ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 108 อย่าให้ตัวเองกลายเป็นคนแบบที่ตัวเองเกลียดที่สุด

ใบหน้าของเฉินเฉียวซีด

อาจเป็นเพราะถูกเหวี่ยงอย่างรุนแรงหลังของเธอเจ็บ

“ คุณดูถูกมือที่สามไม่ใช่หรอ แม่เลี้ยงของคุณลู่ลี่ลี่กับโหยวจิ้งหลีต่างก็เป็นหนามในใจคุณ คนที่หยิ่งยโสแบบคุณทำไมถึงกลายไปเป็นแบบพวกเขาซะเองล่ะ? “ปู้อี้เฉินเหน็บแนมเธอ

เธอดีดตัวอยากจะเถียง แต่สิ่งที่เธอพูดเป็นประโยคที่อ่อนแอมาก “ปู้อี้เฉินปล่อยฉันนะ”

“ผมคิดว่าผู้ชายที่ทำให้คุณอยากจะหย่าให้ความสุขคุณได้แค่ไหนกันเฉียว อ๋อ ซังหลินจวิน”เขาไม่ยอมให้ เฉินเฉียวหนีบีบคางของเฉินเฉียวให้เธอมองตรงเข้าไปในดวงตาของเขาและให้เธอฟังความจริงที่โหดร้าย“ เฉินเฉียว ซังหลินจวินเขาแม้แต่การแต่งงานธรรมดาๆก็ให้คุณไม่ได้ เข้าใจมั๊ย? เขารวยกว่าผม เขาเก่งกว่าผม แต่เขาไม่ได้โสด! คุณตามเขาไป ชีวิตนี้ก็เป็นได้แค่เมียน้อยที่เหมือนหนูข้างถนน! ท้ายที่สุด มีแต่คุณเองที่ทำให้ทำเองเสื่่อมเสียและเป็นคนที่น่ารังเกียจที่สุด! ”

ใบหน้าของเฉินเฉียวเกร็งแน่น

หลังจากที่ปู้อี้เฉินพูดจบเธอก็ค่อยๆพูดว่า “พูดจบหรือยัง?”

ดวงตาของปู้อี้เฉินหรี่ลงและเขามองไปที่เธอ

เฉินเฉียวแกะมือที่วางอยู่บนคางของเธอออก “พูดแล้วก็เข้าไปทำตามขั้นตอนให้มันเสร็จๆไป ฉยงฉยงมาถึงแล้ว ”

“ เฉียวเฉียว!เจียงฉยงฉยงลงจากรถและเห็นว่าเฉินเฉียวถูกจับโดยปู้อี้เฉิน เธอก็รีบวิ่งเข้าไปหาโดยไม่สนใจว่าตัวเองใส่ส้นสูง

ในขณะที่ปู้อี้เฉินกำลังเผลอเฉินเฉียวก็ผละออกและเดินไปหาเจียงฉยงฉยง

“ เอาเอกสารมาหรือเปล่า?”

เอามาแล้วในขณะที่พลิกกระเป๋าของเจียงฉยงฉยงจ้องมองไปที่ปู้อี้เฉินอย่างระแวดระวัง

เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นทำไมหน้าตาของเขาถึงได้บึ้งขนาดนี้

เฉินเฉียวรับเอกสารและสัญญา “เข้าไปกันเถอะ”

พูดไปพลางหันเดินเข้าไปที่สำนักกิจการพลเรือน ก้าวได้สองก้าวก็หยุด

มองย้อนกลับไปเห็นปู้อี้เฉินยังคงยืนอยู่ในที่เดิม ดวงตาของเขาลึกล้ำและซับซ้อน

เฉินเฉียวหยุดและยืน

เจียงฉยงฉยงกังวล “ปู้อี้เฉินคุณคงจะไม่คิดกลับคำตอนนี้หรอกนะ?”

ปู้อี้เฉินมองไปที่ เฉินเฉียวอย่างเคร่งขรึม “เฉินเฉียว คุณอยากจะคิดเรื่องนี้ดีๆอีกครั้งไหม?”

เฉินเฉียวหันกลับมาและมองเขา “คิดอะไร?”

“ ถ้าคุณจะหย่ากับผมเพื่อเขา ผมว่าอยู่กันไปแบบนี้จะดีกว่า ซังหลินจวินให้อะไรคุณไม่ได้เลย แต่ผมให้คุณในฐานะภรรยาได้ ”

เขาก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวและยืนอยู่ตรงหน้าเฉินเฉียว เหมือนจะตั้งสติได้“ เรื่องนี้เราทั้งคู่ก็รู้ดี เฉินเฉียว คุณย้ายกลับมา พวกเราเริ่มต้นกันใหม่ คิดซะว่าเรื่องในอดีตไม่เคยเกิดขึ้น ”

เฉินเฉียวเงียบ

ถ้าความรักและชีวิตแต่งงานง่ายเหมือนที่เขาพูดก็ดีสิ

อย่างไรก็ตามเรื่องราวในอดีตไม่ใช่รอยดินสอ ที่จะใช้ยางลบลบก็ออก มันก็เหมือนร่องรอยซังหลินจวินที่อยู่ในใจเธอ

เฉินเฉียวถอนมือออกจากฝ่ามือเขา“ เข้าไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันต้องไปบริษัทอีก อย่าเสียเวลาเลย”

หลังจากนั้นเธอก็ก้าวไปที่สำนักกิจการพลเรือน

เมื่อมองไปที่ด้านหลังที่ไร้ความรู้สึกของเธอ ปู้อี้เฉินแทบจะหายใจไม่ออก

โทรศัพท์ดังตลอดเวลา เขาหยิบมันออกมาและมองไปที่มันและเห็นคำว่า “จิ้งหลี” กระพริบบนหน้าจอ

เขาไม่ได้รับและกดตัดสาย

ในท้ายที่สุดร่างของเฉินเฉียวก็หายเข้าประตูสำนักกิจการพลเรือนไป

————

ลงชื่อและหย่า

เฉินเฉียวเซ็นอย่างมีความสุข

ปู้อี้เฉินลังเล เจียงฉยงฉยงเฝ้าดูเพราะกลัวว่าปู้อี้เฉินจะกลับคำ

แต่สุดท้ายเขาเขียนคำว่า “ปู้อี้เฉิน” เน้นๆ ราวกับใช้กำลังทั้งหมดของร่างกายลงไปที่ปลายปากกาขีดข่วนลงบนกระดาษและนิ้วก็สั่นเบา ๆ

หายใจไม่เป็นจังหวะ

หลังจากเซ็นชื่อเสร็จเขาไม่ได้มองใบหย่าด้วยซ้ำเดินออกจากสำนักกิจการพลเรือนไป

แสดงแดดส่องแสงมาที่เขา แต่ด้านหลังของเขาดูเศร้าหมอง

เจียงฉยงฉยงยิ้ม: “เฉียวเฉียวฉันเดาว่าตอนนี้เขาต้องเสียใจอยู่ในใจแน่ๆ”

เฉินเฉียวมองลงไปที่ใบหย่าทั้งสองใบในมือของเธอและไม่มีปู้อี้เฉินความคิด ในตอนนี้อย่างน้อยเธอก็โสด

ใส่ใบหย่าทั้งสองลงในแฟ้มและพูดกับ เจียงฉยงฉยง: “ไปบริษัทกันเถอะ”

โอเคเจียงฉยงฉยงจับมือเธอและทั้งสองก็เดินออกจากสำนักงานกิจการพลเรือนด้วยกัน เจียงฉยงฉยงหันหน้าไปมองเธอ“ เฉียวเฉียว วันนี้มีเรื่องดีขนาดนี้ ทำไมดูเธอไม่มีความสุข?”

เฉินเฉียวพูดอย่างขำ ๆ ว่า “หย่าทั้งที ทำไมไม่ฉลองให้มีความสุขสักหน่อยล่ะ”

“ ได้เลย พ้นทุกข์แล้วต้องฉลอง นอกจากนี้เธอโสดแล้ว จะอยู่กับซังหลินจวินอย่างเปิดเผยได้แล้วใช่ไหม “ในตอนท้ายของคำพูดเจียงฉยงฉยงกระแทกใส่เฉินเฉียว

อย่างไรก็ตามบนใบหน้าของเฉินเฉียวไม่ได้ดูมีความสุขในทางตรงกันข้ามเธอกลับเศร้าโศก

เจียงฉยงฉยงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ

“ เธอกับประธานซังมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”

ไม่มีเฉินเฉียวส่ายหัว

เห็นได้ชัดว่าธอลังเลที่จะตอบ

เจียงฉยงฉยงไม่ได้ถามคำถามใด ๆ อีก เธอสามารถเดาความคิดของเฉินเฉียวได้

เจียงฉยงฉยงขับรถเฉินเฉียวนั่งอยู่ฝั่งข้างคนขับ และทั้งสองคนก็ไปที่ บริษัท ด้วยกันในขณะนี้โทรศัพท์มือถือของเฉินเฉียวก็ดังขึ้น

ซังหลินจวินโทรมา

เพิ่งสิบโมง เครื่องบินเขาน่าจะออกแล้ว เฉินเฉียวเดาว่าเขาน่าจะโทรหาเธอก่อนจะปิดเครื่อง

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมาและสิ่งที่ปู้อี้เฉินเพิ่งพูดก็ดังขึ้นในหู

ต่อหน้าปู้อี้เฉินเธอแสร้งทำเป็นสบายดี แต่จริงๆแล้วคำพูดเหล่านั้นเหมือนเข็มและทุกคำพูดทำให้เธอจ็บปวด

“ เฉียวเฉียว ทำไมไม่รับโทรศัพท์”เจียงฉยงฉยงหันหน้ามองชื่อบนหน้าจอมองไปที่เธออีกครั้งและเตือนว่า: “ประธานซัง”

เฉินเฉียวกลับมามีสติครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับและแนบหู

ประธานซังเธอกล่าวทักทาย

“ก่อนปิดเครื่องผมอยากได้ยินเสียงของคุณ”

เสียงของซังหลินจวินผ่านคลื่นไฟฟ้ายังคงอ่อนโยน แต่มันทำให้ เฉินเฉียวรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

ต่อหน้าเถียนเถียนเขาคงจะอ่อนโยนมากใช่มั้ย?

เฉินเฉียวหลับตาและผ่อนคลายอารมณ์ เธอลืมตาจ้องมองออกไปไกลนอกหน้าต่างจากนั้นก็พูดกับเขา: “ประธานซังคะ เมื่อคืนที่คุณรับปากกับฉัน คุณจะรักษาสัญญาใช่ไหม?”

ซังหลินจวินเม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไร

“ถ้าคุณเงียบฉันถือจะถือว่าคุณรับปาก”เฉินเฉียวพูดต่อ ราวกับว่าเธอไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปเธอรีบพูดว่า: “แค่นี้ก่อนนะ”

เฉินเฉียวเขาพูดหยุดเธอดัง ๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ

เฉินเฉียวผงะชั่วขณะ

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset