ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END – บทที่ 135: จงดูแลร่างกายของคุณ

บทที่ 135: จงดูแลร่างกายของคุณ

เกรซ คาดิน เป็นลูกสาวคนที่สองของตระกูลคาดิน ซึ่งเป็นตระกูลของผู้มีพลัง​เหนือธรรมชาติที่มีชื่อเสียงในสมาคมพ่อค้าโรซ่า

ตั้งแต่อายุยังน้อย เธอได้รับการว่าจ้างโดยตระกูลโซโรฟยาให้คอยรับใช้ชาร์ล็อต โซโรฟยาในฐานะสาวใช้ส่วนตัว หลายปีที่พวกเธอใช้เวลาอยู่ร่วมกันได้สร้างสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเจ้านายและคนรับใช้ ซึ่งกลายเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมเกรซถึงตัดสินใจอยู่เคียงข้างชาร์ล็อต

เนื่องจากเกรซเกิดในตระกูลผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ เธอจึงเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์อันไม่ธรรมดาตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งตระกูลโซโรฟยาก็เล็งเห็นความสามารถนั้น พวกเขาจึงได้สนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็นต่อการเติบโตของเธอต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ส่งผลให้เธอไปถึงระดับแก่นแท้ 3 ได้ตั้งแต่ตอนที่เธอยังอายุไม่ถึงสามสิบ

ความแข็งแกร่งดังกล่าวทำให้เกรซสามารถเป็นหนึ่งในขุนนางชั้นสูงของเมืองโรซ่า หรือเข้ารับตำแหน่งทางการในกองทัพได้สบาย ๆ ถึงกระนั้น สาวใช้ก็เลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมดโดยไม่ลังเล แม้ว่าตระกูลคาดินจะบอกให้เธอยอมรับก็ตาม

“อย่าไป…”

เมื่อสี่ปีก่อนชาร์ล็อตได้คว้าแขนเสื้อของเกรซเอาไว้และพูดด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ ทำให้สาวใช้ตัดสินใจได้ ว่าแม้พวกเธอทั้งสองจะมีสถานะเป็นเจ้านายและคนรับใช้ แต่ความผูกพันที่พวกเธอมีให้กันนั้นเทียบได้กับสายสัมพันธ์ของพี่น้อง ซึ่งเป็นผลให้เธอไม่สามารถทิ้งชาร์ล็อตไว้คนเดียวได้

บางคนชอบพูดว่าชีวิตเป็นเกมแห่งโชคที่ตัดสินกันตั้งแต่แรกเกิด บนโลกนี้การเกิดในตระกูลโซโรฟยา ย่อมหมายความว่าเขาคนนั้นได้ถูกกำหนดโดยโชคชะตาให้มีชีวิตอันมั่งคั่งและรุ่งเรือง แต่ ‘พร’ นี้ก็ได้นำชาร์ล็อตไปสู่วัยเด็กอันแสนโชคร้ายเช่นกัน

เกรซที่เป็นสาวใช้ส่วนตัวของชาร์ล็อตได้เห็นมันด้วยตาของตัวเอง ว่าการมีมารดาบางทีก็อาจจะแย่กว่าการไม่มีมารดาเสียด้วยซ้ำ มารดาของชาร์ล็อตเป็นขุนนางที่นับถือในจักรวรรดิออสทีนแบบสุดโต่ง เกลียดชังลูกสาวของตนเองถึงขนาดมองว่าชาร์ล็อตเป็นดั่งจุดด่างพร้อยในชีวิต ผู้หญิงคนนั้นปราศจากความรู้สึกผิดในการรังเกียจบุตรสาวของตนเอง ความเสียหายทางจิตใจที่เธอทำเอาไว้กับลูกสาวนั้นเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการ

แม้แต่การทรมานทางร่างกายก็ไม่อาจเทียบได้

ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่ยังเด็ก ชาร์ล็อตจึงได้รับความบอบช้ำทางจิตใจอย่างมาก หลังจากที่พลังทางสายเลือดของเธอตื่นขึ้น สิ่งต่าง ๆ รอบตัวของเด็กสาวก็เปลี่ยนไปในทางที่ดี แต่เมื่อเป็นเรื่องของการแต่งงานและครอบครัว ความบอบช้ำทางจิตใจในอดีตย่อมหวนกลับมาอีกครั้ง ทำให้ชาร์ล็อตกลับมาเป็นเด็กที่หวาดกลัวและเปราะบาง

ทันทีที่เกรซได้ยินเรื่องการหมั้นหมายครั้งนี้ สาวใช้ก็ออกเสียงคัดค้านอย่างรุนแรง เธอเชื่อว่าการแต่งงานด้วยรักแท้เท่านั้นที่จะสามารถรักษาบาดแผลภายในใจของชาร์ล็อตได้ ที่ทำให้เธอต้องประหลาดใจที่สุดก็คือ ไม่รู้ว่าบรูซเป่าหูชาร์ล็อตด้วยเรื่องไร้สาระแบบไหน แต่ชาร์ล็อตก็ตกลงที่จะพบกับคู่หมั้นคนนั้น!

ในเมื่อชาร์ล็อตตัดสินใจยอมรับมันแล้ว เกรซก็ไม่สามารถที่จะรั้งเธอเอาไว้ได้ แต่อย่างน้อย ๆ สาวใช้ก็ต้องการที่จะทำการตรวจสอบคู่หมั้นของนายหญิงล่วงหน้าก่อนเธอ ว่าเขาเป็นบุรุษที่คู่ควรหรือไม่

มันถือเป็นเรื่องปกติในอดีตชาติของโรเอล ที่จะต้องคอยแอบตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียของคู่เดทตนเองเพื่อรวบรวมข้อมูลบางอย่างล่วงหน้า ขุนนางในโลกนี้เองก็ไม่ได้โง่เขลาเช่นกัน พวกเขาย่อมรู้ถึงความสำคัญของข้อมูล ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่พวกเขาจะส่งคนรับใช้ไปตรวจสอบคู่หมั้นของตนเองล่วงหน้า

ดังนั้นเกรซจึงถูกส่งไปที่คฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ดล่วงหน้าก่อนใคร เพื่อแจ้งให้พวกโรเอลทราบถึงนิสัยและความชอบต่าง ๆ ของชาร์ล็อต เพื่อให้พวกเขาสามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้ นี่เป็นขั้นตอนทั่วไปเมื่อขุนนางของอาณาจักรต่าง ๆ ที่ห่างไกลตัดสินใจมาเยี่ยมเยียนกัน นั่นก็เพราะบางทีความแตกต่างในวัฒนธรรมอาจจะนำไปสู่สถานการณ์อันน่าอึดอัดใจของทั้งสองฝ่ายได้นั่นเอง

ลองนึกภาพว่าฝ่ายคฤหาสน์ขุนนางที่รับรองเสิร์ฟเนื้อแกะเป็นอาหารค่ำให้กับแขกโดยที่พวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถทานได้ดูสิ! นั่นจะทำให้บรรยากาศโดยรอบแย่สักแค่ไหน!

เหตุผลการมานั้นถูกต้องตามหลักการของแวดวงขุนนาง อย่างไรก็ตามภารกิจหลักของเกรซก็คือการรวบรวมข่าวกรอง ทำให้สาวใช้เปี่ยมไปด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริง เพื่อส่งมอบมันให้กับนายหญิงตัวน้อยของเธอ!

บุคลิกของโรเอล แอสคาร์ด เป็นอย่างไร? สถานการณ์ บรรยากาศ และการเมืองภายในของตระกูลแอสคาร์ด เป็นอย่างไร?

ด้วยความมุ่งมั่นในใจ เกรซจึงได้เดินเข้าไปเคาะที่หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ด โดยไม่รู้มาก่อนเลยว่าข้างในนั้นมีกับดักที่ถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อนที่เธอจะมาถึงเสียอีก

“เกรซ คาดิน สาวใช้ส่วนตัวของชาร์ล็อต โซโรฟยา ยินดีที่ได้มาเยี่ยมชมคฤหาสน์ของตระกูลแอสคาร์ดในวันนี้”

“ดิฉันคือแอนนา เอลดอร์ สาวใช้ส่วนตัวของโรเอล แอสคาร์ด ในฐานะตัวแทนของตระกูลแอสคาร์ด ขอยินดีต้อนรับท่านสู่คฤหาสน์ของเรา”

ด้านในห้องโถงรับรอง เกรซและแอนนาทักทายกันอย่างมีเกียรติและสง่างาม รอยยิ้มของพวกเขาอบอุ่นดูเป็นธรรมชาติ ทำให้เมื่อสาวใช้ทั้งสองกล่าวนำ บรรยากาศก็ดูรื่นเริงขึ้นมา

ตระกูลโซโรฟยาและตระกูลแอสคาร์ดต่างก็ทักทายกันอย่างสุภาพเท่าเทียม ทัศนคติที่เคารพซึ่งกันและกันนี้ทำให้ฝั่งตระกูลแอสคาร์ดประทับใจในตัวเกรซ

เกรซนั้นเคยเป็นตัวแทนในฐานะทูตของชาร์ล็อตในการไปเยี่ยมเยียนตระกูลขุนนางผู้สูงศักดิ์มาแล้วหลายแห่ง คนรับใช้ของตระกูลขุนนางที่มีชื่อเสียงมักจะเอาแต่ใจ ในขณะที่คนรับใช้จากตระกูลขุนนางใหม่ก็มักจะถ่อมตัวเกินไป ทำให้เกรซไม่ค่อยได้รับการต้อนรับที่ดีจากตระกูลขุนนางผู้สูงศักดิ์เท่าไหร่ แต่ที่นี่ ตระกูลแอสคาร์ดสามารถบรรลุสิ่งนั้นได้

ทัศนคติของคนรับใช้มักจะสะท้อนถึงบุคลิกของผู้เป็นนายของพวกเขา ดังนั้นในแง่หนึ่ง นี่แสดงให้เห็นว่าตระกูลแอสคาร์ดมีวัฒนธรรมภายในเป็นเช่นไร

สมกับเป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงที่มีเชื้อสายยาวนานมากว่าพันปี

เกรซทำเครื่องหมายจุดเล็ก ๆ ลงในรายการตรวจสอบในใจของเธอ ระหว่างที่เดินเข้าไปในคฤหาสน์ภายใต้การนำทางของแอนนา สาวใช้มองดูของตกแต่งรอบ ๆ ไปเรื่อย ทีแรกเธอก็ไม่ได้สนใจพวกมันมากเท่าไหร่ เพราะแม้ว่าการตกแต่งของที่นี่จะค่อนข้างหรูหรา แต่มันก็ไม่ได้อลังการฟุ่มเฟือย นอกจากนี้ในฐานะคนรับใช้ของตระกูลโซโรฟยา เกรซนั้นคุ้นเคยกับความหรูหรามั่งคั่งจนแทบไม่มีอะไรจะสามารถสร้างความประทับใจให้กับเธอได้อีกแล้ว

อย่างไรก็ตามขณะที่พวกเธอกำลังเดินไปตามทาง สายตาของเกรซก็เริ่มเปลี่ยนไป เธอเหลือบมองไปยังประติมากรรมต่าง ๆ ที่วางอยู่ตรงมุมห้องนั่งเล่น งานศิลปะที่แขวนอยู่บนผนัง หรือแม้แต่เครื่องประดับเล็ก ๆ ตรงขอบบันได ทันใดนั้นเองสาวใช้ก็เริ่มเข้าใจถึงอะไรบางอย่าง

นี่มันโบราณวัตถุนี่นา

พวกมันทั้งหมดคือโบราณวัตถุหายากทั้งหมด และส่วนใหญ่ล้วนเป็นของสะสมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษอยู่เบื้องหลัง!

ในฐานะสาวใช้ส่วนตัวของชาร์ล็อต เกรซเคยเดินทางไปยังคฤหาสน์ตระกูลชนชั้นสูงมากมายในโรซ่า เธอเคยเห็นวิธีการต่าง ๆ ที่ขุนนางพยายามแสร้งทำเป็นร่ำรวยมีระดับด้วยความฟุ่มเฟือย แต่เธอไม่เคยเห็นตระกูลชั้นสูงที่โอ้อวดประวัติศาสตร์ในอดีตของตนอย่างถ่อมตนและสง่างามด้วยการแสดงโบราณวัตถุมากมายเช่นนี้มาก่อน

มันเป็นการแสดงอิทธิพลของตระกูลอันยอดเยี่ยมโดยแท้จริง แม้จะละเอียดอ่อนแต่ก็ทรงพลัง เรียกได้ว่าดีกว่าการกระทำโดยผิวเผินของตระกูลขุนนางอื่น ๆ มาก

นี่เป็นอีกครั้งที่เกรซได้จุดเครื่องหมายลงในรายการตรวจสอบในใจของเธอ

ระดับความพึงพอใจที่เกรซมีต่อตระกูลแอสคาร์ดนั้นสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา พวกเขาเหล่านี้มีมารยาทที่ดี มีประวัติศาสตร์เบื้องหลังอันยาวนาน อำนาจทางการเงิน และวัฒนธรรมอันดีงาม เหลือก็เพียงการประเมินตัวของโรเอล แอสคาร์ด ว่าที่คู่หมั้นของชาร์ล็อตเท่านั้น

“นายน้อยโรเอลยังไม่ตื่นอีกงั้นเหรอคะ?”

“ใช่แล้วค่ะ เมื่อคืนนายน้อยอ่านหนังสือจนเข้านอนดึก ดังนั้นเช้านี้เขาจึงต้องนอนพักผ่อนเพิ่มอีกสักหน่อย”

“เข้าใจแล้วค่ะ ขออภัยด้วยที่ถามโดยกะทันหัน”

เกรซขอโทษอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนหลังจากได้ยินข้อแก้ตัวอันสมเหตุสมผลของแอนนา

ขยันหมั่นเพียรศึกษา นับว่าเป็นคุณธรรมที่ดี ทว่าเขาควรที่จะดูแลร่างกายของตนเองให้ดีกว่านี้ด้วย

สาวใช้เหลือบมองไปยังประตูห้องนอนของโรเอลที่ปิดสนิทและพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ทันใดนั้น ประตูก็เปิดออก เผยให้เห็นร่างของเด็กสาวผมสีเงินผู้งดงามเดินออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าที่ดูไม่เรียบร้อย

ภาพนี้ทำให้ทุกคนต้องเงียบสนิท ทันใดนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของเกรซก็หยุดนิ่งไป

ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ

ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ

ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ
Score 5.9
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยาย ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบโรเอล แอสคาสต์ เด็กชายที่โชคชะตาของเขาได้ถูกกำหนดให้เป็นตัวร้ายและเป็นที่น่ารังเกียจในสายตาของใครหลายคน… ซ้ำร้ายชีวิตของเขาได้ถูกขีดเส้นตายไว้แล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเขาก็ต้องพบกับจุดจบที่โหดร้ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ และถ้าเป็นคุณล่ะ…จะทำเช่นไร !!! นี่คือปฐมบทเรื่องราวของชายหนุ่มที่หลงใหลคลั่งไคล้ในการเล่นเกม ที่ต้องมาใช้ชีวิตในเกมที่เขาเคยเล่นแต่ทว่าตัวละครที่เขาได้รับมานั้นกลับเป็น ‘ตัวร้าย’ ซะนี่ ภารกิจกำจัดเดธแฟล็ก{จุดจบของตัวละคร}จึงได้เริ่มต้นขึ้น เรื่องราวจะกลับตาลปัตรแค่ไหนมาร่วมลุ้นกันได้ใน ทรราชตัวน้อยไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END !!!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset