ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 52 กลับมาที่จิ้งหย่วนอีกครั้ง

“ โย่วอี ” เฉียวเฉินกระซิบ แล้วก็ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง

นานแล้ว เสียงครวญครางของเด็กดังก้องอยู่ในหู ในใจเธอรู้สึกอึดอัดมาก ราวกับว่าถูกก้อนหินขนาดใหญ่ทับอยู่ จนรู้สึกว่าหายใจไม่ออก

เจียงฉยงฉยงถูกปลุกขึ้นมาโดยเธอ แล้วเธอก็ลุกขึ้นมานั่งขยี้ตา แล้วก็ถามว่า : “ ไม่เป็นไรใช่ไหม ?”

“……ไม่เป็นไร ” เฉียวเฉินไม่รู้ว่าตัวเองตกลงเป็นอะไรกันแน่ ทั้งๆที่เธอตีเด็กไปเพียงแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น เธอชอบเด็กคนนี้มาก แต่ว่า เธอจะมาทำให้ตัวเองกังวัลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกทำไม

“ ฉันได้ยินเธอเสียงเธอเรียก ‘ โย่วอี ’ ใช่เด็กที่อยู่บ้านของประธานซังหรือป่าว ?” เจียงฉยงฉยงถาม

“ อืม ฉันกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา ฉันรู้สึกไม่สบายใจเลย ”

“ ถ้าเธอไม่สบายใจ ก็ไปดูเลย มันก็ไม่ได้อยู่ไกลจากที่นี้เลย ”

เฉินเฉียวคิดไปคิดมา “ ค่อยว่ากันละกัน ”

เฉินเฉียวซักผ้าเสร็จ แล้วก็ไปที่บริษัท เพื่อที่จะติดตามเกี่ยวกับเสนอราคาใหม่ เป็นอีกหนึ่งวันที่แสนจะวุ่นวาย

หลังจากเลิกงาน ประธานก็เรียกผู้บริหารหลายคนเข้าประชุม การประชุมครั้งนี้โหยวจิ้งหลีได้รับการยกย่องเป็นพิเศษ ในฐานนะคนที่เข้ามาใหม่ เธอเพิ่งเข้ามาก็ชนะโครงการใหญ่ของยื่ออังเย้าเย่ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นผลงานที่คุ้มค่ามาก

เฉินเฉียวก็ได้พูดให้เครดิตกับทีมก่อนที่การประชุมจะจบลง ประธานรู้ดีอยู่แก่ใจ หลังจากที่ได้แจ้งกับฝ่ายแผนกบุคคล เธอก็ไม่ได้พูดอะไร

หลังจากจบการประชุม เธอเก็บข้าวของออกจากห้องประชุม แล้วเดินไปที่ห้องทำงานของเธอ

มีคนเคาะประตู เธอก็เลยตอบว่า “ เข้ามาได้ ”

ประตูเปิด ไม่คิดเลยว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูจะเป็นปู้อี้เฉิน เมื่อกี้ฉันเพิ่งเจอเขาที่ห้องประชุม เฉินเฉียวไม่ได้มองไปที่เขาเลย

“ ประธานปู้มีเรื่องอะไรป่าวคะ ?” เฉินเฉียวถามพลางมองไปที่จอคอมพิวเตอร์

ปู้อี้เฉินดึงเก้าออกมาแล้วก็นั่งลง สายตาก็คือจ้องไปที่เธอ “ คุณจะออกจากบริษัทหรอ ? ”

“ อืม ”

“ แล้วจะออกเมื่อไหร่ ?”

“ หลายวันแล้ว ”

“ ออกแล้วจะไปอยู่ที่ไหน ” ปู้อี้เฉินถาม

สายตาของเฉินเฉียวมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ จากนั้นเธอก็ถอยห่าง แล้วเธอก็หันไปหาปู้อี้เฉิน เธอยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นทำให้อี้เฉินก็รู้สึกพรวดพราด

“ ประธานปู้ ทำไมวันนี้ดูอารมณ์ดีจัง ถึงได้มาสนใจเกี่ยวกับเรื่องของฉัน ? ฉันขอลองเดาดูสิ้ ” เธอหัวเราะ แต่ว่า ภายใต้รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความประชดประชันและการปิดบัง “ เมื่อกี้ที่ประชุมที่ไม่เห็นคุณโหยว เธอออกไปทำธุระ คุณรู้สึกเบื่อไหม ”

ปู้อี้เฉินหายใจแรงขึ้น เขาทุบเอกสารที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะของเฉินเฉียวอย่างแรง “ เซ็นซะ !”

สองคำ ที่ออกมาจากปาก เอกสารที่คว่ำลงบนโต๊ะ ทำให้ของที่อยู่บนโต๊ะของเฉินเฉียวนั้นยุ่งเหยิงไปหมด

เฉินเฉียวไม่ได้อะไร เธอไม่ได้รู้สึกรีบร้อนอะไร จากนั้นก็หยิบเอกสารขึ้นมาแล้วก็เปิดชำเลืองดู “ เดี๋ยวยังไงคืนนี้ฉันจะให้คนส่งไปที่สำนักงานของคุณ ไม่ส่ง ”

มีคำสั่งให้ออกไป

สีหน้าของปู้อี้เฉินดูเหมือนว่าจะทนไม่ไหว แต่สุดท้ายก็ทุบประตูแล้วก็ออกไปด้วยความโกรธ

ผู้หญิงคนนี้ ทำให้เขาต้องกัดฟันทนกับความโกรธ

เขาเองก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นบ้าไปแล้วจริงๆ ถึงได้มาสนใจว่าเธอนั้นจะย้ายไปที่ไหน

ไม่กี่วันที่ผ่านที่ออกไปธุระ จากสนามบินกลางดึกตรงกลับไปที่บ้านของพวกเขาสองคน เปิดกุญแจเข้าไป เห็นห้องที่ว่างเปล่า ทำให้เพิ่งคิดได้ว่าเธอนั้นย้ายออกไปจากที่นี้แล้ว

ขณะนั้น ปู้อี้เฉินรู้สึกว่าบ้านที่ว่างเปล่านี้ดูร้าง ทำให้รู้สึกน่ากลัว เขาก็ยังรู้สึกแปลกใจว่าบ้านหลังนี้ เฉินเฉียวก็อยู่มาตั้งหลายปีแล้ว

คืนนั้น ในใจเขารู้สึกว่างเปล่า เขานอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงอยู่หลายชั่วโมง จู่ๆในสมองก็นึกถึงเฉินเฉียวขึ้นมา ในที่สุดเขาก็รู้สึกทนไม่ไหว รีบขับรถออกไปหาโหยวจิ้งหลีทีนที

เฉินเฉียวไล่ปู้อี้เฉิน แล้วก็กลับมาทำงานใหม่

หลังจากที่ตัดสินใจหย่ากับปู้อี้เฉินแล้ว เธอไม่คิดที่จะทำเรื่องไร้สาระอะไรแบบนี้อีก

พอถึงเวลาเลิกงาน ขณะที่เธอกำลังเดินออกจากบริษัท เธอก็โทรหาเจียงฉยงฉยงไปด้วย วันนี้ตั้งแต่เช้าก็คือนั่งรถออกมากลับเจียงฉยงฉยง ตัวเองไม่ได้ขับรถมา

โทรไปยังไม่ทันติด มองไปไกลๆก็เห็นมีรถไมบัคคันสีดำจอดอยู่ที่หน้าประตู

เฉินฉียวไม่ได้คิดอะไร แต่ว่า จู่ๆประตูรถก็ถูกเปิดออก มีผู้ชายวัยกลางคนลงมาจากรถ และราวกับว่ากำลังเดินตรงมาหาเธอ

เฉินเฉียวไม่ได้รู้จักคนนี้ แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าเขาจะรู้จักเธอ “ สวัสดีครับ คุณเฉิน ”

“ สวัสดีค่ะ ” เฉินเฉียวพยักหน้าเล็กน้อย เพื่อถือว่าเป็นการตอบรับ แล้วก็มองไปที่ฝ่ายตรงข้ามด้วยความใจเย็น

อีกฝ่ายสวมสูทสีดำ ท่าทางดูน่าเคารพ แล้วก็ถามต่อว่า : “ ผมคือคนที่คุณผู้หญิงส่งมา คุณผู้หญิงขอให้มาเชิญคุณ เพื่ออยากให้ไปเจอกับคุณหนูครับ ”

หลังจากที่เฉินเฉียวได้ฟัง ก็น่าจะรู้เลยว่าใครคือ คุณผู้หญิง

แล้วที่ฟังอีกครั้งก็คือ ‘ คุณหนู ’

“ งั้นขอเชิญคุณเฉินขึ้นมาบนรถก่อน ” อีกฝ่ายก็ไม่พูดอะไร แต่ว่ารับรู้แล้ว

“ แบบนั้นก็ดี ” เฉินเฉียวพยักหน้า เธอไม่มีทางจะปล่อยโย่วอีไปอีก แล้วก็ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเรื่องที่ฝันเมื่อคืน

หลังจากขึ้นรถ เจียงฉยงฉยงก็โทร “ เฉียวเฉียว เธอรอฉันอยู่หน้าประตูของบริษัทนะ เดี๋ยวฉันไปรับ ”

“ คืนนี้เธอกลับไปเองก่อนเลย พอดีฉันมีเรื่องนิดหน่อย ยังไงคืนนี้กลับดึกหน่อยนะ ”

“ ทำโอที ? หรือว่าให้ฉันไปรอเป็นเพื่อนเธอที่ทำงานไหม ? เพราะยังฉันกลับไปก็ไม่มีอะไรทำอยู่ที่ดี ”

“ ไม่ได้ทำโอที เรื่องส่วนตัวอ่ะ เดี๋ยวยังไงไว้กลับไปเล่า ”

เฉินเฉียวพูดแบบนี้ เจียงฉยงฉยงก็ไม่ได้ถามอะไรมากว่านี้

หลังจากวางสาย รถก็ขับต่อไปข้างหน้า พอมาถึงครึ่งทาง เฉินเฉียวก็เริ่มรู้สึกว่ารถกำลังขับไปที่เขตป้านซาน

“ พี่คนขับคะ นี่ไม่ใช่จะไปจิ้งหย่วนหรอ ?” เฉินเฉียวถาม

“ ใช่ครับ คุณหนูอยู่ที่จิ้งหย่วน เขาอยากที่จะเจอคุณมากๆ ”

ครั้งแรกเฉินเฉียวกะว่าจะลงจากรถ แต่พอคิดว่าถ้าตัวเองเป็นคุณผู้หญิงที่เชิญแขกมา แล้วก็มาที่นี้เพื่อมาทำธุระ เธอนั่งนิ่งๆ

พวกเขามาพร้อมกับความปลอดภัย น่าจะได้รับคำสั่งมาจากคุณผู้หญิง ราวกับเห็นตัวเองอีกครั้ง

เธอนั่งด้วยความสบายใจ ผ่านไปเร็วมาก รถก็ขับมาถึงกลางหุบเขา แล้วก็ได้จอดอยู่ด้านนอกของจิ้งหย่วน

ตอนนี้ ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว

อีกฝ่ายก็เชิญให้เฉินเฉียวเข้าไปด้วยตัวเอง

เฉินเฉีวถือกระเป๋า แล้วก็ได้เดินเข้าไปด้านใน ก็ได้ยินเสียงของป้ามั่วมาแต่ไกล “ คุณเฉิน ในที่สุดคุณก็มาแล้ว !”

พอป้ามั่วเห็นเฉินเฉียว ก็เก็บอาการไม่อยู่

เฉินเฉียวเดินเข้ามาในห้องโถง แต่ก็ไม่เจอกับคุณผู้หญิง แล้วก็ไม่เห็นซังหลินด้วย

“ โย่วอีละ ?”

“ อยู่ข้างบนค่ะ ! ถ้าเขารู้ว่าคุณมา เขาจะต้องดีใจมากๆเลยค่ะ ”

เฉินเฉียววางกระเป๋าลง “ งั้นฉันขอขึ้นไปดูหน่อยละกัน ”

“ ได้ค่ะ ” ป้ามั่วพยักหน้า

เฉินเฉียวเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะ แล้วก็มุ่งหน้าเดินขึ้นบันไดไป

เธอเคาะประตูเบาๆ เรียกเขาจากด้านนอก “ โย่วอี ”

ไม่มีเสียงตอบรับจากด้านใน

เฉินเฉียวคิดว่าเขาน่าจะหลับอยู่ ก็เลยค่อยๆเดินเข้าไปข้างใน

ในห้องนอนเด็กขนาดใหญ่ มีเพียงแค่แสงไฟจางๆเท่านั้นที่เปิดอยู่ เด็กน้อยตัวเล็กๆนอนอยู่บนเตียง หายใจค่อนข้างเร็ว

เขาม่วนตัวเองเข้าไปกับผ้านวมทั้งตัว แม้แต่หัวก็ไม่โผล่ออกมาด้วยซ้ำ

เฉินเฉียวดูแล้วก็รู้สึกตกใจ

การหายใจของเขาที่ไม่ค่อยปกติ แล้วผ้าที่คลุมหัว ก็กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป

เธอเดินเข้าไป แล้วก็นั่งลงบนขอบเตียง แล้วก็เอื้อมมือไปดึงผ้านวมที่คลุมหัวออก

ไม่คิดว่ามันจะดึงไม่ออก

มือที่อยู่ข้างในกำผ้านวมไว้แน่น และไม่ยอมปล่อยมืออก

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset