ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 110 ม่านพู่ลูกปัดมูลค่าเสียดฟ้า

“คุณผู้หญิง คุณกำลังพูดไร้สาระอะไร” ไทเลอร์ก้าวออกมาเพื่อจะโต้เถียงกับเธอ แต่ชางหลิงชี้ไปที่เท้าของเขา และยิ่งร้องไห้เสียงดังขึ้นอีก
“คุณดูสิๆ มันตายหมดแล้ว คุณยังจะเหยียบศพมันอีก ไร้เหตุผลสิ้นดี! คุณมันโหดร้ายเกินไปแล้ว!”
“เสี่ยวจูจูคือใคร” ฉินซางมึนงงไปหมด
“ม่านพู่ลูกปัดของฉันไงล่ะ” ชางหลิงย่อตัวลงนั่งยองๆ หยิบลูกปัดทองคำขึ้นจากพื้นเม็ดหนึ่ง “ลูกปัดทองคำนี่ฉันจ่ายเงินไปจำนวนมาก ใช้เวลาเจ็ดพันเจ็ดร้อยสี่สิบเก้าวันพิถีพิถันสรรสร้างมันขึ้นมา มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกนักฆ่าลูกปัดทำลาย”
“เหอะ แค่ลูกปัดพัง ทำมาเป็นเอะอะโวยวายเสียใหญ่โต” เมื่อคนที่เคยสนอกสนใจรายล้อมอยู่รอบข้างได้ยินเรื่องนี้ ก็ล้วนแต่พากันหมดความสนใจไป
ฉินซางถึงกับพูดไม่ออก
“คุณผิดปกติหรือไง ของราคาถูกๆ มีอะไรพิเศษขนาดนั้น ผมจะจ่ายให้คุณก็ได้” มีฉินซางอยู่ที่นี่ด้วย ไทเลอร์จึงไม่ออกฤทธิ์มากนัก ได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ดีเลย” ชางหลิงลุกขึ้นยืนทันที แล้วแบมือยื่นไปตรงหน้าไทเลอร์ “หนึ่งแสน เงินสดหรือโอน”
“หนึ่งแสนเนี่ยนะ” คนในบริเวณนั้นล้วนตกตะลึง
“คุณโกงผมเหรอ” ไทเลอร์โกรธมาก “สิ่งนี่น่ะเหรอหนึ่งแสน”
เมิ่งเคอก็โน้มตัวลงไปหยิบลูกปัดจากพื้นขึ้นมาหนึ่งเม็ดด้วย วัสดุของมันทำมาจากทองแดงธรรมดาชุบทอง ค่าใช้จ่ายรวมแล้วน่าจะไม่ถึงพัน
แต่เธอไม่ได้พูดออกมา ลังเลครู่หนึ่ง แต่แล้วก็ไปยืนข้างชางหลิงแทน
การเคลื่อนไหวของเธอดึงดูดฉินซางที่ยืนอยู่ข้างๆ เดิมทีสิ่งที่เขาไม่ชอบมากที่สุดก็คือผู้หญิงอย่างเมิ่งเคอ แม้ว่าจะรูปร่างหน้าตาดี แต่เย็นชาเกินไป มันแสนจะน่าเบื่อ
แต่วันนี้ เธอใส่ชุดสีแดงสด เสน่ห์อันอ่อนโยนที่อยู่ในอินเนอร์ซึ่งแสดงออกมาตอนที่อยู่บนเวที ให้บรรยากาศในแบบผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่ มันทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองใหม่
“สิ่งของไม่คุ้มค่าเงิน แต่เวลาที่ฉันเสียไปไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน ที่บอกว่าหนึ่งแสนฉันลดให้คุณเพื่อเห็นแก่หน้าเมิ่งเคอแล้วนะ” ชางหลิงสายตาเย็นชา
“ประธานฉิน” ไทเลอร์เดินไปหาฉินซาง “คุณตัดสินด้วยเหตุผลที ผู้หญิงคนนี้ทำเกินไปหรือไม่ มันเป็นการแบล็คเมล์ ผมว่าเราควรเรียกตำรวจ”
“ดีเลย เรียกตำรวจมา” เมิ่งเคอก้าวออกไปหนึ่งก้าว เธอเชิดคางขึ้นจ้องมองไทเลอร์อย่างไม่เกรงกลัว “จะได้พูดให้ชัดเจนไปเลยว่าเมื่อคืนมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
ไทเลอร์ไม่อยากเชื่อ “เมิ่งเคอ คุณคิดจะทำอะไร”
ฉินซางเลิกคิ้ว สุดท้ายเขาก็โยนการตัดสินไปให้เมิ่งเคอ “ในเมื่อมันเป็นเครื่องประดับที่คุณเมิ่งใส่เข้าร่วมการแข่งขัน งั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินของคุณเมิ่ง จะจ่ายเงินหรือเรียกตำรวจ คุณก็ตัดสินใจแล้วกัน”
เมิ่งเคอมองฉินซางด้วยสายตาค่อนข้างแปลกใจ อาจจะไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรฉินซางถึงช่วยเธอ
“จ่ายเงิน” ชางหลิงแอบโน้มเข้าข้างหูเมิ่งเคอ
“คุณ!” ไทเลอร์ได้ยินคำพูดของชางหลิงอย่างชัดเจน และชี้ใส่เธออย่างชั่วร้าย
“คุณได้ยินแล้ว จ่ายเงินสิ” เมิ่งเคอเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา
“คุณช่วยคนนอกมาโกงผมเหรอ” ไทเลอร์ถลึงตาจ้องเธอ
“คนนอกเหรอ” ฉินซางมองพวกเขาทั้งคู่อย่างสงสัย “อะไรกัน ผอ.ไทเลอร์กับคุณเมิ่งเคอเป็นคนในกันเหรอ”
เมิ่งเคอยิ้มเยาะ ไม่มีการพูดอะไร
“จ่ายเงิน” ชางหลิงคลิกที่รหัสรับเงินในโทรศัพท์มือถือแล้วยื่นออกไปตรงหน้าไทเลอร์
ไทเลอร์มองฉินซางแวบหนึ่ง ยังคงไม่เต็มใจยอมรับผลนี้ เพราะถึงอย่างไรสุดท้ายแล้วฉินซางก็เป็นแค่ผู้ตัดสินที่เซิ่งซื่อเชิญมา เขาต่างหากที่เป็นผอ.ของเซิ่งซื่อ! พวกเขาถือดีอะไรที่จะพูดอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น
แต่ในเวลานี้ ที่หน้าประตูเกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง โหมวยู่และโหมวฉี่เข้าประตูมาพร้อมกัน และตามด้วยโม่โม่กับมู่ซาน ผู้ตัดสินทุกคนล้วนอยู่หลังเวที บริเวณด้านหลังที่ไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางจึงกลายเป็นแออัดขึ้นมาทันใด
“คนข้างนอกพากันซุบซิบนินทา แขกยังไม่กลับ พวกคุณมาเอะอะอะไรกันตรงนี้” โม่โม่เดินเข้ามาก่อน แล้วมองชางหลิงอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
เป็นเธออีกแล้ว!
มู่ซานรับผิดชอบแผนกโมเดล โดยพื้นฐานแล้วมีอำนาจสูงสุด แต่เมิ่งเคอที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงมักจะกระด้างกระเดื่อง พวกเธอจึงตั้งใจฉวยโอกาสนี้เอาแอวริลขึ้นมาแทนเมิ่งเคอ แต่คิดไม่ถึงว่าชางหลิงกลับมาขัดขวางแผนการของเธออีกแล้ว
“ผอ.โม่” ไทเลอร์กำลังจะอธิบาย ทว่าฉินซางกลับเอ่ยปากขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่มีอะไร ผอ.ไทเลอร์ทำเครื่องประดับของคุณชางพัง เราจึงกำลังคุยเรื่องค่าเสียหาย” ฉินซางขยิบตาให้โหมวยู่
โหมวยู่เหลือบตาไปเห็นดวงตาของชางหลิงแดงเรื่อ
เธอร้องไห้เหรอ มีคนรังแกเธองั้นเหรอ
ดวงตาของโหมวยู่คมกร้าวขึ้นฉับพลัน
ไทเลอร์ยืดตัวตรง รู้สึกเสียวสันหลัง จึงหันมองไป ความเป็นศัตรูในแววตาของโหมยู่ทำให้เขาตัวสั่นอย่างช่วยไม่ได้
“จ่ายเท่าไร” โหมวยู่เสียงเย็น
“สองแสน!” ชางหลิงสะอื้นตอบ
ทุกคนตกตะลึงอีกครั้ง ไทเลอร์ยิ่งหน้าแดงเถือก “คุณมียางอายหรือเปล่า อยู่ดีๆ มาขึ้นราคาหน้าตาเฉย!”
“เมื่อครู่ฉันบอกไปแล้ว เพราะเห็นแก่หน้าของเมิ่งเคอจึงลดให้คุณ แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากลดแล้ว” ชางหลิงเชิดใบหน้าเล็ก ท่าทางอวดดี
โหมวยู่อดไม่ได้ที่จะกระแอมไอเบาๆ
เขาคิดมากไปเอง ยัยเด็กหัวหมอชางหลิงคนนี้ แต่ไหนแต่ไรมาก็มีแต่เธอเท่านั้นที่เป็นฝ่ายรังแกคนอื่น
“ของอะไรมูลค่าตั้งสองแสน” โม่โม่เองก็ไม่พอใจเช่นกัน “คุณคิดว่าที่นี่คือที่ไหน ให้คุณมาลอยหน้าลอยตาอวดดีอยู่ที่นี่ได้ตามอำเภอใจเหรอ”
ชางหลิงแบบมือยื่นลูกปัดทองคำเล็กๆ ไปตรงหน้าโม่โม่ “ความจริงใจของฉันและศักดิ์ศรีของเมิ่งเคอ มีค่าสองแสนคุ้มค่าหรือไม่”
เธอไม่อยากเปิดเผยการใช้ความรุนแรงในครอบครัวของไทเลอร์ต่อหน้าทุกคนก็เพื่อให้เกียรติเมิ่งเคอ เมิ่งเคอจำใจยอมกล้ำกลืนมากกว่าที่จะปริปากบอกความจริงกับเธอ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องกลืนมันลงไปด้วย
“คุณ…คุณไม่เข้าใจกฎระเบียบหรือไง!” โม่โม่แสนจะอยากฉีกใบหน้าแสนเย่อหยิ่งของชางหลิง แต่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เธอไม่สามารถทำลายภาพลักษณ์ของตัวเองได้อีก
บรรยากาศโดยรอบชะงักงันไปชั่วขณะ โหมวฉี่หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะพูดกับไทเลอร์ว่า “สิ่งของเสียหาย โดยปกติก็ต้องชดใช้ ผอ.ไทเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยหรือวัยวุฒิ คุณก็แก่กว่าคุณชางมาก แค่สองแสน ไม่น่าจะลำบากคุณหรอกมั้ง”
โหมวยู่เอียงศีรษะเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงที่โหมวฉี่จะเข้าข้างชางหลิง ตามหลักแล้ว ด้วยนิสัยของเขา ควรจะไม่ผ่อนปรนเด็กฝึกงานที่ไม่รู้จักถึงจะถูก
“ผม…เอ่อ…” แต่ความจริงแล้วไทเลอร์ลำบาก เขามองโหมวยู่อย่างขอความช่วยเหลือ หวังว่าเขาจะสามารถช่วยได้ “คุณชายรอง มันไม่สมเหตุสมผลเลย คุณเห็นว่า…”
โหมวยู่เหลือบมองชางหลิงแวบหนึ่ง ไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจน “คุณชายฉี่พูดไปแล้ว ถ้าผมให้คุณไม่จ่าย ไม่เท่ากับว่าไปงัดข้อกับเขาเหรอ”
ประโยคนี้เหมือนพูดให้ไทเลอร์ฟัง และยังเหมือนพูดให้โหมวฉี่ฟังด้วย
โหมวฉี่ยังคงยิ้ม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเพราะคำพูดของโหมวยู่
ทุกคนสะอึก แต่เดิมมันก็แค่อุบัติเหตุเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าสามยักษ์ใหญ่แห่งเซิ่งซื่อจะมามีส่วนร่วมด้วย
และทั้งที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชางหลิงกำลังโกงคน แต่สองพี่น้องตระกูลโหมวกลับเข้าข้างชางหลิง นี่ช่างเป็นข่าวใหญ่จริงๆ
ไทเลอร์มองโม่โม่ด้วยหน้าตาเศร้าหมอง แต่โม่โม่กลับมองเขาอย่างเหยียดๆ แล้วหมุนตัวเดินจากไป
มีแต่พวกขยะ ไม่อยากเชื่อว่าจะถูกชางหลิงคนเดียวปั่นหัวหลอกเล่นเอาได้
“ผอ.ไทเลอร์” ชางหลิงส่ายโทรศัพท์มือถือของตัวเองไปมา
ไทเลอร์กัดฟัน โหมวฉี่โหมวยู่ต่างก็พูดแล้ว ถ้าเขายังอยากอยู่ในเซิ่งซื่อ โดยธรรมชาติแล้วก็ไม่มีทางเลือก เขาหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาสแกนรหัสเงินของเธอ
ได้รับบิลโอนเงินหลายรายการ ชางหลิงก็ยิ้มจนตาปิด เอาลูกปัดทองคำเล็กๆ ในมือวางลงบนมือของไทเลอร์ “อ้ะนี่ ในเมื่อจ่ายเงินแล้ว ทั้งหมดนี้ก็เป็นของคุณ ผอ.ไทเลอร์ต้องดูแลเสี่ยวจูจูของฉันให้ดีด้วยล่ะ อย่าได้ตีมันเด็ดขาดเลยนะ”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

Options

not work with dark mode
Reset