หลังจากที่เวินลั่วฉิงวางสายแล้ว ก็รีบตื่น แต่งตัวเล็กน้อย แล้วลงจากตึกไป
ในตอนที่เวินลั่วฉิงลงจากตึก ท่านปู่ถังอยู่ข้างล่างแล้ว คนที่อายุมากแล้วมากจะตื่นเช้าเป็นพิเศษ
“ฉิงฉิง ออกไปเช้าขนาดนี้เลย?” ท่านปู่ถังเห็นเวินลั่วฉิง มีความแปลกใจเล็กน้อย เพราะตอนนี้พึ่งหกโมง ปกติแล้วเวลาเวินลั่วฉิงยังไม่ตื่นเลย
“อื้ม มีเรื่องนิดหน่อยค่ะ” พอนึกถึงคำสั่งของถังหยุนเฉิงแล้ว เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไร รีบจากไปด้วยความเร็ว
ในตอนที่เวินลั่วฉิงมาถึงโรงแรมกั๋วซิน ข้างนอกของโรงแรมล้อมเต็มไปด้วยนักข่าว แต่ว่าต่างก็ถูกกันอยู่ที่ข้างนอกแล้ว คนที่กันนักข่าวคือคนของถังหยุนเฉิง
มีคนมองเวินลั่วฉิงออก ดังนั้นไม่ได้กันเธอไว้ ดังนั้นขณะนี้เวินลั่วฉิงไม่ได้เสแสร้ง เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
เวินลั่วฉิงเข้าไปในโรงแรมอย่างราบรื่น ขึ้นไปที่ชั้นแปดเลย
พอเวินลั่วฉิงเดินออกจากลิฟต์ ก็ได้ยินเสียงวุ่นวายเต็มไปหมด
ห้องห้องหนึ่งมีคนล้อมรอบไว้ไม่น้อยเลย คนมากมายต่างก็เป็นคนที่เวินลั่วฉิงไม่รู้จัก แต่ว่าเวินลั่วฉิงรู้ว่าในนั้นมีนักข่าวไม่น้อยเลย
หัวใจของเวินลั่วฉิงดิ่งลงอีกครั้ง มีนักข่าวอยู่ เรื่องก็จะแพร่กระจายไม่หยุด จะหนักขึ้นได้
แต่ว่าไม่รู้ว่าถังหลินเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมถึงอยู่ในโรงแรม?
เวินลั่วฉิงเดินไปด้วยความเร็ว ผ่านช่องโหว่ของผู้คน เห็นสถานการณ์ในห้องตอนนั้น เธออึ้งไปเลย
นี่ นี่เกิดอะไรขึ้น?!
ในห้องยุ่งวุ่นวายไปหมด มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา กำลังร้องไห้อยู่
บนร่างกายของผู้หญิงมีรอยช้ำเต็มไปหมด หน้าก็มีความบวม ริมฝีปากยังมีรอยเลือดอีกด้วย ดูแล้วน่าตกใจมาก
ขณะนี้ถังหลินนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ข้างๆเตียง ใบหน้าของเขามีความเย็นชาเล็กน้อย แต่กลับมองไม่ออกถึงอารมณ์อื่นๆ
บนเตียงของถังหลินนั้น ยุ่งไปหมด ยิ่งน่าตกใจไปใหญ่
ขณะนี้ ในห้องยังมีพนักงานแต่ละแผนกอีกส่วนหนึ่ง น่าจะกำลังหาหลักฐานอะไรบางอย่างอยู่
ตำรวจก็อยู่ในพื้นที่ ถังหยุนเฉิงก็ถูกกันอยู่ข้างนอก
เวินลั่วฉิงสูดหายใจลึก สถานการณ์แบบนี้สามารถเป็นไปได้แค่ทางเดียว
แต่ว่า เธอเชื่อว่าถังหลินไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น
งั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
เวินลั่วฉิงเดินไปยังข้างกายของถังหยุนเฉิงเลย
“ฉิงฉิง เธอมาแล้ว” ถังหยุนเฉิงเห็นเวินลั่วฉิง แววตาก็เปล่งประกายขึ้น จากนั้นก็สูดหายใจลึก บนใบหน้ามีความหนักแน่นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
เวินลั่วฉิงเห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็รู้และเข้าใจดีแล้ว เรื่องในตอนนี้ เกรงว่าจะหนักขึ้นมากกว่าตอนที่ถังหยุนเฉิงโทรหาเธอแล้ว
เรื่องแบบนี้ สถานการณ์ยิ่งหนักขึ้น มีความเป็นไปได้เพียงทางเดียว นั่นก็คือในพื้นที่หาหลักฐานที่ส่งผลเสียงต่อถังหลินเจอ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เวินลั่วฉิงสูดหายใจลึก พยายามให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลง แววตารีบมองสำรวจไปทั่วห้อง
เวินลั่วฉิงเดาออกว่าถังหยุนเฉิงโทรให้เธอมาก่อน เพราะว่าให้เธอสืบความจริงออกมา ช่วยเหลือถังหลิน
“ผู้หญิงคนนั้นฟ้องร้องว่าถังหลินข่มขืนเธอ เธอได้โทรไปแจ้งตำรวจตั้งแต่เช้า ในตอนที่ฉันมาถึง ตำรวจก็มาถึงแล้ว อีกอย่างก็มีนักข่าวมาถึงมากมายด้วย” เสียงของถังหยุนเฉิงต่ำมาก ต่ำจนทำให้คนหายใจไม่ออก
“ลูกชายของฉัน ฉันรู้จักดี ถังหลินไม่ทำเรื่องแบบนั้นออกมาแน่นอน ฉันโทรหาเธอเพื่อที่จะให้เธอมาดู หาเบาะแสเกี่ยวกับถังหลินออกมา” แววตาของถังหยุนเฉิงหรี่ขึ้นมา ริมฝีปากมีความเย็นชาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน “แต่ว่า ฉันคิดไม่ถึง พวกเขาจะมาเร็วขนาดนี้ อีกอย่างวางแผนไว้ได้ลับมาก”
เวินลั่วฉิงมองไปทางผู้หญิงที่อยู่บนโซฟา มองดูบนตัวของเธอแล้วบาดแผลบนใบหน้า แววตาของเวินลั่วฉิงแย่ลงทันที
การบาดเจ็บพวกนี้ สามารถให้ผู้หญิงตนนั้นแสดงเป็นคนอ่อนแอได้ ตอนนี้ไม่เพียงแต่มีพนักงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในพื้นที่ ยังมีนักข่าวจำนวนมากอีกด้วย
ดังนั้นสถานการณ์แบบนี้ส่งผลเสียต่อถังหลินมาก หากผู้หญิงคนนี้กัดฟันแน่นพูดว่าถังหลินข่มขืนเธอ นอกจากว่าถังหลินจะนำหลักฐานที่มีพลังมายืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง ไม่เช่นนั้น……
“ตอนนี้สถานการณ์หนักถึงขั้นไหนคะ?” แววตาของเวินลั่วฉิงค่อยๆ หรี่ขึ้น เธอต้องการรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมด
“เมื่อกี้คุณหมอได้ตรวจให้กับผู้หญิงคนนั้นแล้ว อาการบาดเจ็บไม่เบาเลย ตอนนี้กำลังตรวจของเหลวในร่างกายของผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้กำลังทำการตรวจเกี่ยวกับดีเอ็นเออยู่”
“ตรวจตอนนี้? ตรวจดีเอ็นเอตอนนี้เลย?” หัวใจของเวินลั่วฉิงดิ่งลงไปเลย ขั้นตอนแบบนี้เร่งรีบเกินไปแล้ว?
“นี่คือความต้องการของผู้หญิง บอกว่าหากเป็นการตรวจในพื้นที่จะรับเอกสารได้ง่ายกว่า ทางฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ปฏิเสธ แน่นอนว่าพนักงานก็ให้ความร่วมมือ” ในตอนที่ถังหยุนเฉิงพูดประโยคนี้ แววตาของเขาอดมองไปทางผู้หญิงที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความเย็นชาไม่ได้เลย
“เธอใช้โอกาสที่นักข่าวอยู่แท้ๆ อยากจะทำให้เรื่องใหญ่โต” แน่นอนว่าถังหยุนเฉิงมองออกถึงเป้าหมายของผู้หญิงคนนั้น
“ดังนั้น เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีคนเบื้องหลังวางแผนอยู่” จุดนี้เดาไม่ยากเลย ผู้หญิงปกติถึงแม้ว่าจะถูกข่มขืน ถึงแม้ว่าจะแจ้งตำรวจแล้ว ก็ไม่ทำให้เรื่องใหญ่แบบนี้
นี่ไม่ใช่เรื่องน่าป่าวประกาศอะไรเลย ถึงแม้ว่าจะลงโทษคนทำผิด ก็ต้องสนใจหน้าของตัวเองด้วย
แต่ว่าตอนนี้ ในพื้นที่มีคนมากมายขนาดนี้ มีนักข่าวมากมายขนาดนี้ ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่หลบหรือปฏิเสธเลย ราวกับว่ายังกลัวที่คนอื่นจะไม่รู้ด้วย
“คนที่รับผิดชอบคดีนี้คือคนของตระกูลกู้” ถังหยุนเฉิงพูดเสริมอีกประโยคหนึ่ง ในน้ำเสียงมีความกังวลแฝงอยู่
เวินลั่วฉิงค่อยๆ ขมวดคิ้ว ทำไมที่ไหนก็มีแต่คนของตระกูลกู้ไปหมด?!
เวินลั่วฉิงมองไปในห้องอีกครั้ง สถานการณ์ในตอนนี้ส่งผลเสียต่อถังหลินเป็นอย่างมาก
“ตรวจสอบดีเอ็นเอต้องใช้เวลานานเท่าไหร่คะ?” ตอนนี้เวินลั่วฉิงหวังว่าผลตรวจที่ออกมา จะมีประโยชน์ต่อถังหลิน
เธอเชื่อใจถังหลิน ถังหลินไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน
ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวยมาก หุ่นก็ดี แต่ใช่ว่าถังหลินจะมีความสนใจในตัวเธอ
ผู้ชายอย่างถังหลิน ผู้หญิงที่เขาไม่ชอบ ไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน ไม่ทำเรื่องแบบนั้น ก็ไม่มีทางมี…….ของถังหลิน
ดังนั้น ผลตรวจต่อมาคือปัจจัยสำคัญมาก
หวังว่านั่นจะไม่ใช่ของถังหลิน!!
“นี่คือการตรวจสอบส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอ ใช้นวัตกรรมใหม่ที่ทางประเทศเราได้คิดค้นขึ้นมา ในไม่ช้าก็จะรู้ผลแล้ว” ถังหยุนเฉิงสูดหายใจลึก เขาก็กำลังรอผลอยู่ เขาเองก็หวังว่าผลตรวจจะเป็นประโยชน์ต่อถังหลิน
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของถังหยุนเฉิงแล้วก็อึ้งไปเลย ในใจมีลางร้ายขึ้นมากะทันหัน!!
