ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 68 เขารู้

ตอนที่ 68 เขารู้

“คุณแม่ถงบอก” ถังจื่อโม่เงยหน้าขึ้น มองไปทางเห่อถงถง

“ฉัน? ฉันไม่ได้พูดนะ?” เห่อถงถงงงงวย เธอบอกเรื่องนี้กับจื่อโม่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเธอถึงจำไม่ได้?

“ครั้งก่อนตอนที่คุณแม่ถงโทรมา ถามผมว่าถ้ามามี้แต่งงาน ผมจะคัดค้านไหม?” ถังจื่อโม่มองเห่อถงถง พูดอย่างใจเย็น

“ใช่ ฉันเคยพูดแบบนี้ แต่ฉันแค่เปรียบเทียบ แต่ก็ไม่ได้พูดว่ามามี้ของพวกลูกแต่งงานแล้ว นี่ไม่นับนะ?” เห่อถงถงกระพริบตาช้า ๆ เธอเพียงแค่อยากจะลองเชิงเด็ก ๆ ไม่ถือว่าเผยความลับนะ?

“แต่ตอนหลังผมถามว่าสามีของมามี้หล่อไม่หล่อ แล้วมามี้ก็ตอบอย่างไม่ลังเลว่าหล่อ แน่นอนว่าหล่อมาก หล่อสุด ๆ งั้นก็เท่ากับว่ามามี้มีสามีแล้วใช่ไหมครับ?” ถังจื่อโม่กระพริบตา ตอบอย่างสมเหตุสมผล

พูดจบก็มองไปทางเห่อถงถงด้วยสายตาแฝงไปด้วยความหมายบางอย่าง

“ที่รัก จู่ ๆ ฉันก็พบว่าการมีลูกที่ฉลาดแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสลดนะ เพราะว่าเมื่อเทียบกับ IQ ของฉันแล้วติดลบอย่างหนัก” สบตาเข้ากับดวงตาที่เมินเฉยอย่างเห็นได้ชัดของถังจื่อโม่ เห่อถงถงหันขอคำปลอบใจจากเวินลั่วฉิง

ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เลยตอบกลับไปแบบนั้น ใครจะไปคิดว่าเด็กสี่ขวบคนนึงจะฉลาดขนาดนี้ แถมยังรู้จักหลอกถามจากเธอ

เวินลั่วฉิงกระตุกมุมปาก เธอรู้สึกว่าเห่อถงถงนอกจากพรสวรรค์ด้านคอมพิวเตอร์แล้ว ส่วนเวลาอื่น IQ ของเธอส่วนใหญ่จะติดลบ

ดังนั้นเรื่องนี้โทษถงถงไม่ได้จริง ๆ

แต่ว่าเวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจ เดิมทีเธอเป็นกังวลว่าจะมีแผนการร้ายอะไร อาจจะเป็นเพราะอาชีพของเธอ เธอเคยชินกับการคิดในแง่ลบ

สำหรับเรื่องในวันนี้ ต้องให้เขารู้ว่าเขาทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ดังนั้นสีหน้าของเวินลั่วฉิงกลับมาจริงจังอีกครั้ง “ถังจื่อโม่ ไม่มีผู้ใหญ่นำพา คิดไม่ถึงว่าลูกจะพาน้องออกจากบ้านไปขึ้นเครื่องบิน เรื่องนี้ลูกทำผิดใช่ไหม?”

“คุณแม่ครับ ผมสำนึกผิดแล้วครับ” ถังจื่อโม่ก้มหน้าลงเล็กน้อย น้ำเสียงเบาลงอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางของการยอมรับความผิดพลาดนั้นดีมาก

“ดี ครั้งนี้แม่จะยกโทษให้ลูก แต่ห้ามมีครั้งต่อไปอีกเด็ดขาด” เมื่อเห็นท่าทางของเขาแบบนี้ เวินลั่วฉิงก็ใจอ่อนทันที แต่ใบหน้าก็ยังจริงจังอยู่

“ครับ ผมรู้แล้วครับ คุณแม่วางใจได้ รับรองว่าไม่มีครั้งต่อไปแน่นอนครับ” ถังจื่อโม่ทำท่ารับรองอย่างจริงจัง

“ดี แม่เชื่อลูก ลูกควรรู้ว่าลูกสองคนออกมาแบบนี้มันอันตรายมาก แม่เป็นห่วง” น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงอ่อนโยนลง เธอนั่งยอง ๆ ลง แล้วกอดลูกทั้งสองไว้ในอ้อมกอด

“ดีจังเลย คุณแม่ไม่โกรธแล้ว” ถังจื่อซีหอมอย่างแรงลงบนหน้าของเวินลั่วฉิง เพียงแต่ท้องกลับร้องขึ้นอย่างไม่ปรองดองกัน

“ลูกคงหิวแล้ว แม่ไปทำอาหารให้” เวินลั่วฉิงยิ้ม อยู่กับเด็กน่ารักสองคน อันที่จริงเธอโมโหไม่ลบจริง ๆ “ลูกสองคนไปเล่นก่อนสักครู่”

“ค่ะ มีของอร่อยกินแล้ว หนูชอบอาหารที่คุณแม่ทำมากที่สุดแล้วค่ะ”

“ฉันก็ชอบเหมือนกัน ดูท่าแล้ววันนี้ฉันมีลาภปากแล้ว” เห่อถงถงได้ยินว่ามีของอร่อย ดวงตาก็มีประกาย อาหารที่ฉิงฉิงทำอร่อยมากจริง ๆ

มองเห็นเห่อถงถงที่บอกว่าจะช่วยเธอขณะนี้เอาแต่จ้องมองออกไปข้างนอก เวินลั่วฉิงกระตุกมุมปาก “ดูอะไรหนะ ตั้งใจขนาดนั้น?”

“เธอสงสัยไม่ใช่เหรอว่าผู้ชายเมื่อตอนนั้นคือเย่ซือเฉินหรือเปล่า? ถ้างั้นเด็กสองคนนั้นก็อาจจะเป็นลูกของเย่ซือเฉิน ดังนั้นจากที่ฉันพินิจพิจารณาเด็กโม่ ฉันพบปัญหาอย่างนึง……” เห่อถงถงยังคงจ้องมองไปที่ถังจื่อโม่ สีหน้าจริงจัง เคร่งขรึม

“ปัญหาอะไร?” เวินลั่วฉิงเลิกคิ้วเล็กน้อย สายตาก็มองไปที่ใบหน้าของถังจื่อโม่ เพียงแต่เปลือกตากระตุกอย่างควบคุมไม่ได้

“ฉันรู้สึกว่าจื่อโม่หน้าตาไม่เหมือนกับเย่ซือเฉิน ดังนั้นเด็กสองคนนั้นน่าจะไม่ใช่ลูกของเย่ซือเฉิน” เห่อถงถงครั้งนี้หันมาหมุนตัวมามองเวินลั่วฉิง สรุปได้อย่างเด็ดขาดมาก

เวินลั่วฉิงอึ้งเล็กน้อย เธอแอบโล่งใจ แต่ว่าเวลามองไปทีถังจื่อโม่สายตาของเธอกลับกระพริบช้า ๆ

จื่อโม่ยังเด็ก ยังไม่โต แถมยังมีความอ้วนของเด็กอยู่ ใบหน้าจิ้มลิ้ม ผิวพรรณอ่อนโยน เมื่อเทียบกับเค้าโครงหน้าชัดเจนของเย่ซือเฉิน ก็ไม่ค่อยเหมือน

แต่ว่าถ้าจื่อโม่ตัดความอ้วนของเด็กออก หน้าเล็ก ๆ ไม่ได้จิ้มลิ้มขนาดนั้นแล้ว เกรงว่าสถานการณ์จะไม่ใช่แบบนั้นแล้ว

จื่อโม่สีขวบแล้ว เนื้อบนหน้าน้อยลงแล้ว จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าไม่เจอกันเพียงแค่สิบกว่าวัน เนื้อบนหน้าของจื่อโม่ดูเหมือนจะน้อยลงไม่น้อย ดูจากความเร็วนี้เดาว่าคงใช้เวลาไม่นาน

เนื้อบนใบหน้าน้อยลงแล้ว อวัยวะบนใบหน้าก็จะขึ้นมาอย่างชัดเจน ถึงเวลานั้นเค้าโครงใบหน้าของลูกก็จะเห็นได้ชัด

ได้ยินมาว่า ความอ้วนของเด็กทารกเมื่อเริ่มลดลงแล้วก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว เร็วมาก

เวินลั่วฉิงหวังเล็กน้อยว่าเนื้อบนหน้าของลูกจะไม่ลดลงเร็วขนาดนี้ เพราะว่าในใจของเธอรู้สึกกังวลนิดหน่อย

“ไม่เหมือนใช่ไหม?” เห่อถงถงเห็นเธอไม่พูดไม่จาพินิจพิจารณาอยู่นาน จึงอดไม่ได้ที่จะต้องถามขึ้น

เวินลั่วฉิงยิ้มแต่ก็ไมได้พูดอะไร ลึกลงในใจเธอหวังว่าเย่ซือเฉินไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น ดังนั้นถึงแม้จะมีความคล้ายคลึงอยู่บ้าง เกรงว่าเธอจะมองข้ามไป

เรื่องที่เธอแต่งงานกับเย่ซือเฉิน ห่างไกลจากความเรียบง่ายที่เธอคิดไว้เยอะมาก ดังนั้นตอนนี้เธอไม่สามารถให้เย่ซือเฉินกับลูกรักสองคนมีความสัมพันธ์ใด ๆ ได้

“คุณแม่ ผมขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหมครับ?” ถังจื่อโม่เดินเข้ามา ดวงตาดำแววคู่นั้นมองมาที่เวินลั่วฉิง น่ารักจนทนไม่ไหว น่ารักจนใคร ๆ ก็หลงใหล

“เอาไปทำอะไร?” เวินลั่วฉิงมองไปทางเขา มุมปากยกสูงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

“ค้นหาข้อมูลครับ” ถังจื่อโม่กระพริบตาปริบ ๆ แบบนั้นยิ่งน่ารักกว่าเดิม

“อืม เอาไป” เวินลั่วฉิงไม่ได้คิดอะไรเยอะ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาส่งให้เขา

ถังจื่อโม่รับโทรศัพท์มาแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

“ไอหยา จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกว่าเด็กโม่น่ารักกว่าเด็กซีในบางครั้ง” เห่อถงถงมองไปที่แผ่นหลังของถังจื่อโม่ แววตาเป็นประกาย “ถ้ามีลูกน่ารักสองคนแบบนี้ ชีวิตนี้ฉันก็พอใจแล้ว”

เห็นท่าทางของเธอแบบนั้น คนอื่นไม่รู้คงคิดว่าเธอคือแม่แท้ ๆ

“พี่ชาย พี่กำลังหาเบอร์โทรสามีของแม่เหรอคะ?” ถังจื่อโม่กำลังค้นโทรศัพท์ของเวินลั่วฉิง จู่ ๆ ถังจื่อซีก็เข้ามาใกล้ ๆ

“ชู่ เสียงเบา ๆ หน่อย” ถังจื่อโม่เพิ่งจะค้นเจอบันทึกการโทรในโทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงที่เขียนว่าสามี ถูกเธอทำให้ตกใจ มือจึงสั่นแล้วก็กดโทรออกไป

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset