ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 58 การหลบหนีล้มเหลว

ตอนที่ 58 การหลบหนีล้มเหลว

“พี่สาม เธอยังไม่ลงมาอีกเหรอ? เมื่อกี้ผมลงไปตรวจสอบที่ชั้นสองแล้ว ไม่เห็นเธอ” คุณชายห้าฉิงก็ออกมาจากลิฟท์ มองเห็นลิฟท์ที่เวินลั่วฉิงนั่งลงมาขณะนี้จอดอยู่ที่ชั้นหนึ่ง เมื่อกี้เขาเห็นลิฟท์ลงมาที่ชั้นหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่ได้หยุดอยู่ที่ชั้นสองแล้วก็ตามลงมาข้างล่างเลย

แต่ว่าเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้หญิงคนนั้นยังไม่ลงมา

ความโชคดีของเวินลั่วฉิงไม่เลว เมื่อสักครู่ตอนที่เธอออกจากลิฟท์ที่ชั้นสอง พอดีกับที่มีคนขึ้นลิฟท์ แล้วลงไปที่ชั้นหนึ่ง

เมื่อได้ยินคำพูดของคุณชายห้านฉิ เย่ซือเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร ดวงตาคู่นั้นยังคงมองอยู่ที่เวินลั่วฉิง

ต่างกับคุณชายห้าฉิง เย่ซือเฉินไม่ได้เห็นรูปร่างหน้าต่าของเวินลั่วฉิงก่อนหน้านี้ เขาเคยเห็นเพียงรูปแผ่นหลังของเธอ

แผ่นหลังในรูปภาพนั้นนอกจากความโอหังที่คุ้นเคยนั้น สิ่งที่เขาเห็นอย่างชัดเจนมีเพียงสีผมและสีของเสื้อผ้า

แต่ตอนนี้ สีผมของเวินลั่วฉิงเปลี่ยนไปแล้ว สีของเสื้อผ้าก็เปลี่ยนไป เสื้อผ้าไม่ใช่แค่สีที่ไม่เหมือนกัน แม้กระทั้งรูปแบบและเนื้อผ้าก็ไม่เหมือนกัน เดิมทีเป็นรูปแบบรัดตัว ตรงกลางของเสื้อคลุมมีเข็มขัดเส้นนึง แต่ว่าอีกด้านนึงกลับเป็นรูปแบบลำลอง ทั้งสองข้างมีกระเป๋าที่นูนใหญ่ดูเป็นธรรมชาติอย่างละกระเป๋า แน่นอนว่าของที่เธอใช้สำหรับการปลอมตัวทั้งหมดใส่อยู่ในกระเป๋าใบใหญ่นี้

ตอนที่เธอมา กระดุมเสื้อคลุมที่สวมใส่อยู่บนตัวเธอติดกระดุมไว้ และรัดเข็มขัด จึงดูรัดตัวมาก ตอนนี้เสื้อคลุมของเธอเปิดออก เสื้อผ้าถูกปล่อยจนถึงระดับกว้างสุด ขอบของเสื้อคลุมมีการพับซ้อนที่ชาญฉลาด ซ่อนสีเดิมเอาไว้อย่างมิดชิด

เสื้อซับในบนตัวเธอเป็นเสื้อคอต่ำ ความยาวของเสื้อซับไม่เท่ากับความยาวของเสื้อคลุม ชุดก่อนหน้านี้ไม่มีการเล็ดลอดออกมา ดังนั้นจึงไม่สามารถดึงดูดความสงสัยของคุณชายห้าได้

แม้กระทั่งรองเท้า เธอก็เปลี่ยนหมด ตอนที่เธอมาสวมใส่รองเท้าส้นสูงที่สูงเกือบสิบเซนติเมตร ขณะนี้รองเท้าที่สวมใส่คือรองเท้าส้นแบนที่มีพื้นรองเท้าบางมาก ความสูงจึงต่างกันท่อนนึง

พูดได้คือ คุณชายห้าฉิงก่อนหน้านี้ที่เห็นเธอกับตอนนี้ที่เห็นเธอ ไม่มีจุดที่เหมือนกันเลย

ไม่เช่นนั้น คงไม่สามารถหลอกคุณชายห้าฉิงได้ง่ายขนาดนั้น

แน่นอนว่า การแต่งตัวของเธอเวลานี้อันที่จริงเหมาะสมกับการสวมใส่ส้นสูงมากกว่า เพียงแต่ว่า ถ้าหากเธอเอาส้นสูงใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อก่อน เดาว่าคงถูกจับได้ตั้งนานแล้ว ยังดีที่ขาของเธอยาว รองเท้าในตอนนี้กับการแต่งตัวลำลองก็เข้ากันอย่างมาก

แม้ว่าเวินลั่วฉิงจะเตรียมตัวมาอย่างครบถ้วน แม้ว่าเธอจะใจเย็นขนาดไหน เวลานี้ถูกเย่ซือเฉินจ้องมองแบบนี้ ในใจก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย เพียงแต่ว่าโชคดีที่ธาตุแท้จิตวิทยาของเธอแข็งแกร่งพอ จึงไม่ได้เผยให้เห็นความแตกต่างแม้แต่น้อย

เห็นได้อย่างชัดเจนมากกว่าเย่ซือเฉินสงสัยเธอ เพราะว่าเธอบังเอิญลงมาในเวลานี้พอดี แม้ว่าจะเปลี่ยนลิฟท์ แต่ว่าความพอดีของเวลาทำให้เย่ซือเฉินไม่ระมัดระวังตัวไม่ได้

แต่ว่า มีอยู่เรื่องนึงที่เวินลั่วฉิงชัดเจนอย่างมาก นั่นก็คือ เวลานี้เธอลงลิฟท์มาพร้อมกับคุณชายห้าฉิง เย่ซือเฉินจึงลดความสงสัยในตัวลงเป็นอย่างมาก

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงวางตอนจบแบบนี้ให้กับคุณชายห้าฉิง

เธอคำนวณมาอย่างแม่นยำถึงความขี้สงสัย และจิตใจที่ชอบความครึกครื้นไม่เกรงกลัวต่อความเดือดร้อนของคุณชายห้าฉิง ต้องลงมาชั้นล่างแน่นอน เมื่อลิฟท์ปิดประตูลง รอยยิ้มที่เธอยิ้มให้คุณชายห้าฉิงนั้นเป็นการปูเรื่องราวที่สำคัญที่สุด ภายหลังที่ลิฟท์หยุดในแต่ละชั้น เป็นเพราะว่าเธอต้องการเวลาในการปลอมตัว ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นความขี้สงสัยของคุณชายห้าฉิน

แน่นอนว่า เป้าหมายของเธอไม่เพียงแต่ต้องการที่จะขึ้นจากลิฟท์พร้อมกับคุณชายห้าฉิงเท่านั้น ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เธอรู้ว่าคุณชายห้าฉิงสามารถ “ช่วย” เธอได้

เวลานี้เวินลั่วฉิงค้นพบอย่างชัดเจนว่า เพราะว่าประโยคเมื่อสักครู่ของคุณชายห้าฉิง ความสงสัยในสายตาของเย่ซือเฉินได้ลดลงเล็กน้อย

และตอนนี้ เธอก็ยังออกมาจากลิฟท์ก่อนคุณชายห้าฉิงก้าวนึง ไม่มีการหลบเลี่ยงใด ๆ ไม่มีการลังเลใจใด ๆ ไม่มีความหวาดผวาใด ๆ เผชิญหน้ากับเย่ซือเฉินที่เดินมาโดยตรงแบบนั้น

ถึงแม้ว่าอารมณ์บนใบหน้าของเย่ซือเฉินไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แต่เธอรู้ว่า เธอทำแบบนี้แน่นอนว่าต้องลดความสงสัยของเขาในตัวเธอในระดับหนึ่ง

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เธอยิ่งหลบหลียิ่งทำให้เขาสงสัย ถ้าหากเธอเป็นฝ่ายรุก อย่างน้อยทำให้จิตใจของเขาผ่อนคลาย

เวลานี้ถูกเย่ซือเฉินจ้องมองแบบนี้ เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถเดินไปแบบนี้ได้แน่ เขาก็ไม่สามารถปล่อยให้เธอเดินผ่านไปได้ราบรื่นแบบนี้แน่ ดังนั้น เธอจำเป็นต้องทำเรื่องที่สอดคล้องกับการแต่งตัวแบบนี้ของเธอ

เธอเดินมาข้างหน้าเขา แล้วหยุดเดิน สองเท้ายังมีความห่างกับเขานิดหน่อย แต่ว่าเมื่อเธอก้มเอวและท่อนบนเอนตัวไปข้างหน้า ความห่างนั้นก็เปลี่ยนเป็นหดสั้นลงมาก

เมื่อเป็นเช่นนี้ ความปั่นป่วนของเธอโดดเด่นขึ้นมาต่อหน้าต่อตาเขา

ในเมื่อจะยั่วยวน เป็นธรรมชาติที่จะต้องทำให้เหมาะสมถึงที่สุด ไม่สามารถทำให้เขาสงสัยได้ นี่เป็นคำพูดทางเทคนิคที่จำเป็นต้องใช้ประโยชน์ ถ้าหากเพียงแค่เป็นการโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างบริสุทธิ์ รับรองว่าไม่สามารถวาดเค้าโครงความเซ็กซี่ที่ยั่วยวนคนขนาดนี้ได้

หน้าอกของเธอเดิมทีก็ไม่เล็ก วันนี้ยังจงใจแปะซิลิโคนเพิ่ม แล้วก็สวมใส่ชุดชั้นในที่เพิ่มความหนา ดังนั้น ดูแล้วใหญ่โตอลังการมาก แน่นอนว่าของพวกนี้ทำเพื่อให้โดดเด่นไม่เหมือนกับปกติ เป็นเพราะแบบนี้ เวลานี้เธอจึงตั้งใจเผยให้เย่ซือเฉินดู ถึงอย่างไรเสียหน้าอกของในตอนนี้เดาว่าขนาดคงใหญ่กว่าปกติไม่น้อยกว่าไซต์นึง

สามารถพูดได้นะ วันนี้ตอนที่เธอมาถึงได้เตรียมความพร้อมไว้อย่างรอบคอบ

เท้าของเธอไม่ได้ขยับ แต่ท่อนบนยังคงเอนตัวเข้าหาเขา ถึงแม้จะใกล้แต่ก็ไม่ได้แนบลง เพียงแต่ร่างกายอ่อนนุ่มที่มีเสน่ห์ยั่วยวนนั้น ราวกับเวลาต่อมา สามารถแนบติดกับตัวเย่ซือเฉินได้

เธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ มองไปที่เขา ยิ้มมีเสน่ห์สวยหยาดเยิ้ม สายตายั่วยวน ยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย และมองไปทางเขาอย่างกับจะล่อลวงให้ติดกับ

เมื่อสักครู่ตอนที่พูดคุยกับคุณชายห้าฉิงในลิฟท์ เธอตั้งใจเปลี่ยนเสียง แต่ว่าตอนนี้อยู่ต่อหน้าเย่ซือเฉิน เธอกลับไม่กล้าเอ่ยปากพูดง่าย ๆ เกรงว่าถึงแม้ว่าเธอจะเปลี่ยนเสียง ก็ยังถูกเย่ซือเฉินจับได้ ดังนั้นไม่เอ่ยปากพูดจะปลอดภัยที่สุด

เพียงแต่ว่า ถึงแม้จะไม่เอ่ยปากพูด แต่ความยั่วยุและยั่วยวนดึงดูดใจของเธอก็ยังแสดงออกอย่างถึงอกถึงใจ ทั้งภายในและภายนอกสวยหยาดเยิ้มและยั่วยวนใจซึ่งดูเหมือนว่าจะสามารถดึงดูดผู้คนได้

ถึงแม้ว่าจะผู้หญิงบริการจริง ๆ ก็เกรงว่าคงมีฝีมือการแสดงออกอย่างเชียวชาญนี้ไม่เท่ากับเธอ

เย่ซือเฉินมองไปทางเธอ สีหน้าไม่เปลี่ยน

สายตาของเย่ซือเฉินขยับเล็กน้อย แล้วมองไปที่กระเป๋าที่ถูกออกแบบให้นูนใหญ่นั้นของเธอ

เวินลั่วฉิงก็ค้นพบสิ่งนี้เป็นธรรมชาติ ไม่พูดไม่ได้ว่า ความคิดระแวดระวังของเย่ซือเฉินทำให้เธอรู้สึกกลัวนิดหน่อย

มือของเขายื่นออกมาทางกระเป๋าใบใหญ่นั้นของเธอ เวินลั่วฉิงยิ้มอ่อนช้อยราวกับดอกซากุระ ไม่หลบไม่ซ่อน และกลับเข้าใกล้เขายิ่งกว่าเธอ เมื่อเข้าใกล้จนถึงระดับนึง ริมฝีปากแดงของเธอขยับหันไปที่หน้าเขาช้า ๆ ค่อย ๆ เป่าลมออกมา

ท่าทางนั้นยั่วยวนจนถึงระดับสูงสุด

ขณะที่เย่ซือเฉินกดลงบนกระเป๋าของเธอ พบว่ากระเป๋าทั้งสองว่างเปล่า รู้สึกได้ถึงลมหายใจที่พัดเข้าหาตัวเขา สายตาเคร่งขรึมเล็กน้อย ร่างกายยืนตรง

คุณชายห้าฉิงดูอย่างตกตะลึงนิดหน่อย

“ผู้หญิงคนนี้มาจากไหนกัน?” พอดีกับที่ลิฟท์เปิดออก ตำรวจคนหนึ่งเดินออกมา คุณชายห้าฉิงจำได้ว่าเขาอยู่ที่ชั้นสอง

“เอ่อ?” ตำรวจนายนั้นที่เพิ่งเดินออมาอึ้งนิดหน่อย มองดูเวินลั่วฉิงแวบนึง แล้วรีบตอบอย่างรวดเร็ว “หัวหน้าอู๋พากลับมา เป็นนักเต้นอยู่ที่ร้านเหล้า แต่ว่าเรื่องไม่ใหญ่โต แล้วก็ไม่ได้เกี่ยวกับเธอโดยตรง จึงปล่อยตัวไป”

นายตำรวจคนนั้นเคยได้ยินเรื่องนี้มา แต่ก็ไม่เคยเจอแดนเซอร์ผู้หญิงคนนั้น แต่ดูจากการแต่งตัวของเวินลั่วฉิงในตอนนี้ จึงคิดว่าเวินลั่วฉิงคือผู้หญิงคนนั้น

นายตำรวจอยากจะแสดงออกต่อหน้าหัวหน้าสำนักงาน ดังนั้นถึงแม้ว่าจะไม่มั่นใจ แต่ก็อยากจะขายตัวเอง เอาอกเอาใจต่อหน้าหัวหน้าสำนักงาน ถ้าหากดูตามสถานการณ์ปกติแล้วการคาดเดาของเขานั้นไม่น่าผิดพลาด แต่ว่ามักมีเรื่องที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นได้เสมอ

ไม่พูดไม่ได้ว่า ความโชคดีของเวินลั่วฉิงนี้ดีจนเกินไปแล้ว คำพูดของตำรวจคนนี้ตรงกันกับการกระทำของเวินลั่วฉิงโดยบังเอิญ

เพราะว่าคำพูดประโยคนี้ของนายตำรวจ ความสงสัยในสายตาของเย่ซือเฉินจึงลดลงอย่างมาก

“ยังไร้ยางอายอยู่อีก? ยังไม่รีบไปอีก” คุณชายห้าฉิงสีหน้าโมโหเล็กน้อย น้ำเสียงไม่ดีจึงเป็นเรื่องปกติ

เวินลั่วฉิงกระตุกมุมปาก สีหน้าผิดหวังเล็กน้อย มีท่าทีไม่ยอม แต่ก็มีความกลัวอยู่ ร่างกายหดตัวเล็กน้อย ถอยระยะห่างจากเย่ซือเฉิน ทรงตัวอย่างมั่นคง จากนั้นจึงเดินไปทางประตู บิดตัวไปมายังกับต้นหลิว

“หยุดอยู่ตรงนั้น” เพียงแต่ว่า เวินลั่วฉิงเดินไม่ถึงห้าก้าว เสียงของเย่ซือเฉินจู่ ๆ ก็ดังขึ้นมาจากข้างหลังเธอ

เวินลั่วฉิงใจสั่นเล็กน้อย ที่สุดแล้วก็ยังถูกเขาจับได้ หลบหนีไปไม่สำเร็จ!

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset