ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่87 บททดสอบความเป็นพ่อ

ตอนที่87 บททดสอบความเป็นพ่อ

เรียกมานานหลายปีแล้ว อยู่ๆทำไมถึงเปลี่ยน

“พี่บอกว่า แม่แต่งงานแล้ว พวกเราก็มีพ่อใหม่แล้ว ถึงแม้ว่าพ่อใหม่จะไม่ใช่พ่อของพวกเรา เป็นแค่พ่อเลี้ยง แต่พี่บอกว่าไม่ควรทำให้พ่อเลี้ยงเข้าใจผิด ดังนั้น ต่อไปพวกเราก็จะมีแค่พ่อใหม่ ไม่มีพ่อเลี้ยงอีกแล้ว” ถังจื่อซีอธิบายให้เวินลั่วฉิงฟังอย่างชัดถ้อยชัดคำ

เวินลั่วฉิง “…”

เด็กโม่ของบ้านเธอคิดมากเกินไปแล้วกระมัง

มีพ่อใหม่ เลยเรียกพ่อเลี้ยงไม่ได้แล้ว เรื่องนี้ถ้าหากว่ารุ่นพี่ได้ยินล่ะก็ ไม่รู้ว่ารุ่นพี่จะรู้สึกอย่างไร

ตอนที่เด็กโม่บอกว่ากลัวเย่ซือเฉินเข้าใจผิด เข้าใจผิดอะไร

เธอและเย่ซือเฉินแค่แต่งงานกันตามข้อตกลง อย่างมากอีกปีหนึ่งก็คงจะหย่ากัน ใจจริงเธอไม่ได้ห่วงว่าเย่ซือเฉินจะเข้าใจผิดอะไร

แต่ว่า ถ้าหากว่าเย่ซือเฉินคือผู้ชายเมื่อห้าปีก่อนจริงๆล่ะก็ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“มามี๊ หนูไม่คุยกับแม่แล้ว หนูจะไปโรงเรียนกับพี่แล้ว” เสียงถังจื่อซีดังแว่วเข้ามาอีกครั้ง สะกดกั้นความคิดของเวินลั่วฉิง

“โอเค” เวินลั่วฉิงตอบเบาๆ เธอขำจนควบคุมตัวเองไม่ได้จนต้องหัวเราะออกมา

จากนั้นทางนั้นก็วางสายไป

เวินลั่วฉิงมองไปยังโทรศัพท์ที่เพิ่งจะวางไป นัยน์ตาสั่นไหว เย่ซือเฉินคือผู้ชายเมื่อห้าปีก่อนจริงรึเปล่า

เป็นเขาใช่รึเปล่า

เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเรื่องนี้ เธอต้องตรวจสอบให้แน่ชัด ขอเพียงตรวจสอบแน่ชัดแล้ว เธอจะได้รู้ว่าเธอจะเอาอย่างไรต่อไป

แน่นอน ว่าตอนนี้เธอคงจะสืบเรื่องเมื่อห้าปีก่อนตรงๆไม่ได้!

นัยน์ตาเวินลั่วฉิงเปลี่ยนไป อยู่ๆเธอก็เห็นผมสั้นติดอยู่ที่หวี ดวงตาเธอส่องเป็นประกายขึ้นมาในบัดดล

นี่เป็นหวีของเธอ ทุกครั้งที่เธอใช้เสร็จก็มักจะทำความสะอาดให้เรียบร้อย จะไม่ทิ้งเส้นผมเอาไว้

อีกอย่างผมของเธอไม่มีทางสั้นขนาดนี้ ดังนั้นผมสั้นนี่จะต้องเป็นของเย่ซือเฉินแน่

ตอนนี้ มีเรื่องหนึ่งที่ง่ายมาก วิธีที่ตรงไปตรงมา นั่นก็คือนำผมของเย่ซือเฉินไปพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกกับเด็กสองคนนั่น

เย่ซือเฉินใช่ผู้ชายเมื่อห้าปีก่อนรึเปล่า รอแค่ผลออกมา เรื่องทุกอย่างก็กระจ่าง

เวินลั่วฉิงไม่อยากคาดเดาโดยไม่แน่ชัดอีกต่อไป

เวินลั่วฉิงลอบถอนหายใจ เธอค่อยๆยื่นมือออก หยิบหวีข้างหน้าขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะว่าตื่นเต้น มือเธอจึงสั่นอยู่เล็กน้อย

“ว่าไง คุยโทรศัพท์เสร็จรึยัง” และในขณะนั้น ที่นอกห้องน้ำ เสียงเย่ซือเฉินก็ดังแว่วมา

เวินลั่วฉิงตกใจผงะ เกือบทำหวีในมือตกลงบนพื้น

จากนั้น เย่ซือเฉินก็เปิดประตูห้องน้ำออก

เวินลั่วฉิงจัดแจงแอบซ่อนหวีเอาไว้ ตอนนี้เย่ซือเฉินอยู่ที่นอกประตู คอยจ้องเธออยู่

เวินลั่วฉิงถอนหายใจอีกครั้ง หลังจากนั้นเธอจึงหยิบหวีขึ้นมาทำท่าจะแปรงไปที่ผมตัวเอง

“คุยเสร็จแล้ว เมื่อครู่ฉันลงไปข้างล่างยังไม่ทันได้ล้างหน้า ก็เลยจะทำซะหน่อย” เวินลั่งฉิงกลอกตา มองไปทางเขา ก่อนจะยิ้มอ่อนๆ

ใจก็รู้สึกผิด แต่ก็ไม่กล้าแสดงความผิดปกติใดบนในหน้า

เย่ซือเฉินจ้องเธอ และไม่ได้พูดอะไร เวินลั่วฉิงแสร้งทำแปรงผมต่อไป ก่อนจะวางหวีไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้ง

“ไป เราลงไปทานอาหารเช้ากัน” อาจเป็นเพราะว่าเวินลั่วฉิง ‘รู้สึกผิด’ ตอนเย่ซือเฉินอยู่ที่นี่ เธอก็มักจะรู้สึกเป็นห่วงเขา

เวินลั่วฉิงเปิดประตูออก ยังไม่ถึงชั้นล่าง เธอก็เห็นควันดำลอยออกมาจากในห้องครัว แน่นอน ว่ายังมีกลิ่นไหม้อีกด้วย

“ไข่ของฉัน” เวินลั่วฉิงตกใจ ก่อนหน้านี้เธอเจียวไข่อยู่ เธอรีบวิ่งขึ้นชั้นบนไป และลืมปิดเตา

เวินลั่วฉิงรีบลงมาชั้นล่าง และพุ่งไปยังห้องครัว ในกระทะ ไข่ดาวของเธอได้กลายเป็นไข่ดำเกรียม ริมฝีปากเธอกระตุก โชคดีที่กระทะยังไม่ไหม้ เธอรีบปิดไฟในทันที

เย่ซือเฉินมองเธอ สายตาเคร่งเครียด ตอนที่เธอขึ้นไปข้างบนนั้นรีบขนาดนั้นเลยรึ ขนาดเตาก็ยังลืมปิด

ทำไมเมื่อครู่เธอถึงต้องรีบขึ้นไปข้างบนขนาดนั้นด้วยล่ะ

ตามเหตุตามผลแล้ว เธอก็ไม่น่าจะได้ยินเสียงโทรศัพท์จากในครัว ต่อให้ได้ยิน ก็คงไม่น่ารีบออกจากครัวมากขนาดนี้

ตอนที่เขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเธอ เขาออกมาจากห้องน้ำ หยิบโทรศัพท์เธอขึ้นมาดู ก็ยังไม่ทันได้รับสาย เธอก็โผล่เข้ามาแล้ว

ดังนั้นเธอ…

“เดี๋ยวฉันทำให้ใหม่อีกรอบนะ รอสักครู่” เวินลั่วฉิงจัดการเทถ่านดำไหม้ออกจากกระทะ และเตรียมที่จะทำใหม่อีกครั้ง

ตาเย่ซือเฉินเป็นประกาย พอคิดที่จะพูด ณ ตอนนั้น โทรศัพท์เขาก็มีเสียงเตือนข้อความเข้ามาใหม่ นั่นเป็นเสียงที่เขาตั้งไว้สำหรับข้อความพิเศษ

ดังนั้น เมื่อได้ยินเสียงเตือนข้อความเข้า เย่ซือเฉินจึงได้รู้ว่าเป็นอีเมล์ที่ส่งมาจากประเทศM น่าจะเป็นผลจากการสืบสวนทางนั้น

“ไม่ต้องทำแล้ว ออกไปหาอะไรทานกันดีกว่า ผมต้องแวะไปที่บริษัทหน่อย” เย่ซือเฉินไม่ได้เข้าไปอ่าน ดวงตาทั้งคู่จับจ้องเธอ มีความผิดปกติเล็กน้อยซ่อนอยู่ในแววตา

เขาคิด หรือว่า ความจริงทุกอย่างจะถูกเปิดเผยแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นคุณไปบริษัทเถอะ ฉันทำทานเองก็แล้วกัน” เวินลั่วฉิงยิ้มให้เขาด้วยความเข้าอกเข้าใจ ตอนนี้เธอหวังว่าเขาจะรีบออกไปซะที

เย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไร เขาแค่พยักหน้าและจากไป

หลังจากเย่ซือเฉินไปแล้ว เวินลั่วฉิงก็ยังไม่ได้ขึ้นชั้นบนเลย เธอทำอาหารเช้าใหม่อีกครั้ง ทานอาหารเช้าเสร็จ ถึงได้ขึ้นไปชั้นบน

หลังจากเข้าไปในห้องนอน เธอก็ปิดประตู และรีบตรงเข้าห้องน้ำไป หวีเล่มนั้นวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ตอนนี้บนหวีมีผมอยู่เส้นหนึ่ง น่าจะเป็นตอนที่เธอหวีและทิ้งผมติดเอาไว้

แต่ว่า ผมเส้นสั้นนั้นก็ยังอยู่

เวินลั่วฉิงดึงผมเส้นสั้นนั้นออกมา เธอเห็นว่ามีรากผมติดมาด้วย น่าจะนำมาใช้ทดสอบความเป็นพ่อลูกได้ เวินลั่วฉิงค่อยๆบรรจุเก็บผมเส้นนั้นด้วยความระมัดระวัง

เวินลั่วฉิงไม่กล้าที่จะไปตรวจโดยตรงที่โรงพยาบาลเมืองA หนึ่งก็คือ เธอกลัวเย่ซือเฉินรู้เข้า สองก็คือ เธอกลัวว่าจะส่งผลไม่ดีต่อเด็กน้อยทั้งสองคน

เธอคิดถึงเรื่องมู่หรงดัวหยาง เธอจำได้ว่ามู่หรงดัวหยางอยู่ที่ศูนย์ตรวจที่เมือง A

เวินลั่วฉิงหาเบอร์โทรของมู่หรงดัวหยาง เธอกดหมายเลขไป โทรศัพท์ดังขึ้นสองครั้ง ทางนั้นก็มีคนรับ

“น้องลั่วฉิง คิดถึงพี่หรอ” พอโทรศัพท์มีคนรับ เสียงหัวเราะคิกคักของชายหนุ่มทางนั้นก็ดังขึ้นมา

“พี่อยู่ที่ไหน” สำหรับความหยาบคายของเขา เวินลั่วฉิงชินเสียแล้ว

“พี่อยู่ที่เมืองA น้องลั่วฉิงอยากจะ…” เสียงหัวเราะของมู่หรงดัวหยางยิ่งกระหึ่มยิ่งกว่าเดิม

“อยู่ที่ศูนย์ตรวจของเมือง Aรึ” เวินลั่วฉิงไม่พูดไร้สาระกับเขา เธอตรงเข้าเรื่องทันที

“อื้อ ทำไมรึ น้องลั่วฉิงอยากจะตรวจอะไร” คราวนี้มู่หรงดัวหยางไม่หยอกล้อกับเธออีกต่อไป มู่หรงดัวหยางเข้าใจเวินลั่วฉิง เมื่อเธอเอ่ยถึงเรื่องศูนย์ตรวจ แน่นอนว่าเธอต้องอยากตรวจอะไรแน่

จะว่าไปก็ตลกดี เรื่องนี้จะทำคลุมเครือกับมู่หรงดัวหยางไม่ได้เด็ดขาด

“ฉันต้องการทดสอบความเป็นพ่อลูก ฉันอยากจะเอาของบางอย่างให้พี่ พี่ช่วยฉันตรวจด้วยตัวเองนะ” เวินลั่วฉิงได้ยินว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ศูนย์ตรวจ เธอก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset