ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 294 กรรมตามสนอง

พอได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาว โหมวฉี่ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่สบายใจ มือของเขาจับด้ามจับรถเข็นแน่นด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง
เซียวฉู่สัมผัสได้ทันทีว่าโหมวฉี่ไม่แฮปปี้ เขาก็ตำหนิอย่างเย็นชาว่า “หุบปาก!”
มู่ซานถูกเขาตะคอกจนตัวสั่น เธอพยายามกัดฟันแน่นเพื่อไม่ให้กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความหวาดกลัว เหงื่อออกเต็มใบหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวด จ้องมองสองคนที่อยู่ตรงหน้าเธอด้วยร่างกายที่สั่นเทา
“คุณชายฉี่ ได้โปรดเมตตาปล่อยฉันไปเถอะค่ะ”
ระหว่างที่มู่ซานกำลังพูดอยู่นั้น ปากที่ซีดเผือดของเธอก็สั่นเทา เธอพยายามอย่างมากที่จะซ่อนเร้นความแค้นที่อยู่ในดวงตา คิดเพียงแค่อยากจะออกไปจากสถานที่ที่น่ากลัวแห่งนี้เท่านั้น
“ไม่ต้องตื่นเต้น ดีไซเนอร์ชางไม่อยากจะถือสาคุณหรอก แค่อยากให้คุณออกไปจากเซิ่งซื่ออย่างเรียบร้อยเท่านั้น ไม่ต้องโผล่หน้ามาให้เธอเห็นอีก แล้วผมจะไม่ทำอะไรคุณ”
น้ำเสียงของโหมวฉี่ยังคงนุ่มนวลเหมือนเคย แต่ว่ามู่ซานฟังแล้วมันเยือกเย็นเหมือนกับห้องน้ำแข็ง ตอนนี้เธอไม่สามารถต่อต้านได้ ทำได้แค่เพียงพยักหน้าอย่างเชื่อฟังเท่านั้น
“ฉันจะเชื่อฟังคุณชายฉี่”
มู่ซานซ่อนความอาฆาตแค้นในดวงตาไว้ลึกมาก แต่ว่าโหมวฉี่ก็ยังคงมองเห็น ดวงตาของเขามืดมน แล้วน้ำเสียงก็เย็นชาขึ้น “จดจำบทเรียนของวันนี้ไว้ให้ดี ถ้าเกิดว่ามีครั้งหน้า มือข้างเดียวของคุณก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้หรอกนะ”
คำพูดของโหมวฉี่เต็มไปด้วยคำเตือนและคำขู่ มู่ซานไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองไม่ให้สั่นได้เลย เขารู้ได้ยังไงว่าเธอจะแก้แค้น “คุณชายฉี่ ฉันไม่กล้าอีกแล้วค่ะ”
โหมวฉี่มองเธอเงียบๆ จนแสงสว่างในดวงตาของมู่ซานมืดลง เขาถึงได้ละสายตาอย่างพึงพอใจ แล้วก็ก้มมองที่เท้าของตัวเอง “ถ้าเกิดว่ามีคนถามเกี่ยวกับมือของคุณ······”
“ฉันไม่ทันระวังก็เลยล้มลงเอง” มู่ซานรีบตอบในทันที ดวงตาเต็มไปด้วยการอ้อนวอน การที่อยู่กับโม่โม่ได้มานานขนาดนี้ เธอต้องรู้กฎพวกนี้อยู่แล้ว
ไม่ง่ายเลยกว่าจะปีนขึ้นมาถึงตำแหน่งผู้อำนวยการของเซิ่งซื่อ แต่ว่าตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว!
มู่ซานรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป ถ้าเกิดรู้ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นอย่างนี้ ต่อให้ตีเธอให้ตายเธอก็ไม่กล้าลงไม้ลงมือกับชางหลิงหรอก แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างมันสายไปแล้ว
ตอนนี้เธอแค่อยากจะจบสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอให้เร็วที่สุด แล้วไปจากสถานที่น่ากลัวแห่งนี้
โหมวฉี่หัวเราะเบาๆ แล้วเซียวฉู่ก็เข็นรถเข็นเขาออกไปจากโกดัง
······
ชางหลิงนั่งเหม่ออยู่บนเตียงและมองออกไปที่บ้านสไตล์เก่าด้านนอกหน้าต่าง ป๋ายจื๋อก็เก็บของเงียบๆ เขาพยายามจัดห้องให้สะดวกสบายและสวยงามที่สุด
ตอนที่ชางหลิงดึงสติกลับมา ก็พบว่าป๋ายจื๋อเก็บห้องเสร็จหมดแล้ว เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เธอล้ม ป๋ายจื๋อก็ถูพื้นอย่างระมัดระวังทั้ง 3 ครั้ง แล้วทุกที่ก็ถูกปูไปด้วยพรมหนาๆ
เพราะเห็นหยาดเหงื่อที่ไหลย้อยบนหน้าของเขา ชางหลิงก็รู้สึกผิด “คุณพักผ่อนเถอะ อย่าเหนื่อยจนเกินไป”
“อืม”
ป๋ายจื๋อพยักหน้าและเดินออกไปด้านนอก
ชางหลิงเพิ่งจะลงจากเตียง ก็เห็นว่าป๋ายจื๋อกลับมาอีกครั้ง เธอยังไม่ทันจะถามว่าป๋ายจื๋อกลับมาทำไม ก็เห็นว่าโหมวฉี่พาคนอีก 2-3 คนเข้ามาในห้อง
เพราะเห็นคนแปลกหน้าที่อยู่ด้านหลังของโหมวฉี่ ชางหลิงก็ถามด้วยความสงสัย “คุณชายฉี่ นี่คือ······?”
“นี่คือหมอที่ผมคุ้นเคย เก่งเรื่องการดูแลสุขภาพมาก ตอนนี้คุณออกไปไหนไม่ค่อยสะดวก คงจะรู้สึกเศร้าน่าดู”
“ขอบคุณมากค่ะ!”
ชางหลิงยิ้มจางๆ ด้วยความซาบซึ้ง ตอนนี้ร่างกายของเธอมันแย่จริงๆ เพื่อที่จะปกป้องลูกในท้องของตัวเอง ก็คงต้องขอรบกวนโหมวฉี่จนได้
หมอที่โหมวฉี่หามานั้นมีความสามารถสูง หลังจากตรวจร่างกายของชางหลิงอย่างรวดเร็ว ก็สั่งยาแล้วก็อาหารที่เหมาะสมกับการรักษาให้เธอในทันที
“คุณชาง ตอนนี้ร่างกายของคุณได้รับบาดเจ็บ แถมมีความเป็นไปได้ที่อาจจะแท้งลูก ปัญหาทางอารมณ์ก็เป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้อาการของคุณไม่ดีอย่างมาก หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือด้านการรักษากับพวกเรา พยายามปล่อยใจให้สบาย” หมอที่อายุมากที่สุดในบรรดาหมอทั้ง 4 คนที่โหมวฉี่หามานั้นพูดด้วยสีหน้าที่สงบ
สีหน้าของเขาดูจริงจังและระมัดระวัง น้ำเสียงแฝงไปด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
ชางหลิงรู้สึกหูร้อนเพราะคำพูดของเขา แล้วก็ยิ้มอย่างก็เขิน
เธอรู้สึกผิดต่อเด็กคนนี้จริงๆ เพราะว่าเธอดูแลเขาไม่ดี ลูกเพิ่งจะมาเกิด ก็ต้องคอยหลบคอยซ่อนไปพร้อมกับเธอ แถมยังถูกใส่ร้ายหลายครั้ง และยังต้องแบกรับความรุนแรงทางไซเบอร์ที่โหมกระหน่ำ
คำพูดของหมอเหมือนฟาดเข้าที่หน้าของเธอ ทำให้ชางหลิงได้สติอย่างรวดเร็ว
เพื่อลูกแล้ว เธอต้องจัดการแก้ไขเรื่องพวกนี้ให้เร็วที่สุด เธอไม่อยากให้ลูกต้องเกิดมาเจอในสิ่งที่เธอเจอในวันนี้ ไม่อยากให้ลูกของเธอถูกมองด้วยสายตาที่แปลกประหลาดตั้งแต่เด็ก
“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ ฉันจะให้ความร่วมมืออย่างดี รบกวนด้วยนะคะ”
หมอยังคงมีสีหน้าที่หมองหม่น เขาเหลือบมองชางหลิงแล้วก็เดินออกไป
ป๋ายจื๋อตั้งใจอ่านรายการข้อควรระมัดระวังและรายการอาหารของชางหลิงเขียนไว้ให้ และจดจำไว้ ในเมื่อชางหลิงอยากจะเก็บลูกคนนี้ไว้ ถ้าอย่างนั้นเขาก็ต้องปกป้องสองแม่ลูกไว้ให้ถึงที่สุด
สีหน้าของโหมวฉี่แข็งทื่อ ไม่คิดเลยว่าคนคนนั้นจะมาอารมณ์เสียต่อหน้าทุกคน
“ชางหลิง ขอโทษด้วยนะ นิสัยเขามันแปลกไปหน่อย แต่ว่าฝีมือการรักษาเขายอดเยี่ยมมากเลยนะ”
“เขาพูดไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันดูแลลูกไม่ดีเอง” เสียงของชางหลิงดูเศร้าหมอง น้ำเสียงเต็มไปด้วยการโทษตัวเองและความเสียใจ เธอก้มหน้าจนไม่สามารถมองเห็นอารมณ์บนใบหน้าของเธอ มือที่เรียวยาวและขาวผ่องลูบที่หน้าท้องของตัวเอง
แววตาของโหมวฉี่มืดลงเล็กน้อย “คุณพักผ่อนให้ดี เรื่องด้านนอกเดี๋ยวผมจะจัดการให้เอง”
หลังจากที่โหมวฉี่ออกไปแล้ว ป๋ายจื๋อก็จำเรื่องที่ชางหลิงควรจะระวังได้หมดแล้ว เขาเงยหน้าพร้อมกับพูดอย่างจริงจัง “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”
ช่วงนี้มีแต่เรื่องเกิดขึ้นไม่หยุด แต่ชางหลิงกลับไม่มีทางเลือก ไม่ว่าเธอพยายามจะดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่สามารถออกจากชีวิตที่ยุ่งเหยิงนี้ได้
แต่ว่าตอนนี้เธอตั้งท้อง เด็กไม่สามารถรับอะไรแบบนี้ได้ ตอนนี้ทำได้เพียงแค่ต้องปกป้องลูกในท้องให้ดีเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นก็คงต้องรบกวนป๋ายจื๋อไปก่อน
ชางหลิงก้มหน้าลง คิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาด้วยความจำใจ พร้อมกับส่งโทรศัพท์ให้ป๋ายจื๋อ “รบกวนด้วยนะ”
ป๋ายจื๋อรับโทรศัพท์ของชางหลิงไปอย่างพึงพอใจ “ฉันจะไปจัดการเอง”
น้ำเสียงของเขาจริงจัง คำพูดของเขานั้นดังสนั่น
เพราะว่าเขาเองที่ไร้ประโยชน์ ปล่อยให้เธอต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายแบบนี้
······
คืนถัดมา พอซูเสี่ยวเฉิงเลิกงานก็ตรงไปที่คฤหาสน์ป้านซานทันที พอเข้ามาเธอก็วิ่งไปกอดชางหลิงแน่น “หลิงหลิง เธอไม่เป็นไรใช่ไหม! ฉันเป็นห่วงจะตายอยู่แล้ว เมื่อวานฉันไปคอนโดแต่หาเธอไม่เจอ ฉันตกใจจนเกือบจะแจ้งตำรวจอยู่แล้วนะ”
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว!”ชางหลิงลูบหลังของซูเสี่ยวเฉิงเบาๆ แล้วก็เอาหัวพิงไหล่ของเธอ ความรู้สึกแบบนี้มันสบายจริงๆ โชคดีที่ตอนนี้เธอยังมีเพื่อนรักอยู่
“หลิงหลิง แกไม่ต้องกังวลไปนะ ฉันให้หลีซินไปสืบให้แล้ว พี่น้องเขามีลูกน้องตั้งมากมาย ต้องหาคนที่อยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้อย่างแน่นอน และคืนความบริสุทธิ์ให้กับแก”
ถึงแม้ว่าเธอจะถือสาเรื่องในอดีตของหลีซินกับชางหลิงอยู่บ้าง แต่ว่าพอเห็นชางหลิงถูกรังแกแบบนี้ สิ่งแรกที่เพื่อนรักอย่างเธอต้องทำก็คือร่วมมือกัน ซูเสี่ยวเฉิงไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว เธอบอกให้หลีซินพยายามช่วยอย่างสุดความสามารถ
“ขอบคุณนะ เสี่ยวเฉิง”
“จะมาเกรงใจอะไรกัน!”ซูเสี่ยวเฉิงตบไหล่ของชางหลิง “ใช่สิ วันนี้ฉันไปที่บริษัทแล้วเห็นว่ามู่ซานลาออกแล้ว ได้ยินมาว่ามือเธอหักด้วย หึ กรรมตามสนอง!”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

Options

not work with dark mode
Reset