“หนูบอกว่าไม่ต้องมายุ่ง ทำไมยังไม่ฟังกันอีก？” เด็กหญิงจ้องมองไปที่คุณหลิวด้วยความโกรธ เสียงตะโกนของความโกรธเป็นที่น่าหดหู่ของผู้ที่ได้ยิน
“คนแซ่หลิว เธอกำลังทำอะไร ? วางแผนทำร้ายผู้อื่น บิดเบือนข้อเท็จจริง วันที่เกิดเรื่องกับเสี่ยวยวี่ ฉันไม่ได้ไปหาเธอ และฉันก็ไม่เคยทำร้ายเธอ ที่เธอพูดนั้นโกหกทั้งเพ”สีหน้าของหลี่หมิงก็ฉายแววความโกรธเคืองด้วยเช่นกัน
“เรื่องมันเป็นยังไง ? ถึงเวลาทุกอย่างจะกระจ่างเอง หากคุณไม่เคยทำ คุณจะไปกลัวอะไร ? ” คุณหลิวจ้องมองไปที่หลี่หมิง แค่นเสียงฮึออกมาจากลำคอ
“คุณหลี่ อย่ากังวลไป ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายกฎหมาย หรือมูลนิธิพิทักษ์สตรีและเด็กประชาชาติ พวกเขาทำทุกอย่างบนพื้นฐานของหลักฐาน หากคุณไม่เคยทำมัน คุณก็ไม่ต้องเป็นกังวล ถึงเวลาพวกเขาจะคืนความบริสุทธิ์ให้คุณเอง ” นักข่าวที่ยืนอยู่ข้างๆหลี่หมิงสบจังหวะแล้วพูดออกมา เขาหยุดไปชั่วขณะ และพูดเสริมอีกว่า ：“และแน่นอนหากว่ามีคนทำผิดจริง เขาก็หนีบทลงโทษของกฎหมายไม่พ้นแน่นอน ”
ประโยคนี้ฟังดูแล้วมีความหมายลึกซึ้งยิ่งนัก
“นักข่าวพูดถูก คุณหลี่ คุณควรเชื่อในกระบวนการยุติธรรมของกฎหมาย เรื่องนี้ เราต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบ และเก็บรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียด ไม่ใส่ร้ายใครคนใดคนหนึ่งแน่นอน และยิ่งไม่ปล่อยให้คนชั่วได้ลอยนวลไปเช่นกัน” เจ้าหน้าที่โจวเท่อก็แสดงความคิดเห็นออกไป
“เพราะคุณหลิวบอกว่าเธอจะฟ้องคุณในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นฝ่ายกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะเข้ามามีส่วนร่วมด้วย และแน่นอนว่าทางเราจะช่วยคุณหลิวสืบหาพยานหลักฐานด้วยเช่นกัน และเราจะช่วยสนับสนุนในด้านฝ่ายกฎหมายโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น คุณหลี่ หวังว่าคุณจะเตรียมความพร้อมไว้ด้วย หรือหากคุณต้องการจะจ้างทนายก็ทำได้ ” เจ้าหน้าที่โจวเท่อคิดไปคิดมา ก็พูดเสริมไปอีกสองสามคำ
หลังจากที่เจ้าหน้าที่โจวเท่อพูดจบ ก็เดินออกไป แต่คราวนี้คุณหลิวไม่ได้รั้งเขาไว้
คุณหลิวไม่ได้ตามไปด้วย แต่เธอมองไปที่ลูกสาวของเธอ
“ฉันเกลียดคุณ ฉันเกลียดคุณ เพราะคุณ มันเป็นเพราะคุณ คุณไม่ได้ช่วยฉัน คุณกำลังทำร้ายฉัน ใครให้คุณเข้ามายุ่งกัน คุณไม่รู้อะไร ทำไมคุณต้องเข้ามาวุ่นวายด้วย ฉันเกลียดคุณ”อารมณ์ของเสี่ยวยวี่เปลี่ยนไปทันที ตะโกนใส่คุณหลิวด้วยความโกรธ
ทุกคนต่างแปลกใจ ตามหลักแล้ว ต่อให้เด็กหญิงจะไม่พอใจแม่ของเธอจริงๆ แต่เด็กหญิงก็ไม่น่าที่จะขุ่นเคืองในเรื่องเพียงเท่านี้
มันดูแล้วผิดปกติเป็นอย่างมาก ！！
“เสี่ยวยวี่ แม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ แม่จำต้องทวงความยุติธรรมให้ลูก และจำต้องให้คนชั่วที่ทำร้ายหนูถูกลงโทษ”
ในตอนที่คุณหลิวพูดประโยคนี้ สายตาก็หันไปมองหลี่หมิง สื่อความหมายที่ลึกซึ้งบางอย่าง
หลี่หมิงสบสายตาเข้ากับเธอ ทันใดนั้นร่างกายก็แข็งทื่อ ในใจรู้สึกผิด และตื่นตระหนก ผู้หญิงคนนี้รู้อะไรหรือยังไง ?
หากเธอรู้อะไรมาจริงๆ จะทำลายแผนการของเขาหรือเปล่า ?
ไม่ได้ เขาต้องหาทางหยุดยั้งเธอ จะปล่อยให้เธอทำลายแผนการของเขาไม่ได้
“หลี่หมิง ฉันจะยืนฟ้องคุณ มีมูลนิธิพิทักษ์สตรีและเด็กประชาชาติช่วยเหลือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะเข้ามาจัดการ ฉันเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดไม่นานก็จะกระจ่าง ” คุณหลิวเห็นท่าทีตื่นของลูกสาว รู้ดีว่าพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเธอจึงหันไปมองที่หลี่หมิง แล้วพูดสิ่งที่เก็บซ่อนไว้ในใจ
ดวงตาของหลี่หมิงหรี่ลง ในใจก็ยิ่งตื่นตระหนก แต่ตอนนี้ยังมีนักข่าวอยู่ เขารู้ว่าจะตื่นตระหนก และร้อนรนตอนนี้ไม่ได้：“ ผู้หญิงไร้ยางอายแบบเธอ เธออยากจะใส่ร้ายฉัน มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ ”
คุณหลิวมองไปที่เขา และไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ทำเพียงมองไปที่ลูกสาวแทน จากนั้นก็จากไป
จากนั้นนักข่าวต่างก็เดินทางกลับเช่นกัน
และจากนั้นสื่อต่างก็เสนอข่าวว่าคุณหลิวแม่ของเด็กหญิงยื่นฟ้อง หลี่หมิง
และในไม่ช้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะเข้ามามีส่วนร่วม และเริ่มการสืบสวนตรวจสอบ
เพราะคุณหลิวบอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่20 ดังนั้น ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงต้องดำเนินการตรวจสอบการเดินทางเคลื่อนไหวของหลี่หมิงโดยละเอียดในวันนั้น
เหตุการณ์นี้เหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเด็กหญิง แต่วันนั้นเป็นวันที่เด็กหญิงเองเกิดเรื่องขึ้น
ตำรวจต้องการตรวจสอบว่าวันนั้นหลี่หมิงทำอะไรบ้าง และเรื่องอื่นๆก็จะถูกค้นพบอย่างมีเหตุมีผลเป็นขั้นเป็นตอนชัดเจน
เรื่องนี้แม่ของเด็กเป็นตัวตั้งตัวตี เพราะฉะนั้นจึงไม่มีใครตั้งคำถาม เรื่องทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอนอย่างธรรมชาติ และการตรวจสอบก็เป็นไปอย่างราบรื่น
เรื่องที่ดำเนินการไปนั้น ความคิดเห็นต่างๆบนโลกออนไลน์ทุกคนต่างก็เห็นว่าสิ่งที่คุณหลิวทำนั้นถูกต้องแล้ว
และชาวเน็ตจำนวนมากต่างก็เสนอให้ตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นด้วย
“ฉันจำได้วันที่เด็กหญิงเกิดเรื่องในวันรุ่งขึ้น ถังหยุนเฉิงก็ออกมาอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่เพราะตอนนั้นทุกคนต่างก็เห็นอกเห็นใจเด็กหญิง ไม่เชื่อถังหยุนเฉิง ตอนนี้ฉันคิดว่าควรให้ตำรวจตรวจสอบว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และดูสิว่ามันเรื่องอะไรกัน ?”
“ใช่ ต้องตรวจสอบให้ละเอียด แม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงนั้นจะน่าเห็นใจไม่น้อย แต่เพราะเหตุนี้ ก็ยิ่งต้องตรวจสอบให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ก่อนหน้านั้นเพราะพ่อของเด็กหญิงไม่ได้ไปแจ้งความ และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานไหน ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงไม่สะดวกที่จะเข้าไปแทรกแซง แต่ตอนนี้ถือเป็นโอกาสดีตรวจสอบเรื่องนี้ไปด้วยเลย”
“ฉิงฉิง ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น ”ไป๋หยูหนิงเห็นเรื่องราวที่เป็นไป ใบหน้าก็ฉายรอยยิ้ม หัวหมุนมาหลายวัน ในที่สุดก็บรรลุผลแล้ว ต่อจากนี้ ก็ขึ้นอยู่กับเธอแล้ว
คุณฟู่ยืนอยู่ข้างเธอ แล้วเหลือบมองไปที่เธอ ผู้หญิงคนนี้อดหลับอดนอนติดต่อกันมาหลายวัน สติยังอยู่ครบถ้วนขนาดนี้ เธอไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจริงๆ ?
เธอไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่เขาดูแล้วทุกข์ใจแทน
“อืม”เวินลั่วฉิงพยักหน้าเล็กน้อย นี่เป็นสิ่งที่เวินลั่วฉิงได้วางแผนเอาไว้ เวินลั่วฉิงรู้ความตั้งใจของผู้ที่อยู่เบื้องหลังนี้ว่าต้องการจะทำอะไร
คนคนนั้นไม่ต้องการให้มีหน่วยงานเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเรื่องนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ นั้นจึงเป็นเหตุผลที่หลี่หมิงไม่เข้าแจ้งความ
คนที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้ต้องการใช้ความคิดเห็นของสังคมทำลายถังหยุนเฉิง
ในสถานการณ์แบบนี้ หากมีใครบอกว่าจะไปตรวจสอบเรื่องของเด็กหญิง คนที่อยู่เบื้องหลังจำต้องเติมเชื้อไฟให้เปลวเพลิง ยั่วยุให้ทุกคนรู้สึกไม่พอใจกับเรื่องนี้ และต่อต้านมันอย่างรุนแรง
ถึงตอนนั้นต่อให้ตำรวจจะค้นพบความจริงที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ก็จะไม่มีใครเชื่อ จะคิดเพียงว่าเบื้องหลังนั้นมีการสมรู้ร่วมคิดกัน และจะคิดว่าทั้งหมดนั้นเป็นแผนการของตระกูลถัง
หากเป็นแบบนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งยุ่งยากมากขึ้นไปอีก และถังหยุนเฉิงกับตระกูลถังก็จะยิ่งมีมลทินตลอดไป
นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของคนผู้อยู่เบื้องหลัง ! !
เพราะฉะนั้น เวินลั่วฉิงจึงตามหาตัวแม่ของเด็กคุณหลิวจนพบ จากนั้นก็ติดต่อคนของมูลนิธิพิทักษ์สตรีและเด็กประชาชาติ
เรื่องนี้ใครที่ออกหน้าต่างก็ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ และถูกใช้เป็นเครื่องมือจากผู้ที่อยู่เบื้องหลัง แต่กับแม่ของเด็กหญิงนั้นไม่เหมือนกัน อีกทั้งมีมูลนิธิพิทักษ์สตรีและเด็กประชาชาติ……
เรื่องนี้มัน……
