนี้กลับชอบกู่หยิงหยิงขึ้นมา？”
“กู่หยิงหยิงเป็นคนมีชื่อเสียงด้านความสุภาพอ่อนโยน ใจกว้างมีเมตตา เป็นตัวเลือกของการเป็นศรีภรรยาที่ไม่เลวเลย และอีกอย่างอำนาจของตระกูลกู่ก็ไม่อาจดูหมิ่นได้ คุณชายสามเย่เลือกกู่หยิงหยิงก็สมเหตุสมผลดี”
“ใช่ ฐานะอย่างคุณชายสามเย่ ผู้หญิงธรรมดาไม่คู่ควรหรอก มีเพียงกู่หยิงหยิงถือว่ายังเหมาะสมอยู่”
เห็นได้ชัดว่าชื่อเสียงของกู่หยิงหยิงนั้นไม่เลวเลยทีเดียว ดังนั้นเรื่องการแต่งงานสานสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเย่กับตระกูลกู่นั้นเป็นที่เห็นด้วยของทุกคน
“เพียงแต่ ถ้าเป็นเช่นนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่จะต้องเสียใจ”มีคนหัวเราะคล้ายกึ่งจริงกึ่งเท็จพลันเอ่ยว่า“ผู้หญิงเมืองAคนไหนไม่อยากแต่งงานกับคุณชายสามเย่กันล่ะ？”
“ใช่ คืนนี้ทำไมไม่เห็นหน้าคุณชายสามเย่มาเลย？”
ในที่สุดมีคนสังเกตเห็นถึงปัญหานี้ขึ้นมาได้“ตามหลักแล้วด้วยความสัมพันธ์ที่ดีงามของตระกูลเย่กับตระกูลถัง คุณชายเย่น่าจะมานะ？”
“อย่างนี้คุณก็ไม่เข้าใจเสียแล้ว ตอนนี้คุณชายสามเย่มีคนในใจ ต้องเลี่ยงปากเสียงเพื่อให้คุณกู่สบายใจสิ วันนี้ตระกูลถังจัดงานเลี้ยงเพื่อคัดเลือกคู่ครองของคุณหนูตระกูลถัง เพราะคุณชายสามเย่นั้นโดดเด่นและยอดเยี่ยมมาก หากคืนนี้เขามาร่วมงาน ถ้าคุณหนูตระกูลถังตกหลุมรักขึ้นมา พอถึงเวลานั้นจะทำอย่างไรดีล่ะ？”มีคนเริ่มวิเคราะห์จัดแจงอย่างสมเหตุสมผล
เวินลั่วฉิงเม้มปาก กลัวเธอจะตกหลุมรัก？แล้วไม่ดีตรงไหน？
“ดูคุณพูดสิ หากนำคุณกู่กับคุณหนูตระกูลถังมาเปรียบเทียบ มันต่างกันมากเลยนะ？”มีคนโต้แย้งขึ้นมาทันที
“อันนี้คุณไม่รู้อะไรแล้ว คุณหนูถังกับคุณกู่ไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน พอดีคุณชายสามเย่ชอบผู้หญิงแบบคุณกู่ แสดงว่าคุณชายสามเย่รักเดียวใจเดียวคุณกู่นะ”
“มิน่าล่ะ ผมเชิญน้องสามมา น้องสามบอกว่าไม่อยากมา ใครอยากมาก็มาเอง ที่แท้น้องสามมีคนในใจแล้วนี่เอง”ไม่รู้ว่าถังหลินมายืนข้างเวินลั่วฉิงตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาทำท่าทางส่ายหัวด้วยความเสียดาย
เสี่ยวชีรีบเงยหน้ามองถังหลินแวบหนึ่ง มุมปากกระตุก พี่ใหญ่คิดจะก่อเรื่องอะไรก้น？
พี่ใหญ่กลายเป็นคนใจดำอำมหิตตั้งแต่เมื่อไหร่
ได้ยินคำพูดของถังหลิน หนังตาของเวินลั่วฉิงก็เต้นขึ้นมา คนนี้ไม่กลัวว่าโลกจะวุ่นวายกันไปใหญ่หรือไง？
เวลานี้ท่านย่าถังกำลังโกรธเรื่องนี้อยู่พอดี
“ใครอยากให้เขามากัน สั่งการลงไป วันหลังหากมีคนบ้านตระกูลเย่มาให้ปิดประตูทันที โดยเฉพาะเย่ซือเฉิน”เป็นดังคาดวินาทีต่อมา ท่านย่าถังเสริมขึ้นมาหนึ่งประโยคด้วยความหงุดหงิด
เวินลั่วฉิงเกือบสำลักน้ำลายของตนเมื่อได้ยินคำพูดของท่านย่าถัง หากเย่ซือเฉินมาก็ให้ปิดประตูเลย？ทำไมเรื่องนี้รุนแรงถึงเพียงนี้ไปได้
แต่ฟังจากความหมายของถังหลิน เห็นได้ชัดว่าคืนนี้เย่ซือเฉินไม่มาอย่างแน่นอน
อันที่จริงเขามาหรือไม่ก็ไม่สำคัญ？เขาไม่อยากมา เหมือนใครอยากให้เขามาอย่างนั้นแหละ
เขามีใจให้คุณกู่ รักเดียวใจเดียว คิดอยากจะเลี่ยงปากเสียงก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับเธอเลยสักนิด
พวกเขาหย่าร้างกันแล้ว เรื่องของเขาไม่เกี่ยวข้องกับเธออีกต่อไป
เสี่ยวชีได้ยินคำพูดของท่านย่าถังก็ต้องตกตะลึง บัดนี้ท่านย่าถังออกคำสั่งเช่นนี้ เดี๋ยวพี่สามมาแล้วจะทำยังไงดีล่ะ？
ถูกปิดประตูให้อยู่ด้านนอกหรือเปล่า？
พ่อบ้านได้ยินคำสั่งของท่านย่าถังก็ตกตะลึง มีความลังเลไปชั่วครู่ พอดีกับท่านปู่ถังเดินเข้ามา พ่อบ้านมองท่านปู่ถังเชิงถามความคิดเห็น
“อืม ทำตามคำสั่งของคุณนายเถอะ”ท่านปู่ถังมักเชื่อฟังคำพูดของท่านย่าถังเสมอมา
แต่ยังดีตอนนี้ท่านย่าถังยืนอยู่ในมุมที่ห่างออกจากผู้คน ดังนั้นคนอื่นจึงไม่ได้ยินคำพูดของพวกเขา
พ่อบ้านเห็นท่านปู่ถังคล้อยตาม จึงรับคำสั่งไปดำเนินการทันที
โจว๋อันหนานเดินเข้ามาหาเซี่ยเถียนเถียน พูดกับหล่อนเสียงเบาๆอะไรบางอย่าง เซี่ยเถียนเถียนจึงได้สงบสติอารมณ์ลง
“คุณท่าน คุณนาย คุณชายสามเย่มาครับ”เพียงแต่พ่อบ้านเพิ่งจะออกไปไม่นานก็รีบวิ่งกลับเข้ามาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าใบหน้าฉายความแปลกประหลาดอยู่หลายส่วน
