ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 27 โดนซังหลินจวินปฏิเสธ

เมื่อพูดถึงชายคนนั้นเฉินอินก็ไม่สามารถสงบลงได้ “พี่รู้ไหม เขาสนใจฉันเขารู้ว่าฉันชื่ออะไรแม้แต่วันนี้เขาก็ให้กำลังใจฉันเป็นพิเศษ เขาไม่เคยปฏิบัติกับพนักงานธรรมดา ๆ แบบนี้หรอก อย่างเช่นที่บริษัทย่อยของพวกเรา ฉันอยู่กับคนตั้งเยอะตั้งแยะ คนอื่นเข้าไม่ชายตามองเลย มีแต่ฉันที่เขามอง และเขาก็รู้ชื่อฉัน คุยกับฉัน พี่ว่าแบบนี้จะไม่เรียกว่าให้ความสำคัญกับฉันได้ยังไง

เฉินเฉียวไม่สามารถตอบคำถามของเฉินอินได้

ถ้าเฉินอินพูดจริงพฤติกรรมของซังหลินจวินก็ทำให้คนอื่นคิดมากจริงๆแหละ

หรือว่าเมื่อคืนที่พาเธอกลับไปด้วยเป็นเพราะเฉินอิน

“ พี่คิดเหมือนกันกับฉันไหม”เฉินอิน รู้สึกใจร้อนเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเธอไม่พูด เธอพูดอีกว่า“ พี่คอยดูเถอะ ฉันจะพาท่านประธานซังมาบ้าน! ในอนาคตฉันอาจจะเป็นคุณนายของหยวนเซิ่งกรุ๊ป”

เฉินเฉียวไม่ตอบคำพูดของเธอเพียง แต่รู้สึกปวดหัว

เฉินอินกับซังหลินจวิน?

ถ้ากลายเป็นน้องเขยขึ้นมาจริงๆ เธอคงรับไม่ได้ ยังไงซะเรื่องคืนนั้นมันน่าอายจริงๆ

ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรบางอย่างออก ถามอีกฝ่ายว่า “เฉินอิน ตอนนี้ประธานซังยังอยู่ที่บริษัทสาขาย่อยหรือเปล่า”

อยู่ มีหลายแผนกกำลังรายงานอยู่ ”

“ ถ้าอย่างนั้นช่วยฉันหน่อยได้ไหม”

“ว่ามาเลย”

“เอาโทรศัพท์เธอส่งให้ประธานซังหน่อย ให้เขาฟัง ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขาสักหน่อย “เพื่อเรื่องงานแล้ว เธอต้องลองดูสักตั้ง

“พี่? ประธานซัง…..เฉินอินรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย“ คุยเรื่องอะไรกัน ไม่ใช่ว่าจะคุยเรื่องฉันนะ”

เธอคิดอะไรอยู่? ฉันเป็นคนน่าเบื่อขนาดนั้นเลยหรอ? “เฉินเฉียวอธิบายว่า: “เรื่องงานหน่ะ ฉันอยากนัดประธานซัง เธอก็รู้ว่าเขานัดยากขนาดไหน ฉันไม่มีเบอร์เขา ต้องพึ่งเธอแล้วล่ะตอนนี้ ”

เฉินอินครุ่นคิดสักพัก“ ฉันจะลองดู แต่ถ้าเขารับฉันก็ช่วยไม่ได้”

อืม ไม่บังคับ ”

เฉินอินต้องการช่วยเฉินเฉียว เธอคิดหาโอกาสพูดคุยกับชายคนนั้น จึงหันกลับและถือโทรศัพท์เข้าห้องทำงานทันที

ซังหลินจวินอยู่ที่ห้องทำงานของหย่วนจิ้งจือ มีคนอยู่สองสามคนกำลังคุยกันเรื่องงาน เฉินอินถือโทรศัพท์และยืนอย่างประหม่าอยู่ที่ประตูรออยู่นานก่อนที่ประตูห้องทำงานจะถูกเปิดออกจากด้านใน

เขาเดินออกมาพร้อมกับผู้จัดการแผนกคนอื่น ๆ โดยกระซิบอะไรบางอย่าง

เฉินอินหัวใจเต้นเร็วมากและพูดเบาๆว่า “ประธานซังคะ”

ซังหลินจวินเพียงมองเธอเฉยๆโดยไม่ตอบสนองจากนั้นก็หันไปสนใจคนอื่น

เฉินอินหน้าแดงด้วยความลำบากใจ

รอต่อไป.

ในที่สุดเมื่อพวกเขาคุยกันเสร็จเธอก็รวบรวมความกล้า“ ประธานซังคะ ฉัน …มีเรื่องจะรบกวนค่ะ”

ซังหลินจวินมองไปที่เธอเฉินอินก็ยื่นโทรศัพท์ให้เขา “มี….มีคนต้องการคุยกับคุณ”

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “โทษทีนะ ไม่สะดวก”

ปฏิเสธ

น้ำเสียงเรียบเฉยและเย็นชา

โดยไม่ได้มองไปที่เฉินอิน เขาหันและเดินจากไป

เฉินอินกัดริมฝีปากของเธอด้วยความลำบากใจและพูดขอโทษซ้ำๆ”ขอโทษที่รบกวนเวลาของท่าน พี่ฉันบอกว่ามีเรื่องจะรบกวน ฉันก็เลย …ฉันจะวางสายแล้ว”

เฉินอินรีบร้อนและต้องการวางสายโทรศัพท์

แต่ชายตรงหน้าหยุดก้าว และมองไปที่โทรศัพท์เธอ

เฉินอินรู้สึกงุนงง และไม่ค่อยเข้าใจ

อวี้เฟยก้าวนำไปข้างหน้า”คุณเฉิน ส่งโทรศัพท์ให้ท่านประธานซังสิ”

“เอ่อ….ค่ะเฉินอินตอบสนองอย่างช้าๆและส่งโทรศัพท์ให้อวี้เฟย ทำไมถึงเปลี่ยนใจกะทันหัน?

เฉินเฉียวตอบอีเมล์พลางรออย่างใจจดใจจ่อ

ฮัลโหลหลังจากนั้นไม่นานในที่สุดเสียงอันไพเราะก็ดังขึ้นคำเดียวเท่านั้น

เฉินเฉียวนั่งตัวตรง “ประธานซังคะ นี่ฉันเอง”

ใครหรอคำสองคำที่แฝงความแปลกหน้าและความเฉยเมย

“……”เฉินเฉียวเหมือนถูกราดด้วยน้ำเย็น

ตอนแรกที่ใช้โทรศัพท์ของซังโย่วอีเขายังจำเสียงเธอได้ แต่ตอนนี้กลับไม่รู้จักกันเสียแล้ว

“ฉันคือเฉินเฉียว”เธอแนะนำตัวเอง

มีอะไรน้ำเสียงของเขาก็ยังคงไม่ดีขึ้น

“ คือว่าเมื่อวานขอบคุณนะคะที่พาฉันกลับ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจฉันอยากเชิญท่านประธานซังมาทานอาหารซักมื้อไม่ทราบว่าพอจะมีเวลาไหม ”

ไม่ต้อง

“……”ถูกปฏิเสธแบบไม่มีช่องว่าง เฉินเฉียวไม่รู้จะทำอย่างไรต่อดี ในเวทีธุรกิจเธอถูกปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เหมือนครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกสูญเสีย

เธอเงียบ

มีอะไรอีกมั้ยน้ำเสียงเย็นฉาของชายคนนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง ในน้ำเสียงนั้นดูเหมือนว่าถ้าเธอพูดอีกสักคำก็จะเป็นการทำให้เขาเสียเวลา

เฉินเฉียวถอนหายใจ “ประธานซัง ฉันพูดตรงๆเลยละกัน ที่จริงเมื่อวานหลูตงซิ้งอยากเชิญไปทานข้าวค่ะ”

“ไหนๆก็เป็นเรื่องงานแล้วงั้นก็ทำตามขั้นตอนแล้วกัน ติดต่อผ่านเลขาฉัน วันหลังอย่าใช้ประโยชน์กับความสัมพันธ์กับพนักงานของฉันอีก ”

ด้วยน้ำเสียงที่เป็นทางการของซังหลินจวินเขาวางสายโดยไม่รอให้ เฉินเฉียวพูดอะไร

เฉินเฉียวฟังเสียงตู๊ดตู๊ดทางโทรศัพท์

ผู้ชายคนนี้เดาใจยากชะมัด

เดี๋ยวก็รู้สึกว่าเขาดูแลเอาใจใส่ เดี๋ยวก็รู้สึกว่าเฉยเมยไร้อารมณ์ เดี๋ยวก็ให้ความสำคัญกับเธอเป็นพิเศษ เดี๋ยวก็เย็นชาเหมือนน้ำแข็ง

เฉินเฉียวถอนหายใจ

‘เขาปฏิบัติกับคุณไม่เหมือนกับคนอื่น’ หมายความว่าไง? ไม่เหมือนตรงไหน ยังคงต้องติดต่อผ่านเลขาเหมือนกับทุกๆคนที่อยากพบเขา

ในขณะเดียวกันเธอก็ถอนหายใจโล่งอก

อย่างน้อยมันก็พิสูจน์ได้ว่าชายคนนี้ไม่ได้มีความคิดต่อเธอแบบที่เขาคิด เธอจะไม่รู้สึกอึดอัดแล้ว

ฉันกดเบอร์ภายในเรียกหลี่ชิงให้มาหาและขอให้เธอหาหมายเลขโทรศัพท์เลขาของประธานหยวนเซิ่ง เธอโทรไปหาเลขาเพื่ออธิบายความตั้งใจของเธอเลขาบอกเพียงว่าเธอจะพยายามจัดตารางเวลาให้ นอกจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร

มีกี่คนที่ถูกปฏิเสธโดยซังหลินจวินด้วยวิธีนี้และเฉินเฉียวคาดว่าเธอเองก็ไม่ยกเว้น

ในตอนเย็นหลังเลิกงานเฉินเฉียวถูกเรียกให้มาทานอาหารพร้อมหน้ากันในครอบครัวปู้ ฉันไม่ได้อยากไป แต่ไปก็ได้ถ้าจะคุยเรื่องหย่า

เริ่นหมิงเซวียนไม่ชอบเธอบางทีอาจอยากให้ลูกชายเปลี่ยนใจ

เฉินเฉียวขับรถมาคนเดียว

ก่อนเข้าประตูฉันได้ยินเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของเด็กสาวสองคน

เธอได้ยินมันทั้งหมด

คนหนึ่งเป็นสะใภ้คนเล็กของเธอปู้ฮวานเหยียนอีกคนกลายเป็นโหยวจิ้งหลี

“จิ้งหลี เธออย่าไปสนใจเฉินเฉียวเลย อยู่ในบริษัททำเป็นดุ สงสัยอยากจะได้หุ้นส่วนบริษัทปู้ของพวกเรา วางใจได้ อีกเดี๋ยวถ้าเธอมาถึงฉันจะสั่งสอนเธอเอง! “เสียงของปู้ฮวานเหยียนชัดเจน

เฉินเฉียวยังคงเปลี่ยนรองเท้าของเธอต่อไป ทำเป็นไม่ได้ยิน

“คุณหนูกลับมาแล้วหรือคะ”คนรับใช้กล่าวทักทาย

เฉินเฉียวพยักหน้า

ปู้ฮวานเหยียนและโหยวจิ้งหลีหันไปเห็นเฉินเฉียว ปู้ฮวานเหยียนวิ่งเข้าไปหาอย่างไม่พอใจ“เฉินเฉียว นี้เธอแอบฟังพวกเราคุยกันหรอ!

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset