“ผลคืออะไรหรอคะ?” เวินลั่วฉิงฟังน้ำเสียงนี้ของเขาแล้ว แอบสูดหายใจลึก
“ผลตรวจดีเอ็นเอ แสดงออกมาว่าเธอและคุณปู่เวินไม่ได้มีความสัมพันธ์ด้านสายเลือดอะไรเลย” ถังหลินหยุดพูดไปสักพัก จากนั้นจึงจะพูดผลการตรวจออกมา ผลแบบนี้เขารู้สึกแปลกใจมาก แต่ว่านั่นเป็นเรื่องจริง
ร่างกายของเวินลั่วฉิงค่อยๆ แข็งทื่อไป มือที่จับโทรศัพท์ดูแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน เธอคิดว่าตอนนั้นคุณแม้ทำผิดไป ดังนั้นจึงทำการตรวจดีเอ็นเอใหม่ คิดไม่ถึงว่า……
“โอเค ฉันรู้แล้ว” เวินลั่วฉิงหายใจเข้า หายใจออก ให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลง เธอรู้ ผลการตรวจครั้งนี้ไม่ผิดแน่นอน
ดังนั้น เธอไม่ใช่ลูกของเวินจือฝางจริงๆ?
ดังนั้น คุณพ่อของเธอคือใครกันแน่?
คือใครกันแน่?
เวินลั่วฉิงวางสาย มองดูห้องฉุกเฉินที่อยู่ข้างหน้า ในแววตามีความซับซ้อนแฝงอยู่เยอะมาก
ถึงแม้ว่าจะรู้แล้วว่าตัวเองไม่ใช่ลูกสาวของเวินจือฝาง รู้แล้วว่าตัวเองไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับตระกูลเวิน เวินลั่วฉิงก็ยังเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
ภายในห้องฉุกเฉิน คุณปู่เวินนอนอยู่เงียบๆ ไม่สามารถขยับได้ และไม่สามารถพูดได้
แต่ว่าเวินลั่วฉิงรู้ คุณปู่เวินสามารถฟังคำพูดของคนอื่นๆ ได้ ไม่เช่นนั้น ครั้งนี้แล้วคำพูดของเวินจีหยันก็คงจะไม่ไปกระตุ้นโดนเขา
แต่ว่า เธอไม่รู้ว่าควรนำเรื่องนี้ไปบอกกับคุณปู่เวินหรือเปล่า
เธอรู้ว่าคุณปู่เวินเอ็นดูเธอมาโดยตลอด เอ็นดูเธอจากใจจริง ถ้าหากคุณปู่เวินรู้ว่าเธอไม่ใช่หลายสาวแท้ๆ ของเขา จะต้องเสียใจแน่ๆ คงจะเสียใจแน่ๆ สินะ?
เวินลั่วฉิงลังเลไปสักพัก สุดท้ายก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกมา เธอกลัวว่าจะไปกระตุ้นโดนคุณปู่เวินอีกครั้ง
ตอนนี้ หุ้นส่วนในบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปอยู่ในมือเธอทั้งหมด
หากเธอไม่ใช่ลูกสาวของเวินจือฝาง เธอก็ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับตระกูลเวิน ทั้งหมดของตระกูลเวินก็ไม่สมควรเป็นของเธอ
แต่ว่า เธอควรจะมอบทั้งหมดในบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปให้กับใคร?
ให้เวินจีหยันหรอ? ถ้าหากให้เวินจีหยัน คงจะไม่ต้องใช้เวลานาน บริษัทเวินซื่อกรุ๊ปก็ล้มละลายแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่คุณปู่เวินไม่อยากจะเห็นเด็ดขาด
นอกจากเวินจีหยันแล้ว ยังมีเวินจื้อหลง แต่ว่าเวินจื้อหลงไม่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้ ตระกูลเวินเกิดเรื่องขึ้นมากมาย เขากับไม่เห็นแม้แต่เงาเลย……
เวินลั่วฉิงแอบสูดหายใจลึก ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะต้องวางแผนดีๆ แล้ว
สำหรับเรื่องที่ว่าคุณพ่อของเธอคือใคร เวินลั่วฉิงไม่อยากไปสืบ ตามที่เย่โป๋เหวินบอก ตอนนั้นคุณแม่น่าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าผู้ชายคนนั้นต้องรู้แน่ๆ
ตอนนั้นผู้ชายคนนั้นไม่ได้สนใจคุณแม่ ผ่านมาตลอดปีขนาดนี้ก็ไม่เคยมาหาพวกเธอ แล้วทำไมเธอถึงต้องไปตามสืบล่ะ
ณ บ้านของตระกูลเย่
“ยัยขี้เหร่เวินลั่วฉิงนี้ทำไมไม่หายไปสักที?” คุณปู่เย่เห็นข่าวบนอินเทอร์เน็ต สีหน้าแย่มากเป็นพิเศษ
เมื่อวานตอนที่อยู่ที่ห้างสรรพสินค้า ไม่รู้ว่าใครถ่ายคลิปของเวินลั่วฉิงและคุณชายสามเย่ไป แล้วโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต
ภายในคลิป คุณชายสามเย่กอดเวินลั่วฉิงอย่างสนิทสนม ใบหน้าอ่อนโยน สีหน้าเอ็นดู ยังพูดอีกว่าจะไปซื้อของเป็นเพื่อนเวินลั่วฉิง
ภาพๆ นี้ขอแค่คนที่มีตาต่างก็มองออก ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดามากๆ
“สองสามวันนี้ไม่ง่ายเลยกว่าจะจัดการของเรื่องตระกูลกู่เรียบร้อย คิดไม่ถึงว่ายัยขี้เหร่เวินลั่วฉิงนี้จะออกมายุ่งอีกแล้ว” คุณปู่เย่เห็นท่าทางของทั้งสองในคลิปแล้ว รู้สึกว่าแทงตามากเป็นพิเศษ
“เธอว่า ยัยขี้เหร่นั่นมีดีอะไรกันแน่? ทำไมซือเฉินถึงไปอยู่กับเธอ?”
“ซือเฉินนอนกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังแล้วแท้ๆ ทำไมถึงไปหาเวินลั่วฉิงอีกล่ะ?” คุณปู่เย่ดูคลิปวิดีโอ ขมวดคิ้ว บนสีหน้ามีความสงสัยอย่างเห็นได้ชัดเจน
“เขานอนกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังแล้ว ตอนนี้ก็ไปอยู่กับเวินลั่วฉิงอีก คนในตระกูลถังจะปล่อยเขาไปหรอ? นี่เขารนหาที่ตายกับตัวเลยไม่ใช่หรอ?” พอคุณปู่เย่นึกถึงจุดนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้พวกเขาเอาแต่คิดหาวิธียกเลิกงานแต่งกับตระกูลกู่ เพราะว่าจะร่วมมือกับตระกูลถัง
สองสามวันนี้ สงครามระหว่างตระกูลกู่และตระกูลเย่ยังไม่เคยหยุดเลย
คุณปู่เย่และคุณย่าเย่เพื่อที่จะยกเลิกงานแต่งกับตระกูลกู่ ช่วงเวลานี้หาเรื่องน่าอับเฉาของตระกูลกู่ออกมาไม่น้อยเลย
อีกอย่างพวกเขาเผยเรื่องอับเฉาพวกนั้นออกมาแล้ว แน่นอนว่าตระกูลกู่ก็ไม่ได้นิ่งเฉย แน่นอนว่าสวนกลับไม่หยุดเช่นกัน ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองตระกูลต่างก็เอากันไม่อยู่แล้ว
คุณปู่เย่ให้คนไปสืบเรื่องของกู่หยิงหยิงแล้ว ตอนแรกอยากจะเผยเรื่องอับเฉาของกู่หยิงหยิงออกไปวันนี้ งานแต่งระหว่างตระกูลกู่ก็สามารถยกเลิกได้อย่างราบรื่นแล้ว
คิดไม่ถึงว่า เวลานี้จะมีเวินลั่วฉิงโผล่ออกมาอีก
“เรื่องนี้ ห้ามให้ตระกูลถังเข้าใจผิดเด็ดขาด” แววตาของคุณย่าเย่ค่อยๆ หรี่ขึ้น บนใบหน้ามีความเด็ดขาดเพิ่มมากขึ้น
“คลิปก็ออกมาแล้ว ตระกูลถังจะไม่เข้าใจผิดหรอ?” คุณปู่เย่โมโหจนโยนโทรศัพท์ทิ้ง
“ตอนนี้พวกเราเผยเรื่องน่าอายของกู่หยิงหยิงออกไปเลย แล้วยกเลิกงานแต่งกับตระกูลกู่อย่างเป็นทางการ จากนั้นเราก็ไปสู่ขอที่บ้านของตระกูลถังอย่างเป็นทางการ” คุณย่าเย่มีการตัดสินใจแล้ว อีกอย่างคือตัดสินใจได้ไม่เลวเลย
“ได้ เอาแบบนี้เลย พวกเราไปสู่ขอที่บ้านของตระกูลถัง ตระกูลถังเห็นถึงความจริงใจของพวกเรา แน่นอนว่าคงจะไม่มีความเห็นกับเรื่องของเวินลั่วฉิงแล้ว” คุณปู่เย่พอใจกับความคิดของคุณย่าเย่มาก
จากนั้น คุณปู่เย่ก็ให้คนนำเรื่องน่าอายของกู่หยิงหยิงเผยลงบนอินเทอร์เน็ต เรื่องพวกนั้นกู่หยิงหยิงปิดเป็นความลับมาก คุณย่าเย่ได้เชิญนักสืบส่วนตัวไปสืบมา
พอเรื่องพวกนั้นถูกเผยลงในอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตก็ระเบิดทันที กู่หยิงหยิงก็จะถูกด่าเป็นหมาแล้ว
คุณย่าเย่จึง ‘พูดไปตามสถานการณ์เลย’ แล้วยกเลิกงานแต่งกับตระกูลกู่
ตามสถานการณ์แบบนี้ คุณย่าเย่พูดยกเลิกงานแต่ง ทุกคนต่างก็จะด่ากู่หยิงหยิง แน่นอนว่าจะไม่มีใครพูดว่าคุณย่าเย่ไม่ถูก
เป้าหมายของคุณย่าเย่ก็ถือว่าถึงเป้าแล้ว
ในตอนที่กู่หยิงหยิงได้รับข่าว เกลียดจนกัดฟันแน่น แต่ว่ากลับไม่มีวิธีอื่น เทียบกับคุณย่าเย่แล้ว เธอก็ยังอ่อนไปหน่อย
แล้วตระกูลกู่สู้กับตระกูลเย่ ก็ต่างกันไปหน่อยจริงๆ
จากนั้น คุณย่าเย่ก็ไปที่บ้านของตระกูลถังกับคุณปู่เย่อีกครั้ง
“คุณท่าน คุณนาย คุณปู่แย่และคุณย่าเย่มาอีกแล้วครับ” ในห้องรับแขก พ่อบ้านเดินมารายงาน
“พวกเรานี่เร็วจริงๆ ก่อนหน้านี้พึ่งยกเลิกงานแต่งกับตระกูลกู้ไป ตอนนี้ก็มาบ้านของตระกูลถังเราแล้ว” ริมฝีปากของท่านย่าถังโค้งขึ้นด้วยความประชด “เพื่อที่พวกเขาจะยกเลิกงานแต่งสองสามวันนี้เรื่องที่ทำกับตระกูลกู่ ฉันมองไม่ลงแล้วจริงๆ”
“งั้นคือจะไล่พวกเขาไปอีกไหมครับ” พ่อบ้านฟังคำพูดของท่านย่าถังแล้ว ก็ถามไปประโยคหนึ่งด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ ให้พวกเขาเข้ามา ฉันจะลองดูว่าเวลานี้พวกเขามาบ้านของตระกูลถังจะมาทำอะไรกันแน่?” คุณย่าถังคิดไปคิดมา จู่ๆ ก็ห้ามพ่อบ้านไว้
ท่านปู่ถังเงยหน้าขึ้น มองไปทางท่านย่าถังหนึ่งที แต่ว่าไม่ได้พูดอะไร
ขณะนี้ถังจื่อซีกำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่ที่ห้องรับแขกข้างๆ เธอหยุดลง หลังจากที่ได้ยินคำพูดระหว่างพ่อบ้านและท่านย่าถัง
