ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 260 สำนักนิกายระดับสอง

มู่เฉียนซีมองเขาด้วยสีหน้าเหมือนจะยิ้มทว่าก็ไม่ยิ้ม “ม้วนไม้ไผ่โบราณนั่นเป็นของพวกเจ้ารึ ? พวกเจ้าบอกข้ามาสิว่าในสามตระกูลยา เจ้าเป็นคนตระกูลใด ?” เมื่อถูกมู่เฉียนซีถามกลับเช่นนี้ พวกเขาต่างก็นิ่งอึ้ง กล่าวอะไรไม่ออกกันเลยทีเดียว

“เจ้าเป็นคนตระกูลจวินผู้นั้นรึ ? ไม่ใช่สิ… คนตระกูลจวินผู้นั้นต้องโตกว่าเจ้า” เขามองมู่เฉียนซีด้วยความประหลาดใจ

“คนตระกูลจวินที่เจ้าหมายถึงใช่จวินโม่ซีหรือไม่ ?”

คนเหล่านี้กล่าวถึงคนตระกูลจวินบ่อยครั้งเสียจนมู่เฉียนซีนึกฉงนสงสัยว่าคนผู้นั้นอาจจะเป็นจวินโม่ซี

เขากล่าว “เจ้ารู้จักจวินโม่ซีด้วยรึ ดูเหมือนว่าตระกูลจวิน นอกจากจวินโม่ซีแล้วยังมีคนอื่นอยู่อีก”

มู่เฉียนซีกล่าวถาม “หุบเขาหมอเทวดาของพวกเจ้าต้องการตามหาหม้อเทพนิรันดร์ใช่หรือไม่ ?”

“เจ้าเด็กน้อย หากวันนี้เจ้ายอมปล่อยข้าไป เราจะมาทำสัญญาร่วมมือกันตามหาจวินโม่ซีผู้นั้นกัน หากเราเอาม้วนไม้ไผ่โบราณมาจากจวินโม่ซีได้ ถึงเวลานั้นเราก็จะตามหาหม้อเทพนิรันดร์ด้วยกัน ข้ารับปากว่าจะแนะนำเจ้าให้กับท่านอาจารย์ของข้า ให้ท่านอาจารย์รับเจ้าเป็นศิษย์ เจ้าลองคิดดี ๆ  สำนักข้าเป็นถึงสำนักระดับสอง โอกาสหอมหวานเช่นนี้ยากนักที่จะมี”

ดวงตาของมู่เฉียนซีเปล่งแสงประกายเล็กน้อย “สำนักระดับสองดูเหมือนว่าจะเป็นสำนักแข็งแกร่งมาก เช่นนั้นเจ้าลองบอกข้าสักหน่อยว่าพวกเราจะไปตามหาหม้อเทพนิรันดร์นั้นได้อย่างไร”

“ผู้อาวุโสแห่งหุบเขาหมอเทวดาของพวกข้าเปิดผนึกที่สองของหม้อพิษสามอสูรได้แล้ว ได้เบาะแสสำคัญของหม้อเทพนิรันดร์มา และหากได้ม้วนไม้ไผ่โบราณอีกสามม้วน ก็สามารถหาตำแหน่งของหม้อเทพนิรันดร์ได้ ตอนนี้ก็ขาดแค่ม้วนไม้ไผ่โบราณที่อยู่กับเจ้า และม้วนที่อยู่กับจวินโม่ซีเท่านั้นแล้ว”

มู่เฉียนซี “นั่นก็หมายความว่าท่านอาจารย์ของเจ้ามีม้วนไม้ไผ่อยู่ในมือแล้วหนึ่ง”

“หากจวินโม่ซีผู้นั้นไม่หนีมาในเซี่ยโจว พวกข้าก็คงจะได้ม้วนไม้ไผ่นั้นมาครองแล้ว เจ้าหนุ่มน้อย นี่เป็นโอกาสอันดีมาก เจ้าไม่ควรพลาดเชียว มาเป็นศิษย์สำนักอันดับสองของพวกข้ายังดีกว่าเป็นศัตรูกับพวกข้าให้พวกข้าตามฆ่า”

มู่เฉียนซีกล่าวถาม “เจ้าแน่ใจนะว่าสิ่งที่เจ้าพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง ?”

“สิ่งที่ข้าพูดล้วนแต่เป็นความจริงทั้งสิ้น อีกอย่าง หากผู้อาวุโสของพวกข้าได้หม้อศักดิ์สิทธิ์อย่างหม้อเทพนิรันดร์นั่นมาครอง สำนักของพวกข้าก็จะกลายเป็นสำนักระดับสาม ระดับสี่ ระดับห้าก็เป็นไปได้ทั้งนั้น หากเจ้ามาเป็นพวกเดียวกับเราหุบเขาหมอเทวดา อนาคตเจ้าจะไปไกลโดยไม่มีที่สิ้นสุดเป็นแน่”

“แล้วม้วนไม้ไผ่ที่อยู่กับจวินโม่ซีผู้นั้น เจ้าวางแผนจะทำเช่นไรรึ ?”

“ศิษย์พี่ของข้าไล่ตามหาจวินโม่ซีผู้นั้นอยู่ คาดว่าอีกไม่นานคงจะจับตัวเขามาได้ เมื่อถึงตอนนั้นภารกิจของเราก็จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี”

“แล้วศิษย์พี่ของเจ้าไปตามหาที่ใดรึ ?” มู่เฉียนซีถามอีกครา เวลานี้นางมีคำถามมากมาย

“ศิษย์พี่ของข้ากลัวว่าพวกข้าจะชิงดีชิงเด่น ดังนั้นข้าจึงไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม เขาคงจะอยู่ในเซี่ยโจวแน่นอน”

มู่เฉียนซี “อืม ไหน ๆ ก็ไหน ๆ นอกจากหม้อเทพนิรันดร์แล้วเจ้ายังรู้เห็นอะไรอีก ?”

“สิ่งที่ข้ารู้ทั้งหมดข้าก็บอกเจ้าไปหมดแล้ว เจ้าก็ควรจะเชื่อในความจริงใจของข้าได้แล้ว! เราสองคนมาร่วมมือกัน หากเราสามารถฉกม้วนไม้ไผ่มาจากจวินโม่ซีตัดหน้าศิษย์พี่ใหญ่ได้ ถึงตอนนั้นเราสองคนก็จะยิ่งใหญ่เลื่องชื่อ”

คนผู้นี้ร้ายนัก เขาคิดจะชวน ‘มู่ซี’ วางแผนทำลายศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองโดยไม่สนใจใยดีอะไรทั้งสิ้น คิดแต่จะร่วมมือกับมู่ซีเพื่อสร้างผลงานเอาหน้าอย่างเดียว

มู่เฉียนซีกล่าว “ความจริงใจของเจ้า ข้าไม่เชื่อแม้แต่น้อย แต่ก็ต้องขอบคุณเจ้ามากสำหรับข้อมูลต่าง ๆ ที่บอกข้า ต่อไปเจ้าก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะ”

ทันใดนั้นเข็มยาเข็มหนึ่งปักเข้าไปที่ขมับของเขาทันที

เขาถลึงตาจ้องมองมู่เฉียนซีอย่างไม่อยากเชื่อ “จะ… เจ้า… เจ้ากล้าฆ่าข้า!  เจ้ามัน…!”

มู่เฉียนซียิ้มเย้ยหยัน “เจ้าคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนเจ้ารึ ? หึ! หวังจะเข้าสำนักระดับสอง ข้าไม่มีความปรารถนานั้นเลยแม้เพียงนิด อีกอย่าง ข้าก็ไม่ชอบสำนักของพวกเจ้าเป็นที่สุด”

“หากมีวันใดวันหนึ่งที่ข้าก้าวเท้าเข้าไปเหยียบสำนักของพวกเจ้า นั่นหมายความว่าวันนั้นจะเป็นวันที่หุบเขาหมอเทวดาจะจบสิ้นลง”

“เจ้า… นี่เจ้า…”

เขายังไม่ทันพูดจบก็สิ้นลมหายใจลงไปเสียก่อน

หลังจากที่จัดการกับพวกเขาแล้ว มู่เฉียนซีก็ลงมือทำลายร่างของพวกเขาทิ้งจนสิ้นซาก  ศิษย์ของหุบเขาหมอเทวดาเหล่านี้ได้ตายลง ณ บึงหมื่นพิษแห่งนี้ แม้แต่ซากศพก็ไร้ร่องรอย

และแล้ว… การหลบหนีที่อันตรายที่สุดนี้ก็ได้สิ้นสุดลงเสียที

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “พวกเราต้องกลับไปที่หุบเขากระจกจันทรา และต้องจัดการทุกอย่างให้สะอาดหมดจดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกหุบเขาหมอเทวดาตามหาข้าเจอ”

ในตอนนี้ตระกูลมู่ของนางได้เผชิญหน้ากับสำนักอวิ๋นเยียน สำนักนิกายระดับหนึ่ง ความแข็งแกร่งก็เปรียบเหมือนกับไข่กระทบหินแล้ว ยังต้องมาเจอสำนักนิกายระดับสองอีก

ในขณะที่ตระกูลมู่ยังไม่แข็งแกร่งพอ นางไม่มีทางที่จะเผชิญหน้าเด็ดขาด

การที่มู่เฉียนซีถูกตามฆ่าสังหารอย่างลึกลับเช่นนี้ทำให้ปรมาจารย์นักปรุงยาเวินเหรินร้อนใจเป็นอย่างมาก เขาทำได้เพียงแค่อยู่ที่หุบเขากระจกจันทราเพื่อเฝ้าดูอาการผู้อาวุโสใหญ่ และยังรอฟังข่าวของมู่เฉียนซี

เมื่อเขาได้รู้ข่าวว่ามู่เฉียนซีเข้าไปในบึงหมื่นพิษนั้น จิตใจของเขาร้อนดั่งไฟสุม

“สวรรค์กลั่นแกล้งหรืออย่างไร น่าเสียดาย ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก อัจฉริยะในการปรุงยาเช่นนี้ ไม่นึกเลยว่า…”

และในขณะเดียวกันนั้น เสียงที่คุ้นหูดังก้องขึ้น “ท่านนักปรุงยาเวินเหรินเสียดายสิ่งใดอยู่รึ ?”

ปรมาจารย์นักปรุงยาเวินเหรินเงยหน้าขึ้นมา ได้เห็นร่างอันบอบบางงดงามปรากฏอยู่ตรงหน้า และด้านหลังของนางก็มีร่างสีเขียวตามหลังอยู่

เขาตื่นเต้นอย่างมาก กลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้น “ผู้นำตระกูลมู่ จะ… เจ้า เจ้ากลับมาแล้ว! นี่ข้าไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่ ?!”

ถูกจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงสูดไล่ฆ่าจนเข้าไปในบึงหมื่นพิษ นางก็ยังเอาชีวิตรอดกลับมาได้ นี่นางเป็นแค่เพียงเด็กอายุสิบหกปีเท่านั้น…

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “ท่านนักปรุงยาเวินเหรินไม่ได้ฝันไปหรอก ข้ารอดกลับมาได้ ข้าอยากจะพบผู้นำขุมกำลังกระจกจันทรากับผู้อาวุโสใหญ่จิ้งเยี่ย ข้ามีเรื่องบางอย่างอยากจะปรึกษาพวกเขาสักหน่อย”

“ได้… ได้!”

เมื่อผู้นำขุมกำลังกระจกจันทรากับผู้อาวุโสใหญ่จิ้งเยี่ยเห็นมู่เฉียนซีเอาชีวิตรอดกลับมาได้ ทั้งสองก็รู้สึกเหลือเชื่ออย่างยิ่ง

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ท่านผู้นำขุมกำลัง เรื่องที่ข้าโดนกลุ่มคนชุดขาวเหล่านั้นตามฆ่าสังหาร ท่านอย่าได้เผยแพร่ออกไปให้คนอื่นรู้เด็ดขาด”

ผู้นำขุมกำลังกระจกจันทรา “เจ้าวางใจได้ ที่นี่ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับขุมกำลังกระจกจันทรา ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น คนของที่นี่ทุกคนจะทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น”

ในตอนนี้พวกเขารู้สึกตกใจอย่างมาก เด็กน้อยผู้นี้ให้พวกเขาช่วยปกปิดเรื่องราวทั้งหมด  คนเหล่านั้น… ไม่ใช่ว่าจะถูกฆ่าตายกันหมดแล้วหรอกใช่หรือไม่ ?!

แน่นอนว่าคำถามเหล่านี้ จิ้งจอกเฒ่าทั้งสองไม่กล้าปริปากถามออกมา

หากเด็กผู้นี้สามารถแก้ไขปัญหาใหญ่หลวงและแข็งแกร่งเช่นนั้นได้ นับว่าแปลกประหลาดยิ่ง!

มู่เฉียนซีหยิบขวดยาออกมาขวดหนึ่ง “ผู้อาวุโสใหญ่จิ้งเยี่ยฟื้นตัวได้เร็วมาก กินยาขวดนี้ต่ออีกขวดก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์แล้ว”

ผู้อาวุโสใหญ่จิ้งเยี่ย “ข้าขอบใจเจ้ามาก”

มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “ว่าแต่เรื่องสมุนไพรวิญญาณระดับปฐพี ได้เรื่องถึงไหนแล้วหรือ ?”

ผู้นำขุมกำลังกระจกจันทรา “ทางตกของเซี่ยโจวมีสมุนไพรวิญญาณระดับปฐพีน้อยมาก แต่ข้าก็ได้ข่าวมาบ้างแล้ว อีกไม่นานดินแดนลึกลับทางตกจะเปิดขึ้น ในดินแดนลึกลับทางตกอาจจะมีสมุนไพรวิญญาณระดับปฐพีที่เจ้าต้องการ”

“ดินแดนลึกลับทางตก ? คือสิ่งใดรึ ?” มู่เฉียนซีกล่าวถามด้วยความสงสัย

.

Related

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset