ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่83 มีบางคนหึง

ตอนที่83 มีบางคนหึง

เวินลั่วฉิงจ้องเขา เห็นใบหน้าเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม ริมฝีปากบางอันเซ็กซี่ค่อยๆใกล้เข้ามา ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ…

ลมหายใจของเวินลั่วฉิงสั้นกระชับ จังหวะการเต้นของหัวใจก็เร็วขึ้นจนไม่สามารถควบคุมได้ เขาคงไม่ได้คิดเข้าหอกับเธอจริงหรอกใช่ไหม

จะบอกว่า เขาหล่อ รูปร่างก็ดี ถึงเธอจะไม่ใช่พวกที่หลงใหลใน ‘รูปร่างภายนอก’ แต่ว่าใครบ้างไม่ชอบมองของสวยๆงามๆ พูดตามตรง เขาเช่นนี้ช่างล่อตาล่อใจชะมัด….

แต่ว่า เธอตระหนักถึงอันตรายของเขาดี เธอรู้ว่าด้วยอารมณ์ของเขาแล้ว เธอรู้ถ้าหากว่าทั้งสองพัวพันกันโดยไม่ควรล่ะก็ พอถึงเวลาขึ้นมาเธอก็จากเขาไปลำบาก

ดังนั้น จะทำอย่างนี้ไม่ได้ ไม่ได้เป็นอันขาด

แต่ว่า แล้วเธอจะหยุดมันอย่างไรล่ะ

ณ ขณะนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา

“โทรศัพท์ฉัน” เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตัวเอง เธอจึงพยายามออกแรงผลักเย่ซือเฉินออกไป

โทรมาได้เวลาเหมาะเสียจริง

เวินลั่วฉิงไม่ได้มองเย่ซือเฉินอีกต่อไป ว่าตามจริง ตอนนี้เธอไม่กล้าจ้องเขา เธอรีบพลิกตัวไป เพื่อหยิบโทรศัพท์ที่ข้างเตียง

เมื่อเห็นหน้าจอโทรศัพท์ ตัวเธอก็แข็งทื่อ เธอเอียงหลบไปด้านข้างเล็กน้อยก่อนจะรับสาย

เย่ซือเฉินถูกเธอผลักออก สีหน้าเขาก็เครียดจนดูน่ากลัว ตอนที่เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สายตาเขาเหลือบไปเห็นบนหน้าจอปรากฏชื่อว่า รุ่นพี่–

รุ่นพี่รึ

รุ่นพี่อะไรกัน

พอเห็นเธอเอียงตัวไปรับสาย สายตาเย่ซือเฉินก็ค่อยๆหรี่ลง

“ฉิงฉิง” เมื่อเวินลั่วฉิงรับสาย เสียงชายหนุ่มที่ปลายสายก็ลอดผ่านเข้ามา

“อื้อ” เพราะว่าเย่ซือเฉินอยู่ข้างๆ เวินลั่วฉิงได้แต่ตอบอย่างแผ่วเบา และไม่ได้พูดอะไรมาก

รุ่นพี่อะไรช่างลึบลับ มีเรื่องอะไรเป็นความลับนักหนา

เวินลั่วฉิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนจะลุกจากเตียงไป ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์เมื่อครู่ เธอคงไม่รับสายรุ่นพี่ต่อหน้าเย่ซือเฉินแน่

แต่พอรับ ตอนนี้ก็วางไม่ได้แล้ว

“โทรหาคุณดึกขนาดนี้ รบกวนคุณนอนหลับรึเปล่า” เสียงที่ปลายสายฟังดูอ่อนโยนขึ้นมา

เวินลั่วฉิงเมื่อได้ยินคำพูดเขา เธอก็นึกถึงฉากเมื่อครู่ นึกถึงเรื่องที่เย่ซือเฉินทำกับเธอ สีหน้าเธอก็แดงขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

เย่ซือเฉินพิงเตียง นัยน์ตาทั้งคู่จับจ้องไปที่เธอ เมื่อเห็นเธอจงใจลงจากเตียง ดวงตาอันโค้งมนของเขาก็เยือกเย็นลงหลายส่วน

ตอนนี้ เห็นหน้าเธออยู่ๆก็แดงขึ้นมา สายตาเขาเยือกเย็นขึ้นจนสุดขั้ว ความโกรธแผ่กระจายไปทั่วทั้งร่าง ลมหายใจอันอันตรายจนเกือบทำคนหายใจไม่ออก

เมื่อครู่ที่เขาปฏิบัติต่อเธอ ก็ไม่เห็นว่าเธอจะหน้าแดง แต่พอตอนนี้คุยโทรศัพท์กับไอ้รุ่นพี่ หน้าเธอกลับแดงขึ้นมา

เธอหน้าแดงอะไรกัน

“เปล่านี่” เวินลั่วฉิงไม่ได้มองเย่ซือเฉิน แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงสายตาดั่งคันธนูที่พุ่งตรงมา ไม่รู้ทำไม จู่ๆเธอก็รู้สึกขาอ่อนขึ้นมา น้ำเสียงล่องลอย

เมื่อได้ยินเสียงอันอบอุ่นและแผ่วเบาของเธอ นัยน์ตาเย่ซือเฉินก็ค่อยๆหรี่ลง…

เธอก็เหลือเกินจริงๆ เขาแต่งงานกับเธอมาตั้งนานแล้ว เวลาคุยกับเขาก็ไม่เห็นทำเสียงอ่อนเสียงหวานอย่างนี้ ตอนนี้คุยกับไอ้รุ่นพี่กลับทำเสียงอ่อนขนาดนี้

เวินลั่วฉิงก้าวเท้าไป มุ่งหน้าไปทางระเบียง

เย่ซือเฉินไม่ขยับ และไม่ได้พูดอะไร เธอแค่มองเขาไปเช่นนั้น

“ฉิงฉิง เด็กสองคนนั้นกลับไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง คุ้นเคยแล้วหรือยัง” เสียงชายหนุ่มที่ปลายสายนั้นยังคงนุ่มนวลและอ่อนโยน

“ก็ดี ไม่ต้องเป็นห่วง” เวินลั่วฉิงตอบกลับด้วยเสียงแผ่วเบา

มุมปากเย่ซือเฉินดูเหมือนจะแสยะยิ้มออกมา ก็ดี ไม่ต้องเป็นห่วงรึ ฟังดูเอาเถอะ ดูเหมือนรุ่นพี่คนนี้ช่วงเป็นห่วงเป็นใยเธอเหลือเกินนะ

ห่วงขนาดไหน ขนาดที่โทรหาเธอกลางดึกกลางดื่น นี่มันก็ตีสองเข้าไปแล้ว

“ถ้าไม่มีอะไร ฉันวางก่อนนะ” เวินลั่วฉิงคิด ถ้าหากว่ารุ่นพี่ไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไร เธอก็จะวางก่อน คุยกับรุ่นพี่ตอนที่มีเย่ซือเฉินกำลังจับตามองอยู่อย่างนี้ เธอรู้สึกเกร็งมาก

“….” ชายที่ปลายสายนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ได้ คุณไปพักผ่อนก่อน ส่วนเรื่องรายละเอียดผมจะส่งอีเมล์ให้คุณ ไว้คุณว่างเมื่อไหร่ค่อยเช็คดู”

“โอเค” เวินลั่วฉิงได้ยินเช่นนี้ก็รู้แล้วว่าเขามีธุระอะไรจริงๆ แต่ว่าด้วยสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่สะดวกคุยรายละเอียด พูดมากไปเย่ซือเฉินต้องสังเกตเห็นความผิดปกติแน่

สถานะของรุ่นพี่นั้นพิเศษ ตัวตนของเธอก็พิเศษเช่นกัน!

เวินลั่วฉิงวางสายไป เธอลอบถอนหายใจ เมื่อนึกถึงว่าเย่ซือเฉินยังอยู่บนเตียง เธอก็เริ่มมีอาการปวดหัวขึ้นมา

เธอรู้ดีกว่าเย่ซือเฉินไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น แต่ก็จะให้ทำอย่างไรล่ะ!

เวินลั่วฉิงหมุนตัว เมื่อต้องเผชิญกับใบหน้าอันเคร่งขรึมดำทะมึนของเย่ซือเฉิน เธอก็ต้องแอบพ่นลมออกทางปากอีกครั้ง

“ใครโทรมา ทำไมต้องทำลับๆล่อๆด้วย” เย่ซือเฉินจ้องเธอ แสงเย็นวาบดูเหมือนจะจางลงเมื่อเขาหรี่ตา แต่น้ำเสียงนั้นกลับทำเอาคนขนหัวลุก

ยิ่งน้ำเสียงที่พูดคำว่าหลบๆซ่อนๆด้วยแล้วนั้นยิ่งไปกันใหญ่

ฟังคำของเขาแล้ว นัยน์ตาเวินลั่วฉิงก็เปล่งประกาย ข้อตกลงของพวกเขานั้นระบุไว้อย่างชัดเจน ว่าต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่าย นั่นหมายความว่า เธอสามารถใช้คำพูดเหล่านั้นมาต่อกรกับเขาได้

แต่ว่า ในตอนนี้คำพูดเหล่านั้น เธอกลับไม่ได้พูดมันออกมา

แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่กลัวใครหน้าไหน แต่ทำไมตอนที่เผชิญหน้ากับเขา ถึงกลับกลัวเสียได้

พอเห็นว่าเธอไม่ตอบ นัยน์ตาเย่ซือเฉินก็เย็นวาบอีกหลายขุม ทำไมเธอถึงได้ไม่ยอมบอกอะไรเขาเลยทั้งนั้น

สำหรับเธอแล้วรุ่นพี่สำคัญขนาดนั้นเลยรึ

เห็นเธออยู่ที่ไกลห่าง เย่ซือเฉินก็ถอนใจ ทำไมถึงคิดอยากจะบีบคอเธอให้ตายไปซะเลยตอนนี้

“มานี่” เย่ซือเฉินพยายามรักษาความสงบของตนเองเอาไว้ พยายามสะกดกลั้นความอยากจะที่จะบีบคอเธอ

เวินลั่วฉิงเห็นเขาเช่นนั้น ใจเธอก็สั่นเทา เขาที่เป็นแบบนี้ช่างน่ากลัวมาก อันตรายอย่างยิ่ง ไม่รู้ที่ผ่านมาเธอรอดมาได้อย่างไร

แต่ว่าเวินลั่วฉิงรู้ ถ้าหากว่าเธอรอดไปไม่ได้ สถานการณ์จะยิ่งแย่ไปกว่านี้

ดังนั้น เวินลั่วฉิงจึงได้ขยับเขยื้อนฝีเท้า มุ่งไปที่เตียง แต่ว่า เธอเยื้องกรายไปอย่างเชื่องช้า ช้ามาก

เย่ซือเฉินเห็นเธอนวยนารถเช่นนี้ เขาก็แอบกัดฟัน ความเร็วเท่าหอยทาก กะจะเดินถึงพรุ่งนี้หรืออย่างไร

ทันใดนั้นเย่ซือเฉินก็ลุกขึ้น เขาคิดว่าจะเดินไปอุ้มเธอมา ไม่อย่างนั้นเขาคงจะถูกเธอแหย่จนเป็นบ้าแน่

แต่ว่าในตอนนี้ อยู่ๆโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นมา การกระทำของเย่ซือเฉินหยุดนิ่ง เขาหยิบโทรศัพท์มาดู เมื่อเห็นหน้าจอ นัยน์ตาทั้งคู่ของก็หรี่ลงอีกครั้ง–พี่ใหญ่โทรมา!

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset