ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่89 บิดาผู้ให้กำเนิด

ตอนที่89 บิดาผู้ให้กำเนิด

“รุ่นพี่ไม่รู้” เวินลั่วฉิงนิ่งไป เธอรู้สึกแปลกกับคำถามนี้ของมู่หรงดัวหยาง เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับรุ่นพี่ไม่ใช่รึ

นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ

“เธอไม่ได้บอกพี่ใหญ่รึ” มู่หรงดัวหยางแอบสูดลมหายใจลึก “เธอไม่คิดจะบอกพี่ใหญ่รึ”

มู่หรงดัวหยางจ้องเวินลั่วฉิง เขาทำหน้าแบบเหลือเชื่อ เรื่องแบบนี้ เธอไม่คิดจะบอกพี่ใหญ่จริงๆรึ!!

“ทำไมต้องบอกรุ่นพี่ด้วยล่ะ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน ไม่จำเป็นต้องบอกรุ่นพี่ รุ่นพี่มีเรื่องสำคัญมากมายต้องทำตอนทั้งวัน อย่าเอาเรื่องเล็กๆแค่นี้ไปรบกวนสมองเขา พี่แค่ไปทำการตรวจสอบมาก็พอแล้ว” เวินลั่วฉิงเหลือบมองเขาไป เพราะว่าปกติมู่หรงดัวหยางชอบกลัวรุ่นพี่มาก ราวกับว่าทุกเรื่องต้องคอยรายงานรุ่นพี่อยู่เสมอ ดังนั้นตอนนี้เวินลั่วฉิงจึงไม่ได้คิดอะไรมาก

แต่ว่า ปฏิกิริยาของมู่หรงดัวหยางดูท่าจะเกินไปหน่อย

มู่หรงดัวหยางจ้องเธอ แววตาคู่นั้นกระพริบถี่รัว มุมปากเขาอดไม่ได้ที่จะเม้มไว้เล็กน้อย พี่ใหญ่ยุ่งมาก มีเรื่องสำคัญมากต้องจัดการ แต่เขารู้ดีว่าในใจพี่ใหญ่ เรื่องของเวินลั่วฉิงนั้นสำคัญที่สุด

หลายปีมานี้ พี่ใหญ่คิดอย่างไรกับเธอ พวกเขาต่างรู้กันดี แต่ทำไมเวินลั่วฉิงเองกลับไม่รู้

เขาไม่เข้าใจเลย เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรรม รู้ทุกความเคลื่อนไหวของคนอื่น เข้าใจในสิ่งที่คนอื่นพูดและกระทำ แต่ทำไมกลับบอดในเรื่องของความรู้สึก

พี่ใหญ่ชอบเธอออกขนาดนั้น เรื่องอย่างนี้ แน่นอนว่าควรที่จะบอกพี่ใหญ่ตั้งแต่วินาทีแรกที่รู้

เวินลั่งฉิงมองไปรอบๆห้อง เธอเห็นมู่หรงดัวหยางนิ่งอึ้งไม่เคลื่อนไหว เธอจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย “พี่นั่งนิ่งอยู่ทำไม ทำไมยังไม่รีบไปตรวจอีก”

“ถ้าหากตรวจแล้วพบว่าลูกเป็นของเย่ซือเฉิน เธอจะทำอย่างไรต่อ” มู่หรงดัวหยางลอบถอนหายใจ เสียงเจือไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเล็กๆ

ถ้าหากว่าผลออกมาว่าลูกเป็นของเย่ซือเฉินล่ะก็ เธอจะพาลูกทั้งสองคนไปหาเย่ซือเฉินรึเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นพี่ใหญ่คงจะปวดใจไปจนตายเลยรึเปล่า

“พี่ไปตรวจก่อนเถอะ” เวินลั่วฉิงอึ้งไป เธอจะทำอย่างไรต่อน่ะรึ คำถามนี้ เธอยังไม่ได้คิดให้รอบคอบเลย ไว้ดูผลก่อนแล้วค่อยว่ากัน

“ผมตรวจอย่างเร็วก็ต้องใช้เวลาสิบสองชั่วโมงกว่าจะรู้ เธอจะอยู่รอผลที่นี่หรือไง หรือว่าจะให้พี่ส่งผลให้เธอทีหลัง” ยังไม่ได้รับคำตอบแน่ชัดจากเธอ ใจมู่หรงดัวหยางก็รู้สึกสลักซับซ้อนขึ้นมา แต่ว่า เธอต้องการทำการตรวจสอบเขาก็จะช่วยเธอทำการตรวจสอบ

“ผลออกแล้วพี่โทรบอกฉันหน่อย” เวินลั่วฉิงนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบันกับเย่ซือเฉิน เธอคงไม่สามารถรอถึงสิบสองชั่วโมงได้ ได้แต่รอให้ผลออกก่อนแล้วค่อยกลับมาดู

“ได้” มู่หรงดัวหยางรับคำเบาๆ ดูเหมือนว่าจะแอบโล่งใจอยู่บ้าง

แต่ว่าเวินลั่วฉิงก็ไม่ได้รีบกลับไปในทันที เธอยืนดูมู่หรงดัวหยางทำการสกัดดีเอ็นเออยู่ข้างๆ เพราะว่าผมเส้นนี้เธอเอามาจากหวี เวินลั่วฉิงกลัวว่าจะใช้การไม่ได้

“ว่าไง ไม่ไว้ใจพี่หรอ ยังยืนจ้องอยู่ตรงนี้อยู่ได้” มู่หรงดัวหยางเห็นเวินลั่วฉิงคอยยืนจ้องอยู่ข้างๆ จ้องจนเขารู้สึกกดดัน เขารู้ถึงความสามารถของเวินลั่วฉิง สายตาของเวินลั่วฉิงร้ายกาจกว่ารังสีxเสียอีก ไม่มีอะไรสามารถปิดบังเธอได้

ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอะไร แต่การถูกเธอจ้องเช่นนี้ นั่นก็ยังทำเอาเขาสั่นๆ

“มู่หรงดัวหยาง พี่คิดอะไรอยู่” เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดเขา นัยน์ตาเขาก็เบือนไป หันไปมองหน้าเธอ เมื่อเห็นลักษณะท่าทางแปลกๆของเขา เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วขึ้นมาน้อยๆ “บอกมาสิ พี่มีอะไรให้ฉันไม่ไว้ใจรึเปล่า หรือว่า พี่คิดที่จะทำอะไร”

เวินลั่วฉิงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา แค่จ้องนิดเดียวก็ทำเอามู่หรงดัวหยางสติแตก เห็นเบาะแสเข้าแล้ว

“พี่จะไปทำอะไร เรื่องของเธอพี่จะไปกล้าทำอะไรได้” มุมปากมู่หรงดัวหยางกระตุกอย่างแรง เรื่องของเธอเขาจะไปกล้าทำอะไรได้ แค่คิดถึงเรื่องที่ไม่สมควรนิดเดียวก็ถูกเธอจับได้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงจะไปทำอะไรเลย

“ก็แค่พอเธอยืนอยู่ตรงนี้ พี่รู้สึกเครียด ถูกสายตา ‘อยู่ยงคงกระพัน’ ของเธอจับจ้องแบบนี้ ใครจะทนได้บ้าง” มู่หรงดัวหยางเบ้ปาก ทำท่าน้อยใจเล็กน้อย สิ่งที่เขาพูดเป็นความสัตย์จริง

“สกัดดีเอ็นเอเสร็จรึยังล่ะ” เวินลั่วฉิงทำปากงุ้มงอ เธอรู้ว่ามู่หรงดัวหยางไม่ชอบให้จับตาดู ดังนั้น เธอยืนดูอยู่ข้างๆแน่นอนว่าต้องทำให้เขาอึดอัด

“แน่นอน สงสัยในความสามารถพี่หรืออย่างไร” เมื่อได้ยินคำนี้ของมู่หรงดัวหยาง เธอก็รู้สึกหายห่วง ความสามารถเขานั้นเธอไร้ข้อสงสัย

“ผลออกแล้วพี่โทรหาฉันนะ” เวินลั่วฉิงไม่ได้อธิบายอะไรมาก ด้วยนิสัยมู่หรงดัวหยาง เธอพูดไปหนึ่งคำ เขาจะตอบกลับมาสิบคำ ไม่จบไม่สิ้น

หลังจากที่เวินลั่วฉิงไปแล้ว มู่หรงดัวหยางก็นำดีเอ็นเอที่สกัดออกมาได้แล้วออกมา เขาคิด หรือว่าจะหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาพี่ใหญ่ดี

“พี่ใหญ่ วันนี้ลั่วฉิงเอาเส้นผมมาตรวจหาดีเอ็นเอ” พอมีคนรับสายมู่หรงดัวหยางก็รีบรายงานสถานการณ์อย่างรวดเร็ว คำพูดเขาหยุดชะงัก จากนั้นก็พูดเสริมต่อ “ตรวจสอบความเป็นพ่อลูกของเด็กน้อยทั้งสองคน”

“…” ชายที่ปลายสายนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ผมทราบแล้ว”

เสียงของเขาทุ้มต่ำ ฟังไม่ออกถึงความผิดปกติอันใด

“พี่ใหญ่ พี่จะไม่ถามหน่อยหรอว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร” มู่หรงดัวหยางตกตะลึง พี่ใหญ่มีปฏิกิริยาเช่นนี้หรือ แค่บอกว่าทราบแล้วแค่นี้หรอ

อย่างน้อยพี่ใหญ่ก็น่าจะถามหน่อยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครไม่ใช่หรือ

“ผมรู้ว่า คือเย่ซือเฉิน” เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มจากที่ปลายสายดังแว่วมา ยังคงฟังไม่ออกถึงความผิดปกติอันใด

มู่หรงดัวหยางนิ่งอึ้งไป ที่แท้พี่ใหญ่ก็รู้ แต่ว่าลั่วฉิงบอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้บอกกับพี่ใหญ่ แล้วพี่ใหญ่รู้ได้อย่างไร

แต่ด้วยความสามารถของพี่ใหญ่ เรื่องที่พี่ใหญ่อยากรู้ พี่ใหญ่ก็มีวิธีที่จะรู้จนได้

พี่ใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องของเวินลั่วฉิงมากที่สุด เรื่องของเวินลั่วฉิงพี่ใหญ่ย่อมรู้ดี

ดูเหมือนว่าเขาจะกังวลมากไป

“พี่ใหญ่ ถ้าอย่างนั้นผมจะไปตรวจสอบต่อ ลั่วฉิงกำลังรออยู่”

มู่หรงดัวหยางรออยู่ครู่หนึ่ง คนที่ปลายสายก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขากำลังคิดที่จะวาง

“ฉิงฉิงบอกว่าจะมารับผลด้วยตัวเองรึ” แต่ว่า ขณะที่มู่หรงดัวหยางกำลังคิดที่จะวางสาย ชายคนนั้นก็ถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง

“เธอแค่บอกว่า ผลออกมาแล้วให้ผมโทรบอกเธอ ไม่ได้บอกว่าจะมารับผลด้วยตัวเอง” มู่หรงดัวหยางไม่ได้คิดอะไรมาก เขาแค่ตอบไปโดยธรรมชาติ

“อื้อ ผมทราบแล้ว คุณตรวจสอบต่อไปเถอะ” ฟังไม่ออกว่าชายที่ปลายสายนั้นมีอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น

“พี่ใหญ่ ผมตรวจออกมาแล้ว จะให้ผมบอกพี่ก่อนรึเปล่า” มู่หรงดัวหยางคิดว่าพี่ใหญ่น่าจะยังสนใจเรื่องนี้อยู่

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset