ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 370 เล่นกับไฟ ไฟเผาตน

สัตว์หินเพลิงแดงนั้นไม่ได้อ่อนแอ อีกทั้งยังฆ่าไม่ยอมตาย  ทว่าจักรพรรดิระดับสูงก็มิใช่ผู้กินมังสวิรัติแต่อย่างใด ดังนั้นพวกเขาจึงต่อสู้อย่างดุเดือดไม่ยอมแพ้กัน

“โฮกกกกก!”

ศัตรูช่างแข็งแกร่งนัก สัตว์หินเพลิงแดงโกรธอย่างที่สุดแล้วในเวลานี้ พวกมันหลายตัวทำให้พื้นดินทั้งผืนสั่นสะเทือนก่อนจะมุดลงไปในใต้ดินนั้น

ศิษย์พี่สี่อึ้งงัน “ใต้พื้นดินของเกาะอัคคีลึกลับแห่งนี้ยังมีอะไรอยู่ข้างใต้อีกรึ ?”

“เกรงว่า…”

ในเมื่อพบความลับของเกาะอัคคีลึกลับแล้ว พวกเขาก็ไม่สนใจผลเก้าอัคคีอีกต่อไป แต่กลับนำพาคนมุดเข้าไปใต้ดินแทน

เมื่อเทียบกับหม้อเทพนิรันดร์ ผลเก้าอัคคีไม่คุ้มค่าแม้แต่จะกล่าวถึงมัน

เหล่ายอดฝีมือจักรพรรดิระดับสูงนั้นจากไปแล้ว เหลือแต่เพียงเจ้าหนุ่ม ‘มู่ซี’  หนุ่มน้อยน้อยผู้อ่อนแอถูกทิ้งไว้ที่นี่เพียงลำพัง

ส่วนกลุ่มคนที่วิ่งหนีไปอย่างลนลานนั้นวิ่งย้อนกลับมา แล้วพบเจอกับมู่เฉียนซีที่ตกหล่นถูกทอดทิ้งอยู่กลางทาง ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่โหดร้ายขึ้นมา

“เจ้าหนู คนพวกนั้นทอดทิ้งเจ้า  เจ้าโดดเดี่ยวเช่นนี้ก็ต้องตายอย่างแน่นอนแล้ว” “เมื่อครู่นี้เจ้ายโสนักไม่ใช่รึ ? ข้าขอดูสักหน่อยว่าเวลานี้เจ้าจะยังยโสอย่างไรได้อีก ?”

— ตูม! —

ในตอนที่พวกเขาลงไม้ลงมือกับมู่เฉียนซี  มู่เฉียนซีนั้นรีบหลบหลีกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายลม

“แม้ว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นเพียงปรมาจารย์ภูตระดับเก้า แต่วรยุทธ์ในการหนีเอาชีวิตรอดนับว่าไม่เลวเลย”

“หนีได้ว่องไวแล้วมีประโยชน์อันใด ? อย่างไรเจ้าก็ต้องตาย” คนเหล่านี้นั้นเป็นพวกที่รังแกผู้อ่อนแอที่กลัวผู้แข็งแกร่งโดยสมบูรณ์  ในตอนที่คนเหล่านั้นของหุบเขาหมอเทวดายังอยู่ พวกเขาวิ่งหนีได้ไวกว่าผู้ใดทั้งหมด แต่มาครานี้คนของหุบเขาหมอเทวดาไม่อยู่แล้ว พวกเขาจึงได้คิดที่จะรังแก ‘มู่ซี’ ที่เป็นเพียงระดับปรมาจารย์ภูตผู้นี้

มู่เฉียนซีเองก็ไม่อยากจะมาสู้ติดพันกับพวกเขา จึงได้มุดเข้าไปใต้ดินจากตรงรอยดินที่แตกระแหงอย่างรวดเร็ว

และนางก็ได้พบ… ใต้พื้นเกาะอัคคีลึกลับแห่งนี้มีบางอย่าง!

“เจ้าหนุ่ม อย่าคิดหนี!”

คนเหล่านั้นไล่ตามไป พวกเขาไม่เพียงแต่อยากจะแก้แค้นมู่เฉียนซี ทว่ายังต้องการไปหาสมบัติที่ใต้ดินอีกด้วย ถึงแม้ว่าเหล่าจักรพรรดิระดับสูงพวกนั้นจะเก่งกาจ ทว่าเรื่องของการหาสมบัติ มิเพียงแต่ต้องใช้ความแข็งแกร่งเท่านั้น เรื่องของโชคชะตาเองก็สำคัญเช่นกัน

มู่เฉียนซีลงมาที่ด้านล่างอย่างปลอดภัย ในนี้นั้นร้อนประหนึ่งเหมือนอยู่ในเตาไฟ  ที่ด้านหน้าของนางมีถนนอยู่หลายสาย นางมองตรงไปขณะที่เสียงฝีเท้าที่ตามมาด้านหลังของนางดังขึ้นเรื่อย ๆ มู่เฉียนซีจึงจำต้องเลือกทางสักเส้นหนึ่งเพื่อไปก่อน จะอย่างไรต่อนางค่อยคิดภายหลัง

ที่แห่งนี้เป็นเขาวงกตใต้ดิน มันช่างซับซ้อนนัก  หลังจากที่มู่เฉียนซีได้ทำสัญลักษณ์ไว้แล้ว นางก็วิ่งไปในเขาวงกตแห่งนี้อย่างรวดเร็ว

คนของหุบเขาหมอเทวดาลงมาที่นี่กันก่อนใคร  เมื่อมาก่อน แน่นอนว่านางย่อมไม่รู้ว่าคนพวกนั้นไปถึงที่ไหนกันแล้ว มู่เฉียนซีกำลังค้นหาทางออก  ในเขาวงกตที่ซับซ้อนเช่นนี้ นางพบเข้ากับพวกคนที่ตามหานางเพื่อล้างแค้นอีกครั้ง คนเหล่านั้นที่มาเจอนางมีจำนวนไม่มากนัก โดยมีผู้ที่เป็นราชาแห่งภูตระดับสูงหนึ่งคนและผู้ที่เป็นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งอีกสองคน

ก่อนหน้านี้พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากคนของหุบเขาหมอเทวดา ดังนั้นพวกนั้นจึงเกลียดมู่เฉียนซีเข้ากระดูกดำ

พวกเขากล่าวอย่างดุดัน “เจ้าหนุ่ม ดูซิว่าเจ้าจะหนีไปที่ใด ?”

หลังจากที่ด้านหน้าได้ถูกปิดกั้นเอาไว้แล้ว ทางด้านหลังก็มีคนดักไว้อีกสองคน อีกทั้งเส้นทางในเขาวงกตนี้ก็แคบเสียเหลือเกิน  ดูเหมือนว่าจะไม่มีหนทางใด ๆ หลงเหลือให้มู่เฉียนซีหนีเลย

มู่เฉียนซี “คนที่ทำร้ายพวกเจ้านั้นไม่ใช่ข้า แต่เป็นพวกเขา เจ้าจะล้างแค้นก็ไปล้างแค้นกับพวกนั้น ข้าบริสุทธิ์พวกเจ้าหัดเบิกตาดูเสียบ้าง!”

“ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจ้าสั่ง พวกเขาก็คงจะไม่ลงมือ เจ้าอย่ามาทำไขสือแกล้งโง่บอกว่าเจ้าไม่เกี่ยวไปหน่อยเลย”

มู่เฉียนซีหัวเราะเย้ยหยัน “เจ้าเล่นตลกหรืออย่างไร ? ทุกคนนั้นล้วนแต่อยากที่จะได้ผลเก้าอัคคี เช่นนั้นแล้วจะอยู่นิ่งเฉยไม่ลงมือได้รึ ?”

นางแค่เพียงชี้โพรงให้กระรอกเท่านั้น คนพวกนั้นก็กลั้นใจไว้อยู่เป็นนาน แล้วจึงได้โอกาสลงมือหนัก ๆ อย่างไม่ต้องสนภาพลักษณ์ก็เท่านั้นเอง

“ไม่ว่าจะอย่างไร วันนี้พวกเราไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน”

มู่เฉียนซีถอนหายใจ “เฮ้อ… ดูเหมือนว่าวันนี้ข้ากําลังเล่นกับไฟ”

“เจ้าเองก็รู้ดีนี่ว่ากำลังเล่นกับไฟ เช่นนั้นแล้วตอนนี้จงชดใช้กับความโอหังของเจ้าซะ!” พวกเขากล่าวอย่างเย็นชา

พวกเขานั้นได้ตัดสินใจที่จะฆ่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าทิ้งเพื่อปิดปาก หากว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มีชีวิตรอด พวกเขาจะต้องโดนพรรคพวกของเขามาตามฆ่าเป็นแน่

คนพวกนั้นเป็นถึงจักรพรรดิแห่งภูต! มุมปากของมู่เฉียนซียกขึ้นเป็นรอยยิ้มหยอกล้อ “ถึงแม้ว่าข้านั้นเล่นกับไฟ แต่ว่าไฟนั้นไม่อาจจะเผาข้าตายได้ แต่พวกเจ้านั้นได้ตายอย่างแน่นอน”

“เสี่ยวหง อู๋ตี้ ออกมา!”

“อู๋ตี้ผู้ไร้เทียมทานหนึ่งเดียวในใต้หล้า มาแล้ว  ข้านั้นอดกลั้นไว้นานมากแล้ว ในที่สุดอู๋ตี้ผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้มีโอกาสลงมือเสียที” อู๋ตี้กระโดดออกมาด้วยความกระตือรือร้น

เปลวเพลิงสีแดงฉานพุ่งออกมา อู๋ตี้ที่ทำตัวโอ้อวดนั้น สำหรับเสี่ยวหงแล้ว มันสบถออกมาเพียงสองคำ “น่าเบื่อ!”

ทุกครั้งที่มันได้ออกมา มักจะต้องมีคำกล่าวนั้นที่เป็นคำกล่าวติดปากของมัน อาการบ้าของเจ้าแมวตัวนี้ไร้ซึ่งหนทางรักษาแล้วจริง ๆ “เจ้าหมูขี้เกียจ เจ้าสิน่าเบื่อ”

ทั้งสามคนนั้น เมื่อได้เห็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ ก็ถึงกับตะลึงงัน  ยิ้มมุมปากก่อนจะกล่าวว่า “สัตว์พันธสัญญารึ! เจ้าหนุ่มนั่นทำพันธสัญญากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สองตัวเลยรึ ?”

“มีจำนวนมากแต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ช่วยอะไร  ตัวเล็ก ๆ เช่นนั้น ตบเข้าไปฝ่ามือเดียวก็ตายแล้ว”

ในชั่วพริบตา อู๋ตี้อันตรธานหายไป มันกล่าวขึ้นด้วยความโกรธเคือง “เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถตบใครตายได้ด้วยฝ่ามือเดียวรึ ?”

— ปัง! —

อู๋ตี้ตบเข้าไปทันทีหนึ่งฝ่ามือ  ไม่เพียงแค่ตบพลังเข้าใส่ผู้ที่เป็นระดับจักรพรรดิกระเด็นไปเท่านั้น แต่ยังได้ทิ้งรอยกรงเล็บที่เป็นรอยเลือดแผลลึกถึงกระดูกไว้บนร่างของเขาด้วย “อ๊าก!” ชายคนนั้นร้องตะโกนก้อง

“ระดับสาม… สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม…”

เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงกดดันของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม พวกเขานั้นคิดที่จะยกขาของตนเองวิ่งหนี แต่เปลวเฟลิงสีแดงจ้าพุ่งเข้ามาล้อมพวกนั้นเอาไว้รอบด้านอย่างหนีไม่พ้น

“พวกเจ้าบอกว่านายท่านของข้านั้นเล่นกับไฟ  พวกเจ้าเองก็เล่นไม่ใช่หรืออย่างไร ?! ในเมื่อมาแล้วก็อยู่ที่นี่ไปก็แล้วกัน” เสี่ยวหงกล่าวอย่างดุดัน

“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามอีกแล้ว!” เมื่อเห็นว่าหมูสีแดงตัวน้อยตรงหน้าก็แผ่แรงกดดันของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามออกมา ในตอนนี้พวกเขานั้นอยากจะเป็นลมไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด

ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ ผู้ที่เป็นเพียงปรมาจารย์ภูตได้ทำพันธสัญญากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ถึงสองตัว ล้อกันเล่นหรืออย่างไร ?

เสียทีที่พวกเขานึกว่าเจ้าหนุ่มน้อยผู้นี้น่าจะรังแกได้ง่ายดาย แท้จริงแล้วเขานั้นน่ากลัวเสียยิ่งกว่าพวกระดับจักรพรรดิเหล่านั้นเสียอีก  ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเจ้าเด็กหนุ่มนั่นถึงได้ทำตัวยโสนัก เพราะว่าเขานั้นมีเงินและความสามารถมากพอที่จะทำตัวยโสได้

“คุณชายน้อย… ไว้ชีวิตพวกเราด้วย พวกเราไม่ได้ตั้งใจ” “พวกเราไม่กล้าหือกับเจ้าอีกแล้ว”

มู่เฉียนซีกล่าวด้วยใบหน้านิ่งเฉย “ข้าดูเหมือนคนที่จะคุยจะตกลงกันง่าย ๆ เช่นนั้นรึ ? เมื่อครู่พวกเจ้าจะฆ่าข้าปิดปากข้า  ตัวพวกเจ้าเองไม่ได้คิดเตรียมใจที่จะถูกฆ่าบ้างเลยรึ ?”

จิตสังหารเย็นยะเยือกกวาดผ่านมา พวกเขารู้ทันทีว่าหลังจากอ้อนวอนขอความเมตตาแล้วมันไร้ซึ่งความหวังโดยสิ้นเชิง  ใบหน้าของพวกเขาฉายแววเย็นชาออกมาครู่หนึ่ง

“ก็ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็จะสู้ตายกับเจ้า”

“เช่นนั้นก็พอดี กระบี่มังกรเพลิงของข้ากำลังหิวโหยนัก”

ทันใดนั้นมู่เฉียนซียกมือขึ้น  กล่าวอย่างเย็นชาว่า “มังกรเพลิงสังหาร!” — ตูม!  ตูม!  ตูม! —

เดิมทีพวกเขานั้นถูกคนของหุบเขาหมอเทวดาทำให้บาดเจ็บหนักอยู่แล้ว และยังต้องมาเจอกับกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้อีก นี่มิใช่ความทุกข์ยากธรรมดา ๆ

อู๋ตี้ได้ใช้ความว่องไวในขอบเขตที่เร็วที่สุดเพื่อจัดการกับพวกเขาทั้งสามเสียจนไม่เหลือพลังในการต่อสู้เท่าไรนัก จากนั้นมันยิ้ม  กล่าวว่า “นายท่าน จัดการได้เลย”

เสี่ยวหงบ่นขึ้นมาว่า “เจ้าแมวโง่ เจ้าจะไม่เหลือไว้ให้ข้าสักคนเลยหรืออย่างไรเล่า ?”

อู๋ตี้ยิ้ม  กล่าวว่า “ใครใช้ให้เจ้าเชื่องช้าเล่า พลังของพวกนั้นมีมากนัก จะรอช้าไม่ได้”

ภายใต้การโจมตีของกระบี่มังกรเพลิง ชีวิตและจิตวิญญาณก็หายไปอย่างสะอาดหมดจดในพริบตา

หลังจากที่ได้กลืนกินบุคคลระดับจักรพรรดิไปสองคน กระบี่มังกรเพลิงพึงพอใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อย แต่ทว่าความอยากอาหารของมันยังคงแรงกล้าเช่นเดิม

มู่เฉียนซีวิ่งต่อไปอย่างรวดเร็ว เมื่อวนอยู่ในนั้นตั้งนานนมเน ในที่สุดนางก็หาทางออกพบ เมื่อตอนที่นางเดินออกมาจากเขาวงกตนั้น พลันรู้สึกได้ถึงบรรยากาศรอบตัวที่บิดเบี้ยวไป

“อ๊ากกกก!”  เสียงร้องโหยหวนราวกับหัวใจแหลกปอดสลายลอยออกมา

.

.

.

Related

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset