ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 31 ในเมื่อเข้าใจผิดทำไมต้องยั่ว

คราวก่อนที่หลูตงซิ้งพูด เธอคิดว่าโหยวจิ้งหลีโกหก ตอนนี้ดูเหมือนว่า เธอไม่เพียงแต่รู้จักแต่ยังสนิทกับซังหลินจวินมากกว่าตัวเธอซะอีก

แบบนี้โครงการรื่ออันการแพทย์ที่ทีมของเธอทำมาตั้งแต่แรกได้สูญเปล่าแน่

เฉินเฉียวรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างกะทันหัน

ค่อนข้างหงุดหงิด

ไม่สบายใจ

เธอตั้งเป้าไว้สูง ไม่อยากแพ้ให้กับโหยวจิ้งหลี

เธอบอกภรรยาคุณปีเตอร์ และลุกไปห้องน้ำ

ระหว่างทางโทรหาหลี่ชิง”แย่แล้วฉันเพิ่งเห็นโหยวจิ้งหลีและซังหลินจวินอยู่ด้วยกัน”

หลี่ชิงรู้สึกประหลาดใจ“ พวกเขารู้จักกันจริงๆหรอ?”

“ไม่ใช่แค่รู้จักนะ”เฉินเฉียวคิดสักพักว่า “เรียกคนในทีมประชุม เราจะปรับแผนครั้งสุดท้าย อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่บริษัท ”

ค่ะ

หลังจากวางโทรศัพท์ เฉินเฉียวก็เปิดก๊อกน้ำเพื่อล้างมือ เมื่อเธอดึงกระดาษทิชชู่มาเช็ดมือจู่ๆก็มีมืออีกข้างดึงกระดาษทิชชู่ด้วย

ข้างหลังเธอมีร่างสูงที่เป็นของชายคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับความรู้สึกร้อนผ่าวที่น่ากลัว

เฉินเฉียวผงะหายใจเล็กน้อย

เธอคิดว่าตัวเองแปลกมาก

เธอกับเขาพบกันเพียงไม่แค่ครั้งแต่กลับรู้แม้กระทั่งเสียงหายใจของเขา ก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

สำหรับปู้อี้เฉิน เธอทำแบบนี้ไม่ได้

เฉินเฉียวเช็ดริมฝีปาก แล้วค่อยๆถอนมือจากกระดาษทิชชู่

เธออยากจะหลบหน้าเขาออกไป

แต่อีกด้านมือของชายคนนั้นขวางอยู่หน้ากระจก ทำให้เธอเดินออกไปไม่ได้

เธอเงยหน้าขึ้นมองในกระจก

กระจกสะท้อนให้เห็นซังหลินจวินที่อยู่ข้างหลัง

เขากำลังมองมาที่เธอเช่นกัน

คนสองคนสบตากันและกัน สีหน้าเข้มแววตาดุดัน

วันนี้เธอสวมชุดวอร์มสีขาวซึ่งตรงกันข้ามกับเขาในชุดสีดำ

ด้านล่างเป็นกระโปรงกางเกงทรงสปอร์ต เผยให้เห็นขาเรียวยาวของเธอ

ผมยาวถูกมัดเป็นหางม้าไว้หลังศีรษะ

คอที่ขาวราวกับหิมะถูกเปิดเผยออกมาให้เห็นและจากทางมุมของเขาสามารถมองเห็นแผ่นหลังที่บอบบางและเรียบเนียนในเสื้อกีฬา

ดวงตาของซางหลินจ้องมองอย่างล้ำลึก

เฉินเฉียวกัดริมฝีปากของเธอใกล้กันขนาดนี้ร่างกายของเธอก็แข็งทื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจ้องมองของชายคนนั้นทำให้เธอรู้สึกร้อนและอึดอัด

“ ประธานซังคะ หลบหน่อยค่ะ ฉันจะเดินทางนี้”เธอร้องขอ

ซังหลินจวินเหลือบมองเธออย่างเคร่งขรึมหยิบทิชชู่ด้วยมือข้างหนึ่งและพูดว่า “หันกลับมา”

“ ถ้าหันแล้วคุณจะให้ฉันไปไหม”

“ถ้าไม่หันก็อย่าหวังว่าจะได้ไป”

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่ก็ไม่สามารถซ่อนความเอาแต่ใจไว้ได้

เฉินเฉียวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยและไม่สามารถเข้าใจความตั้งใจของเขาได้เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงหันกลับมาโดยดี

ชายคนนั้นถอยหลังและรักษาระยะห่างจากเธอไว้เล็กน้อย

เฉินเฉียวถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกราวกับว่าในที่สุดก็หาที่หายใจได้

ทันใดนั้นมือเปียกๆของเธอถูกเขาจับไว้

เธอสะดุ้งและอยากจะถอนมือออก

อย่าขยับ

“ มือฉันเปียก”

ฉันรู้ซังหลินจวินหยิบกระดาษทิชชู่และเช็ดมือของเธอ

การกระทำนี้ทำให้เฉินเฉียวประหลาดใจ

เธอกลั้นหายใจ และมองเขาอย่างงง ๆ

เขาเช็ดอย่างนุ่มนวลและใส่ใจ เช็ดนิ้วของเธอไม่แม้แต่จะปล่อย

ราวกับถูกมนต์สะกดเธอไม่แม้แต่จะขยับตัว

เมื่อเรียกสติกลับมา นึกขึ้นได้ว่าต้องดึงมือกลับมา แต่โดยเขาจับไว้เสียแล้ว

ปลายนิ้วของเฉินเฉียวสั่นเล็กน้อยด้วยความร้อนของฝ่ามือเธอมองเขา “คุณ …ทำอะไร เมื่อกี้คุณแกล้งทำเป็นไม่รู้จักฉันไม่ใช่เหรอ? ”

ตอนนี้คืออะไร?

ซังหลินจวินเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “หรือว่าอยากให้สามีเธอรู้ว่าเราไม่ได้แค่รู้จักกัน แต่ยังสนิทกันมากด้วย”

คำสุดท้ายเขาเน้นน้ำเสียงและเหมือนจะบ่งบอกอะไรบางอย่าง

เฉินเฉียวหน้าแดงและพึมพำนึกถึงคืนแรก “เราสนิทกันมากตอนไหน”

ตอนโทรหาครั้งที่แล้ว ท่าทีของเขาเห็นได้ชัดว่าแม้แต่เพื่อนก็ยังไม่นับเลยด้วยซ้ำ

“ที่ไหนคุ้นเคยเธอรู้ดีที่สุด”ตอนเขาพูด ดวงตาของเขาก็จ้องมองไปที่ริมฝีปากเธอ จากนั้นลงไปที่หน้าอกหน้าท้องส่วนล่าง …

“หยุดนะ!”เฉินเฉียวทนไม่ได้และเอามือบังตรงหน้าเขาปิดกั้นสายตาของเขา แต่ไม่ได้สัมผัสโดนพลางพูดว่า: “ประธานซัง คืนนั้นไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นสักหน่อย คุณอย่าพูดเรื่องนี้อีกได้ไหม ฉันบอกแล้วว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”

เข้าใจผิดหรอชายคนนั้นจับมือที่ห้อยอยู่ตรงหน้า เฉินเฉียวก้าวถอยหลังด้วยความตกใจมือจับอ่างด้านหลัง: “ในเมื่อมันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ทำไมต้องมายั่วฉันอีก”

“ ฉันยั่วนายตั้งแต่เมื่อไหร่?”เฉินเฉียวคิดว่าผู้ชายคนนี้เหลือเกินจริงๆ

ซังหลินจวินเอนตัวไปเข้าไปใกล้ สบตาเธอ“ ครั้งแรกเมาแล้วเป็นบ้าจะซื้อฉันให้ได้ ไม่ใช่ว่ายั่วหรอ

“……”ปากที่ร้อนระอุของเฉินเฉียวเปิดออกและพูดเบาๆ: “นั่น …คุณไม่ได้ปฏิเสธนิว่าคุณไม่ใช่ …เด็กขาย”

ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ต่อหน้าเขาเธอก็ตอบอย่างไม่มั่นใจ

“ครั้งที่สองที่คลับ ไม่ใช่ว่าเธอจงใจมาหาฉันหรอ”

“……ใช่ฉันไปหาคุณ แต่คุณก็รู้เหตุผลดี”

“ ครั้งที่สามพาซังโย่วอีไปส่งโรงพยาบาล ไม่ใช่เธอหรอไง”

เฉินเฉียวขมวดคิ้ว “ประธานซัง ฉันทำดีขนาดนั้นทำไมหาว่าฉันเสแสร้งจงใจ”

“ครั้งที่สี่ถึงขนาดส่งกระดาษมาให้ฉันที่ห้องรับรองส่วนตัว ไม่ใช่เธอหรอ”ชายคนนั้นไม่ฟังคำอธิบายของเธอเลย กล่าวอีกนัยหนึ่งเขาไม่ได้สนใจคำพูดเธอเลย

Cen Qiao กัดริมฝีปากของเธอและไม่ตอบ

เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยขายาว ๆ และขยับเข้ามาใกล้เธอและลมหายใจอุ่นๆก็พ่นลงบนแก้มของเธอ“ ครั้งสุดท้ายที่คุณใช้น้องสาวเข้ามาหาฉันอยากจะนัดฉันกินข้าว ก็เป็นเธออีกใช่ไหมละ”

เสียงของเขาน่าฟัง

เขาลดเสียงให้ต่ำลง มันยิ่งทำให้เสียงของเขาดูเซ็กซี่มากขึ้นไปอีก

ระยะเท่านี้คลุมเครือเกินไป

จิตใจของเฉินเฉียวสับสนเล็กน้อยจากไอร้อนของเขา

เธอไม่ได้ตอบ ทำได้แค่ใช้สองมือยันไหล่เขาไว้“ คุณ …อย่าเข้ามาใกล้ขนาดนี้

ขาทั้งสองข้างของเธอถูกเขาบังคับให้ไม่มีที่จะวางและมันก็แนบกับขาของเขาแน่น

เนื้อผ้าบางๆนั้นเธอสัมผัสได้ถึงขาที่แข็งแรงภายในกางเกงกีฬาของเขา

รสสัมผัสของฮอร์โมนเพศชายทำให้เธออยู่ไม่เป็นสุข

เธอกัดริมฝีปาก“ ถ้าคุณยังทำแบบนี้อยู่อีก ฉัน…..ฉันจะตะโกนเรียกคน สามีของฉันอยู่ข้างนอก ”

คำว่าสามีทำให้ชายตรงหน้าขมวดคิ้ว

ที่แย่ที่สุดคือ …พูดถึงปุ๊บเขาก็มาปั๊บ

เสียงของปู้อี้เฉินดังมาจากข้างนอกจริงๆ “คุณมาที่นี้ได้ยังไง เฉินเฉียวกับผมมาพบลูกค้าคุณถ่อมาถึงที่นี้ก็วุ่นวายซะเปล่าๆ ”

บทสนทนานี่คงจะพูดกับโหยวจิ้งหลี

ทันใดนั้นเสียงของโหยวจิ้งหลีก็ดังขึ้น “ฉันไม่ได้มาหาคุณ ฉันมาพบประธานซังไม่คิดว่าคุณกับเฉินเฉียวจะอยู่ที่นี้”

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset