ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 65 พ่อลูกเจอกัน(2)

ตอนที่ 65 พ่อลูกเจอกัน(2)

เห่อถงถงที่อุ้มถังจื่อซีขึ้นรถไปหมุนตัวมา มองเห็นถังจื่อโม่ไม่ได้ขึ้นรถ แถมยังมองไปถามเย่ซือเฉิน ส่วนเธอก็มองเห็นสายตาของเย่ซือเฉินกำลังจะมองมาทางนี้

ทันใดนั้นเห่อถงถงก็เหงื่อแตกท่วมตัว เธอรีบขยับไปด้านหน้าข้องถังจื่อโม่อย่างรวดเร็ว บดบังสายตาของเย่ซือเฉินที่มองมา โชคดีที่ถังจื่อโม่ร่างเล็ก เย่ซือเฉินก็น่าจะเพิ่งจะมองมาทางนี้ น่าจะมองไม่เห็นจื่อโม่

เห่อถงถงอุ้มถังจื่อโม่ขึ้นรถ

ขณะที่เย่ซือเฉินมองมา กลับมองเห็นถังจื่อโม่แล้ว เพียงแต่ว่ามองเห็นไม่ชัด ก็ถูกผู้หญิงคนนึงบังไว้แล้ว เย่ซือเฉินขมวดคิ้ว ไม่ได้เรียกสายตากลับ ยังคงมองไปที่เดิม……

“พี่สาม พี่มาถึงแล้วเหรอครับ” จี้หซีเดินออกมาพอดี เห็นเย่ซือเฉินที่รออยู่ด้านนอกแล้ว แต่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย พี่สามคือคนที่งานยุ่งมาก เขานึกว่าตนเองจะต้องรอนานมาก คิดไม่ถึงว่าพี่สามจะมาถึงเร็วขนาดนี้

“อืม” เย่ซือเฉินเพิ่งจะดึงสายตากลับ แต่ในใจกลับมีความรู้สึกแปลกประหลาด ราวกับเหมือนด้านนั้นมีอะไรบางอย่างสามารถดึงดูดใจเขาได้

ความรู้สึกแบบนั้นแปลกประหลาดมาก เขาไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นเย่ซือเฉินจึงมองไปทางนั้นอีกครั้ง

แต่ทว่าเวลานี้ถังจื่อโม่ขึ้นรถไปแล้ว แม้กระทั่งเห่อถงถงก็ขับรถออกไปแล้ว

“พี่สาม มองอะไรหนะ?” จี้หซีมองไปตามทางที่เย่ซือเฉินกำลังมองอยู่ แต่ก็ไม่เห็นเจออะไร ดังนั้นจึงรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย

เย่ซือเฉินส่ายหน้าเล็กน้อย ดูเหมือนอยากจะสะบัดความรู้สึกประหลาดในใจนี้ออกไป

เห่อถงถงที่กำลังขับรถอยู่มองไปด้านหลังอีกครั้งด้วยจิตใต้สำนึก มองเห็นจี้หซีกำลังยืนอยู่ด้านหน้าเย่ซือเฉิน อดไม่ได้ที่จะอึ้งตะลึง

เย่ซือเฉินมารับเขาเหรอ?

ใช่สิ เมื่อสักครู่เธอเป็นกังวลจนลืมไปเลย เขาคือหนึ่งในหกคุณชายของเมือง A มีความสัมพันธ์กับเย่ซือเฉินที่ไม่ธรรมดา

ดูท่าเมื่อครู่เธอเป็นกังวลจนลืมไป ทำให้ตัวเองตกใจ เย่ซือเฉินมาสนามบินเพื่อรับจี้หซี ไม่เกี่ยวกับเด็กสองคนสักนิด

ถึงว่าครั้งนี้ที่เด็กสองคนกลับมา แม้กระทั่งฉิงฉิงก็เพิ่งจะมารู้ที่หลัง เย่ซือเฉินจะสามารถรู้ได้ยังไง

ถึงแม้ว่าผู้ชายในตอนนั้นคือเย่ซือเฉินจริง ๆ เย่ซือเฉินอยากจะตรวจสอบเรื่องเมื่อตอนนั้น เกรงว่าก็คงไม่ง่ายขนาดนั้น และก็ไม่สามารถตรวจสอบชัดเจนได้รวดเร็วขนาดนี้ แถมยังตรวจสอบถึงเด็กสองคน

เห่อถงถงแอบสูดหายใจ เพียงแค่เห็นรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของจี้หซี ดวงตาของเธอมีความสับสนเล็กน้อย

ระหว่างเธอกับเขา ที่สุดแล้วมันก็เป็นแค่ความผิดพลาด ดังนั้นผ่านไปแล้วก็ควรจะจบไปแล้ว จบไปตลอดกาล

“พี่สาม พี่มาช้าแค่ก้าวเดียว เด็กสองคนที่ผมบอกพี่เพิ่งออกไปเมื่อกี้ น่าเสียดายจริง ๆ ที่พี่ไม่ได้เจอ” จี้หซีนึกถึงเด็กสองคนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม เป็นเด็กที่น่ารักที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาแน่นอน”

สำหรับเรื่องนี้ของจี้หซี เย่ซือเฉินไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก เด็กจะน่ารักขนาดไหน ก็ไม่ใช่ลูกของเขา ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา

ในเมื่อเป็นลูกของคนอื่น เป็นธรรมชาติที่เขาจะไม่สนใจ

“อ้อใช่ ผมถ่ายรูปไว้ด้วย ให้พี่ดู พอพี่ดูแล้วรับรองว่าต้องชอบแน่ ผมว่าคงไม่มีใครที่เห็นพวกเขาแล้วไม่ชอบพวกเขา” เห็นได้ชัดว่าจี้หซีถูกพิษความน่ารักของเด็กสองคน ถึงแม้เข้าจะไม่ใช่พ่อแท้ ๆ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะโอ้อวด ใบหน้าเห็นได้ชัดว่าภาคภูมิใจอย่างมาก คนอื่นไม่รู้คงคิดจริง ๆ ว่าเป็นลูกของเขา

เย่ซือเฉินมองเห็นท่าทางของเขา ก็แอบส่ายหน้า จี้หซีคือเด็กที่ยังไม่โต

“พี่สาม ผมถ่ายรูปไว้สองสามรูป น่ารักทั้งนั้นเลย” จี้หซีหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ค้นหารูปที่เขาถ่ายก่อนหน้านี้ให้เย่ซือเฉินดู

เพียงแต่จี้หซีค้นในโทรศัพท์กลับไม่พบรูปที่ถ่ายก่อนหน้านี้ เขาจำได้ว่าถ่ายไว้สองสามรูป ทำไมตอนนี้ไม่เหลือสักรูปนึง?

จี้หซีอึ้งนิดหน่อย เขานึกขึ้นได้เรื่องนึง ตอนที่ลงจากเครื่องบิน เด็กผู้ชายของยืมโทรศัพท์ของเขา เขาไม่ได้คิดอะไรมาก จึงปลดล็อกโทรศัพท์แล้วยื่นให้เด็กผู้ชาย ในภายหลังเด็กผู้ชายบอกว่าสายไม่ว่าง จึงยื่นโทรศัพท์คืนให้เขา

ดังนั้นจี้หซีมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเด็กคนนั้นต้องลบรูปที่เขาถ่ายก่อนหน้านี้ในตอนนั้นแน่นอน

เพราะว่าอย่างอื่นในโทรศัพท์เขาไม่ได้หายไปเลยสักอย่าง หายไปแค่รูปของเด็กสองคน

“กินบนเรือนขี้บนหลังคาจริง ๆ มันน่าเสียใจจริง ๆ เด็กน้อยลบรูปที่ฉันถ่ายออกหมดแล้ว” จี้หซีสีหน้ากลัดกลุ้มใจ เขาช่วยพาเด็กสองคนขึ้นเครื่องบิน ผลลัพธ์คือเด็กคนนั้นตอบแทนเขาแบบนี้

คิดไม่ถึงว่าจะลบรูปภาพของเขา

แต่ว่าทำไมเขาต้องลบรูปภาพของเขาออก?

เด็กคนนี้ความคิดเป็นอคติเกินไปไหม แถมเขายังถูกเด็กแก่นสามสี่ขวบชำระบัญชี…แบบไม่รู้ตัวเลย

จู่ ๆ จี้หซีก็นึกถึงตอนก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน เขาใช้โทรศัพท์มือถือของเด็กน้อยโทรเข้ามือถือของตนเอง เขาคิดไว้ว่าถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้น เด็กสองคนก็สามารถโทรหาเขาได้

ยังไงซะเด็กสองคนนั้นอายุยังไม่เกินสามสี่ขวบ รอบข้างไม่มีผู้ใหญ่สักคน เขาเป็นกังวลจริง ๆ กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา

จี้หซีรีบเปิดบันทึกการโทรอย่างรวดเร็ว เห็นบันทึกการโทรก่อนหน้านี้ก็ถูกลบออกด้วย จี้หซีสีหน้าเคร่งขรึม

นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่ หลอกใช้เขา แล้วก็ถีบส่งเขา นี่มันถีบหัวส่งชัด ๆ

“นายพูดก่อนหน้าว่าเด็กสองคนนั้นอายุแค่สามสี่ขวบ?” เมื่อได้ยินคำพูดของจี้หซี สีหน้าของเย่ซือเฉินมีอารมณ์ที่แตกต่างไปเล็กน้อย

ปกติแล้วเด็กสามสี่ขวบไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน

“ครับ น่าจะประมาณสี่ขวบ” สำหรับเรื่องนี้ จี้หซีมั่นใจมาก ตอนนั้นเขาได้ดูใบสูติบัตรของพวกเขาแล้ว ได้เห็นปีเกิดแล้ว แต่ไม่ได้สังเกตวันที่เฉพาะเจาะจง ตอนนั้นเขาตกใจเรื่องที่จะต้องเป็นพ่อคน ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจในหลาย ๆ เรื่อง

“นายแน่ใจว่าเขาลบรูปของนาย?” เย่ซือเฉินหรี่ตาเล็กน้อย ดวงตาลึกซึ้ง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

“แน่ใจครับ เมื่อกี้ตอนลงจากเครื่องบิน ก็มีแต่เขาที่จับโทรศัพท์ของผม แถมบันทึกการโทรระหว่างผมกับเขาก็ถูกลบออกหมาด ดังนั้นต้องเป็นเขาแน่นอน” จี้หซียิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งห่อเหี่ยวใจ

“ทำไมเขาต้องลบพวกนี้ออก?” ดูเหมือนเย่ซือเฉินก็สงสัยขึ้นมานิดหน่อย เรื่องนี้ไม่ค่อยมีเหตุผล เด็กสี่ขวบคนนึงต้องระมัดระวังตัวขนาดไหนถึงได้ทำแบบนี้?

จี้หซีช่วยเหลือพวกเขาชัด ๆ ทำไมเขาถึงทำแบบนี้?

“ผมก็ไม่เข้าใจ” สำหรับเรื่องนี้จี้หซีคิดไม่ออกจริง ๆ เขาเพียงแค่รู้สึกว่าเด็กสองคนนั้นน่ารักมากจริง ๆ จึงถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ทำไมเด็กนั่นจะต้องลบรูปภาพออกนะ?

และก็บันทึกการโทรด้วย!

“พี่สาม ยังมีอีกเรื่องตอนนั้นผมดูใบสูติบัตรของพวกเขา ไม่ได้เขียนข้อมูลพ่อของเด็ก” ตอนนั้นเป็นเพราะเด็กสองคนให้เขาปลอมเป็นแดดดี้ของพวกเขา ดังนั้นตอนที่เขาดูใบสูติบัตรของพวกเขาจึงสังเกตในส่วนนี้ คำพูดของเขาหยุดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดต่อ “แล้วก็ที่เด็กสองคนนี้กลับมาในครั้งเพื่อมาหามามี้ของพวกเขา ฟังจากพวกเขาพูดมามี้ของพวกเขาดูเหมือนจะเพิ่งแต่งงานที่เมือง A”

จี้หซีไม่ใช่ว่าชอบเปิดเผยความลับของคนอื่น เพียงแต่พี่สามจู่ ๆ ก็ถามขึ้น ถ้าเขาพูดแล้วก็พูดชนิดที่หมดเปลือก เพียงแต่เขารู้เรื่องเกี่ยวกับเด็กสองคนนั้นไม่มากนัก ได้ยินจากการคุยกับเด็กสองคนนั้นเพียงแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset