ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 213 โม่โม่วางมือเถอะ

สามวันต่อมา
ในเมืองมีฝนตกมาหลายวันแล้ว ท้องฟ้าสีเทาเหมือนหม้อขนาดใหญ่ครอบคลุมอาคาร ทำให้คนอึดอัดหายใจไม่ออก
ที่หน้าต่างกระจกบานยาว หญิงสาวแต่งกายในชุดสีขาวนั่งอยู่บนพรม อยู่ตรงตำแหน่งนี้มานานมากแล้ว
บนหน้าผากของเธอยังคงมีผ้ากอซพันอยู่ แววตาว่างเปล่า หน้าซีดไร้สีเลือด เหมือนตุ๊กตาเซรามิกที่สวยงาม
ประตูถูกเปิดออก ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่มาพร้อมกับแก้วนม
“โม่โม่” เจสันมองเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “คุณไม่ได้ทานอะไรมานานแล้วนะ”
โม่โม่ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ดูเหมือนวิญญาณหลุดลอยออกจากร่างนี้ไปแล้ว เหลือเพียงร่างเปล่า
เจสันวางแก้วไว้บนขอบหน้าต่าง นั่งลงไปบนพรมกับเธอ มองตามสายตาของเธอที่มองออกไปนอกหน้าต่าง
นี่คืออาคารห้องชุดส่วนตัวในเมือง ตอนนี้ตำรวจกำลังค้นหาที่อยู่ของพวกเขาไปทั่วทุกที่ เขาไม่กล้าพาโม่โม่ไปอยู่โรงแรม จึงใช้เงินนิดหน่อยเช่าที่พักหลังนี้
ตอนนี้เวลานี้ นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง พวกเขาสามารถมองเห็นลานเล็กๆ ในอาคารฝั่งตรงข้าม ด้านในมีสามีภรรยาสูงอายุคู่หนึ่งกำลังปรับปรุงสนามหญ้าในลานบ้าน
ฝนกำลังตกอย่างต่อเนื่อง พวกเขาใส่เสื้อกันฝน แต่กลับไม่มีอาการหนาวสั่นเลย บางครั้งก็พูดคุยกัน บางครั้งก็ทำงานของใครของมัน กำจัดหญ้าที่ตายแล้ว
“โม่โม่” เจสันไม่เข้าใจว่าฉากหยุมหยิมแบบนี้มีอะไรน่าดู เขาตะโกนเรียกเธอ ในที่สุดโม่โม่ก็ตอบสนอง
“ชู่ว” โม่โม่ยกนิ้วชี้แนบกลางริมฝีปาก แล้วยิ้มบางให้เจสัน “เบาเสียงหน่อย อย่ารบกวนพวกเขา”
เจสันมองกระจกที่ปิดสนิท ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรไปชั่วขณะหนึ่ง
ตั้งแต่เขาแพ้เกมการแข่งขัน เขาก็รู้ว่าโม่โม่จะต้องตกไปอยู่ในมือของชางหลิงกับโหมวยู่เข้าสักวัน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้จากไปไหน
ได้รู้ว่าโม่โม่ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล เขาจึงใช้ความพยายามอย่างมากในการพาเธอออกมา แต่สามวันติดแล้วที่เธอเป็นแบบนี้ นั่งนิ่งเฉยที่ริมหน้าต่าง พูดกับเขาน้อยมาก
“โม่โม่” เจสันยื่นมือออกไปจับมือของเธอ ส่งความอบอุ่นจากร่างกายตัวเองไปที่ฝ่ามือของเธอ “ไม่นานคุณจะดีขึ้น เดี๋ยวคุณดีขึ้นแล้ว ผมจะพาคุณจากไป เราไปอเมริกากัน ดีไหม”
“ผมมีเงินเก็บอยู่เยอะ เพียงพอจะซื้อบ้านสำหรับเรา ผมจะดูแลคุณไปตลอดชีวิต”
ในที่สุดแววตาของเธอก็สั่นไหวเล็กน้อย เธอค่อยๆ หันกลับมามองหน้าเจสันแล้วยิ้ม
“ตลอดชีวิตเหรอ” เธอถามเขา “คุณ…กับฉันน่ะเหรอ”
“อืม” เจสันพยักหน้า “ตลอดชีวิต ผมกับคุณ”
“แล้วโหมวยู่จะทำยังไงล่ะ” โม่โม่เอียงศีรษะ บนใบหน้ามีสีหน้าไร้เดียงสาที่ไม่ค่อยมีให้เห็น “ฉัน ต้องการอยู่กับโหมวยู่ไปตลอดชีวิต”
เจสันอึ้ง เขากระชับมือโม่โม่แน่น แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ หันหน้าหนีไปสะอื้น
“คุณดูสิ” โม่โม่ชักมือออกจากในมือของเขา แล้วชี้ไปยังคู่สามีภรรยาสูงอายุข้างล่าง
“พวกเขามีความสุขมากแค่ไหน” เธออิจฉามาก
“ความจริงแล้ว นี่ถึงจะเป็นชีวิตในแบบที่ฉันปรารถนามาตลอด มีบ้านหลังเล็กๆ ปลูกดอกไม้ใบหญ้า อยู่ด้วยกันกับโหมวยู่ เดินไปด้วยกันช้าๆ จนกระทั่งผมหงอกขาว”
เธอพูดอย่างนั้นและยิ้มสดใส แต่ดวงตากลับมีหยาดน้ำตา
“พวกเขาคิดว่า ที่ฉันอยากแต่งงานกับเขา เป็นเพราะความมั่งคั่งของตระกูลโหมว พวกเขาพูดกันอย่างนั้น วันเวลาผ่านไปจนฉันเองก็เชื่อ และคิดว่าฉันอยากแต่งงานกับเขาเพราะเขามีเงิน แต่ว่า….”
โม่โม่ถอนหายใจ “ทั้งทั้งที่เริ่มแรก ที่ฉันชอบ มันแค่ตัวเขาเท่านั้น”
เธอยกมือขึ้นสัมผัสลำคอตัวเอง เริ่มหวนนึกถึงอุณหภูมิจากมือของโหมวหยูที่หลงเหลืออยู่บนผิวของเธอในคืนนั้น
“เรารู้จักกันตั้งแต่เกิด ตลอด26ปี ในโลกของฉัน มีแต่ผู้ชายที่ชื่อโหมวยู่ ฉันจำได้ชัดเจนว่าตอนเป็นเด็กพวกเราเคยดีต่อกัน เขาพาฉันไปปั้นตุ๊กตาหิมะด้วยกันที่ลานบ้านตระกูลโหมว ปลูกต้นส้มด้วยกัน…แต่ ไม่นาน แม่ของเขาตาย เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาก็ไม่มองฉันอีกเลย และไม่เคยเข้าใกล้ฉันอีก….”
โม่โม่ยิ้ม น้ำตาเอ่อล้นร่วงหล่นจากดวงตา “ฉันรู้เรื่องที่พ่อฉันทำผิด แต่ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน…ฉันไม่ได้ทำผิด…ทำไมเขาต้องไม่สนใจฉันด้วยล่ะ”
“หลายปีมานี้ ฉันพยายามคิดหาวิธีดึงดูดความสนใจของเขา แม้จะโกรธ แม้จะแค้น…ฉันก็ยังก้าวไปเรื่อยๆ ทำเรื่องไร้สาระมากมาย…ฉันรู้ว่าเขายอดเยี่ยมมาก มีคนมากมายชอบเขา ดังนั้นฉันจึงคิดว่าบางที ตราบใดที่ฉันทำให้พวกผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาหายไปก็ได้แล้ว แต่ว่า…มันมากเกินไป…ฉันกำจัดไปทีละคน ใครมาก็กำจัดทิ้งไปทีละคนๆ ทั้งทั้งที่พวกเธอไม่มีอะไรที่สู้ฉันได้ แต่โหมวยู่ก็กลับยังคงไม่แคร์ฉัน”
“โม่โม่” เจสันปวดใจมาก “คุณไม่ต้องทำอะไรมาก คนที่รักคุณจริง จะไม่ปล่อยให้คุณทำแบบนี้ และก็จะไม่ยอมให้คุณได้รับความกดดันจนไม่เป็นตัวของตัวเอง”
“แล้วทำไมเขาไม่รักฉัน ฉันก็ไม่ได้ต้องการขนาดให้เขาต้องรักฉัน แต่ว่าแม้แต่ปฏิบัติต่อกันอย่างสุภาพก็ทำไม่ได้เหรอ”
โม่โม่ดึงมือเจสันมาจับ พร้อมกับพูดเสียงสะอื้น “เขาไม่จำเป็นต้องรักฉันก็ได้ แต่ทำไมเขาต้องไปรักคนอื่นด้วย”
“ตลอดชีวิตนี้ฉันเอาแต่ไล่ตามเขา ตลอดชีวิตนี้มีชีวิตอยู่เพื่อเขาเท่านั้น ตราบใดที่เขาให้ฉันนิดๆ หน่อยๆ แม้เพียงการมองก็ตาม ฉันก็จะไม่ไปไหนสักก้าวเดียว”
“แค่เขาพูดคำเดียว พูดกับฉันแค่คำเดียวว่าโม่โม่ วางมือเถอะ อย่าทำอีกเลย แค่น้ำเสียงอ่อนโยนเล็กน้อย กับรอยยิ้มนิดหน่อย ฉันก็จะวางมือทั้งหมด…”
แต่เขาไม่มีเลย
ที่โหมวยู่ให้เธอ มีแต่ท่าทีที่แสนเย็นชาและสายตาที่รังเกียจอยู่เสมอ
“โม่โม่” เจสันกอดเธอ ปล่อยให้เธอร้องไห้บนไหล่ของเขา จนกว่าจะล่มสลาย
“มันผ่านไปแล้ว ตั้งแต่นี้ต่อไป ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ อยู่เป็นเพื่อนคุณตลอดไป” เธอรักโหมวยู่มากขนาดนั้น แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเขารักเธอแค่ไหน
ย้อนกลับไปเมื่อก่อน หลายปีมานี้ เขาไม่เคยแต่งงาน ไม่เคยมีความคิดอยากใช้ชีวิตร่วมกับใคร
เขาเป็นหัวหน้าดีไซเนอร์ที่โดดเด่น เดิมทีมีอนาคตที่สดใส แต่เพื่อเธอแล้ว เขากลับไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น แม้ว่าต่อไปนี้อีกทั้งครึ่งชีวิตต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ เขาก็เต็มใจ
โม่โม่ร่ำไห้ระบายอารมณ์ แต่เพราะนานมากแล้วที่ไม่ได้กินอะไร จึงสูญเสียแรงกำลัง นอนซบบนไหล่ของเขา มีเพียงเสียงสะอื้น
หญิงสาวที่อยู่ในห้วงความคิดคำนึงเป็นเวลานานมาอยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง อกของเจสันร้อนผ่าว แขนของเขาค่อยๆ ออกแรงกอดกระชับโม่โม่แน่นแล้วอุ้มขึ้น
“เจสัน…” โม่โม่น้ำเสียงอ่อนแรง “คุณจะทำอะไร”
เจสันแววตาแน่วแน่ ก้าวกว้างเข้าไปในห้องนอน เอาโม่โม่วางลงบนเตียง
“โม่โม่ ผมจะใช้การกระทำพิสูจน์ ว่าผมชอบคุณมากแค่ไหน” เจสันพูดอย่างนั้นแล้วหันหลังไปปิดประตู
“ไม่ อย่า….” ทันใดนั้นโม่โม่ก็เข้าในเจตนาของเจสัน ทำการถดตัวหนี

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

Options

not work with dark mode
Reset