ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 325 แขกที่ไม่ได้รับเขิญ

“เกมนี้สนุกมากเลยหรอ”หลังจากที่ทั้งสองคนคุยกันซังหลินจวินนานๆทีจะได้เอนบนโซฟาสบายๆพร้อมกับไถมือถือข้างเดียวพลางถามคำถามธรรมดา

“จริงๆก็ไม่ได้สนุกขนาดนั้น”เฉินเฉียวกอดอกและเห็นว่าเขาไม่สนใจเธอจ้องมองโทรศัพท์เป็นเวลานาน เหลือบมองไปที่เขาอย่างอยากรู้อยากเห็น

หลังจากพบว่าหลินจวินกำลังดาวน์โหลดเวอร์ชันเบต้าของเกมเซินซิงจิ่วเทียนเธอก็แอบหัวเราะกลั้นรอยยิ้มไว้ในใจและพูด

“ไม่สนุก ยังจะกอดมือถือไม่ปล่อย”ซังหลินจวินได้ยินคำพูดงอนๆของเฉินเฉียว เขาใช้มือจิ้มจมูกเธอ

แต่ในไม่ช้า เขาก็กลับไปสนใจโทรศัพท์เหมือนเดิม

เมื่อเห็นว่าซังหลินจวินเอาแต่สนใจโทรศัพท์ เฉินเฉียวจึงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเธอตบโต๊ะเบา ๆ และพูดว่า “วันนี้คุณอ่านเอกสารทั้งหมดแล้วหรือยัง?”

ซังหลินจวินมองเธอขบขันและพยักหน้า

เดิมที เฉินเฉียว ต้องการบอกว่าเขาถ้าทำงานไม่เสร็จ ไม่ให้เล่นเกม คิดไม่ถึงว่าเขาจัดการงานทั้งหมดแล้ว เลยหาข้ออ้างไม่ได้

ซังหลินจวินรู้ดีว่าเฉินเฉียวไม่พอใจที่เขาเอาแต่สนใจโทรศัพท์ เลยจงใจแกล้ง

เขาทำแบบนี้เพราะอยากให้เฉินเฉียวเข้าใจว่าสองสามวันนี่ที่เธอเมินเขาเป็นอย่างไร

อารมณ์ของเขาขึ้น ๆ ลง ๆแบบนี้ เพราะเป็นห่วงเธอมาก เป็นห่วงจนกระทั่งคิดอยากจะลบเซิฟเวอร์ทดลองนี้

แม้ว่าเขาจะระงับมันอย่างรวดเร็ว แต่ซังหลินจวินก็เข้าใจตัวเองเป็นอย่างดีว่าถ้าเฉินเฉียวไม่ใส่ใจเขา เขาจะทำอย่างนั้นแน่นอน

เพียงแค่สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องให้เธอรู้

อาจเป็นเพราะเฉินเฉียวเบื่อกับเกมนี้แล้วความสนใจจางหายไปอย่างรวดเร็วทุกวันนอกจากการไปทำงานและเลิกงานเขายังคงอยู่กับซังหลินจวิน หรือไม่ก็พาลูกๆออกไปเดินเล่น

หลังจากนั้นวันหยุดฤดูหนาวก็ใกล้เข้ามา

ในช่วงปลายปีหยวนเซิ่งยุ่งมาก เพื่อเตรียมพร้อมงานปีใหม่ซังหลินจวินก็เริ่มจัดการกับงานสิ้นปีล่วงหน้า

ดังนั้นทุกวันนี้ซังหลินจวินมักจะเลิกงานดึกมาก

ในเวลานี้เฉินเฉียวรู้สึกไม่สบายใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับร่างกายของเขาและจะกลับไปที่จิ้งหย่วน เพื่อทำซุปให้เขาและก็เอาไปส่ง

แม้ว่าซังหลินจวิน จะปฏิเสธเธอ แต่ เฉินเฉียวก็ยืนยันในความคิดนี้เขาไม่สามารถห้ามได้จริงๆ

หลังจากการทดสอบภายในไม่กี่เดือน เซินซิงจิ่วเทียนเวอร์ชันทางการจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ในเวลานี้ความร่วมมือระหว่างหยวนเซิ่ง และเซินซิงจิ่วเทียนอยู่ในระดับต้นๆ

ในหลาย ๆ เมือง COS ที่เกี่ยวข้องกับเกมนี้ได้เริ่มโปรโมทและมีการจัดงานแถลงข่าวเล็ก ๆ

ในฐานะที่เป็นเมืองศูนย์กลางเป่ยเฉิงเป็นที่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ในฐานะนักลงทุนการปรากฏตัวของซังหลินจวินในงานแถลงข่าวอาจทำให้เกิดการขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธแผนของซังอวิ๋น

เฉินเฉียวหาชุดสูทที่เหมาะสมสำหรับเข้าร่วมงานให้ซังหลินจวิน ซังหลินจวินจับมือเธอพลางพูด “มันไม่ใช่งานเลี้ยงใหญ่โตอะไรและผมก็ไม่ใช่คนหลักของงานนี้ ไม่ต้องแต่งอย่างนี้ก็ได้ ”

“ฉันรู้ แต่ฉันอยากให้คุณดูสมบรูณ์แบบ”เฉินเฉียวไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร อาจจะเพราะชินกับการเป็นจุดสนใจ

ทุกครั้งที่เขาไปร่วมงานเลี้ยงหรือไปงานอะไรก็ตามเฉินเฉียว ก็เแต่งตัวให้เขาเป็นปกติ

ด้วยเหตุนี้หลายคนในหยวนเซิ่งจึงเริ่มคุยกันว่าเป็นเพราะประธานโตขึ้นแล้วใช่ไหม ถึงสนใจกับการแต่งตัวมากขึ้น

สำหรับในใจของ เฉียวเฉียวเขาสมบูรณ์แบบมาก ซังหลินจวิน มีความสุขแต่เขาก็ยังไม่ลืมที่จะเตือน: “เฉียวเฉียว คุณแต่งตัวให้ผมหล่อขนาดนี้ ไม่กลัวคนฉวยโอกาสผมหรอ ”

เฉินเฉียวมองทันที: “ถ้าฉวยโอกาสง่ายๆขนาดนั้น น่าจะเป็นคุณนะ”

อย่าคิดว่าเธอไม่รู้ คนรอบๆเขาเยอะแยะ ถ้ามีคนมาเข้าใกล้เขาได้แล้วล่ะก็ก็ไม่อยากจะแยกจากเขาแน่นอน

“ เฉียวเฉียว นับวันยิ่งเข้าใจดีเหลือเกินนะ”ทั้งสองอยู่ด้วยกันมานานและความสัมพันธ์ก็ค่อยๆเปลี่ยนจากความรักไปสู่ความใกล้ชิดแน่นอนว่าในใจของซังหลินจวินเฉินเฉียวยังคงเป็นคนที่เขาห่วงใยมากที่สุด ทั้งสองจะไม่ทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดเหมือนตอนแรกแน่นอน

เพราะเธอเชื่อในตัวเขาเช่นเดียวกับที่เขาเชื่อในตัวเธอ

เมื่อเฉินเฉียวพาซังหลินจวินไปขึ้นรถ ซังหลินจวินไม่ต้องการไป

ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินเฉียวต้องอยู่บ้านเตรียมของ ซังหลินจวินก็อยากจะพาเธอไปด้วย

เป็นช่วงปลายปี ถึงแม้ครอบครัวซังจะมีไม่กี่คนก็ต้องรวมกลุ่มสังสรรค์กัน

ในฐานะภรรยาของประธานของหยวนเซิ่ง เฉินเฉียวต้องการจัดระเบียบบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

เธอได้ยินว่าลุงและป้าขอหลินจวินจะมาเป็นแขกในครั้งนี้ด้วย

หลังจากอยู่ใน บริษัท มานาน เฉินเฉียวก็รู้ดีถึงความไม่ลงรอยกันระหว่างพวกเขา

ยังไงซะก็เป็นคนในครอบครัว เรื่องที่ควรทำก็ต้องทำ

เฉินเฉียวเก็บดอกกุหลาบและดอกลิลลี่จำนวนมากจากสวนมาประดับในแจกัน

เฉินเฉียวเอาดอกกุหลาบไปที่ชั้นสองแม้ว่าเขาจะแต่งงานมาเกือบปีแล้ว แต่เขาก็ยังคงต้องรักษาความโรแมนติกที่ควรจะมี

ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งมันจะเสียเปล่าถ้าไม่มีความพิถีพิถันในชีวิต

สำหรับการเด็ดดอกไม้ที่ซังหลินจวินหวงแหน เฉินเฉียวไม่ใส่ใจเลยสักนิด

ยังไงซะก็ปลูกเอาไว้ดู นอกห้อง ในห้อง มันไม่เหมือนกัน

เฉินเฉียวเอาหนามที่เหลืออยู่ออก แล้วชมผลงานของตัวเอง หลังจากนนั้นก็นำไปไว้ที่ที่เธอเตรียม

เมื่อเฉินเฉียวกำลังจะขึ้นไปชั้นบนเพื่ออาบน้ำจู่ๆออดก็ดังขึ้นนอกประตูป้ามั่วที่อยู่ในครัวเช็ดมือทันทีและกำลังจะออกไปเปิด

เฉินเฉียวโบกมือทันทีและพูดว่า “ป้ามั่ว เดี๋ยวฉันเปิดเองค่ะ ฉันอยู่ใกล้ๆพอดี”

มันใกล้จริงๆและหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ก้าวเฉินเฉียวก็เปิดประตูออกไป

ยืนอยู่นอกประตูเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยอ่อนโยนเธออายุประมาณสามสิบปี

เธอสวมเสื้อคลุมขนมิงค์สีเบจและไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ห่วงสวยจนแสแสร้งทำเป็นไม่กลัวหนาว

เฉินเฉียวมองอย่างพิจารณาแล้วก็ยังนึกไม่ออกว่าเป็นใคร

เฉินเฉียวไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร แต่เธอถามอย่างสุภาพว่า: “คุณผู้หญิง มาหาใครคะ”

เฉียว….เฉินเฉียว ฉันเป็นภรรยาของพ่อของหลินจวิน “เฉียวอวี้หมิ่นมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าเธอที่สายตามองไม่ออกว่าเธอเป็นใคร สายตาเต็มไปด้วยความซับซ้อนและเจ็บปวดที่บรรยายออกมาไม่ได้

เฉินเฉียวเคยพบกับคุณผู้หญิงคนนี้ แต่เธอก็รู้ด้วยว่าเธอหย่าแล้ว

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก
Status: Ongoing
เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset