ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 578 หากเสือไม่แสดงบารมีเสียหน่อย คงคิดว่าเธอเป็นแมวซะแล้ว (1)

บทที่ 578 หากเสือไม่แสดงบารมีเสียหน่อย คงคิดว่าเธอเป็นแมวซะแล้ว (1)

“คุณคิดว่าเป็นฝีมือจากคนช่างสงสัยที่เดินผ่าน?หรือเป็นคนรู้จัก?”เย่ซือเฉินได้ยินคำวิเคราะห์ของเธอ ดวงตาทั้งคู่พลันหรี่ขึ้น

“คนรู้จัก”เวินลั่วฉิงตอบอย่างแน่ใจมาก

“เวลาที่วิดีโอถูกเผยแพร่คือ หลังจากฉันกับคุณปู่แยกกันครึ่งชั่วโมงกว่า หากเป็นมือบอลที่ช่างสงสัยทำ คงต้องแพร่ตั้งแต่แรกแล้ว

ซึ่งช่วงเวลาห่างกันครึ่งชั่วโมงนี้ลึกลับเล็กน้อย หากฉันคาดเดาไม่ผิด มือถือที่ลงวิดีโอนี้น่าจะเป็นเบอร์ใหม่ใช่ไหม?”เวินลั่วฉิงคาดการณ์ว่าครึ่งชั่วโมงนี้ คนนั้นน่าจะไปเตรียมการอะไรบางอย่าง

“อืม เป็นเบอร์ใหม่จริงๆ ผมให้คนไปตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววอะไร”เย่ซือเฉินพยักหน้าด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเล็กน้อย

เวินลั่วฉิงดูวิดีโอจบหนึ่งรอบก็เงยหน้าขึ้นมองเย่ซือเฉินแวบหนึ่ง จากนั้นพูดช้าๆว่า “คนนี้เป็นเพศหญิง อายุระหว่างยี่สิบปีถึงสามสิบปี และรู้จักคุณ พูดให้แม่นยำก็คือคนที่ชอบคุณ มีความริษยาสูง เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว”

คนนี้ตัดต่อวิดีโอเป็นอย่างนี้ แล้วมาลงโซเชียล เห็นได้ชัดว่าอยากให้ชาวเน็ตด่าเธอ

ในบรรดาที่เธอรู้จัก มีความเป็นไปได้ที่เวินจีหรวนหรวนจะทำเรื่องเช่นนี้ แต่ตอนที่เธอกลับจากโรงพยาบาลก็เห็นเวินหรวนหรวนอยู่บ้าน ดังนั้นจึงไม่ใช่เวินจีหรวนหรวนอย่างแน่นอน

ถ้าเช่นนั้นก็ต้องเป็นคนที่รู้จักเย่ซือเฉิน และมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นคนที่หลงใหลในตัวเย่ซือเฉิน

เวินลั่วฉิงวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำมาก

แต่สิ่งที่เวินลั่วฉิงไม่รู้ก็คือ เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นฝีมือของคนหนึ่งคนเท่านั้น เพราะเซี่ยเถียนเถียนเป็นคนกระทำ แต่โจ๋วอันหนานกลับเป็นผู้ออกอุบายเรื่องนี้

ดังนั้นสิ่งที่เวินลั่วฉิงจัดแจงออกมาได้นั้นรวมไปถึงสองคน

“คนที่ชอบผม?”หางคิ้วเย่ซือเฉินยกขึ้นเล็กน้อย“คุณแน่ใจนะ?”

“แน่ใจ ต้องเป็นภัยจากการที่คุณไปหว่านเส่ห์แน่ๆ”เวินลั่วฉิงเหล่ตามองเขาแวบหนึ่ง ผู้หญิงที่ชอบเขาสามารถล้อมเมืองAได้หนึ่งครั้ง อันนี้ยังคงแน่ใจอะไรอีก?

“ไม่ใช่ความผิดผมสักหน่อย”คุณชายสามเย่รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเล็กน้อย เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เรื่องที่เขาไม่สนใจ จะเกี่ยวข้องกับเขาได้อย่างไรกัน?จะถือเป็นความผิดเขาได้อย่างไร?เขาถูกใส่ร้ายชัดๆ!

เวินลั่วฉิงไม่ได้พูด เพียงแต่ใช้สายตาทั้งคู่จ้องมองเขาเท่านั้น

“ผมจะบอกการวิเคราะห์ของคุณให้เลขาหลิวทราบ แล้วให้เลขาหลิวไปตรวจสอบดู”เย่ซือเฉินสบตาเธอ แอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก

เย่ซือเฉินโทรหาเลขาหลิว เวินลั่วฉิงก็อ่านข้อแสดงความคิดเห็นด้านล่างวิดีโอ เมื่อเห็นข้อความด่าว่ายิ่งไม่น่าฟังขึ้นไปทุกที หางคิ้วของเธอก็ขมวดขึ้น

“คุณปู่เย่เข้าโรงบาลเหรอ ได้รับบาดเจ็บเหรอ?”เวินลั่วฉิงเห็นเย่ซือเฉินคุยโทรศัพท์เสร็จ จึงถามหนึ่งประโยค

“ไม่ใช่ วันนี้เขาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลของโจ๋วอันหนานพอดี แค่ตรวจพบอาการเล็กน้อย แต่จะนอนโรงพยาบาลให้ได้”ขณะที่เย่ซือเฉินพูดอยู่ สีหน้าก็ลุ่มลึกเล็กน้อย

เวินลั่วฉิงได้ยินชื่อโจ๋วอันหนาน ดวงตาก็กะพริบอย่างรวดเร็ว เธอจำได้ว่าตอนเธอคลอดลูกเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ตอนนั้นโจ๋วอันหนานเป็นคนช่วยเธอไว้

เวินลั่วฉิงมองหน้าเย่ซือเฉิน มุมปากยกขึ้นอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในขณะเดียวกัน เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น

เวินลั่วฉิงเห็นว่าถังหลินโทรมา จึงรีบรับสายโดยเร็ว

“ฉิงฉิง อยู่ไหน?”เมื่อรับสาย เสียงถังหลินก็ส่งมา ซึ่งมีความร้อนใจและเคร่งเครียดอยู่หลายส่วน

“ทำไมเหรอ?”เวินลั่วฉิงฟังน้ำเสียงที่ผิดปกติของเขาออก รู้สึกหนักหน่วงเล็กน้อย เพราะถังหลินไม่ค่อยมีน้ำเสียงเช่นนี้มากนัก!

“จู่ๆคุณย่าก็สลบไป น้องรีบมาดูเร็ว”ถังหลินไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแต่บอกให้เวินลั่วฉิงรีบกลับบ้านด่วน

“ค่ะ ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้”ถึงแม้ถังหลินไม่ได้พูดอะไร แต่เวินลั่วฉิงก็รู้ว่าท่านย่าถังดูวิดีโอนั้นแล้วกระทบกระเทือนจิตใจ จนสลบไป

แต่ถังหลินให้เธอกลับบ้าน แสดงว่าท่านย่าถังยังอยู่ที่บ้าน ซึ่งเท่ากับอาการไม่ค่อยรุนแรงมากนัก

แต่เวินลั่วฉิงไม่กล้าเสียเวลา เธอรีบลุกขึ้นเดินไปยังด้านนอก

“เกิดอะไรขึ้น?”เย่ซือเฉินเห็นท่าทางของเธอ จึงรีบลุกขึ้นตามอย่างว่องไว

“คุณยายเป็นลมแล้ว เกรงว่าจะเห็นวิดีโอนั้นแล้วถูกกระทบกระเทือนจิตใจ”เวินลั่วฉิงรีบอธิบายแล้วจะไปเปิดประตูห้องนอน

ได้ยินคำพูดของเธอ ดวงตาเย่ซือเฉินลุ่มลึกเล็กน้อย เขารู้ว่าหากท่านย่าถังเป็นอะไรขึ้นมา เรื่องระหว่างเขากับเวินลั่วฉิงก็ยิ่งมีอุปสรรคมากขึ้น

“ฉิงฉิง”เห็นเธอเปิดประตู เย่ซือเฉินรีบเรียกให้หยุด“จัดเสื้อผ้าก่อน”

เมื่อสักครู่เขาดึงซิปของเธอออก เธอรีบร้อน จึงลืมสิ่งนี้ไป เย่ซือเฉินช่วยเธอจัดแจงเสื้อผ้าอย่างเร็วไว จากนั้นก็จับมือของเธอไว้ “ผมส่งคุณไป”

ตอนนี้เธอใจร้อน และว้าวุ่นใจเช่นนี้ เขาเป็นห่วง

“หากคุณยายเห็นวิดีโอแล้วกระทบกระเทือนจิตใจจริงๆ คุณไปที่นั่น เกรงว่า……”เวินลั่วฉิงมองหน้าเขาด้วยความลังเลเล็กน้อย

“วางใจได้ ผมแค่ส่งคุณไป”เย่ซือเฉินเข้าใจความกังวลของเธอเป็นอย่างดี จึงมองเธออย่างยิ้มแย้มเบาๆ

ความหมายของเขาคือ แค่ส่งเธอไป แต่เขาไม่เข้าบ้าน

เวินลั่วฉิงหยุดชะงัก คุณชายสามเย่นั้นโอหังและหยิ่งผยองขนาดไหน แต่ตอนนี้ เพื่อเธอแล้วสามารถลำบากตัวเองได้ถึงเพียงนี้เชียว!!

ต้องบอกว่าการกระทำของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่นั้นไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย

บัดนี้ เย่ซือเฉินเปิดประตูห้องออก กุมมือเธอไว้ เตรียมจะเดินออกไป

ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงก็เขย่งเท้า ไปหอมแก้มเขาหนึ่งครั้ง

เย่ซือเฉินตัวแข็งค้าง รีบมองไปยังเธอด้วยความตกตะลึงอย่างรวดเร็ว อันที่จริง เขาได้ยินท่านย่าถังเป็นลม ในใจก็รู้สึกกลัวว่าจะเป็นสาเหตุให้เธอปฏิเสธเขาอีก

ฉะนั้น คำบางคำ เขาจึงไม่กล้าถาม ไม่กล้าเอ่ย

แต่ตอนนี้เธอหอมแก้มเขา?

เขารู้จักเธอมาตั้งนานขนาดนี้ เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เธอเป็นฝ่ายหอมแก้มเขาก่อน!

“ฉิงฉิง……”มุมปากคุณชายสามเย่ยกขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเจือความสั่นระริกเล็กน้อย เวลานี้อารมณ์เขาซับซ้อนมาก ไม่รู้ว่าควรบรรยายอย่างไรในช่วงขณะนี้

“เย่ซือเฉิน ฉันพบว่าฉันเหมือนจะรักคุณเข้านิดหน่อยแล้ว”เวินลั่วฉิงเห็นเขาอึ้ง มุมปากยกขึ้นมาพูด เธอพบว่าเวลานี้เย่ซือเฉินช่างน่ารักเสียจริงๆ

ได้ยินคำพูดของเธอ ร่างกายเย่ซือเฉินแข็งค้างอีกครั้ง กะพริบตารัวๆ นาทีต่อมา เขาโถมเข้ากอดเธอ จากนั้นก็ก้มหน้าจูบเธอแรงๆ

เวลานี้ จูบของเขาไม่เหมือนแต่ก่อน เพราะเป็นจูบที่แฝงความตื่นเต้นดีใจและเซอร์ไพรส์มากมาย

หลังจากจูบเสร็จ อารมณ์คุณชายสามเย่ยังไม่สงบ ใช่แล้ว คุณชายสามเย่ได้คืบจะเอาศอก เขาเข้าไปใกล้ข้างหูเธอ พลางพูดเสียงเบาว่า “นิดหน่อยเองเหรอ?”

“ฉันรู้สึกเหมือนจะมีนิดหน่อย”เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเขา มุมปากยกโค้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เวินลั่วฉิงนึกถึงอาการของท่านย่าถัง จึงอดเป็นห่วงไม่ได้ ขณะที่ตอบเธอก็รีบดันเย่ซือเฉินออก แล้วเดินออกไป

“เหมือนจะ?”หางคิ้วเย่ซือเฉินยกขึ้น คำพยางค์นี้ในใช้กับประโยคในตอนนี้ เขารู้สึกไม่ชอบเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเธอยังพูดว่านิดหน่อยอีกด้วย?

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset