ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 148 ทำไมคุณไม่กลัวฉัน

“หน้าตัวเมีย อย่างให้ฉันหาโอกาสได้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ปล่อยคุณให้อยู่ดีมีสุขแน่!” ปลายสุดของห้องน้ำมีเสียงผู้หญิงดังขึ้น
เธอยังจำได้ว่าเขาไม่ได้ถูกทำให้ติดกับโดยออโรร่า หลังจากที่ได้ยินคนคุยภาษาจีนกันในห้องน้ำแล้ว ก็รีบเอาเรื่องที่ออโรร่าอยู่ในห้องของโหมวยู่ไปโม้ต่อ
เธอเชื่อ ว่าถ้ามีคนช่วยเผยแพร่ข่าว โม่โม่จะต้องได้ยินข่าวนี้แน่นอน
แต่ตอนนี้……
ชางหลิงถูสบู่ในมือของตัวเองเต็มไปหมด กุญแจมืออันนี้มันไม่เหมือนของจริงสักเท่าไหร่ ส่วนประกอบก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ ข้อมือของเธอเล็กมาก เลยเดาว่าน่าจะพยายามเอามันออกมาจากข้อมือมาได้
แต่ทว่าข้อมือทั้งสองข้างของเธอถูกล็อกเอาไว้หมด เลยเอาออกมาไม่ได้สักที
ท่าทีแบบนี้ น่าจะไม่มีทางไปเจอซูเสี่ยวเฉิงได้แน่นอน คนโรคจิตอย่างเธอ จะต้องเอาไปล้อเธออย่างแน่นอน
ผ่านไปนาน ชางหลิงก็เห็นว่าข้อมือนั้นถูกถูจนแดง เลยถอนหายใจออกด้วยความไร้ทางเลือก
ช่างมันเถอะ จะยิ้มก็คงต้องยิ้มแล้วล่ะ เธอยอมแพ้ไปแล้ว
เธอก้มหน้าลงพลางเดินออกจากห้องน้ำด้วยความโศกเศร้า เพิ่งจะถึงที่ประตู สายตาของเธอก็เห็นเงาของรถเข็นปรากฏขึ้น
“ชางหลิง?” เสียงอันไพเราะของโหมวฉี่นั้นเรียกขึ้น
ชางหลิงรีบเอาข้อมือของตัวเองทั้งสองข้างซ่อนเอาไว้ แต่ก็ซ่อนเอาไว้ไม่มิดสักที เมื่อโหมวฉี่เห็นท่าทีแปลกๆ ของเธอ ก็เห็นว่ามือทั้งสองข้างของเธอถูกล็อกเอาไว้
“คุณ นี่มัน……” โหมวฉี่คิดว่ามันตลกดี
เป็นไปตามที่คิด ผู้หญิงคนนี้ ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าเธอด้วยความปกติเลยสักครั้ง
เซียวฉู่ที่อยู่ข้างหลังนั้นอดขำไม่ได้
“ฉัน ฉันกำลังวิจัยวัสดุการออกแบบใหม่อยู่น่ะ” ชางหลิงอธิบายเพื่อเอาความดุดันของตัวเองกลับมาอีกครั้ง แต่ว่าเมื่อเห็นรอยยิ้มของเซียวฉู่กับโหมวฉี่ ก็ถอนหายใจออกมา “โอเค ฉันมันโง่ ฉันเอากุญแจมือออกไม่ได้……”
เธอคุกเข่าลงด้วยความผิดหวัง
“กุญแจล่ะ?” โหมวฉี่ถามเธอ
“หายไปแล้ว” เธอไม่กล้าพูด ว่ากุญแจมันอยู่กับโหมวยู่
“เอามาให้ฉันดูหน่อย” เสียงของโหมวฉี่นั้นอ่อนโยนมาก เหมือนเสียงที่เอาไว้กล่อมเด็กน้อยเลยล่ะ
ชางหลิงเอามือทั้งสองข้างยื่นไปต่อหน้าเขา จากนั้นโหมวฉี่ก็จับมือของเธอเอาไว้ บนมือของผู้หญิงคนนั้นบวมแดงเพราะพยายามจะถอดออกมานานแล้ว เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอคิดผิดหรือเปล่า ในตอนนี้ ชางหลิงมองเห็นความสงสารและเห็นใจจากแววตาของโหมวฉี่
“ยังดี ที่ไม่ได้ถลอก” โหมวฉี่จ้องข้อมือของเธออย่างจริงจัง “กุญแจมือน่ะ ใช้แรงแค่ไหนก็ไม่ออกหรอก”
ชางหลิงเบ้ปากเล็กน้อย
“เซียวฉู่” โหมวฉี่กำชับกับเซียวฉู่ที่อยู่ด้านหลัง “คุณไปหาผู้จัดการของโรงแรม ก่อนจะให้เขาแนะนำร้านที่ไขมันได้แถวๆ นี้”
“โอเค” เซียวฉู่ตอบเล็กน้อย
ทั้งสองคนหาที่นั่งก่อนจะนั่งลง โหมวฉี่ยังคงมีท่าทีอ่อนโยน แก้วในมือนั้นมีชานมที่อุ่นๆ อยู่ ชางหลิงจ้องหน้าของเขา ก็เห็นว่ามีแสงส่องลงมาที่หัว ทำให้คิ้วของเขามีเงาทอดลงมา
คนที่สวยและอ่อนโยนขนาดนี้ ถ้าเกิดขาไม่เป็นอะไร คงจะมีผู้หญิงมาชอบเยอะมากแน่นอน
ไม่ๆ ชางหลิงรีบมีสติกลับมา ถ้าให้พูดตรงๆ ถึงเขาจะเป็นแบบนี้ ก็ยังมีผู้หญิงมากมายมาชอบเขาอยู่ดี
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่?” เมื่อเห็นชางหลิงสบตาอย่างไม่กะพริบ โหมวฉี่ก็ชายตาขึ้นมา แล้วยิ้มพลางมองเธอ
“ห๊ะ ฉันเปล่านะ” ชางหลิงรีบมองไปทางอื่น กลัวว่าเขาจะรู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่
“ทำไมคุณไม่กลัวฉันล่ะ?” โหมวฉี่ถามเธอ
“กลัวเหรอ?” ชางหลิงไม่ค่อยเข้าใจคำนี้สักเท่าไหร่ “ทำไมฉันต้องกลัวคุณด้วย?”
โหมวฉี่จ้องเธอเพราะอยากจะรู้อะไรจากสายตาเธอมากกว่านี้ “คุณกับโหมวยู่คบกัน หรือว่าไม่ได้รู้เรื่องของฉันเลยเหรอ?”
เรื่องของเขา……เรื่องของเขากับน้าสาวของโหมวยู่น่ะเหรอ?
“ใครก็เห็นว่าฉันร้ายกาจ เหมือนจะดูยกยอปอปั้น แต่ก็เพราะเห็นว่าฉันเป็นลูกเลี้ยงของตระกูลโหมวต่างหากล่ะ แล้วคุณล่ะ?หลังจากที่คุณรู้ฐานะของฉันแล้ว คุณคิดอย่างไรเหรอ?”
ดวงตาของโหมวฉี่นั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง เหมือนอยากจะรู้คำตอบของเธอมาก
ชางหลิงหลุดหัวเราะออกมา
“ลูกเลี้ยงของตระกูลโหมว……ดังนั้น คุณน่าจะรวยมากใช่ไหม”
โหมวฉี่เลิกคิ้วขึ้น “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินหรอก ทั้งชื่อเสียงและธุรกิจมากมายก็มีอยู่ มีทุกอย่างที่ต้องการอย่างเพียงพอเลยล่ะ”
ชางหลิงกะพริบตาปริบๆ “คุณมีเงิน หน้าตาก็ดี นิสัยก็ดี แล้วทำไมฉันต้องกลัวคุณด้วยเล่า?”
แววตาของโหมวฉี่นั้นอ่อนโยนขึ้น “คุณชอบเงินมากเลยเหรอ?”
“ชอบสิ” ชางหลิงบอกเขาอย่างจริงใจ “เข้ามาเซิ่งซื่อ เข้าร่วมการแข่งขัน ก็เพื่อหาทางหาเงินให้ได้มากขึ้นไงล่ะ”
“แล้ว การที่เข้าหาโหมวยู่ล่ะ?” โหมวฉี่ยิ้ม “เพื่อเงินเหมือนกันหรือเปล่า? ”
ชางหลิงคิดอย่างจริงจัง ก่อนจะพยักหน้าให้ “นอกจากเงินแล้ว เขามีอะไรที่ฉันต้องการอีกเหรอ?”
โหมวฉี่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “คุณนี่ไม่อ้อมค้อมเลยนะ”
“ฉันใช้ชีวิตอย่างเปิดเผย ไม่ชอบปิดบังหลบซ่อนอะไร” ชางหลิงยิ้มให้อย่างสดใส
“คุณไม่กลัว นายท่านมาทำอะไรคุณเหรอ?” โหมวฉี่สงสัย
“สถานการณ์ของตระกูลโหมวนั้นฉันรู้ดี นายท่านกุมอำนาจเอาไว้ พี่น้องอย่างพวกคุณก็ได้รับเรื่องแย่ๆ ไม่น้อย แต่ทว่า อันที่จริงพวกเราก็รู้ ว่าความสามารถของพวกคุณ สามารถรับได้ไหว แต่ก็เป็นเพราะความเป็นพ่อลูกกันนั่นแหละ”
“คุณอยากจะตอบแทนบุญคุณเหรอ แต่โหมวยู่กับเขานั้นเลือดข้นกว่าน้ำ ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่าไม่มีทางปล่อยไป แต่ว่าพอจะลงมือจริงๆ เขาก็ทำไม่ลง แต่ทว่าฉันนั้นไม่ใช่……” ชางหลิงยิ้มอย่างสดใส “นายท่านไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉัน ฉันไม่คิดมากหรอก ถ้าเขาอยากจะทำอะไรฉัน ฉันก็จะตอบโต้กลับเหมือนกัน”
“คุณไม่คิดถึงโหมวยู่เหมือนกันเหรอ?” โหมวฉี่จ้องเธอไม่ห่าง
ชางหลิงลังเลสักพัก ก่อนจะคิดอย่างจริงจัง
“ถ้าเกิดมีวันนั้นเกิดขึ้นจริงๆ ฉันเชื่อ ว่าเขาจะไม่ให้ตัวเองมาทำให้ฉันต้องกังวลคิดมากอะไร” ชางหลิงพูดอย่างแน่วแน่
ท่าทีของโหมวฉี่นั้นหม่นหมองลง เหมือนมีหมอกบางๆ มากั้นเอาไว้ ทำให้เดาความคิดของเขาไม่ออก
“คุณเคยคิดจะหาคู่คิดบ้างไหม?” โหมวฉี่ยิ้มพลางถามเธอ

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

Options

not work with dark mode
Reset