ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 12 ความรักอันเร่าร้อน

เฉินเฉียวมองไปที่ชายตรงข้าม“ ฉันมีเรื่องสำคัญมากที่จะคุยกับคุณจริงๆรบกวนเวลาของคุณไม่นาน”

เธอย้ำว่า: “เกี่ยวกับเรื่องสัปดาห์ที่แล้ว”

อวี้เฟยหันหน้ามาและมองอย่างสงสัย

ดูเหมือนทุกคนกำลังรอให้ชายคนนั้นพูด เฉินเฉียวก็ด้วยเช่นกัน

ชายคนนั้นดับบุหรี่ แล้วยืนขึ้น

อวี้เฟยรีบเดินเข้าไปข้างในและบอกคนอื่นๆ “โปรดรอคุณชางสักครู่”

เฉินเฉียวมองชายคนนั้นก้าวไปข้างหน้าเขา ภายใต้แสงสีเหลืองจาง ๆทำให้ร่างเขาดูสูงสง่าขึ้น ออร่าที่เปล่งออกมาจากเขาทำให้คนลุ่มหลงได้ง่ายๆ

ในที่สุดเขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมากและเน็คไทผ้าไหมที่อยู่ใกล้คอของเขาก็อยู่ตรงหน้าเธอ

เหนือเน็คไทลูกกระเดือกของเขาดูยั่วยวน

เธอมองอยู่ครู่หนึ่งเธอลืมที่จะถอยหลังยืนอยู่ข้างๆเขาที่ประตูห้องส่วนตัว

ไม่เจอกันนานเป็นเขาซังหลินจวินที่พูดก่อน

มือข้างหนึ่งซุกในกระเป๋า เขามองเธอหัวจรดเท้า

เฉินเฉียวดึงสติกลับมา จมูกเธอได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเรือนร่างของชายคนนั้น เธอรู้สึกเพียงว่าผู้ชายคนนี้ลึกลับ

เธอพูดเล่นๆ: “คิดว่าจะลืมฉันซะแล้ว”

“ประทับใจจนลืมไม่ลงเลยล่ะ”เขาเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม

เฉินเฉียวรู้สึกอายเมื่อนึกถึง ‘ความป่าเถื่อน’ ของตัวเองในวันนั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้รอยฟันของเธอหายไปหรือยัง

เธอถามอีกครั้ง: “คุณซาง ฉันถามอะไรหน่อยได้ไหม”

“ว่ามา”

คุณทำงานอะไร?

เฉินเฉียวรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวในวันนี้ไม่เหมือนคนธรรมดา และทุกคนมองเขาด้วยความเคารพดูเหมือนว่าเขาจะมีตำแหน่งที่ใหญ่โต

“ที่บอกว่าเรื่องสำคัญ ก็คือเรื่องนี้หรอ”เขายกข้อมือขึ้นเหลือบมองเวลาและมองไปที่เธออีกครั้ง “ฉันทำงานอะไร เธอตัดสินไปแล้วไม่ใช่หรอ”

เขาเลี่ยงไม่ตอบคำถามของเธอ

ผู้ชายคนนี้ตั้งรับได้เก่ง

เฉินเฉียวแอบรู้สึกว่าเธอเสียมารยาท เป็นคนแปลกหน้าไม่ควรถามเรื่องส่วนตัว เธอได้แต่ส่ายหัวมองเข้าไปในดวงตาของเขาและเปลี่ยนเรื่อง “แล้วชีวิตส่วนตัวของคุณวุ่นวายหรือเปล่า?”

เห็นได้ชัดว่าซังหลินจวินคาดไม่ถึงว่าจู่ๆเธอถามเรื่องส่วนตัวเช่นนี้สีหน้าเธอดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ถามทำไม”

“หลังจากวันนั้นฉันก็ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด”เธอพูดห้วนๆ

อย่างละเอียดเขาเริ่มเข้าใจและพยักหน้าว่า “ละเอียดแค่ไหนล่ะ”

ละเอียดที่สุด ผลออกมาเป็นลบ แต่หมอบอกว่า – “เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เฉินเฉียวก็หยุดชั่วคราวราวกับว่าเขากลัวที่จะทำลายศักดิ์ศรีของชายคนนั้นและอธิบายว่า:” ฉันไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกคุณ แต่หมอบอกว่า โรคมีระยะฟักตัวและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการถามสถานะของคู่นอนตัวเอง ”

ดังนั้น…..

เธอสงสัยว่าเขาจะมีกามโรค

ซังหลินจวินหรี่ตาลง “คุณมาที่นี่วันนี้เพียงเพื่อถามฉันว่ามีโรคไหม”

เฉินเฉียวพยักหน้า

จู่ๆชายคนนั้นก็ขยับเข้ามาใกล้เธอ เธอผงะและโดยสัญชาตญาณอยากจะถอยกลับ แต่ว่าขากลับไม่ขยับ เอวของเธอถูกชายผู้นั้นกอดไว้ในมือแล้ว

เฉินเฉียวเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาใกล้เข้ามาเรื่อยๆจิตใจของเธอก็ตะเหลิดไม่อยากถอยห่าง

จากนั้นริมฝีปากของเธอก็ถูกชายคนนั้นจูบ เธอหายใจถี่ขนตาที่เรียงยาวของเธอสั่น

ลิ้นของชายคนนั้นเปิดริมฝีปากของเธอ

สมองสั่งการเธอต้องผลักผู้ชายคนนั้นออกไป แต่ลมหายใจอีกฝ่ายก็เหมือนดอกป๊อปปี้ทำให้เธอค่อยๆหมดเรี่ยวแรงและจมดิ่งลงไปเรื่อย ๆ

ความรู้สึกนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับความรู้สึกที่ปู้อี้เฉินมอบให้กับเธอ ปู้อี้เฉินทำให้เธอต่อต้าน แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะมีแรงดึงดูดมหาศาลต่อเธอ

อันตรายเกินไปแล้ว

มันไม่ควรอย่างยิ่ง

เฉินเฉียวดึงสติกลับมา ผลักออก เธอสูดหายใจและถามเขาว่า “คุณทำอะไร”

ดวงตาพร่ามัว เธอดูมีเสน่ห์แบบสวยหยาดเยิ้ม ถามด้วยความตำหนิห้าพยางค์ชัดๆ แต่กลับไม่มีความมั่นใจ เหมือนกับเป็นการยั่วยวน

ชายคนนั้นปล่อยเธอไป เมื่อเทียบกับเธอแล้วดูสุขุมใจเย็น “ทำแบบนี้แล้วติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ใครเป็นคนสอนคุณล่ะ”

“……”เฉินเฉียวสมองตื้อ “อะไรนะ?”

กลับไปเถอะเขาออกคำสั่งไล่

เขาโน้มศีรษะลงมาเล็กน้อยฝีปากของเขาเกือบแตะติ่งหูของเธอ “ที่แท้ก็เป็นสาวบริสุทธิ์จริงๆด้วย”

เสียงของชายคนนั้นต่ำราวกับว่าเป่าหูของเธอ แก้มของเฉินเฉียวร้อนผ่าวและเธอสับสนเล็กน้อยมองไปที่เขาอย่างว่างเปล่า

เขาหันกลับไปและกลับไปที่ห้องส่วนตัวอีกครั้ง

ที่ทั้งสองคนคุยกันที่เมื่อกี้ตอนที่ทั้งคู่จูบกันพวกเขาไม่ได้ปิดประตูห้องเลยด้วยซ้ำทันทีที่เขาเข้ามาคนอื่น ๆ ก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

“ คุณซาง มีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่”ทุกคนรู้ดีว่าซังหลินจวินเป็นคนอารมณ์แบบไหน แต่ตอนนี้มันน่าเหลือเชื่อมากที่ได้เห็นเขาจูบผู้หญิงคนหนึ่ง!

เขาตอบอย่างเงียบ ๆ : “ไม่ค่อยสนิทหรอก”

“ ไม่สนิทยังขนาดนี้ ถ้าสนิทกันขึ้นมา คงจะมันน่าดู”

ฮ่าฮ่า มีความสัมพันธ์ใหม่ๆในหมู่คนหนุ่มสาวเต็มไปหมด คนแก่อย่างเราเทียบไม่ติด! ”

ทุกคนพูดอย่างคลุมเครือและหัวเราะเสียงดัง เขาไม่ได้จะอธิบายความหมายอะไรเลย

เฉินเฉียวสติกลับมา เกิดอารมณ์โกรธ เธอถูกผู้ชายคนนี้ลวนลามอย่างโจ่งแจ้ง!

เธอชำเลืองมองจากระยะไกล แต่เขาก็ไม่ได้มองไปที่เธออีก

ไอ้สารเลว! !

แบบนี้เฉินเฉียวจะทนไหวได้ยังไง เมื่อระงับความโกรธในใจเธอจัดผมของเธอพร้อมเดินไปหาอวี้เฟยช้าๆเปิดกระเป๋าและหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้วส่งให้อวี้เฟย

อวี้เฟยมองไปที่เธออย่างงงงวย

“ รบกวนเอาเงินไปให้ผู้ชายที่อยู่ตรงกลางด้วย นี้คือค่าบริการ ราคาเหมือนกับครั้งก่อน”เสียงนั้นไม่เบาไม่ดังเกิดไป คนในห้องสามารถได้ยินชัดพอดี “ยังไงก็ช่วยบอกเขาด้วยว่าความเป็นมืออาชีพของเขาแย่มากและฉันก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ”

เอ่อ…

ทั้งห้องตกตะลึง

ค่าบริการ? ค่าตัว? ความเป็นมืออาชีพ?

ฮ่าๆ นี่เป็นการทำให้คุณซางผู้มีชื่อเสียงอันโด่งดังกลายเป็นเด็กดริ้งตัวท๊อปในคลับซะแล้วหรือ ยิ่งไปกว่านั้นเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายยังค่อนข้างไม่พอใจกับการบริการ

ริมฝีปากของอวี้เฟยกระตุกสองครั้ง

คราวนี้เฉินเฉียวไม่ได้มองไปที่หน้าของอีกฝ่าย ใส่ส้นสูงเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ทุกย่างก้าวสง่างามสุด ๆ

“ คุณซาง ผู้หญิงคนนี้เหลือเชื่อจริงๆ”มีคนแซว

“ผู้ช่วยอวี้ เอาเงินนี้ไปให้บอสคุณด้วยนะ เงินนี้หามาได้ไม่ใช่ง่ายๆนะ ฮ่าฮ่าฮ่า

ทุกคนในห้องส่วนตัวไม่ได้มีบรรยากาศที่เคร่งขรึมเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป แต่กลับรู้สึกเริงร่าและมีชีวิตชีวา

ซังหลินจวินจิบไวน์ของเขาและมองไปที่แผ่นหลังที่กำลังเดินจากเขาแอบขำกับตัวเองเงียบๆ

ยัยนี่

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset