ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 993 ถูกลูกชายจัดการซะแล้ว คุณชายสามเย่งัดกลยุทธ์เด็ด นี่สิถึงจะสนุก! (2)

ฉู่หลิงเอ๋อคิดว่าเธออธิบายชัดเจนแล้ว ทุกคนต้องประมูลกันต่อแน่นอน

ถังจื่อโม่ได้ยินคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อ ก็เบ้ปากเล็กน้อย ในงานประมูล เสนอราคาไปแล้วก็แล้วกันไป ใครจะสนว่ามือลื่นไปกดหรือเปล่า ใครจะสนว่าเธอประมูลผิดไปไหม ถ้าหากเธอประมูลได้ในราคาที่สูง หลังจากนั้นเธอมาบอกว่ามือลื่นไปกดโดน แล้วฝ่ายผู้จัดประมูลจะไม่ให้เธอจ่ายเงินงั้นเหรอ?

นั่นไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด!!

ฉะนั้นการอธิบายนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรเลย

แต่ว่า มูลค่าของภาพวาดนั้นยังไงก็เกินหนึ่งร้อยล้าน ฉู่หลิงเอ๋อแสดงท่าทีอย่างนี้ออกมาตอนนี้ น่าจะมีคนประมูลกันต่อ

ทว่า สิ่งที่ทำให้ฉู่หลิงเอ๋อและถังจื่อโม่คาดไม่ถึงก็คือ หลังจากที่ฉู่หลิงเอ๋ออธิบายไปแล้ว ในงานยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ยังคงไม่มีคนกดกระดิ่ง และยังไม่มีใครประมูลต่อ

“ในเมื่อมือลื่นไปโดน แสดงว่าไม่ได้ต่อกรกับพวกเรา ลูกพี่ พวกเราจะประมูลต่อไหม?” ตอนนี้กู้หวูไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงได้ถามความเห็นจากคุณชายสามเย่

“ไม่ประมูล” คุณชายสามเย่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่ จู่ ๆ ก็ยิ้มกว้างออกมา

เขารู้สึกว่าวันนี้คึกคักมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ถึงแม้คนที่อยู่ในห้องหมายเลข 11 บอกว่าเมื่อครู่มือลื่นไปโดน แต่เขากลับไม่คิดอย่างนั้น อีกทั้งเสียงของคนที่อยู่ในห้องหมายเลข 11 นั้นเขาฟังแล้วรู้สึกคุ้นหูเหลือเกิน

ดังนั้น เขาจึงไม่ประมูลต่อแล้ว

“หัวหน้าน้อยครับ คุณชายสามเย่ไม่ประมูลแล้ว พวกเราก็ไม่ต้องประมูลแล้ว เป้าหมายของคุณคือคุณชายสามเย่ ต่อกรกับคุณชายสามเย่ก็พอแล้ว” ในห้องหมายเลข 10 อะเฉียงจ้องมองหัวหน้าน้อยของตัวเองตรง ๆ กลัวว่าหัวหน้าน้อยจะบุ่มบ่ามไปกดกระดิ่งอีก

“ฉันไม่โง่สักหน่อย จำเป็นต้องให้แกบอกด้วยเหรอ? ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร ฉะนั้นฉันจะไปหาเรื่องคนที่อยู่ห้องหมายเลข 11 ไม่ได้ มือลื่นเหรอ? ประมูลผิดเหรอ? มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่เชื่อ ถ้าหากหล่อนไม่ได้คิดจะต่อกรกับคุณชายสามเย่ แล้วทำไมถึงได้มามือลื่นเผลอกดกระดิ่งไปในสถานการณ์อย่างนี้?” ช่วงเวลาคับขันอย่างนี้หัวหน้าน้อยยังคงฉลาดรอบคอบมาก แน่นอนว่า เวลาที่หัวหน้าน้อยมีท่าทีจริงจังเขาก็จะเก่งกาจเสมอ

ตอนนี้ภายในงานเงียบสงบมาก เงียบมากจริง ๆ ไม่มีใครพูดคุยกัน และไม่มีเสียงกระดิ่งดังขึ้น

เดิมทีคุณชายสามเย่คิดจะแข่งกับคุณมู่จากห้องหมายเลข 10 และคุณมู่จากห้องหมายเลข 10 ก็ต่อกรกับคุณชายสามเย่เท่านั้น

ดังนั้นหลังจากที่ฉู่หลิงเอ๋อจากห้องหมายเลข 11 ประมูลภาพวาด คุณชายสามเย่ก็ไม่มีการเคลื่อนไหว คุณมู่เองก็ไม่เคลื่อนไหวเช่นกัน

คนอื่น ๆ ต่างก็กังวลใจ ยังไงซะเมื่อครู่คุณชายสามเย่ก็ได้ประมูลไปแล้วหนึ่งครั้ง แม้ว่าหลังจากคนในห้องหมายเลข 11 ประมูลต่อแล้วคุณชายสามเย่ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณชายสามเย่ไม่ประมูลแล้วพวกเขาจะประมูลกันต่อ

ถ้าหากพวกเขาประมูลกันต่อ แล้วคุณชายสามเย่ประมูลขึ้นมาอีกครั้ง ถึงตอนนั้นสิ่งของคงไม่ตกเป็นของพวกเขาแน่นอน และกลัวว่าจะผิดใจกับคุณชายสามเย่อีกด้วย

ยังไงซะตอนที่คุณชายสามเย่กดประมูล จากนั้นคนในห้องหมายเลข 11 ก็แย่งประมูลต่อทันที แต่คุณชายสามเย่กลับไม่ตอบโต้ใด ๆ ไม่แน่ว่าคนในห้องหมายเลข 11 อาจจะเกี่ยวข้องอะไรกับคุณชายสามเย่ก็เป็นได้

คนในงานต่างก็เป็นคนฉลาดกันทั้งนั้น และคิดมากกันอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าประมูลกันต่อ

เวลาค่อย ๆ ไปผ่านทีละนิด แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครมาประมูลต่อจากฉู่หลิงเอ๋อ

พิธีกรอึ้งไปเลย ภาพวาดมีชื่อเสียงภาพนี้ มูลค่าของภาพวาดมีชื่อเสียงภาพนี้ยังไงก็ไม่ใช่แค่หนึ่งร้อยล้าน แต่ตอนนี้กลับประมูลราคานี้ออกมา เขาจะชี้แจงให้เถ้าแก่ฟังยังไงดีล่ะ?

แต่ว่าตอนนี้ไม่มีใครประมูลต่อแล้ว ตามกฎการประมูลสินค้า ภาพวาดมีชื่อเสียงภาพนี้ต้องตกเป็นของคนที่อยู่ในห้องหมายเลข 11

“หนึ่งร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง หนึ่งร้อยล้านครั้งที่สอง หนึ่งร้อยล้านครั้งที่สาม ภาพวาดมีชื่อเสียงภาพนี้ตกเป็นของคุณผู้หญิงจากห้องหมายเลข 11 ครับ” พิธีกรรอเพียงครู่เดียว ก็แน่ใจว่าไม่มีใครประมูลต่อแล้ว จึงได้แต่ประกาศผลออกมา

หลังจากที่พิธีกรประกาศผลแล้วก็ได้แอบถอนหายใจออกมา เรื่องแปลกประหลาดมีได้ทุกวัน แต่วันนี้กลับมีมากเป็นพิเศษ เขาทำงานอยู่ที่สมาคมประมูลหงเยว่มานานหลายปี เป็นพิธีกรในงานประมูลหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เจอกับสถานการณ์อย่างนี้

ดูแปลกประหลาดไปหน่อยนะ

คนจากห้องหมายเลข 11 เหมือนได้ลาภก้อนโตเลย คุณผู้หญิงท่านนั้นได้ของราคาถูกมากเหลือเกิน!!

“ไอหยา ตกเป็นของพวกเราแล้วจริง ๆ สินะ?” ฉู่หลิงเอ๋อจากห้องหมายเลข 11 ที่เหมือนได้ลาภก้อนโตกลับมีสีหน้ากลัดกลุ้ม : “ทำยังไงดีล่ะ ฉันไม่ได้พกเงินมามากขนาดนั้น ฉันจะให้คนโอนเงินมาให้แล้วกัน ไม่อย่างนั้นอีกเดี๋ยวพวกเราคงได้ถูกกักตัวไว้ที่นี่แน่”

จื่อโม่เพิ่งบอกเมื่อครู่นี้ว่าเขาไม่ได้พกเงินมาเลย ถึงแม้จื่อโม่จะบอกว่าของที่เขาประมูลจะมีคนจ่ายเงินให้ แต่ฉู่หลิงเอ๋อกลับไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่

ดังนั้นปัญหาเรื่องเงิน ยังไงเธอก็ต้องหาทางจัดการ

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องรีบร้อน จะมีคนจ่ายเงินให้พวกเราเอง” ถังจื่อโม่กลับมีท่าทางสบายใจ ไม่ร้อนใจเลยแม้แต่น้อย

ฉู่หลิงเอ๋อมองไปที่ถังจื่อโม่ ด้วยความลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจเชื่อคำพูดของถังจื่อโม่ ไม่แน่จื่อโม่อาจจะมีหนทางจริง ๆ ก็ได้

ถ้าหากจัดการไม่ได้จริง ๆ ถึงเวลาค่อยให้คนโอนเงินมาให้ก็ยังทัน แม้ว่าเงินหนึ่งร้อยล้านจะค่อนข้างมาก แต่สำหรับมู่หรงดัวหยางแล้วเงินนั่นก็ไม่เท่าไหร่หรอก เขาน่าจะมีเงินมากพอ

การที่ฉู่หลิงเอ๋อไม่ได้รีบร้อนให้มู่หรงดัวหยางโอนเงินมาให้นั้นยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง ก็คือภาพวาดมีชื่อเสียงภาพนี้คุ้มค่ามาก ๆ ถ้าหากจื่อโม่ต้องการมัน เธอก็จะยอมยกให้จื่อโม่

เพียงแต่ จื่อโม่จะให้ใครจ่ายเงินให้เขากันแน่นะ? เรื่องนี้จื่อโม่ไม่ได้บอกให้คนอื่นรู้ แม้แต่ฉิงฉิงก็ไม่ได้บอก ฉะนั้นจะมีใครจ่ายเงินแทนจื่อโม่ได้อีกล่ะ?

ยังจะมีใครอีกล่ะ? !

ดวงตาของฉู่หลิงเอ๋อเป็นประกายขึ้นมาทันที : “จื่อโม่ ไม่ได้คิดจะให้คุณชายสามเย่ช่วยจ่ายเงินให้หรอกใช่ไหม?”

ตอนแรกเธอไม่กล้านึกถึงคุณชายสามเย่จริง ๆ เพราะแผนการตอนแรกของจื่อโม่คือต้องการแย่งประมูลของกับคุณชายสามเย่

แย่งประมูลของกับคุณชายสามเย่แล้ว หลังจากนั้นให้คุณชายสามเย่เป็นคนจ่ายเงิน การทำแบบนี้ เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ

แต่เมื่อฉู่หลิงเอ๋อตัดความน่าจะเป็นอื่น ๆ ทิ้งไป ก็นึกถึงเพียงคุณชายสามเย่เท่านั้น

ขณะที่ฉู่หลิงเอ๋อถามคำถามนี้ออกมา ดวงตาคู่นั้นจับจ้องไปที่แววตาของถังจื่อโม่ตรง ๆ เต็มไปด้วยความรู้สึกช็อกจนแทบไม่อยากจะเชื่อ

ถังจื่อโม่มองเธอ แล้วพยักหน้าช้า ๆ : “ผมคิดไว้แบบนั้นจริง ๆ นั่นแหละครับ”

“คุณพระ จื่อโม่ ช่างกล้าคิดนะ หนูแย่งของกับคุณชายสามเย่ แล้วจะให้คุณชายสามเย่จ่ายเงินเนี่ยนะ? หนูคิดบ้างหรือเปล่าว่าคุณชายสามเย่จะทำยังไงกับหนู?” ได้ยินคำตอบที่ชัดเจนของถังจื่อโม่ ฉู่หลิงเอ๋อก็ตกตะลึงจนถอนหายใจออกมา จื่อโม่ช่างกล้าเกินไปแล้ว

“เขาจะทำอะไรผมได้?” ถังจื่อโม่เบ้ปากเล็กน้อย : “หรือว่าเขากล้าตีผม?”

“จื่อโม่จ๊ะ ฉันคิดว่าหนูยังไม่ค่อยรู้จักคุณชายสามเย่ดีพอ ฉันได้ยินมาว่าถ้าหากคุณชายสามเย่อยากจัดการใครสักคน ก็จะทำให้คนคนนั้นเหมือนตายทั้งเป็น” ตอนที่ฉู่หลิงเอ๋อพูดประโยคนี้ ก็ทำท่าตัวสั่นด้วย ไม่รู้ว่ากลัวจริง ๆ หรือจงใจทำให้ถังจื่อโม่เห็น

ถังจื่อโม่มองฉู่หลิงเอ๋อ เขากะพริบตาปริบ ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร

“แน่นอนว่าหนูเป็นลูกชายของคุณชายสามเย่ หนูอาจจะคิดว่าคุณชายสามเย่คงไม่ทำอะไรลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองหรอก” ฉู่หลิงเอ๋อสบตากับถังจื่อโม่ แล้วเธอก็หยุดพูดครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดต่อว่า : “แต่ว่า หนูเคยได้ยินประโยคนี้ไหม คนเป็นพ่อลูกกันในชาตินี้คือศัตรูกันในชาติก่อน ฉะนั้น ฉันเป็นห่วงว่าคุณชายสามเย่จะทำกับหนูยิ่งกว่าทำกับคนอื่น……”

ฉู่หลิงเอ๋อพูดไม่จบ แต่ความหมายที่สื่อออกมาชัดเจนมาก

ถังจื่อโม่กะพริบตาปริบ ๆ อีกครั้ง และเม้มปาก ดูเหมือนจะวิตกกังวลเล็กน้อย

อาจจะรู้สึกกังวลใจอยู่บ้างเล็กน้อย

เย่ซือเฉินจะทำกับเขา เหมือนอย่างที่ทำกับศัตรูเหรอ? !

จะเป็นแบบนั้นเหรอ?

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset