ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 590 เด็กๆ กลับมาแล้ว การยอมรับญาติอย่างน่าตื่นเต้น (2)

บทที่ 590 เด็กๆ กลับมาแล้ว การยอมรับญาติอย่างน่าตื่นเต้น (2)

ทำไมถึงเป็น…ไม่ได้

มือคู่นั้นของโจ๋วอันหนานกำหมัดแน่นต่อไป กำแน่น แน่นจนปลายเล็บจิกเข้าไปในผิวหนัง เธอก็ไม่รู้สึกอะไร

เวินลั่วฉิงรู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองเธออยู่ แววตานั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้ขนลุกมากขึ้นเรื่อยๆ

เวินลั่วฉิงหันไปดู แต่โจ๋วอันหนานถอยหลบได้ไวกว่า และซ่อนตัวไว้ ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงไม่เห็นอะไร

“มีอะไร?” เย่ซือเฉินเห็นการขยับตัวของเธอ ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“ฉันรู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองพวกเราอยู่ ไปเถอะ กลับกันก่อนเถอะ” ถึงแม้เวินลั่วฉิงจะไม่เห็นใคร แต่ในใจของเธอกลับไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่

เวินลั่วฉิงหรี่ตาลง ไม่พูดอะไร และกอดเธอออกจากโรงพยาบาลไปอย่างรวดเร็ว

ขณะนั้น ในห้องพักผู้ป่วย โทรศัพท์ของคุณปู่เย่ดังขึ้นมากะทันหัน

คุณปู่เย่เปิดโทรศัพท์ออก ตอนที่เห็นรูปถ่ายไม่กี่รูปนั่น โกรธจนแทบจะโยนโทรศัพท์ทิ้ง

“ผู้หญิงที่สมควรตาย ผู้หญิงหน้าไม่อาย” คุณปู่เย่โกรธจนสั่นไปทั้งตัว : “สัตว์ประหลาดน่าเกลียดตัวนี้ไร้ยางอายจริงๆ”

“มีอะไร?” คุณย่าเย่พิงเข้ามาทันที จากนั้นเห็นรูปไม่กี่รูปบนโทรศัพท์ เป็นรูปที่เย่ซือเฉินและเวินลั่วฉิงจูบกันโรงพยาบาล

“ใครเป็นคนส่งมา?” คุณย่าเย่ขมวดคิ้ว ใบหน้าสงสัยอย่างมาก

“จะสนใจทำไมว่าใครส่งมา ฉันรู้สึกว่ารูปพวกนี้มาเวลาพอดี ฉันจะทำให้ทุกคนรู้ว่าผุู้หญิงหน้าไม่อายคนนั้นหลังจากทำร้ายฉันจน บาดเจ็บสาหัสแล้วยังดึงดูดซือเฉินของเราอย่างหน้าไม่อายอีกด้วย” ขณะที่คุณปู่เย่หรี่ตาลงในแววตามีการวางแผนมากมาย

“ถ้าคุณส่งรูปพวกนี้ออกไป เฉินเฉินก็จะโดนด่าไปด้วย” คุณย่าเย่ดูรูปพวกนั้น ยิ่งขมวดคิ้วมากยิ่งขึ้น ถ้าเวินลั่วฉิงโดนด่าเธอไม่สนใจ แต่เธอจะไม่ยอมให้หลานชายแท้ของตัวเองโดนด่าไปด้วย

“ไอเด็กสารเลวนั้นโดนด่าก็สมควรแล้ว และควรจะให้เขาได้ลิ้มรสการโดนด่าบ้าง เรื่องนี้ทำให้ยิ่งหนักยิ่งดี” คุณปู่เย่แสดงออกจากชัดเจนว่าไม่ต้องใส่ใจมากนัก เพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง แม้ว่าต้องเสียสละหลานชายแท้เขาก็ทำได้เช่นกัน

ในรูปเย่ซือเฉินจูบอย่างบ้าคลั่งและดุเดือด

คุณย่าเย่รู้ดีภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ ถ้าเอารูปพวกนี้ส่งออกไปผลลัพธ์จะออกเป็นอย่างไร!

“ฉันไม่อยากให้เฉินเฉินเจ็บปวด” สีหน้าคุณย่าเย่ลังเลอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่อยากให้พวกเขาแต่งงานกัน ก็ต้องทำอย่างนี้ ใช้ความคิดเห็นของประชาชนบีบบังคับให้พวกเขาต้องเลิกกัน” คุณปู่เย่คิดแล้วคิดอีกและรีบพูดเสริมอย่างรวดเร็วว่า : “ฉัน บาดเจ็บสาหัส อยู่ในโรงพยาบาล แต่พวกเขาสองคนกลับกอดจูบกันอยู่ในโรงพยาบาล ส่งสิ่งนี้ออกไป ถึงตอนนั้นจะเกิดผลลัพธ์อย่างครึกโครมแน่นอน ฉันไม่เชื่อว่าถึงเวลานั้นพวกเขาจะยังอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข”

คุณย่าเย่เม้มปากแล้วเม้มปากอีก ไม่พูดอะไร แต่เธอก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมา กดดูคลิปวิดีโอก่อนหน้า และหลังจากอ่านความคิดเห็นด้านล่างแล้ว สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย : “คุณรีบดูความคิดเห็นด้านล่างวิดีโอ ความคิดเห็นเปลี่ยนนิดหน่อย มีบางคนเริ่มพูดแทนเวินลั่วฉิงแล้ว”

“อะไร? ทำไมถึงเป็นอย่างนี้? เอามาให้ฉันดูหน่อย” สีหน้าของคุณปู่เย่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด รีบรับโทรศัพท์ไปอย่างรวดเร็ว ตอนที่เห็นความคิดเห็นด้านล่าง คุณปู่เย่โกรธจนปากเบี้ยวไปหมด

“เวินลั่วฉิงปฎิเสธว่าแผลของคุณเธอไม่ได้เป็นคนทำ จากนั้นความคิดเห็นหลังจากนั้นก็เปลี่ยนไป ชาวเน็ตบอกว่าไม่มีหลักฐานอะไรที่จะยืนยันว่าเธอทำให้คุณบาดเจ็บ และยังบอกอีกด้วยว่าในวิดีโอของพวกเราไม่ได้บอกตรงๆ ว่าบาดแผลของคุณเกี่ยวข้องกับเวินลั่วฉิง” คุณย่าเย่อ่านความคิดเห็นเหล่านั้น สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมมากขึ้นเป็นพิเศษ : “ตอนนี้พวกเราควรจะทำยังไงดี?”

คุณปู่เย่ค่อยๆ หรี่ตาลง : “เธออยากจะปฏิเสธ ไม่ง่ายขนาดนั้น เธออยากจะปฏิเสธ แต่ฉันจะทำให้เธอยอมรับเรื่องนี้ให้ได้”

“คุณคิดจะทำอะไร?” คุณย่าเย่ตกใจนิดหน่อย : “คุณต้องรู้ บางคำพูดพวกเราไม่สามารถพูดได้อย่างชัดเจนเกินไป ไม่อย่างนั้นหลังจากนี้จะมีคนจับได้”

คุณย่าเย่รู้ข้อนี้ดี เพราะเหตุนี้ในวิดีโอก่อนหน้านี้พวกเขาจึงไม่ได้อธิบายอย่างชัดเจน

“กลัวอะไร อย่างมากฉันก็แค่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลสักปีครึ่ง ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะบังคับฉันให้ออกจากเตียงไปได้?”

เดิมที่คุณปู่เย่วางแผนไว้อย่างนี้ แต่คำพูดของเวินลั่วฉิงก่อนหน้านี้เตือนเขาไว้ เขาแค่นอนอยู่บนเตียงช่วงเวลาหนึ่ง เรื่องนี้ก็จะไม่มีใครสงสัยแล้ว

“ตอนนี้ พวกเรายังมีรูปพวกนี้อยู่ในมือ ฉันไม่เชื่อว่าครั้งนี้จะจัดการเด็กน่ารังเกียจคนนั้นไม่สำเร็จ” ขณะนี้คุณปู่เย่เกลียดเวินลั่วฉิงจนเข้ากระดูกไปแล้ว

คุณย่าเย่ยังรู้สึกลังเลและขัดแย้งนิดหน่อย

“คุณรีบคิดหาทางติดต่อเชิญนักข่าวมา เมื่อกี้เจ้าเด็กสารเลวนั่นบอกว่าจะไปจดทะเบียนสมรส ถ้าพวกเราลงมือช้า พวกเขาจดทะเบียนสมรสแล้วจริง จะวุ่นวายยิ่งขึ้น” คุณปู่เย่กระตุ้นคุณย่าเย่ครั้งแล้วครั้งเล่า

คุณย่าเย่ได้ยินเขาพูดอย่างนี้ แววตาตกตะลึง ในที่สุดก็พยักหน้าตกลง

ผ่านไปไม่นาน วิดีโออีกคลิปหนึ่งก็แพร่กระจายในอินเตอร์อย่างบ้าคลั่ง

ครั้งนี้ ยังเป็นสัมภาษณ์ของนักข่าวต่อคุณปู่เย่

คุณปู่เย่ยังคงนอนอยู่บนเตียงเหมือนเดิม ขายังคงใส่เฝือกอยู่ บนร่างกายและใบหน้ายังมีบาดแผลอยู่ และก็ยังคงหน้าซีดขาวเหมือนเดิม

“เวินลั่วฉิงทำร้ายฉันจนเป็นอย่างนี้ ยังหน้าไม่อายมาดึงดูดซือเฉินของพวกเราอีก เรื่องนี้ฉันจะนั่งดูโดยไม่สนใจไม่ได้เด็ดขาด” ครั้งนี้คุณปู่เย่พอจะพูดคุยได้แล้ว ไม่เงียบเหมือนครั้งก่อน เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้คุณปู่เย่เตรียมสู้จริงจัง

“คุณปู่เย่ คุณหมายความว่าบาดแผลของคุณ เกิดจากเวินลั่วฉิงจริงๆ ใช่ไหม?” นักข่าวจับใจความสำคัญได้ดีที่สุด จับใจความสำคัญในคำพูดของคุณปู่ได้ตรงประเด็น

“ใช่ เดิมทีฉันไม่อยากพูด แต่ผู้หญิงคนนั้นทำเกินไปแล้วจริงๆ เธอทำร้ายฉันจนเป็นอย่างนี้ ยังกล้ามาคุกคามฉันที่โรงพยาบาลอีก ตอนนั้นซือเฉินมาเยี่ยมฉันที่โรงพยาบาลพอดี เธอก็ใช้โอกาสนี้ดึงดูดซือเฉินของพวกเราไป” ครั้งนี้คุณปู่เย่ไม่ครุมเครืออีกต่อไป คำพูดของเขาตอนนั้นตรงไปตรงมาและมั่นคงอีกด้วย เพราะเรื่องหลังจากนี้เขาวางแผนไว้ดีแล้ว

เขาคิดว่าต้องประสบความสำเร็จไม่มีผิดพลาดแน่นอน

“คุณปู่เย่ ที่คุณบอกว่าเวินลั่วฉิงมาคุกคามคุณที่โรงพยาบาล? เธอคุกคามคุณยังไง?”

“เธอบอกว่าเธอจะยังตามตอแยซือเฉินต่อไป จะบีบบังคับให้ซือเฉินแต่งงานกับเธอ เธออยากจะทำให้พวกเราโกรธจนตาย” ตอนที่คุณปู่เย่พูดประโยคนี้จงใจไอออกมา ให้ดูเหมือนท่าทางหายใจไม่ออก

“คุณย่าเย่ เป็นอย่างนี้จริงไหม?” มีนักข่าวคนหนึ่งมองไปทางคุณย่าเย่ที่เคร่งขรึมไม่พูดอะไรอยู่ตลอด

“ความจริงแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันค่อนข้างชอบเวินลั่วฉิง ก่อนหน้าฉันยังพยายามปกป้องเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะทำกับพวกเราอย่างนี้ เธออยากจะบีบให้คนแก่อย่างพวกเราตายให้หมด จากนั้นก็เป็นไปตามที่เธอต้องการ” ครั้งนี้ คำพูดของคุณย่าเย่พูดออกมาตรงไปตรงมา

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset