“โอ้พระเจ้า”วินาทีต่อมา หัวหน้าสำนักงานฉิงก็อุทานออกมาพร้อมกับกระโดดหนี เขายังตบหน้าอกตัวเองด้วยจิตใต้สำนึกอีกด้วย：“ผม ผมเห็นอะไร？”
หัวหน้าสำนักงานฉิงตกใจหนักมาก เวลาพูดจึงกระอึกกระอักเล็กน้อย
เวลานี้ หัวหน้าสำนักงานฉิงสงสัยว่าตัวเองตาฝาด ไม่งั้นทำไมเขาถึงเหมือนกับเห็นพี่สะใภ้สามได้ล่ะ？
“หัวหน้าสำนักงานฉิงครับ ผู้หญิงคนนี้ขี้เหร่หน่อย ทำให้คุณตกใจแล้วใช่ไหมครับ？ผมจะปิดวิดีโอคอลเดี๋ยวนี้เลยครับ ขี้เหร่แล้วยังเสนอหน้ามาให้เห็นอีก คิดจะทำให้ใครตกใจตายหรือไง？ขี้เหร่แล้วก่อกวนอีกต่างหาก”เหล่าหลี่ไม่รู้สถานการณ์อันแท้จริง คิดอยากประจบท่าเดียว ดังนั้นจึงสบประมาทเวินลั่วฉิงเต็มที่
คนในห้องทำงานทางนี้ได้ยินคำพูดของเหล่าหลี่ก็เผยความโมโหทางใบหน้า
ทว่าทุกคนก็ไม่กล้าพูดจาส่งเดช เพราะตอนนี้กำลังเรียกสายกับศูนย์รวมสถานีตำรวจอยู่ แถมผู้นำใหญ่อย่างหัวหน้าสำนักงานฉิงยังอยู่อีกต่างหาก
“ทำไมพูดจาไม่มีมารยาทอย่างนี้”ตำรวจน้อยผู้กระฉับกระเฉงทรงพลัง คิดว่าตัวเองมีความชอบธรรมก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ดังนั้นเขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
“ใช่ครับ เป็นใครกันเนี่ย？ไม่มีการศึกษาเอาเสียเลย”ผู้จัดการหลิวไม่ใช่ลูกจ้างในสถานีตำรวจ จึงไม่ต้องใส่ใจอะไรมากนัก
อีกฝั่งหนึ่ง เหล่าหลี่อยากปิดวิดีโอคอล
“ใครให้คุณปิด ใครให้คุณปิด？หลีกไป”คุณชายห้าฉิงเห็นเหล่าหลี่จะปิดวิดีโอคอลจึงร้อนรน คุณชายห้าฉิงถีบเหล่าหลี่ไปอีกทาง
“หัวหน้าสำนักงานฉิง？”เหล่าหลี่ถูกถีบอย่างมึนงง มันเกิดอะไรขึ้น？เขาทำผิดอะไร？
เมื่อกี้หัวหน้าทำท่าตกใจผู้หญิงขี้เหร่คนนั้นแท้ๆ เขากำลังช่วยหัวหน้าอยู่นะ ทำไมหัวหน้าจึงโทษเขาล่ะ？
หัวหน้าสำนักงานฉิงถีบเขาออกได้ไง？
ไม่เพียงแต่เหล่าหลี่มึนงง คนฝั่งนี้นอกจากเวินลั่วฉิงแล้วต่างก็มึนงงไม่แพ้กัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น？
การกระทำของหัวหน้าสำนักงานฉิงเทห์ชะมัด！！
รู้สึกหายโกรธเลย！！
ทว่า ทุกคนต่างไม่เข้าใจว่าทำไมหัวหน้าสำนักงานฉิงถึงกระทำเช่นนี้？
“คุณว่าใครขี้เหร่？”ทันใดนั้นหัวหน้าสำนักงานฉิงเหมือนคิดอะไรออก รีบจ้องเขม็งเหล่าหลี่：“เมื่อกี้คุณว่าใครขี้เหร่？”
เมื่อสักครู่เขารีบห้ามเหล่าหลี่ปิดวิดีโอคอล จึงฟังคำพูดเหล่าหลี่ไม่ถนัด
“ผม ผมว่าผู้หญิงคนนั้น ขี้เหร่ครับ……”เหล่าหลี่ยังไม่เข้าใจเหตุการณ์ ตอนนี้เขายังงุนงงอยู่
“คุณต่างหากที่ขี้เหร่ ขี้เหร่กันทั้งบ้านเลย”หัวหน้าสำนักงานฉิงตัดบทเหล่าหลี่ทิ้ง จากนั้นก็ด่าแรงๆหลายประโยค
กล้าด่าพี่สะใภ้สามของเขาว่าขี้เหร่？ไม่เอาชีวิตแล้วใช่ไหม？
หากให้พี่สามรู้ว่าลูกน้องเขาด่าพี่สะใภ้สามเช่นนี้ ชีวิตดวงน้อยๆของเขาคงไม่รอดแล้ว
พี่ชายรักพี่สะใภ้สามแค่ไหน เขารู้ดี
ยิ่งไปกว่านั้น พี่สะใภ้สามขี้เหร่เหรอ？
ถ้าเกิดพี่สะใภ้สามขี้เหร่？งั้นคนบนโลกนี้ก็ไม่มีใครหน้าตาดีแล้ว！！
“พี่ พี่สะใภ้สามจริงๆด้วย？”หัวหน้าสำนักงานฉิงไม่ได้แยแสเหล่าหลี่ หันไปยังวิดีโอคอล มองเวินลั่วฉิง ก่อนจะถามหนึ่งประโยคในทำนองหยั่งเชิง
“อืม”วันนี้เวินลั่วฉิงเห็นความโง่เง่าของหัวหน้าสำนักงานฉิง ทว่าเธอไม่ได้พูดอะไรมาก
ผู้คนในห้องทำงานได้ยินหัวหน้าสำนักงานฉิงเรียกเวินลั่วฉิงว่าพี่สะใภ้สาม ต่างก็รู้สึกอึ้งมาก？
เกิดอะไรขึ้น？
ตำรวจงานเยอะ ยุ่งจนไม่มีเวลาดูข่าวที่เป็นครหา ดังนั้นจึงไม่รู้จักเวินลั่วฉิง พูดให้ถูกต้องก็คือไม่รู้ว่าเวินลั่วฉิงเกี่ยวพันกับเย่ซือเฉินและตระกูลเย่
“เป็นพี่สะใภ้สามจริงๆด้วย！เมื่อกี้ผมยังคิดว่าตัวเองตาฝาดสักอีก？”หัวหน้าสำนักงานฉิงถอนหายใจอย่างเด่นชัด น้ำเสียงมีความเกินจริงหลายส่วน
“พี่สะใภ้สามอยู่ไหน？”หัวหน้าสำนักงานฉิงรีบถามอีกหนึ่งประโยค เขาสังเกตดูแล้วจึงสรุปเองว่า “พี่สะใภ้สามอยู่สถานีท้องที่ที่ไหน？”
“อืม อยู่สถานีตำรวจท้องที่ในชิงถาย”เวินลั่วฉิงไม่ได้ปิดบัง เพราะไม่มีอะไรน่าปิดบังอยู่แล้ว
“พี่สะใภ้สาม ไม่ยุติธรรมเลยนะ คุณลำเอียงมากๆ”หัวหน้าสำนักงานฉิงเอ่ยปากประท้วงทันที
เวินลั่วฉิงชะงัก？ตามจังหวะหัวหน้าสำนักงานฉิงไม่ทัน
ทำไมเธอถึงลำเอียง？
ทุกคนในห้องทำงานจ้องหัวหน้าสำนักงานฉิงที่แย่งชิงความเอ็นดูเหมือนเด็กๆด้วยตากลมโต……
คิก ก็ได้ นั่นมันหัวหน้าสำนักงานฉิงของพวกเขา พูดส่งเดชไม่ได้
แน่นอน ไม่มีใครเข้าใจคำว่า ลำเอียง ของหัวหน้าสำนักงานฉิง ส่วนเหล่าหลี่ก็ยิ่งแล้วใหญ่
“พี่สะใภ้สาม สถานีตำรวจท้องที่เล็กๆก็สามารถเชิญคุณไปได้？พี่สะใภ้สาม ผมเชิญหลายรอบแล้วนะ แต่คุณก็ไม่รับปากเลยสักครั้ง แล้วทำไมคุณถึงไปช่วยที่นั่นล่ะ？พี่สะใภ้สาม ใครออกหน้าเชิญคุณไป？พี่สะใภ้สามบอกมาได้เลย ผมรับรองว่าจะไม่ตีเขาให้ตาย”หัวหน้าสำนักงานฉิงเป็นคนหัวร้อนมาแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นไม่จำเป็นต้องถาม เขาพูดให้ฟังเองอยู่แล้ว
ทว่า คำพูดของหัวหน้าสำนักงานฉิงเหนือความคาดหมาย ที่แท้คำว่า ลำเอียง หมายถึงอย่างนี้ใช่ไหม？
แต่ความหมายที่หัวหน้าสำนักงานฉิงสื่อออกมาทำให้ผู้คนตกตะลึงมาก ไม่รู้ว่าหัวหน้าสำนักงานฉิงหมายถึงอะไร？
เวินลั่วฉิงตรงหน้าหัวหน้าสำนักงานฉิงอยากเชิญก็เชิญไม่ได้？
จากนั้นยอดคนที่หัวหน้าสำนักงานฉิงเชิญไม่ได้ ตอนนี้ช่วยพวกเขาไขคดีอยู่ในสถานีตำรวจท้องที่！
ดังนั้น？บุคคลที่ยืนอยู่ด้านหน้าพวกเขาเป็นยอดคนจากที่ไหนนะ？
หรือเมื่อกี้เธอแค่ดูวิดีโอรอบเดียวก็สามารถปิดคดีได้ คิก ยังไขคดีไม่ได้ แต่เชื่อว่าคงได้ปิดในไม่นานอย่างแน่นอน
เพราะพวกเขามียอดฝีมือช่วยเหลือ！！
โอ๊ย ทำไมจู่ๆพวกเขาถึงรู้สึกภาคภูมิใจเหลือเกิน？
สถานีตำรวจท้องที่แล้วไง？หน่วยงานเราก็มีความภาคภูมิใจเหมือนกัน！！
วันนี้เวินลั่วฉิงมองหัวหน้าสำนักงานฉิงที่เป็นคนมีอารมณ์ขำแล้วเธอเองก็อยากหัวเราะ：“ฉันไม่ได้มาช่วยทำคดี แค่มาจัดการธุระส่วนตัวเฉยๆ”
“ออ งั้นยังพอว่า”หัวหน้าสำนักงานฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้รู้สึกแย่ขนาดนั้นแล้ว
“พี่สะใภ้สาม คุณมีธุระส่วนตัวอะไร？มีอะไรบอกผมได้เลย จะกล้าให้คุณวิ่งไปสถานีตำรวจท้องที่เล็กๆได้ยังไง”หัวหน้าสำนักงานฉิงเริ่มทำความเข้าใจได้เล็กน้อยแล้ว แต่มีอะไรให้พี่สะใภ้สามต้องไปด้วยตัวเอง？
เวลาพี่สะใภ้สามมีค่ามาก พี่สะใภ้สามต้องทำคดีใหญ่ เสียเวลากับเรื่องเล็กน้อยไม่ได้
หากพี่สามรู้ว่าเรื่องเล็กน้อยก็รบกวนพี่สะใภ้สามไปที่สถานีตำรวจท้องที่ละก็ พี่สามต้องถลกหนังของเขาแน่ๆ
คุณตำรวจอู๋ได้ยินคำพูดของหัวหน้าสำนักงานฉิงก็ตกใจจนเหงื่อซึมออกมาทั้งตัว เพราะตอนเวินลั่วฉิงพึ่งมา เขายังตำหนิเวินลั่วฉิงอยู่เลย ที่นี่แหละตายแน่！！
“พี่สะใภ้สามเรื่องเล็กๆพวกนี้คุณก็ไม่ต้องสนใจแล้ว มอบหมายให้สถานีตำรวจท้องที่ทำก็พอ ถ้ามีอะไรก็ให้พวกเขาติดต่อผมได้เลย”หัวหน้าสำนักงานฉิงไม่ได้พูดเปล่า เขาพูดได้ทำได้：“พี่สะใภ้สามให้คนรับผิดชอบคดีคุยกับผมหน่อย”
