ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่75เธอนั้นบริสุทธิ์

ตอนที่75เธอนั้นบริสุทธิ์

“ไม่มีอะไรจะพูดหรอ?”เย่ซือเฉินพูดขึ้นอีกครั้ง เสียงของเขายังคงเบาและเชื่องช้า เสียงที่เบาและเชื่องช้านี้เหมือนต้นหลิวที่ผูกรัดหน้าอกเอาไว้ เสียงที่ดูแข็งกร้าวเมื่อกี้ก็ไม่มีอีกแล้ว แต่มันก็ทำให้รู้สึกทรมานเป็นพิเศษ

เวินลั่วฉิงตัวแข็งทื่อไปหมด เธอเม้มปากไว้ ไม่ได้พูดอะไรออกมา เรื่องของเด็กๆทั้งสองคนนั้นจะพูดออกมาไม่ได้ แต่เวินลั่วฉิงก็ไม่อยากมี่จะโกหกเขา เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอเลยเลือกที่จะเงียบ

“ไปไหนมา?”ในตอนนี้ เย่ซือเฉินมีความอดทนสูงมาก พอเธอไม่พูดอะไรออกมา เขาก็ได้ถามขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งเสียงได้ดังขึ้นกว่าเมื่อกี้เล็กน้อย

เวินลั่วฉิงใจสั่นขึ้นมาทันที เธอรู้ดีว่าวันนี้เย่ซือเฉินคงไม่ปล่อยวางไปแน่ แต่เธอก็ไม่อยากที่จะโกหกเขาจริงๆ เธอจึงไม่ปริปากพูดออกมา

“เธอจะพูดออกมาดีๆ?หรือจะให้ฉันไปสืบเอง?”เย่ซือเฉินยกมุมปากขึ้นมาเล็กน้อย แล้วค่อยๆหมุนแก้วไวน์ในมือไปมา ในน้ำเสียงที่เชื่องช้าและทุ้มต่ำนี้ไม่ได้แสดงออกถึงการข่มขู่เลย แต่บรรยากาศที่สุดแสนจะอันตรายนี้ทำให้ขนลุกไปทั้งตัว

“ฉันคิดว่า ระหว่างพวกเราควรจะมีอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวของตัวเองบ้าง”เวินลั่วฉิงค่อยๆสูดลมหายใจเข้า เธอค่อยพูดออกมาอย่างกลัวๆ เธอนั้นกลัวจริงๆ กลัวว่าเย่ซือเฉินจะสืบเรื่องของเธอ

ถ้าเขาไปประเทศM เธอกลับไม่ได้รู้สึกกลัว เพราะว่ามีรุ่นพี่อยู่ เขาคงจะสืบเรื่องต่างๆไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

แต่ว่า ตอนนี้เด็กๆทั้งสองคนก็มาที่เมืองAแล้ว เธอกลัวว่าเย่ซือเฉินจะสืบถึงตัวเด็กๆได้

เด็กๆทั้งสองคนเป็นจุดอ่อนของเธอ

เธอจะให้เด็กๆทั้งสองคนมีอันตรายไม่ได้เด็ดขาด

“เรื่องส่วนตัว?”เย่ซือเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วจ้องมองไปที่เธอ:“เธอพูดเรื่องส่วนตัวกับฉันงั้นหรอ?เรื่องส่วนตัวของเธอคือแกล้งทำเป็นนอนหลับในตอนเช้า พอฉันออกจากบ้านไปไม่เท่าไหร่ เธอก็ออกตามหลังฉันติดๆเนี่ยนะ?”

“เรื่องส่วนตัวของเธอคือ โทรถามฉันทุกวันว่าเมื่อไหร่จะกลับ ก็เพื่อที่จะรีบกลับมาให้ทันก่อนฉันจะถึงบ้านครึ่งชั่วโมงงั้นหรอ?”ตอนนั้น น้ำเสียงของเย่ซือเฉินแฝงไปด้วยความโกรธ ที่รอมาสามชั่วโมงกว่า เขาได้ข่มความโกรธของตัวเองเอาไว้ แต่เพราะคำพูดของเธอประโยคเดียว ทำให้ความโกรธนั้นพรั่งพรูออกมาอีกครั้ง

ตอนนี้เขาเข้าใจชัดเจนเรื่องหนึ่งแล้ว ที่เขาแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ก็เพื่อมาทำให้ตัวเองโกรธนี่เอง

ความผิดที่เขาไล่ออกมานั้น ทำให้เวินลั่วฉิงไม่มีทางที่จะโต้แย้งกลับได้เลย เพราะมันคือความจริงทั้งหมด

“บอกเหตุผลฉันมาสักข้อซิ”เย่ซือเฉินเสียงค่อยๆทุ้มต่ำลง เขาพยายามระงับความโกรธเอาไว้ เขาอยากจะรู้ว่า ทำไมเธอถึงทำแบบนี้?

“เรื่องนี้ฉันผิดเอง ฉันไม่ควรที่จะโกหกนาย ฉัน……”เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าเรื่องนี้เธอทำไม่ถูก ในเมื่อทำผิดแล้ว เธอก็เป็นฝ่ายที่จะยอมรับผิดก่อน

“ฉันต้องการฟังเหตุผล”แต่เย่ซือเฉินจู่ๆกลับพูดตัดบทเธอ ดวงตาคู่นั้นจ้องมาที่เธอ เห็นได้ชัดว่ามันช่างเย็นชามาก เขาอยากรู้เหตุผลว่าทำไมเธอถึงทำอย่างนี้

ในมือของเขาที่ถือแก้วไวน์อยู่นั้นจู่ๆเขาก็วางลงบนโต๊ะ ตัวของเขาก็เอียงๆเล็กน้อย

เวินลั่วฉิงที่เห็นท่าทางของเขาแบบนี้ ก็นึกว่าเขาจะลุกขึ้น เธอเลยคิดจะถอยหลังไปโดยที่ไม่รู้ตัว แต่ข้างหลังของเธอก็เป็นโซฟา เพียงแค่เธอถอยหลังไปก้าวเดียว เธอก็นั่งลงไปบนโซฟาแล้ว

ถึงแม้จะพูดไม่ได้เต็มปากว่าเวินลั่วฉิงไม่กลัวอะไรหน้าไหนทั้งนั้น แต่เวลาเธอจัดการเรื่องราวก็นับว่าใจเย็นมากๆ และเวลาเสี่ยงเป็นเสียงตายเธอก็จัดการมันได้ดี แต่ในขณะที่เย่ซือเฉินวางแก้วไวน์ลง เพียงแค่การเคลื่อนไหวเล็กๆนั้นกลับทำให้เธอกลัวจนล้มนั่งลงบนโซฟาได้

ปฏิกิริยาแรกของเวินลั่วฉิงคือรีบลุกขึ้นให้เร็วที่สุด แต่เย่ซือเฉินที่เร็วกว่านั้นได้ดึงตัวเธอเอาไว้ แล้วจู่ๆเขาก็เอียงตัวไปทางที่นั่งอยู่

เวินลั่วฉิงขยับนี้โดยที่ไม่รู้ตัว ในตอนนั้นเธอนั่งอยู่บนโซฟา และยังถูกเย่ซือเฉินดึงตัวเอาไว้อีก เธอนั้นหลีกหนีไม่ได้อยู่แล้ว ด้วยแรงของเขาทำให้เธอถูกกดลงกับโซฟา

ท่าทางนั้นดูมีเลศนัยมากเท่าไหร่ก็ดูมีเลศนัยมากเท่านั้น

เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเธอเริ่มหายใจยากขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์แบบนี้ ทำให้ในใจของเธอนั้นสับสนวุ่นวายไปหมด

“พูดมาซิ ที่เธอทำทุกวิธีที่จะปิดบังฉัน ที่จริงแล้วเธอไปทำอะไรมากันแน่?”เย่ซือเฉินกดเธอเอาไว้แน่นมาก ไม่เหลือช่องว่างไว้เลย แม้กระทั่งสองมือของเธอก็ถูกกดไว้ด้วย ทำให้เธอไม่มีทางจะขัดขืนได้ ยิ่งทำให้รู้สึกถึงแรงกดดันเข้าไปอีก

ในตอนนั้น เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าใกล้จะหายใจไม่ออกเต็มที ท่าทางแบบนี้ทำให้เธอไม่สะดวกอย่างมาก

“ฉันรับปาก ว่าฉันจะไม่ทำเรื่องที่ไม่ซื่อสัตย์กับการแต่งงานของเราแน่นอน”เวินลั่วฉิงรู้ดีว่า ในสถานการณ์แบบนี้ ปกติแล้วผู้ชายก็คงจะสงสัยในด้านนี้ เขาเลยโกรธ เธอจึงต้องเคลียร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนเสียก่อน

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกันเพราะสัญญา ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง แต่คนบ้าระห่ำอย่างเย่ซือเฉิน ก็คงจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นแน่นอน

“ที่เธอพูดนั้น ฉันเชื่อ”เย่ซือเฉินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าเสียงของเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม

ที่จริงแล้ว ทีแรกเขาก็คิดแบบนั้น เธอนัดกับผู้ชายคนไหนไว้หรือเปล่า ในเมื่อเธอก็ออกจากบ้านตั้งแต่เช้าและกลับมาก็ดึกดื่น แบบนี้แล้วใครๆก็สงสัยไปในทางนั้นทั้งนั้น

แต่พอได้ยินเธอพูดออกมาแบบนี้แล้ว เขาก็เชื่อขึ้นมาทันที

เขารู้ว่า ถึงเธอจะไม่พูด แต่คำพูดของเธอมันเป็นเรื่องจริงแน่นอน เพราะฉะนั้นเขาจึงเชื่อเธอ

เพราะคำพูดของเธอนั้น จึงทำให้เขาลดความโกรธลงไปได้ครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

เวินลั่วฉิงกระพริบตาเล็กน้อย เธอไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาถึงเชื่อในข้อนี้ หรือเขาคิดว่าเธอนั้นขี้เหล่เกินไป ไม่มีเสน่ห์อะไรหรือเปล่า?

แน่นอนว่า ตอนนั้นเวินลั่วฉิงรู้สึกได้ว่า ท่าทางของเขาในขณะนั้นค่อยๆผ่อนคลายลงมาบ้างแล้ว เมื่อกี้เธอได้ยินเหมือนว่าน้ำเสียงของเขานั้นแฝงไปด้วยรอยยิ้มบ้างแล้ว

นี่เขาหายโกรธแล้วหรอ?

ถ้าเขาหายโกรธแล้ว งั้นเขาก็ควรที่จะปล่อยฉันได้แล้วใช่ไหม?เธอที่โดนเขากดเอาไว้แบบนี้ มันช่างอึดอัดเสียจริงๆ

แต่ เย่ซือเฉินก็ไม่มีท่าทีที่จะปล่อยเธอเลย ร่างกายของธเอช่างอ่อนนุ่ม เขากดเธอเอาไว้แบบนี้ ทำให้รับรู้ได้ถึงร่างกายที่อ่อนนุ่มของเธอ ความรู้สึกนี้มันช่างดีเหลือเกิน มันทำให้เขาไม่อยากที่จะลุกไปเลย

มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน

เย่ซือเฉินขยับเขาไปใกล้เธออีกครั้ง และกดทับลงบนร่างกายเธอตามอำเภอใจ ไม่รู้ว่าเขาคิดถึงอะไรอยู่ จู่ๆก็ถามขึ้นว่า:“พวกเราแต่งงานกันนานเท่าไหร่แล้ว?”

“สิบกว่าวันแล้ว”จู่เขาก็พูดขึ้นมา ทำให้เวินลั่วฉิงนั้นตกใจ เธอเบิกตากว้าง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆถึงถามขึ้นมาแบบนี้

ด้วยเขาที่มีเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้แล้ว เธอจึงต้องระมัดระวังในทุกๆด้าน

“นี่มันก็หลายสิบวันแล้ว!”เย่ซือเฉินเลิกคิ้วขึ้น “มีเรื่องหนึ่งที่เธอคงจะลืมไปแล้ว?”

“เรื่องอะไรหรอ?”ในใจของเวินลั่วฉิงก็เป็นกังวลขึ้นมา เขาหมายถึงเรื่องอะไรกัน?

แม้ว่าจะแต่งงานกับเขาได้ไม่นาน แต่ก็มีเรื่องที่เกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย เธอไม่รู้ว่าเขาพูดถึงเรื่องไหนกันแน่?

เขารู้เรื่องที่สถานีตำรวจแล้ว หรือว่า……

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset