ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 113 ผมคิดถึงคุณแล้ว

ทันทีที่เฉินเฉียวออกจากโรงรถโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เมื่อมองไปที่หมายเลขบนหน้าจอเธอก็หยิบมันขึ้นมา

“ประธานเฉิน ได้ยินเหล่าหลิวบอกว่าซังหลินจวินเพิ่งไปหาคุณ”คนที่โทรมาคือหลูตงซิ้ง

เขาเป็นคนฉลาดจริงๆ!

หลูตงซิ้งถามอย่างกระตือรือร้น: “ประธานซังถามเรื่องประมูลหรือเปล่า?”

“ ถ้ามีความคืบหน้าฉันจะบอก ประธานหลูฉันติดธุระแค่นี้ก่อนนะคะ “เฉินเฉียวเพียงตอบและวางสาย

แม้ว่า หลูตงซิ้งจะรีบร้อน แต่เขาก็ไม่สามารถถามอะไรได้มากกว่านี้เพราะเขาต้องการความช่วยเหลือจากเฉินเฉียว

——

เฉินเฉียวกลับมาที่ บริษัท

ในช่วงบ่ายระหว่างการประชุมเธอเหม่อลอยและฟุ้งซ่านบ่อยครั้ง

เจียงฉยงฉยงสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเธอเลยใช้ศอกแตะเธอสองครั้ง “เฉียวเฉียว เป็นอะไรไป?” คิดอะไรอยู๋? ”

เฉินเฉียวได้สติและส่ายหัว “ไม่เป็นไร พูดถึงไหนแล้วนะ? ”

“เรื่องที่กำลังจัดเตรียมขายสินค้าใหม่ เธอมีอะไรเพิ่มเติมไหม ”

เฉินเฉียวพูด “อืม” และจ้องมองไปที่ภาพนิ่งที่กระพริบอยู่ตรงหน้าพยายามทำให้ตัวเองโฟกัสกับการทำงานให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตามหัวใจของเธอมักจะกังวลอยู่เสมอ ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาตื่นหรือยัง? เป็นยังไงบ้าง ปอดติดเชื้อไหม?

ตอนเลิกงานเจียงฉยงฉยงขับรถให้ ส่วนเฉินเฉียวก็นั่งด้านหน้าข้างๆคนขับ

เจียงฉยงฉยงมองเฉินเฉียวเป็นครั้งที่สาม

เฉินเฉียวต้องนั่งตัวตรงและเตือนว่า“ ตั้งใจขับรถสิ ขับรถก็ไม่ได้เก่งแล้วยังจะมองฉันอีก ”

“ ฉันว่านะ วันนี้หลังจากที่เธอไปจิ้งหยวน เธอก็แปลกๆไป”เจียงฉยงฉยงยิ้ม “เฉียวเฉียวเธอเจอประธานซังแล้วใช่ไหม?”

“ พอดีเขาป่วยและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไร “เฉินเฉียวมองออกไปนอกหน้าต่างและบ่นพึมพำ: “ตอนนั้นดูเหมือนจะอาการมาก”

เจียงฉยงฉยงนึกขึ้นได้“ ฉันว่าเธอรู้สึกกระสับกระส่ายตลอดทั้งวัน ง่ายๆก็ไปหาเขาที่โรงพยาบาลสิ บอกมาสิ โรงบาลไหน ”

ไม่รู้

“ งั้นเธอโทรไปถามสิ”เห็นเธอนิ่งเฉย เจียงฉยงฉยงเร่ง: “เฮ้ฉันบอกว่าให้โทรถาม! ถ้าไม่รีบถาม จะรู้ได้ยังไง ใช่ไหมล่ะ ”

เฉินเฉียวไม่ได้โทรแต่พูดว่า “ไปกินข้าวเย็นข้างนอกกันเถอะ ตอนกลางวันฉันกินไปนิดเดียวเอง ตอนนี้หิวมาก”

“……”เจียงฉยงฉยงต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร

เฉินเฉียวให้เธอคิดเอง ไม่ได้บังคับ

——

ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษในโรงพยาบาล

เมื่อซังหลินจวินตื่นขึ้นมารอบเตียงก็เต็มไปด้วยผู้คน

อวี้เฟยตั้งแต่อวี้เฟย, หมอหลิน, เฒ่าแก่ซังและคุณหญิง ไปจนถึง หวังอี๋จวินแม่ของซังอวี้, เถียนเฟิงเสียง, เถียนเถียน ฯลฯ พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นั่น

ฟื้นแล้ว ฟื้นแล้ว หลินจุนตื่นแล้ว! “หวังอี๋จวินเป็นคนแรกที่พูด

เมื่อเธอพูด คุณนายก็รีบเข้ามาดู

“ ลูกโอเคมั้ย? แม่ตกใจแทบแย่ “คุณนายร้องไห้ “โตขนาดนี้แล้วทำไมถึงทำให้ตัวเองเป็นแบบนี้”

แม่ ผมสบายดีซังหลินจวินยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง เถียนเถียนเดินมาวางหมอนที่หลังของเขาและพูดเบา ๆ : “ทุกคนเป็นห่วงคุณพวกเขาอยู่ที่นี่นานแล้ว”

ซังหลินจวินชำเลืองมองเธอจากนั้นมองไปรอบ ๆ และเพียงกระซิบ: “ขอบคุณ”

พวกเขาสองคนเรียบๆง่ายๆ ไม่ได้มีอารมณ์ความรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ

“ เหล่าหลินบอกว่าคุณต้องอยู่โรงพยาบาลอีกสองสามวัน นอนพักที่นี้ก่อนนะ อย่าเพิ่งไปบริษัท ”

ซังหลินจวินพยักหน้าตอบรับ “โอเค”

“ สัญญานะว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก!”คุณหญิงหันหน้าไปมองอวี้เฟย “เสี่ยวอวี้ฉันฝากดูแลด้วยนะ ถ้าเกิดเขาไปทำงานที่บริษัทไม่ยอมพักผ่อน แล้วเกิดเรื่องอะไรอีก ฉันจะโทษคุณ ”

“ ลูกคุณอายุสามสิบแล้วนะ ไม่ต้องกังวลถึงขนาดนั้นหรอก”เฒ่าแก่ซังพึมพำข้างๆ

คุณหญฺิงตะคอก“ ถีงจะอายุสามสิบแต่ก็ยังเป็นลูกชายฉัน คุณเป็นพ่อมาตั้งหลายปีได้แต่ชี้นิ้วสั่งแบบนั้น ก็ไม่กังวลสิ”

“ใช่ผมเอาแต่ชี้นิ้วสั่ง ก็เพราะหวังดี”ชายชราฮึดฮัด

“ ผมไม่ได้คาดหวังให้คุณทำร้ายจิตใจลูก คุณเอาแต่คิดถึงเมียที่บ้าน วันนี้ฉันแปลกใจมากที่ออกจากบ้านมาได้ ”

ใบหน้าของชายชราเริ่มบึ้งตึงขึ้น“ พูดก็พูดเรื่องของเราสิ จะไปลากคนอื่นมาเกี่ยวทำไม? ”

“พอฉันพูดถึงเธอ คุณก็เป็นเดือดเป็นร้อน ฉันขึ้เกียจพูดจริงๆ”คุณหญิงหน้าตึงหันหน้าทางชายชรา แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่ใบหน้าของเขาก็มี แต่ความเศร้าโศก

ชายชรามองไปที่ร่างนั้นและเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่ซังหลินจวินห้ามไว้ก่อน “เอาล่ะๆ ที่นี่คือโรงพยาบาล ผมคือคนป่วย พวกคุณทะเลาะกันแบบนี้ผมปวดหัว ”

“ ใช่ หยุดพูดได้แล้ว”หวังอี๋จวินเสริม มองไปด้านข้างกวาดตามองเถียนเฟิงเสียงและ เถียนเถียนพื่อไม่ให้คนนอกเห็นภาพไม่ดี

ชายชรากุมมือไว้ข้างหลังเขาด้วยมือข้างเดียวและไม่พูดอะไร

มีเสียงดังในห้องเป็นเวลานานก่อนที่จะสงบลงในที่สุด ——เถียนเถียนอยากจะอยู่ แต่ซังหลินจวินบอกเพียงว่าเขาเหนื่อยเขาต้องพักผ่อนเถียนเถียนจึงทำได้เพียงจากไป

อวี้เฟยถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในห้อง

“ดื่มน้ำก่อนครับท่าน.”อวี้เฟยรินน้ำให้เขา

ซังหลินจวินดื่มและถามว่า “เธออยู่ที่ไหน”

ใคร?”อวี้เฟยไม่เข้าใจในครั้งเดียว

ซังหลินจวินไม่ตอบเช่นกันเพียงแค่มองไปที่เขา อวี้เฟยเข้าใจทันที“ คุณหมายถึงคุณเฉิน? คุณเฉินแค่มาส่งคุณที่รถ แต่ไม่ได้ตามไปที่โรงพยาบาล ”

ซังหลินจวินเม้มปากแน่นและเขาก็พูดไม่ออกเป็นเวลานาน

อวี้เฟยเห็นว่าเขาอารมณ์เสียและเสริมว่า:“ คุณเฉินเป็นห่วงคุณมาก แต่เธอไม่อยากทำให้คุณเดือดร้อน”

หรอ?คำตอบด้วยความเย็นชา

ซังหลินจวินวางแก้วน้ำลงอีกครั้งการสีหน้าเรียบเฉย

ดูเหมือนว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้จะใส่ใจตัวเองมากกว่าที่คิด!

……………………

ทางด้านนี้ เฉินเฉียว และ เจียงฉยงฉยงกลับบ้านหลังจากทานอาหารเย็นข้างนอก

เฉินเฉียวหลังจากอาบน้ำเฉินเฉียว ก็นอนลงบนเตียงและพบว่าเวลาตอนนี้ก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเธอก็หยิบโทรศัพท์จากข้างเตียงและเปิดวีแชท

แตะไปที่รูปของ”โย่วอี” และส่งข้อความ

—— โย่วอีหลับหรือยัง?

เธอรอนาทีนึงก็ไม่มีการตอบกลับ

รู้สึกทรมาน

ลุกขึ้นจากเตียงหยิบเอกสารและตรวจดู อย่างไรก็ตามจิตใจของเธอตกอยู่กับโทรศัพท์เป็นครั้งคราว

เป็นไปได้ไหมว่าเด็กน้อยไม่เข้าใจข้อความที่เธอส่งไป?

เฉินเฉียวคิดว่าเธอควรเปลี่ยนเป็นข้อความเสียงและส่งต่อไปหรือไม่

เพิ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรศัพท์ก็สั่น

เธอกำลังยุ่ง.

—— ผมยังไม่นอน! พี่เฉียวคิดถึงผมแล้วหรอ?

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset