ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 684 เด็กทั้งสองคนไปพบพ่อ (2)

บทที่ 684 เด็กทั้งสองคนไปพบพ่อ (2)

“คนประเภทพวกเขา ปกติจะเลือกอยู่ในที่กันดาร ดังนั้นจึงค้นหาเขตชานเมืองเป็นพิเศษ พวกเราค้นกระทั่งลานขยะและสถานที่ทิ้งของ”คุณชายห้าฉิงเสริมอีกหนึ่งประโยค“ดูจากวิดีโอที่พวกเขาเผยแพร่ ตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ซอมซ่อมาก เป็นพื้นปูน พื้นที่กว้างโล่ง มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นเขตชานเมือง”

เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของคุณชายห้าฉิง ดวงตาก็มองไปยังถังหลิน เห็นถังหลินไม่พูดอะไร คิ้วของเธอก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย “ร้านอาหารอยู่ในตัวเมือง อีกทั้งยังเป็นที่รุ่งเรืองด้วย”

เวินลั่วฉิงเคยดูวิดีโอนี้แล้ว สิ่งที่คุณชายห้าฉิงพูดมา เธอก็สังเกตเห็นหมดแล้ว แต่คนพวกนั้นเจ้าเล่ห์จริงๆ นอกจากพื้นปูนแล้วก็ไม่ได้ถ่ายสิ่งของอย่างอื่นเลย

ดังนั้นจึงยากต่อการวิเคราะห์หาสถานที่จากวิดีโอ

เรียกได้ว่า สำหรับจุดนี้ คนพวกนั้นมีประสบการณ์มาก

“พี่สะใภ้หมายถึงอะไร?”คุณชายห้าฉิงชะงัก ดวงตากะพริบเบาๆ

“หากรังพวกเขาอยู่เขตชานเมือง คนที่เผยแพร่วิดีโอคงไม่วิ่งมาในตัวเมืองที่รุ่งเรืองหรอก”คำพูดของเวินลั่วฉิงถือเป็นการอธิบายให้คุณชายห้าฉิงและถือเป็นบทสรุปการวิเคราะห์

“จุดนี้พี่ก็เคยคิดมาก่อน พวกเราค้นหาบริเวณรอบๆร้านอาหารที่เข้าข่ายหมดแล้ว แต่ก็ไม่พบเบาะแสอะไร ดังนั้นอาจเป็นวิธีที่พวกเขาจงใจปกปิดก็เป็นได้”ถังหลินก็นึกถึงจุดนี้ แต่เคยออกปฏิบัติการค้นหามาแล้ว แต่ความจริงยืนยันว่า การวินิจฉัยนี้ไม่ถูกต้อง

“ไม่ อยู่ใกล้ร้านอาหารแหละ คนที่ออกมาเผยแพร่วิดีโอคงไม่ออกห่างจากรังโจรของพวกเขามากหรอก”เวินลั่วฉิงเอ่ยปากอีกครั้งด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ผู้ชายคงไม่ออกไปไกลๆในสถานการณ์เช่นนั้นหรอก

อีกทั้งหากพวกเขาอยู่ในตัวเมืองจริงๆก็ไม่ต้องไปไกลนัก มีคำหนึ่งที่พูดกันว่า ผู้ละทิ้งโลกสามารถบำเพ็ญตนได้ทุกที่

เห็นได้ชัดว่าผู้ร้ายกลุ่มนี้มีมันสมองมาก

“แต่รอบๆร้านอาหารพวกเราค้นหาเกือบทุกซอกทุกมุมแล้วนะ พวกเราไปค้นทุกบ้าน แต่ก็ไม่พบอะไร บริเวณนี้เป็นเขตรุ่งเรือง ไม่มีทางเป็นสภาพอย่างในวิดีโอหรอก แถวนี้มีแต่ตึกเต็มไปหมด ซึ่งเข้าไปก็มีกล้องวงจรปิดแล้ว ประชาชนก็หนาแน่น ถ้าอยู่แถวนี้จริงๆคนพวกนั้นเสียงดังมากขนาดนั้น คงมีคนได้ยินแล้วล่ะ……”

“แถวนี้มีใต้ดินหรือเปล่า?”เวินลั่วฉิงมองไปยังคุณชายห้าฉิง แทรกเขาพูดกลางคัน

เวินลั่วฉิงนึกถึงผู้ร้ายที่จับตัวเวินหรวนหรวนไป จำได้ว่าเป็นคนผิวขาว ถึงแม้พวกเขาจะสวมหน้ากาก แต่ยังคงเผยคอและมือออกมาให้เห็นอยู่

ผิวขาวเป็นพิเศษ

หากเป็นผู้ชาย และเป็นผู้ชายที่ทำเรื่องอย่างนี้ การที่มีผิวขาวนับว่าเป็นเรื่องไม่ปกติเอาเสียเลย

ถ้าขาวแค่คนเดียวยังพอว่า แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะมีผิวขาวกันทั้งสามคน

วิดีโอถ่ายตอนกลางคืน มีแสงไฟด้วย ทำให้เวินลั่วฉิงลืมคำนึกถึงรายละเอียดจุดนี้ ตอนนี้คิดดูแล้ว ผิวขาวนี้ไม่ปกติ เพียงแต่เห็นตอนอยู่ใต้แสงไฟ จึงทำให้ละเลยจุดนี้ไป

เวลาเดียวกัน เวินลั่วฉิงก็นึกขึ้นได้ว่าผู้ชายทุกคนในวิดีโอผิวขาวกันหมดเลย มีเพียงหนึ่งถึงสองคนในนั้นที่มีผิวเป็นปกติในแบบที่ผู้ชายควรจะเป็น

ฉะนั้น เป็นไปได้ที่คนพวกนี้ไม่ได้พบแสงพบตะวันมานานแล้ว

ในวิดีโอมีการเปิดไฟ แต่เป็นเพราะอยู่ในช่วงกลางคืนพอดี ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงละเลยจุดนี้ไป

“ไม่มี มีแต่ใต้ดินสำหรับเป็นคลังเก็บรถ แต่พวกเราไปค้นหาในนั้นแล้ว และพวกเขาก็ไม่มีทางทำอย่างนั้นที่นั่นหรอก คลังรถห้องใต้ดินมีคนเข้าออกทุกเมื่อเลย……”คุณชายห้าฉิงรีบคัดค้านคำพูดของเวินลั่วฉิงทันที

“แล้วที่ผิดกฎหมายล่ะ?”เวินลั่วฉิงตัดบทคุณชายห้าฉิงอีกครั้ง คุณชายห้าฉิงพูดไม่ผิดเลย แต่ที่เขาพูดถึงเป็นสถานที่ยื่นก่อสร้างตามกฎหมาย

สถานการณ์แบบนี้ คงไม่ใช่อยู่ในที่ถูกกฎหมายเด็ดขาด

“รีบไปตรวจสอบยังสถานประกอบการในแต่ละชุมชนด่วน ดูว่ามีห้องใต้ดินผิดกฎหมายหรือเปล่า”ถังหลินได้สติก็รีบสั่งการทันที

“ได้ ผมจะให้คนไปตรวจเดี๋ยวนี้”คุณชายห้าฉิงก็ได้สติ การออกตรวจค้นสถานที่อย่างนี้ ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจถึงจะเหมาะสม

“ในเมื่อผิดกฎหมาย พวกประกอบการคงไม่ยอมรับง่ายๆแน่ บอกให้พวกเขารู้ถึงความรุนแรงด้วย”เวินลั่วฉิงรีบเสริมอีกหนึ่งประโยค หากเจ้าของอสังหาริมทรัพย์รู้ว่ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้ แต่ไม่เคยรายงานมาก่อน เมื่อตำรวจไปค้นดู พวกเขาก็อาจปิดบังอีก

“อืม รู้แล้ว”คุณชายห้าฉิงพยักหน้า ตอนออกคำสั่งบอกว่ามีผู้ร้ายซ่อนตัวอยู่

เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นใคร เมื่อได้ยินว่ามีคนร้ายซุกซ่อนอยู่ คงไม่กล้าปิดบังแน่นอน

“พี่สะใภ้สาม ทำไมถึงนึกถึงห้องใต้ดินได้?”หลังคุณชายห้าฉิงสั่งการเสร็จก็มองหน้าเวินลั่วฉิงอย่างสงสัยหลายส่วน

“คุณไม่รู้สึกว่าผู้ชายในวิดีโอขาวเกินไปเหรอ?ผู้ชายพวกนั้นขาวกว่าเวินหรวนหรวนอีก ผู้ชายมากมายขาวกว่าผู้หญิง มันปกติไหม?”เวินลั่วฉงเงยหน้ามองคุณชายห้าฉิง ซึ่งเวลาที่พูดเรื่องนี้ใบหน้าเวินลั่วฉิงไม่ได้มีความผิดแปลกอะไรเกิดขึ้น

แต่ดวงตาของคุณชายห้าฉิงกะพริบอย่างรวดเร็ว ใบหน้าผิดปกติขึ้นมาหลายส่วน “พี่สะใภ้สาม อย่างนี้ก็สังเกตเห็นได้ ถ้าให้พี่สามรู้

คงสับผู้ชายกลุ่มนั้นจนเละแน่”

พี่สะใภ้สามมองร่างกายผู้ชายแต่ละคนละเอียดขนาดนี้ พี่สามจะไม่หึงเหรอ?ไม่โมโหเหรอ?

“ตอนคุณชายห้าฉิงดูวิดีโอสังเกตอะไรอยู่?ร่างกายเวินหรวนหรวน?หุ่นเวินหรวนหรวนดีไหม?ผิวขาวไหม?”เวินลั่วฉิงทำตาขาวใส่เขา แต่สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร

มุมปากคุณชายห้าฉิงอดกระตุกไม่ได้“อันนี้ผมไม่ได้สังเกตเลย ผมดูก็เพื่อไขคดี ไขคดี ผมเลยดูว่าจะมีเบาะแสอะไรไหม……”

“ดังนั้น ความหมายของคุณคือฉันดูวิดีโอก็เพื่อดูผู้ชาย?”ครั้งนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้มองเขา เพียงแต่ยกเสียงให้สูงขึ้นเล็กน้อย

“พี่สะใภ้สามไว้ชีวิตด้วย ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น อีกอย่าง มีพี่สามทั้งคน ชายอื่นจะเข้าตาพี่สะใภ้สามได้ยังไง”คุณชายห้าฉิงได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงก็ตกใจยิ่งนัก ฟังดูแล้วรุนแรงเกินไป

หากคำพูดพวกนี้ถึงหูพี่สาม เขาไม่ตายก็คงหนังถลอกหมดแน่?

“พอแล้ว น้องปล่อยเขาไปเถอะ”ถังหลินเห็นท่าทีของคุณชายห้าฉิงก็ส่ายหัวเล็กน้อย บางครั้งปากของฉิงถิงก็สมควรโดนอัดจริงๆ

“ขอบคุณพี่ใหญ่ พี่สะใภ้สาม”คุณชายห้าฉิงถอนหายใจอย่างรู้สึกโล่งอก

“ตอนนี้สิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว ไม่รู้ว่าเวินหรวนหรวนยังมีชีวิตอยู่ไหม”ถังหลินถอนหายใจเบาๆ เวลานานขนาดนี้ เกรงว่าจะมีเคราะห์มากกว่าโชค

เวินลั่วฉิงก็นึกถึงจุดนี้ด้วย หน้าเธอเปลี่ยนสี แต่ไม่ได้พูดอะไร

ไม่นาน โทรศัพท์ในห้องทำงานของคุณชายห้าฉิงดังขึ้น

คุณชายห้าฉิงกดลำโพงอย่างกระตือรือร้น……

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset