ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 222 หลงตัวเอง

เขาคิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะผู้ชายคนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเขาแย่งผู้หญิงของเขาไป ตอนนี้เธอก็คงไม่ใช่ไม่เหลือเยื่อใยแบบนี้

ในใจเขาเหมือนมีสึนามิ อยากจะลบล้างทุกอย่างให้สิ้นซาก

รอจนเขาสงบสติอารมณ์ได้ ค่อยเดินไปทางโรงพยาบาล แต่ว่าไม่มีใครรู้ ตอนที่เขาหลับตาลง ในใจแอบตัดสินใจบางอย่าง

ตอนที่เฉินเฉียวกับซังหลินจวินกลับไปถึงจิ้งหย่วน ป้ามั่วกำลังยุ่งอยู่ที่ห้องโถง

ลุงฟู่กำลังช่วยแกย้ายกะละมังเหล็กที่มีไฟ ย้ายไปวางที่หน้าประตูเลย

ตอนที่ซังหลินจวินกับเฉินเฉียวเดินเข้ามา ลุงฟู่ก็ขวางพวกเขาไว้ที่หน้าประตู

เฉินเฉียวเอ่ยถามอย่างมึนงง “ลุงฟุ่ ลุงทำอะไรคะ?”

ลุงฟู่ยิ้มกับทั้งสองคน “นี่เป็นของที่คุณหญิงเตรียมไว้ให้ครับ ท่านบอกว่า ช่วงนี้พวกคุณเจอแต่เรื่องไม่ดี เลยให้ทำตามบรรพบุรุษ ก้าวข้ามกะละมังไฟ ความซวยจะได้หายไปครับ”

ซังหลินจวินเคยได้ยินประเพณีนี้ แต่ว่าแต่ก่อนไม่เคยทำเลย เขาก็เข้าใจคุณแม่ จึงพยักหน้า แล้วเดินก้าวผ่านไป

เห็นว่าซังหลินจวินทำตามแบบนั้น ถึงแม้เฉินเฉียวจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ก็ก้าวข้ามตามไปด้วย

รอจนเข้าไปในห้องโถง ก็โดนใช้ข้าวสารสาด

เฉินเฉียวที่โดนสาดจนทั่วตัวเบิกตากว้าง จนดึงสติกลับมาไม่ได้สักที

ผ่านไปสักพัก ค่อยถามป้ามั่วที่ถือข้าวสารไว้ “นี่ก็ลดความซวยเหรอคะ?”

ป้ามั่วยิ้มจนหุบปากไม่ได้ “ใช่ค่ะ เม็ดข้าวสารจะล้างสิ่งที่ไม่ดีบนตัวให้หายไปให้หมด”

“ยังมีต่อไหมคะ?” เฉินเฉียวรู้สึกว่าเธอต้องเตรียมใจล่วงหน้า อย่างหน่อยถ้าโดนสาดอะไรอีก จะได้ใจเย็นเหมือนกับซังหลินจวิน

ดูเขาสิ โดนสาดเต็มหน้าเหมือนกัน แม้แต่คิ้วยังไม่ขมวดเลย

แต่ว่า ในใจเฉินเฉียวแอบรู้สึกว่า เขาเป็นแบบนี้ก็น่าตลกดี

“ไม่มีแล้วค่ะ” ป้ามั่วสาดข้าวสารเสร็จ ก็เดินไปจูงมือเฉินเฉียวไปที่ข้างโต๊ะอาหาร

แต่กับคุณชาย ป้ามั่วมองข้ามเขาไปเลย

ทำยังไงได้ล่ะ กี่วันนี้คุณชายกลับมาบ่อย ไม่เหมือนเฉินเฉียว ไม่ได้เจอกันนานแล้ว

เฉินเฉียวโดนป้ามั่วกุมมือไว้ ใบหน้าก็มีรอยยิ้ม แล้วพูดคุยเรื่องในโรงพยาบาลกับป้ามั่ว

ดูไปแล้วเหมือนเป็นญาติกันอย่างนั้น

ซังหลินจวินที่อยู่ข้างหลังส่ายหน้าอย่างทำอะไรไม่ได้ แต่ว่า ในใจก็รู้สึกดี

เขารู้ดีกว่าใครๆ กี่ปีนี้ เฉินเฉียวไม่เคยได้รับความรักจากครอบครัว ป้ามั่วชอบเธอขนาดนั้น เขาก็ต้องดีใจสิ

เพราะที่เขาให้เธอเป็นความรัก แต่ความผูกพันต้องให้คนอื่นให้

ถ้าเป็นแต่ก่อน โยว่อีให้ได้ แต่ตอนนี้ ซังหลินจวินนึกได้ว่าโยว่อียังสลบอยู่ในห้อง จึงเดินตรงขึ้นไปชั้นสอง

โยว่อีนอนอยู่ที่ห้องตัวเอง ชั้นวางของที่ใช้วางของเล่น ตอนนี้กลับมีแต่เครื่องมือแพทย์

ที่หลังมือก็มีสายน้ำเกลือด้วย

มองเห็นใบหน้าขาวๆที่เหมือนซาลาเปา ตอนนี้ผอมลงไปไม่น้อย

ซังหลินจวินนั่งอยู่ข้างๆ ทอดมองไปที่เขาสักพัก

จนกระทั่งออกจากห้อง ค่อยห่มผ้าให้เขาอย่างเบามือ

พอเฉินเฉียวกินข้าวเสร็จ ก็เห็นว่าซังหลินจวินไม่อยู่ด้วย พอหันไป จึงเห็นเขานั่งเหม่ออยู่บนโซฟา

เธอเดินไปนั่งข้างเขา จึงเอ่ยถาม “นายกำลังคิดอะไรอยู่? ทำไมสีหน้าเคร่งเครียดขนาดนี้”

เฉินเฉียวยื่นมือไปจิ้มแก้มเขา จนแก้มเขามีลักยิ้ม ค่อยยิ้มอย่างไม่รู้ตัว

ซังหลินจวินอุ้มตัวเธอขึ้นมาบนตัก

เฉินเฉียวสะดุ้งเฮือก รีบหันไปมองรอบๆ พอเห็นว่าไม่มีคนอื่น ค่อยรู้สึกโล่งใจไปหน่อย แต่ก็กำมือทุบหน้าอกเขาเบาๆ แล้วพูดเสียงเบา “นายจะทำให้ฉันตกใจทำไมเนี่ย”

ซังหลินจวินยิ้มแล้วทอดมองเธอ ใกล้เข้าไปช้าๆ แล้วจูบแก้มของเธอค่อยเอ่ย “นี่เป็นการสั่งสอนเธอ ใครให้วันนี้เธอโดนไอ่ปู้อี้เฉินนั่นขวางไว้”

ทีแรกเฉินเฉียวอยากมองบนใส่เขา แต่พอนึกถึงปู้อี้เฉิน ก็รู้สึกหงุดหงิด “นายคิดว่าฉันอยากโดนขวางไว้เหรอ? แรงเขาเยอะขนาดนั้น ลงแรงดึงหนักมาก”

เธอยื่มมือตัวเองออกไป แขนขาวอวมชมพูมีรอยเขียวช้ำ ดูแล้วน่าตกใจมาก

พอซังหลินจวินเห็น สายตาก็ตึงเครียด แตะลงไปเบาๆ แต่พอเห็นเฉินเฉียวสะดุ้ง จึงเป็นห่วง “เจ็บไหม”

เฉินเฉียวส่ายหน้า “ไม่เจ็บ”

ไม่ใช่เพราะเธอจะพูดแทนปู้อี้เฉิน แต่ไม่เจ็บจริงๆ

ผิวของเธอช้ำง่ายอยู่แล้ว แค่โดนคนอื่นใช้แรงก็เป็นรอยแล้ว

เพราะฉะนั้นนี่เป็นผิวเผิน ความจริงไม่เจ็บ

ซังหลินจวินไม่เชื่อที่เธอพูด เลยพาเธอไปทายา

รอถึงตอนดึกที่ทั้งสองกำลังจะนอน ทั้งสองพิงซึ่งกันและกัน เฉินเฉียวอ่านหนังสือ ซังหลินจวินกำลังเปิดดูเอกสาร ต่างไม่รบกวนกัน แต่ก็เข้ากันได้มาก

แต่โทรศัพท์ของซังหลินจวินเอาแต่ดัง เฉินเฉียวยื่นหน้าไปหาเขา “ทำไมไม่รับล่ะ ดังตั้งนานแล้ว”

ซังหลินจวินเหลือบตาดู แล้วยื่นไปกดปิดโทรศัพท์ จากนั้นก็เก็บเอกสารของตัวเอง ดึงหนังสือของเฉินเฉียวไปวางที่ชั้นวางข้างๆ แล้วดึงเธอลงนอน “นอน”

เฉินเฉียวเอาแต่ดิ้นอยู่ในอ้อมกอดเขา แล้วถามอีกว่า “ทำไมไม่รับ? นายมีกิ๊กที่อื่นหรือเปล่า”

เฉินเฉียวจงใจถามแบบนี้ แต่แค่สมมติแบบนี้ ในใจเธอก็เจ็บแล้ว

ซังหลินจวินจับหน้าเธอ รู้สึกเอือมกับความคิดของเธอแบบนี้ จึงเอ่ยตอบ “เป็นคนที่น่ารำคาญ เธอไม่รู้เหรอว่าผู้ชายของตัวเองเพอร์เฟคมากแค่ไหน เพราะฉะนั้นสายที่โทรมาก่อกวนเลยเยอะ?”

เฉินเฉียวหลุดขำ “ฉันจงใจถาม แต่นายหลงตัวเองเกินไปหรือเปล่า”

“เธอกล้าพูดว่าผู้ชายของเธอหลงตัวเองงั้นเหรอ คืนนี้ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่” เขาทับตัวเธอไว้ แล้วค่อยๆสั่งสอนเธอ

กับโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆ มีแสงกระพริบ ในนั้นมีชื่อว่าเอลลิซโผล่ขึ้นมา

ดังไปตั้งนาน สุดท้ายค่อยดับลง

พอตื่นแล้ว ซังหลินจวินลุกขึ้นจากเตียงก่อน ผูกชุดนอน เลยหยิบโทรศัพท์ไปโทรที่ระเบียง “คุณเอลลิซ ขอโทษนะครับ พอดีเมื่อคืนนอนเร็ว เลยไม่เห็นว่าคุณโทรมา”

ไม่รู้ว่าอีกฝั่งของโทรศัพท์พูดอะไร

ซังหลินจวินพูดเสียงเข้ม “คุณเอลลิซ คุณอยากจะเอาโปรเจ็คกลับมาให้หยวนเซิ่ง? ขอโทษนะครับ หยวนเซิ่งของเราคงรับไม่ได้”

“ไม่ใช่ว่าผมไม่ให้หน้าคุณ แต่ผมได้ข่าวว่า อ้ายทั้วร่วมงานกับเทียนเฉาเอ็นเตอร์เทนเม้นท์แล้ว”

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset