ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 55 มือของเธอเข้าไปอยู่ในชุดนอนของเขา

เมื่อพูดถึงเรื่องเด็ก โหยวจิ้งหลีก็ยิ่งร้องไห้มากขึ้นเรื่อยๆ “ ตอนนั้นฉันเกือบจะตายและอีกหนึ่งชีวิตก็ถูกฆ่าตาย อี้เฉิน คุณจะลืมเรื่องพวกนี้ไม่ได้นะ คุณจะรักหรือชอบใครก็ใครที่ไม่ใช่เฉินเฉียว !”

พอปู้อี้เฉินได้ยินเธอร้องไห้ เขาก็รู้สึกเสียใจ

เธอมองไปที่โหยวจิ้งหลี เขาใช้ทิชชู่ซับน้ำตาให้เธอ แล้วก็พูดว่า : “ พอแล้ว ไม่ต้องร้องแล้ว ฉันก็มีเธอแล้วไม่ใช่หรือไง จะไปรักคนอื่นได้ยังไงละ ?”

“ คุณจะไม่ทำจริงๆใช่ไหม ?” โหยวจิ้งหลีก็ยังมีความไม่ไว้ใจอยู่

ผู้หญิงอย่างเฉินเฉียว ที่จริงแล้วเป็นผู้ที่น่าสนใจมาก เพราะถ้าไม่ใช่เธอทำงานหนักเกินไป ป่านนี้ก็คงแต่งงานใหม่ไปแล้ว เธอไม่เคยเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนไหนเลย ตอนนี้ผู้ชายที่ไล่จีบเธอก็คงกลัวว่าคิวที่ต่อที่บริษัทคงจะยาวมาก

“ ถ้าเกิดว่าฉันชอบเธอขึ้นมาจริงๆ ทำไมฉันจะต้องรอให้ถึงตอนนี้ละ ?” ปู้อี้เฉินจับไปที่ใบหน้าที่มีสีหน้ามืดมนของเธอ “ จิ้งหลี ถ้าเกิดว่าผมรักเธอขึ้นมาจริงๆ แล้วผมจะมาทำเรื่องพวกนี้กับเธอหรอ ?”

โหยวจิ้งหลีกลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วก็มองไปที่เขาก็เห็นถึงความเศร้าที่อยู่ในใจของเขา

——————

อีกฝั่งหนึ่ง

อวี้เฟยขับรถมาถึงจิ้งหย่วน

เฉินเฉียวกำลังคิดอยู่ว่าเธอจะปลุกผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างเธอไหม แต่ว่าเขาลืมตาขึ้นมาได้พอเหมาะเวลาพอดี

เขาเหลือบไปมองเฉินเฉียว ที่นั่งตัวตรง “ ฉันหลับไปหรอ ?”

“ อืม ”

เขาจับไปคิ้ว แล้วก็ขมวดคิ้ว “ วันนี้โย่วอีก็ปล่อยให้เธอดูแลละกัน ลงรถ ”

เฉินเฉียวไม่ได้พูดอะไร เปิดประตูแล้วก็เดินลงจากรถ รู้สึกว่าผู้ชายที่นั่งข้างเธอดูเหมือนไม่มีปฏิกิริยาหรือท่าทีว่าจะลงรถ แล้วก็ถามว่า : “ คุณไม่ได้กลับมาดูแลลูกหรอ ?”

“ ฉันยังต้องไปเข้างานสังคม ”

เฉินเฉียวขมวดคิ้วเล็กน้อย ซังหลินจวินดูเหมือนจะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วก็พูดว่า : “ ถ้าเกิดว่าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะอยู่บ้านพักผ่อน แล้วก็ดูแลลูก แต่ว่าการงานของฉันมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ไหนจะคนในสาขาแล้วก็สำนักงานใหญ่อีก คนเป็นพันกว่าคนกำลังรอฉันอยู่ ”

เฉินเฉียวก็เข้าใจในหน้าที่การงาน——เมื่อไม่นานมานี้เธอก็เพิ่งจะได้พักผ่อน เมื่อก่อนเพื่องานแล้วไม่ว่าจะไข้ขึ้นสูงหรือไม่ก็ดื่มจนอ้วกตลอดทั้งคืนก็ทำเพื่องาน แต่ยิ่งไปกว่าซังหลินจวินมีอำนาจที่มากกว่านั้น ?

“ คุณสบายใจได้เลย เดี๋ยวฉันจะดูแลโย่วอีเป็นอย่างดี ”

“ ขอบคุณนะ ” คำขอบคุณแบบสุภาพบุรุษอย่างซังหลินจวิน

เฉินเฉียวยิ้ม แล้วก็เดินลงจากรถ จากนั้นก็ปดประตูรถ รถคันนั้น หายไปจากจิ้งหย่วนอย่างรวดเร็ว

เฉินเฉียวยืนดูสักพักก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินเข้าไป

ซังโย่วอีไม่ได้นอนอยู่บนเตรียงเหมือนกับรอบแล้วที่มา ได้ยินเสียงมาจากด้านนอก แล้วคนก็วิ่งออกมาทันที

พอเห็นเฉินเฉียว ก็ตะโกนขึ้นมาทันที “ พี่เฉี่ยว !”

เฉินเฉียวยื่นกระเป๋าไปให้ป้าหมอ นั้นก็อุ้มเขาขึ้นมา “ ไหนของจับดูสิ้ ยังมีไข้อยู่หรือเปล่า ”

เธอยื่นมือไปแตะที่หน้าผาก

ป้ามั่วพูดน้ำเสียงที่ซาบซึ้ง : “ คุณเฉิน คุณน่าทึ่งมาก วันนี้ตื่นมาตอนเช้า คุณหนูก็ไม่มีไข้แล้ว ต้องขอบคุณพระเจ้าจริงๆ !”

แม้ว่าคุณเฉินจะแต่งงานแล้วก็ตาม แต่ว่าสามารถเกลี้ยงกล่อมคุณหนูได้ ถือว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีมาก ป้ามั่วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

เฉินเฉียวถามป้ามั่ว “ กินยาตรงเวลาไหมคะ ?”

“ ตอนเช้ากับตอนเที่เที่ยงกินไปแล้วค่ะ ส่วนกลางคืนก็บอกว่ายังไงก็จะรอคุณ ”

“ แล้วกินข้าวตรงเวลาไหม ?”

“ กินไปแล้ว แต่ก็ไม่ถือว่าเยอะ แต่ก็ถือว่าดีกว่าเมื่อวานเยอะขึ้น ส่วนมื้นเย็นกำลังจะกินโจ๊ก ”

พอเฉินเฉียวฟัง ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง

เจ้าเด็กน้อยเอามือกอดไปที่คอของเธอ “ คุณพ่อไม่ได้กลับมาพร้อมกับพี่หรอ ?”

“ ไม่ เขากำลังยุ่งๆ ”

ซังโย่วอีเอามือถูจมูกเล็กๆ “ ผมคิดเอาไว้แล้ว ผมจะไม่สนใจเขา ”

“ ทำไมละ ?”

“ ต้องโทษเขา เขายืดโทรศัพท์ผมไป เพื่อที่จะไม่ให้พี่เฉียวหาผมเจอ ”

เฉินเฉียวนึกถึงท่าทางที่เหนื่อยล้าของซังหลินจวิน จากนั้นก็อุ้มเด็กไว้บนตักแล้วก็นั่งลง รับโจ๊กที่ป้ามั่วยื่นมาให้แล้วก็ป้อนให้เขา พร้อมกับพูดว่า : “ โกรธก็โกรธได้นะ แต่จะไม่สนเขาไม่ได้นะ ที่เขาไม่ยอมให้เธอมาเจอพี่ อาจจะเป็นเพราะพี่ก็ได้ ”

“ เพราะพี่งั้นหรอ ?” เจ้าตัวเล็กก็ไม่ค่อยเข้าใจ

เฉินเฉียว

คิดไปคิดมา : “ อธิบายให้เธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ฉันบอกกับเขาเองว่าจะไม่ติดต่อเขา ถ้าเธอจะโกรธ ก็ต้องโกรธพี่ ”

ซํงโย่วอีเอียงหัว “ พี่เฉียว ดูเหมือนว่าพี่กำลังปกป้องคุณพ่ออยู่ พี่ไม่ใช่ว่าไม่ชอบคุณพ่อไม่ใช่หรอ แต่ทำไมตอนนี้พี่เอาแต่ช่วยเขาพูดละ ?”

“……” เอิ่ม ? พี่ช่วยหรอ ?

เฉินเฉียวอึ่งไปสักพัก จากนั้นก็มองไปที่ใบหน้าที่แสนจะไร้เดียงสา แล้วก็รีบพยักหน้า “ พี่ไม่ชอบเขา ”

เฉินเฉียวที่พูดออกมาเหมือนกับเป็นตอกย้ำตัวเอง

หลังจากนั้น เธอก็กินข้าวเย็นที่บ้านตระกูลซัง ซังโย่วอีดีขึ้นมากๆ ครั้งนี้กินยาเสร็จแต่ก็ยังไม่นอน พอเฉินเฉียวจะไป เขาก็ร้องไห้

พอเขาร้องไห้ เฉินเฉียวก็ขยับไปไหนไม่ได้

สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเกลี้ยงกล่อมเขา และบอกกับเขาว่าคืนนี้จะอยู่ด้วย

ซังโย่วอีอายุยังน้อย อย่างไรก็ตามก็เหมือนกับผีเด็ก

“ พี่เฉียว งั้นพี่รีบไปอาบน้ำเถอะ ! คืนนี้พี่ต้องนอนกับผม !”

เฉินเฉียวตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็คงต้องกล่อมเขาให้หลับ แล้วเธอถึงจะไปได้

ป้ามั่วมาพร้อมกับชุดนอน “ คุณเฉิน คืนนี้ก็ใส่ชุดนอนนี้ละกันนะคะ ”

เฉินเฉียวอยากจะอธิบายว่า ตัวเองแค่อยากจะแกล้งๆทำต่อหน้าเด็ก ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชุด แต่ว่าสายตาของเจ้าเด็กน้อยกำลังจ้องมองมาที่เธอว่าเธอจะกลืนคำพูดไหม เขารับชุดนอนมาจากป้ามั่ว

เหลือบไปมองชุดนอน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เป็นชุดใหม่ทั้งชุด

ยิ่งไปกว่านั้น มันก็มีความเป็นผู้หญิงมาก

ไม่ใช่เป็นแบบเสื้อคลุม แต่เป็นชุดนอนแล้วก็เป็นชุดนอนแบบอนุรักษ์นิยม

“ หลังจากที่คุณเฉินนอนที่นี้ไปในคืนนั้น คุณท่านก็บอกให้พวกเราให้เตรียมชุดนอนพิเศษไว้สำหรับคุณเฉิน ” ป้ามั่วอธิบายให้ฟัง

เฉินเฉียวอดคิดภาพในคืนนั้นไม่ได้ ทำให้เธอรู้สึกอาย

ก็เลยพูดว่า ‘ ขอบคุณนะคะ ’ จากนั้นก็หยิบชุดนอนแล้วเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ

ซังโย่วอีมีความสุขมากๆ ปกติแล้วเขามักจะนอนกลิ้งไปทุกด้านและนอนอย่างหยิ่งผยอง แต่วันนี้จะได้นอนแค่ในมุมเล็ก ๆ เตียงที่ใหญ่ๆก็จะลดเหลือเพียงแค่ที่เดียวเท่านั้น

เฉินเฉียวอาบน้ำออกมา ซังโย่วอีก็เรียกหาเธอทันที “ พี่เฉียว รีบมานอนได้แล้ว ”

เฉินเฉียวก็ไปนอน

ครั้งแรกเธอเพียงจะเกลี้ยงกล่อมเด็กเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าจะมีอะไรอยู่ในอ้อมแขน แต่พอหัวถึงหมอน ก็รู้สึกง่วงขึ้นมาทันที และไม่นานก็ลืมตาไม่ขึ้น

——

ซังหลินจวินกลับมาจากสถานบันเทิง ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว

ในวิลล่า วันนี้เงียบเป็นพิเศษ

เขาอาบน้ำเสร็จ แต่ว่ายังไม่นอน ก็เลยเดินไปที่ห้องนอนของลูก

ในห้องมีเพียงแค่โคมไฟเล็กที่เปิดอยู่

เขาเดินเข้าไป เพื่อไปดูอาการของลูก แต่ว่า พอเขาเดินเข้าไป ก็ทำให้เขาหยุดชะงัก

บนเตียง เจ้าเด็กน้อยขดตัวเป็นลูกบอลอยู่ในอ้อมแขนของผู้หญิงคนนั้น งอตัวเหมือนกับกุ้งตัวเล็กๆที่กำลังอุ้มลูก

ผมนุ่มยาวของเธอ แผ่ลงบนหมอน ทำให้เห็นใบหน้าเล็กๆที่มีเสน่ห์

ทั้งสองคนเป็นคนที่ไม่ชอบห่มผ้า และตอนนี้ผ้านวมก็ร่วงลงไปอยู่ที่พื้นแล้ว

พอซังหลินจวินเห็นภาพนี้ เขาก็หายไปสักพัก แล้วต่อมา ก็เอาผ้านวมออก แล้วก็นอนลงข้างๆคนผู้หญิงคนนั้น ยื่นแขนออกไป แล้วรองไปที่หัวของเธอ

เฉินเฉียวหลับๆตื่นๆ เพราะว่าเธอรู้สึกว่ามันหนาว

ข้างลำตัว เหมือนกับว่ามีอะไรร้อนๆอยู่ ด้วยสัญชาตญาณเธอบิดตัวงอเป็นลูกบอลและหดตัวลง

เธอเอามือพาดไปมั่วๆ แต่จู่ๆก็ต้องหยุดชะงัก เพราะเหมือนว่าเธอจะจับโดนอะไรอุ่นๆ

ซังหลินจวินจับมือเล็กๆที่อยู่นิ่งๆไม่ได้ของเธอเอาเข้าไปในชุดนอน แล้วก็หายใจแรงขึ้นจากนั้นก็ดึงตัวของเข้ามา

ว่ากันว่าคนที่นอนกอดตัวเองมักเป็นคนที่ไม่ปลอดภัยที่สุด แล้วก็ดูเหมือนว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้จะดูเหมือนไม่ค่อยปลอดภัยเล็กน้อย

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset