ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 56 รับรองว่าเธอหนีไม่พ้นแน่

ตอนที่ 56 รับรองว่าเธอหนีไม่พ้นแน่

เย่ซือเฉินไม่ได้ดูสถานที่จอดรถตามใจชอบ และลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว

ภายในห้องสอบปากคำ ทุกอย่างยังดำเนินต่อไป

เวินลั่วฉิงถามคำถามที่ดูเหมือนกับไร้ประโยชน์ แต่ว่าทุกคำถามของเธอมีจุดประสงค์ของเธอ เพียงแต่คนอื่นไม่เข้าใจ แน่นอนว่ามู่เส้าป๋ายก็ไม่เข้าใจ

จริงอยู่ ที่มู่เส้าป๋ายอำพรางอย่างดีมาก แต่กลับหลบไม่พ้นสายตาของเธอ แม้แต่ความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เธอก็สามารถจับกุมได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว——นี่ก็คืองานของเธอ

คำถามนี้ของเธอ เพียงเพื่อยืนยันผลการลองเชิงของเธอเมื่อสักครู่

เธอดูออก หลังจากที่เธอถามคำถามนี้ออกมา ใบหน้าของมู่เส้าป๋ายมีความอับอายความอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด ความอับอายและความอึดอันนั้นคนอื่นสามารถมองออก แต่ว่าเวินลั่วฉิงกลับเห็นถึงความเจ็บปวดในสายตาที่ลึกลงไปของเขาในขณะที่ได้ยินคำพูดของเธอ และยังมีอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจคลุมเคลืออยู่เล็กน้อย ร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะแข็งทื่อเล็กน้อย

เวินลั่วฉิงชัดเจนมากว่า การตอบสนองแบบไหนคือความจริง การตอบสนองแบบไหนคือตั้งใจทำให้คนอื่นเห็น

“ได้ยินมาว่าธุรกิจของคุณมู่ใหญ่มาก อายุเท่านี้ยังไม่แต่งงาน ไม่มีบุตร ไม่กลัวว่าธุรกิจใหญ่ขนาดนี้จะไม่มีคนสืบทอดเหรอคะ……”

น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ราวกับนินทา และราวกับมีความอิจฉาอยู่นิดหน่อย

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเธอ ร่างกายของมู่เส้าป๋ายที่แข็งทื่อเล็กน้อยนั้นค่อย ๆ ผ่อนคลายลง

ภายนอกห้องสอบปากคำ ใบหน้าของคุณชายห้าฉิงเคร่งขรึมอยู่ตลอด ตกลงว่าผู้หญิงคนนี้จะทำอะไรกันแน่?

เวินลั่วฉิงยิ้มมุมปาก จู่ ๆ ก็พูดเสิรมอีกประโยคนึง “แต่ว่า เรื่องพวกนี้สามารถให้พี่น้องของคุณมู่มาสืบทอดต่อได้”

“ผมไม่มีพี่น้อง” มู่เส้าป๋ายรีบตอบกลับอย่างเร็ว ช่วงเวลานั้นเวินลั่วฉิงพบว่า ร่างกายของเขาที่เพิ่งผ่อนคลายเมื่อสักครู่กลับแข็งทื่ออีกครั้ง อารมณ์ความรู้สึกที่สะท้อนผ่านดวงตาของเขานั้นดูซับซ้อน แต่ว่าเวินลั่วฉิงจับกุมสิ่งที่เธอต้องการได้แล้ว

“พอแล้ว” ภายในห้องสอบปากคำ เวินลั่วฉิงจู่ ๆ ก็จบการสอบปากคำ

เรื่องที่เธออยากจะรู้มีคำตอบแล้ว

พอแล้ว? คุณชายห้าฉิงตะลึง นี่เพิ่งตรงไหนถึงตรงไหนอยู่เลย? พูดคุยเรื่องไร้สาระกี่ประโยคก็พอแล้วเหรอ? จบแบบนี้เหรอ?

โชคดีที่ ตั้งแต่หลังจากที่เธอเข้าห้องสอบปากคำไปเขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย เพียงแต่ว่าพี่สามบอกไว้แล้วว่าต้องรั้งเธอเอาไว้

“คุณถังครับ รบกวนคุณเลยจริง ๆ เกี่ยวกับคดีนี้ ผมอยากฟังความคิดของคุณถัง ผมขอเชิญคุณถังไปที่ห้องทำงานได้ไหมครับ” เมื่อเวินลั่วฉิงออกมาจากห้องสอบสวน คุณชายห้าฉิงก็เดินมาตรงหน้าเธอ

เวินลั่วฉิงฟังคำพูดที่ประจบประแจงของเขาออก ท่าทางจริงใจมาก อารมณ์ที่แสดงออกมาก็ดีมาก ไม่พูดไม่ได้ว่าเขากลบเกลื่อนได้ดีมาก คนปกติไม่มีทางดูความแตกต่างใด ๆ ออกแน่ แต่ว่าเวินลั่วฉิงสามารฟังออก น้ำเสียงของเขาเลื่อนลอย ไม่ใช่คำพูดที่ออกมาจากใจจริง ๆ

แถมยัง ชัดเจนมากว่าเขาไม่เข้าใจเจตนาคำถามที่เธอถามในห้องสอบปากคำเมื่อสักครู่ ดังนั้นแน่นอนว่าก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเธอ ในเมื่อไม่เห็นด้วยกับวิธีการของเธอ เขาจะอยากคุยกับเธอได้ยังไง?

จากความเย่อหยิ่งของเขา ในเมื่อไม่เข้าใจเจตนาจริง ๆ ของเธอ ในใจของเขาตอนนี้น่าจะดูถูกเธอมากใช่ไหม?

“ไม่จำเป็นค่ะ ฉันยังมีธุระอีก” เวินลั่วฉิงหมุนตัวตั้งใจจะออกไป

“คุณถัง……” เพียงแต่ คุณชายห้าฉิงกลับรีบขวางเธอไว้ข้างหน้า อาจเป็นเพราะว่ารู้สึกถึงท่าที่ของตัวเองที่ดูฉุกละหุกนิดหน่อย เขารีบอธิบายในทันที “เกี่ยวกับเรื่องคดี คุณถังไม่มีอะไรจะพูดเหรอครับ?” “นี่หัวหน้าสำนักงานฉิงอยากจะขัดขวางฉัน” สายตาของเวินลั่วฉิงดูเคร่งขรึม คำพูดในตอนนี้คือน้ำเสียงที่แน่นอน ไม่ใช่ประโยคคำถาม เธอไม่อยากจะพูดไร้สาระกับเขา ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่อยากทำให้มีปัญหายุ่งยาก

“นี่ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะคดีหรอกเหรอ?” ในใจของคุณชายห้าฉิงตกตะลึงนิดหน่อย แต่ใบหน้ากลับไม่แสดงสีหน้าอะไร

“หรือว่าฉันควรจะถามหัวหน้าสำนักงานฉิงว่านี่คุณกำลังช่วยใครขัดขวางฉันไว้?” ในใจของเวินลั่วฉิงยิ้มเย็นเยือก ครั้งนี้เป็นรุ่นพี่ที่ใช้ให้เธอมา คุณชายห้าฉิงน่าจะรู้เรื่องของเธอมาบ้างไม่มากก็น้อย ไม่สนใจว่าจะเป็นเรื่องอะไร คุณชายห้าฉิงก็ไม่ควรจะขัดขวางเธอแบบนี้ ดังนั้นที่ขวางเธอเอาไว้เกรงว่าจะเป็นคนอื่น

คุณชายห้าฉิงนิ่งอึ้งไป เธอสามารถดูออกว่าเขาจะขัดขวางเธอก็ไม่แปลกประหลาดอะไร แต่ว่าทำไมเธอถึงมั่นใจขนาดนั้นว่าเขากำลังช่วยคนอื่นขวางเธอ?

“คุณถังพูดเป็นเล่นแล้ว ผมเพียงแค่อยากจะคุยกับคุณถังเกี่ยวกับเรื่องคดีนี้ก็เท่านั้นครับ” คุณชายห้าฉิงจู่ ๆ ก็รู้สึกใจฝ่อนิดหน่อย

“ท่าทางแบบนี้ของหัวหน้าสำนักงานฉิง คดีนี้ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีกแล้วค่ะ วันนี้เป็นวันที่สิบเก้าแล้วที่มู่เส้าป๋ายถูกกักตัว พรุ่งนี้หัวหน้าสำนักงานฉิงก็ควรจะปล่อยคนไป” เวินลั่วฉิงยกมุมปากขึ้น เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงนั้นหนักแน่นยิ่งกว่าเดิม

“คุณค้นพบอะไรครับ?” เมื่อพูดถึงคดี ท่าทางของคุณชายห้าฉิงเปลี่ยนไปนิดหน่อย สีหน้าจริงจังขึ้นเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ทั้งหมดในห้องสอบปากคำเมื่อสักครู่ เขาไม่เชื่อจริง ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้จะพบเจออะไร? แต่ว่า เมื่อสักครู่แค่แวบเดียวก็ดูความคิดของเขาออก และก็ไม่ยอมให้เขาดูถก

ฟังคำพูดของเธอคือเธอค้นพบอะไรบางอย่างแล้ว?

“มู่เส้าป๋ายรสนิยมทางเพศปกติ เขาไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่ชอบผู้หญิง” เวินลั่วฉิงรู้ว่า เวลานี้ถ้าหากไม่สามารถทำให้คุณชายห้าฉิงเชื่อถือได้ เธอก็ออกไปไม่ได้

“เป็นไปไม่ได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ผมให้คนไปตรวจสอบตั้งนานแบ้ว ไม่สามารถผิดพลาดได้” คุณชายห้าฉิงปฏิเสธโดยตรง

“เรื่องแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ หัวหน้าสำนักงานฉิงสามารถตรวจสอบได้ด้วยวิธีที่ตรงไปตรงมา รวดเร็ว และก็จริงที่สุด” ถึงแม้ว่าวิธีนั้นจะไร้เหตุผลนิดหน่อย แต่ก็ใช้ประโยชน์ได้จริง

คุณชายห้าฉิงเข้าใจอย่างรวดเร็วถึงสิ่งที่เธอพูดว่าใช้วิธีตรวจสอบที่ตรงไปตรงมาคืออะไร เขาเม้มปากนิดหน่อย ไม่ได้พูดอะไรอีก ถ้าหากว่ามู่เส้าป๋ายตั้งใจจะปิดบัง ตั้งใจปล่อยข่าวปลอมออกมา ที่พวกเขาตรวจสอบก็อาจจะเป็นเรื่องปลอม แต่ว่าเธอพูดถึงวิธีที่ตรวจสอบออกมารับรองว่าไม่ใช่ของปลอมแน่นอน

สีหน้าของเธอในตอนนี้เฉยชา แต่ว่าคุณชายห้าฉิงก็เชื่อคำพูดของเธอโดยจิดสำนึก

“มู่เส้าป๋ายไม่ลังเลที่จะใช้เรื่องนี้สร้างความเข้าใจผิดให้กับทุกคน ถ้าอย่างงั้นความลับที่เขาอยากจะอำพรางไม่ธรรมดาแน่นอน” คุณชายห้าฉิงเป็นคนฉลาด แค่ครู่เดียวก็สามารถจับความสำคัญได้ นี่ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญ

เวินลั่วฉิงยิ้มเบา ๆ

“คุณถังรู้ไหมครับว่าเขาต้องการอำพรางอะไร?” มองเห็นสายตาของเธอ ดวงตาของคุณชายห้าฉิงก็แวววาวขึ้นเล็กน้อย หรือว่าเธอพบอะไรแล้วจริง ๆ?

จริงอยู่ ที่เมื่อกี้ในห้องสอบปากคำ เขามองไม่ออกว่าเธอมีความสามารถอะไร แต่ว่ามีเรื่องนึงที่เขาไม่สามารถเพิกเฉยได้ เธอคือคนที่พี่ใหญ่หามา คนที่พี่ใหญ่หามาเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคนไร้ความสามารถ

“เดิมที่ฉันวางแผนว่าหลังจากกลับไปจะส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้หัวหน้าสำนักงานฉิง แต่ว่าตอนนี้ดูท่าแล้ว หัวหน้าสำนักงานฉิงกลับไม่มีความจริงใจอะไร” เวินลั่วฉิงกระตุกมุมปาก แล้วชี้ไปที่ตำรวจสองสามคนที่ยืนอยู่ที่ทางเดิน นี่คือวางแผนว่าจะบังคับให้เธออยู่ต่อ? มีเหรอคุณชายห้าฉิงจะฟังความหมายของเธอไม่รู้เรื่อง เขาคือตำรวจของประชาชน คดีนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตคนไม่น้อย เขากลัวจริง ๆ ว่าจะหากปล่อยมู่เส้าป๋ายไปแล้ว จะมีคนถูกทำร้ายอีก

เมื่อเทียบกับชีวิตผู้บริสุทธิ์เหล่านั้น เขาไม่มีทางเลือกที่จะเอาคำสั่งของพี่สามไว้ที่หลัง

“คุณถังเชิญครับ……” คุณชายห้าฉิงไม่ได้ขวางเธอไว้อีกต่อไป

เวินลั่วฉิงเดินเข้าไปในลิฟท์ ช่วงเวลาที่ลิฟท์ปิด เวินลั่วฉิงมองไปทางคุณชายห้าฉิง ใบหน้าเผยออกถึงรอยยิ้มที่ทำให้คนหลงใหล คุณชายห้าฉิงมองอย่างขนลุก

“พี่สาม พี่ถึงแล้วยัง? อืม เธอลงไปชั้นล่างแล้ว” แต่ว่า ตอนที่ลิฟท์ปิด คุณชายห้าฉิงโทรศัพท์หาเย่ซือเฉินทันที เมื่อได้ยินว่าเย่ซือเฉินเดินเข้าห้องโถงพอดี เขาถึงโล่งใจ

เขาไม่ขวางไว้ แต่พี่สามได้มาถึงแล้ว พี่สามสามารถขัดขวางเองได้!

สำนักงานตำรวจไม่มีห้องใต้ดิน ตอนนี้เธอสามารถลงไปได้แค่ชั้นหนึ่ง และตอนนี้พี่สามก็ได้มาถึงห้องโถงชั้นหนึ่งแล้ว สำนักงานตำรวจมีทางออกเพียงทางเดียว พี่สามเพียงแค่รออยู่ที่ชั้นหนึ่งก็สามารถจับเธอได้แน่นอน

ด้วยความสามารถของพี่สาม ถ้าอยากจะจับคน รับรองว่าไม่มีใครสามารถหลบหนีไปได้

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset