ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 573 คุณชายสามเย่โกรธจนสะเทือนฟ้าดิน (5)

บทที่ 573 คุณชายสามเย่โกรธจนสะเทือนฟ้าดิน (5)

โจ๋วอันหนานที่เขารู้จักเป็นคนโอหังทะนงตน แต่ท่าทีของหล่อนในขณะนี้ สำหรับหล่อนแล้วถือว่าเป็นเรื่องปรกติ

เพียงแต่เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลอย่างไรไม่รู้

“ฉันเป็นคนทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิด ฉันจะหาวิธีแก้ไขเอง ฉันวางสายแล้วนะคะ”โจ๋วอันหนานพูดจบก็วางสาย น้ำเสียงเรียบเฉยไม่ได้คุยอย่างสนิทสนมเฉกเช่นตอนคุยปกติกับเขา

หลังจากที่โจ๋วอันหนานวางสาย ใบหน้าพลันซีดเผือด ซีดจนไม่เห็นสีเลือด หล่อนคาดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะปฏิบัติต่อหล่อนเช่นนี้?

หล่อนคิดว่า คำพูดของหล่อน อย่างน้อยๆเขาก็ยังคงเชื่อใจกันอยู่ หล่อนคิดว่าอย่างน้อยหล่อนก็ยังพอมีความสำคัญในใจเขาอยู่บ้างหล่อนคิดว่าไม่ว่าหล่อนจะทำอะไร เขาก็จะไม่สงสัยในตัวหล่อน

ทั้งท่าทางและน้ำเสียงของเขาเมื่อสักครู่ มันทำให้หล่อนเจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่ง

เขาจะรู้บ้างไหม?สิ่งที่หล่อนทำทุกอย่างก็หวังดีกับเขาทั้งสิ้น หล่อนไม่อยากเห็นเขานับวันก็ยิ่งฝังลึกลงไปทุกที หล่อนไม่อยากให้เขาต้องระทมทุกข์ภายหลัง

เพื่อเขาแล้ว หล่อนสามารถเหยียดย่างบรรทัดฐานของตนทิ้ง

แต่เขาล่ะกลับปฏิบัติต่อหล่อนอย่างไร้ความรู้สึก?

“ผอ.เป็นอะไรคะ?ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”ผู้ช่วยเห็นสีหน้าของหล่อนก็รู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย

“ด้านนอกโรงพยาบาลมีนักข่าวไหม?”โจ๋วอันหนานแอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์เสร็จแล้ว หล่อนก็รู้ว่าตอนนี้หล่อนจำเป็นต้องทำอะไรบ้าง

“มีค่ะ เมื่อกี้ยังมีนักข่าวสองคนบอกจะเข้ามา แต่ถูกบอดี้การ์ดรั้งเอาไว้ นักข่าวสมัยนี้ได้รับข้อมูลรวดเร็วมาก เพิ่งจะแพร่ข่าวคุณปู่เย่พักอยู่ในโรงพยาบาลของเราไม่นาน พวกนักข่าวก็รีบมากันเพียบเลย ขอว่าตามจริงเลยนะคะ บางครั้งนักข่าวสมัยนี้น่ากลัวจริงๆค่ะ”ผู้ช่วยพูดถึงนักข่าวพลันส่ายหัวไปมา

“คุณไปจัดเตรียมมา ฉันจะพบหน้านักข่าวพวกนั้น”โจ๋วอันหนานมองหน้าหล่อนแวบหนึ่ง ดวงตากะพริบเบาๆหนึ่งครั้ง แต่ใบหน้าไม่ได้เผยอารมณ์อะไรออกมามากนัก

“ผอ.จะพบหน้านักข่าว?”ผู้ช่วยหยุดชะงัก ดวงตาเบิกกว้างถึงขีดสุด“ผอ.จะทำอะไรคะ?”

โจ๋วอันหนานไม่ได้ตอบ เพียงแต่ดวงตาเคร่งขรึมเล็กน้อย

“ผอ.พบนักข่าวเวลานี้ เกรงว่าจะเกิดยุ่งยากที่ไม่จำเป็นขึ้นนะคะ เกรงว่าพวกเขา……”ผู้ช่วยเป็นคนมีน้ำใจและไม่คิดวางอุบายกับใคร ดังนั้นเมื่อดูออกมาว่าโจ๋วอันหนานอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่นัก หล่อนจึงเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค

“คุณไปจัดการได้เลย”โจ๋วอันหนานเงยหน้าขึ้นมองหล่อนแวบหนึ่ง ตัดบทพูดของหล่อนทิ้ง ซึ่งน้ำเสียงมีความเย็นชาหลายส่วน

“ค่ะ ดิฉันจะไปจัดเตรียมเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”ผู้ช่วยแอบถอนหายใจ ในเมื่อโจ๋วอันหนานมีความแน่วแน่เช่นนี้ หล่อนก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก

หลังจากผู้ช่วยลงไปถึง ด้านนอกมีนักข่าวที่ได้รับข่าวสารมาห้อมล้อมไว้ไม่น้อย เรื่องวิดีโอในตอนนี้เกิดความอึกทึกใหญ่โต มีความจับตามองเป็นจำนวนมาก เมื่อข่าวที่คุณปู่เย่แพร่ออกไป ทุกคนก็อยากรู้อาการปัจจุบันของคุณปู่อย่างบ้าคลั่ง

สำหรับผู้ที่เป็นนักข่าว จึงอยากได้รับข่าวสารที่แม่นยำเป็นคนแรก

ผู้ช่วยเห็นนักข่าวที่มากันอย่างหนาแน่น ตกใจจนแอบถอนหายใจอยู่เงียบๆ ไม่รู้ว่าผอ.จะพบนักข่าวทำไมกัน?นักข่าวมากมายเช่นนี

ไม่รู้ว่าจะควบคุมเหตุการณ์ได้หรือเปล่า?

หลังจากที่เย่ซือเฉินวางสาย ดวงตาที่กำลังหรี่ขึ้นมีอารมณ์สับสนเจือไว้หลายส่วน สายจากโจ๋วอันหนานทำให้เขารู้เรื่องราวคร่าวๆแล้ว ดังนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องต่อสายไปยังคฤหาสน์ตระกูลเย่อีก

เขาไม่อยากไปที่โรงพยาบาล เพราะเขารู้ดีว่า โจ๋วอันหนานไม่อาจเกลี้ยกล่อมได้ เขาก็ยิ่งทำไม่ได้เข้าไปอีก เพราะเขารู้จักนิสัยคุณปู่ดี

ตอนนี้เขาแค่อยากพบหน้าเวินลั่วฉิง วินาทีต่อมา เย่ซือเฉินรีบลุกขึ้นยืน เตรียมเดินไปทิศทางของทางออกห้องทำงานพร้อมกับโทรหาเวินลั่วฉิงไปด้วย

ขณะนี้เวินลั่วฉิงกำลังอยู่ที่บ้านตระกูลเวิน และนอนหลับอยู่ในห้อง เพราะหลายวันก่อนเธอมัวแต่ไขคดีจนไม่ได้พักผ่อนดีๆ เมื่อคืนก็อยู่คุยกับท่านย่าถังถึงเที่ยงคืน ดังนั้นเธอนอนลงไปชั่วครู่ก็หลับเสียแล้ว

“วุ่ย”ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น เวินลั่วฉิงก็นำมือถือมา น้ำเสียงยังคงมีความมึนงงและขี้เกียจในแบบฉบับของคนยังไม่ตื่นนอนอยู่หลายส่วน

“คุณกำลังนอนอยู่เหรอ?”เย่ซือเฉินได้ยินเสียงของเธอก็หยุดชะงัก ตอนนี้ด้านนอกวุ่นวายเสียขนาดนี้ เธอยังนอนอยู่เนี่ยนะ?!

เลขาหลิวที่เดินตามเย่ซือเฉินออกมาก็ได้ยินพอดี มุมปากพลางกระตุกแรงๆ เวลานี้คุณนายยังนอนอยู่ คุณนายช่างเก่งกาจจริงๆ!!

“อืม เมื่อคืนคุยกับคุณยายดึกเกิน ตอนนี้รู้สึกง่วงมาก”เวินลั่วฉิงไม่ได้ลุกขึ้น น้ำเสียงยังคงความขี้เกียจอยู่หลายส่วน และยังมีความออดอ้อนเจือไว้หลายส่วนอีกด้วย

เย่ซือเฉิน“……”

เธอช่างใจกว้างเสียใจ ถึงแม้เธอจะไม่รู้เรื่องวิดีโอถูกเผยแพร่ แต่เรื่องที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไปหาเธอ เธอไม่ได้เก็บมาใส่ใจเล็กสักนิดเดียวเหรอ?

เย่ซือเฉินอดยกมุมปากขึ้นมายิ้มไม่ได้ เขารู้ว่าเธอปรับอารมณ์ได้ดีมาก เดิมทียังเป็นห่วงเธออยู่เลย แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

“นอนพอหรือยัง?”เวลานี้ เย่ซือเฉินรู้สึกโล่งอก น้ำเสียงก็มีความอ่อนโยนเป็นพิเศษ

“ไม่ค่ะ ฉันจะนอนต่อ”เวินลั่วฉิงรู้สึกเหนื่อยล้าจริงๆ ขณะที่พูดจึงได้ค่อยๆหลับตาอีกครั้ง แต่น้ำเสียงฟังดูแล้วเบาลง ช้าลงไปเยอะมาก คล้ายกับจะนอนหลับแล้ว

“คุณอยู่ไหน?ผมไปอยู่เป็นเพื่อน”ได้ยินเสียงของเธอ มุมปากเย่ซือเฉินค่อยๆยกโค้งขึ้น

“ไม่ ฉันจะนอนคนเดียว ไม่ต้องการให้พวกคุณมาอยู่เป็นเพื่อน พวกคุณมาอยู่เป็นเพื่อน คนนี้บ้าง คนนั้นบ้าง ฉันก็ไม่ต้องนอนพอดี”เวินลั่วฉิงหยุดพูด จากนั้นก็เน้นย้ำอีกหนึ่งประโยค“โดยเฉพาะคุณ”

เวินลั่วฉิงยังคงหลับตาอยู่ ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในช่วงกึ่งนอนกึ่งหลับอยู่ ไม่เช่นนั้น เธอก็จะไม่พูดประโยคเช่นนี้ออกมา

เย่ซือเฉินเริ่มหายใจหนักอึ้ง รอยยิ้มในมุมปากเบ่งบานไม่ขาดสาย เวลานี้ยิ่งมีความผิดปกติเพิ่มขึ้นหลายส่วน

เขาฟังออกว่า ตอนนี้เธอไม่ได้ตื่นเต็มที่ เขายังรู้อีกว่า หากเธอตื่นเต็มที่แล้ว ไม่น่าจะพูดจาเช่นนี้

“เชื่อฟังสิ บอกผมว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”น้ำเสียงของคุณชายสามเย่มีความออดอ้อนอยู่หลายส่วน

“อยู่ที่บ้าน”เวินลั่วฉิงรู้สึกหนังตาจะหย่อนและหนักขึ้นเรื่อยๆ จึงตอบไปหนึ่งประโยคด้วยจิตใต้สำนึก

“บ้านไหน?”เย่ซือเฉินชะงัก เธอบอกว่าอยู่บ้าน แต่เป็นบ้านไหนกัน?บ้านตระกูลถัง?หรือบ้านตระกูลเวิน?

แต่เวินลั่วฉิงได้หลับไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ตอบคำถามของเขา ซึ่งมือถือของเธอก็ยังไม่ได้วางสาย เพียงแต่ลื่นไหลลงไปอยู่ด้านข้าง

เย่ซือเฉินไม่ได้ยินเธอตอบก็แอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ดูเหมือนเขาจะมีเสน่ห์ไม่เพียงพอ ผู้หญิงคนนี้คุยสายกับเขาอยู่ก็เผลอหลับไปเสียอย่างนั้น เห้อ ผู้หญิงไร้หัวใจ

ก่อนเธอจะหลับก็น่าจะบอกเขาให้รู้เรื่องก่อนไหม

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset