ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 655 ถูกล้อมโจมตีแล้ว

มู่เฉียนซีเลิกคิ้ว “เจ้ามั่นใจขนาดนั้นเลยรึ ว่ากรงผุ ๆ นี่มันจะสามารถขังข้าเอาไว้ได้”

เปลวเพลิงลุกโชนโหมกระหน่ำมากขึ้น หวงฉีกล่าวอย่างมั่นใจว่า “ข้าบอกว่าสามารถขังเจ้าไว้ได้ก็คือขังเจ้าไว้ได้! แม้ทักษะวิญญาณของเจ้าจะทรงพลัง แต่พลังวิญญาณของเจ้านับว่าอ่อนแอเกินกว่าจะทําลายได้”

“มังกรวารีพิฆาต!”

มังกรวารีสีฟ้าเดินเตร่อยู่บนโซ่เพลิง มันน่าเกรงขามพร้อมข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม

— ปัง! —

พลังทั้งสองปะทะกัน แต่โซ่เพลิงกลับไม่ได้ถูกมู่เฉียนซีทําลายไป

หวงฉีกล่าวอย่างมั่นใจ “ศิษย์น้องมู่เฉียนซี เจ้าไม่ต้องดิ้นรนไปให้ไร้ประโยชน์หรอก ส่งลูกซวนจูของเจ้าออกมาแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป และแน่นอนว่าข้าจะไม่ทําร้ายเจ้า แต่ถ้าเจ้ายังต่อต้านไม่เลิก ถูกเผาไปก็คงไม่ดี”

“ทักษะเทียนซวน!”

พลังทําลายล้างของมังกรวารีพิฆาตเป็นเพียงการซ้อมมือเท่านั้น ต่อไปก็ถึงเวลาที่มู่เฉียนซีจะเคลื่อนไหวจริง ๆ แล้ว

เมื่อทักษะเทียนซวนถูกปล่อยออกมา โซ่ก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ กลายเป็นท่อน ๆ และมู่เฉียนซีก็พุ่งออกมาจากกรง

หวงฉียังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาก็ต้องกล่าวออกมาด้วยความตกใจ “นั่น! เป็นไปได้ยังไง ?”

อาวุธที่เขาภาคภูมิใจถูกผู้ที่เป็นเพียงจักรพรรดิระดับหนึ่งบดขยี้จนแหลกละเอียด

เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว มู่เฉียนซีก็ลงมืออีกครั้ง

“มังกรเพลิงสังหาร!”

ปลายกระบี่ชี้ไปยังหวงฉี มังกรเพลิงสีแดงเข้มตัวหนึ่งพุ่งออกไปกลืนกินหวงฉีในทันที

ไม่น่าเลย! เขามั่นใจในกรงเพลิงของเขาเองมากเกินไปจนพบกับจุดจบอันน่าตะลึงงันเมื่อเห็นมู่เฉียนซีทําลายมันได้ด้วยกระบวนท่านี้ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมังกรเพลิงสังหารของนาง เขาก็ยิ่งไม่มีช่องว่างในการตอบโต้ใด ๆ

— ปัง! —

พื้นถูกเผาไหม้เกรียม ร่างหวงฉีกระเด็นลอยออกไป เสื้อผ้าของเขาถูกเผาจนขาดรุ่งริ่ง จิตใจก็บอบช้ำ เขารู้สึกเหมือนกําลังฝันไปและได้แต่พูดเสียงเศร้า “ข้าแพ้แล้ว…”

ฉูห้าวเองก็รู้สึกเหมือนทุกอย่างตรงหน้าไม่ใช่เรื่องจริง “พี่ใหญ่มู่ เจ้าชนะอีกครั้งแล้ว เจ้านี่สุดยอดมากจริง ๆ!”

“สวรรค์โปรด! แม้แต่หวงฉีก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง การที่พี่ใหญ่มู่จะได้อันดับหนึ่งในการสอบคัดเลือกศิษย์สำนักส่วนในในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติมาก”

“ข้าแพ้แล้ว ลูกซวนจูเป็นของเจ้า เอาไปซะ!” หวงฉีเป็นคนรู้แพ้รู้ชนะ เขาส่งลูกซวนจูไป ยอมมอบให้แต่โดยดี

เขาเป็นศิษย์สิบอันดับแรกของห้องเรียนระดับสูง คะแนนในลูกซวนจูของเขามีไม่น้อยเลย

มู่เฉียนซีบดขยี้มันอย่างไม่รีรอ ทันใดนั้นคะแนนนางเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

“ไปต่อ!” มู่เฉียนซีแค่นเสียงเย็น

ค่ำคืนนี้ นอกจากเจอกับหวงฉีที่ถือได้ว่าแข็งแกร่งแล้ว ผู้อื่นที่เหลือนางรับมือได้ง่ายมาก

ฉูห้าวมองดูคะแนนของเขาที่เพิ่มสูงขึ้น ถ้าหากว่าเขาพึ่งพาตัวเขาเองเพียงคนเดียวคงไม่มีทางที่จะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้อย่างแน่นอน แต่ทว่าวันนี้กลับทำมันได้ นี่เป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างมาก

……

วันที่สอง การล่ายังคงดําเนินต่อไป

มู่เฉียนซีและฉูห้าวกลายเป็นคู่หูที่ห้าวหาญและมีชื่อเสียงในเขาจงเสียไปแล้ว สำหรับมู่เฉียนซี นางน่าหวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ใครก็ไม่กล้าหือกับนางทั้งนั้น! ทว่ามีอยู่คนหนึ่ง…

“บัดซบ! มันจะมากเกินไปแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยให้สาวน้อยผู้นั้นและเจ้าฉูห้าวอวดดีอีกต่อไป”

“หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเราคงหยุดพวกเขาไม่ได้”

“จะต้องทำอะไรสักอย่าง…”

คะแนนของมู่เฉียนซีและฉูห้าวเพิ่มขึ้นอย่างมากและรวดเร็วด้วย เหล่าคนที่เกลียดชังพวกเขามีไม่น้อยเลย ทําให้บัดนี้หลายคนต่างเพ่งเล็งไปที่มู่เฉียนซีและฉูห้าวโดยตรง

“เป็นเช่นนี้เราคงต้องไปหาพี่ใหญ่สิบอันดับแรกก่อน จึงจะสามารถจัดการกับมู่เฉียนซีได้”

“ศิษย์ใหม่นางนั้นเดิมทีผู้คนก็บอกว่านางเป็นสตรีวิปริต แต่ข้าก็ไม่คิดว่านางจะวิปริตถึงขนาดนี้”

“ใช่… นี่มันเรื่องบัดซบอันใดกันแน่ ?”

ในส่วนของมู่เฉียนซี นางเริ่มต้นวันที่สองได้ดี คะแนนของนางสูงเกินหนึ่งพันคะแนนแล้ว!

เมื่อคิดคำนวณตามสัดส่วนของคนที่ยอมแพ้ไปในตอนนี้ การติดหนึ่งในสิบอันดับแรกไม่ใช่ปัญหาเลย แต่พวกเขาเหล่าศิษย์ที่อยู่มาก่อนไม่ต้องการให้ศิษย์ใหม่ผู้หยิ่งยโสเช่นนี้อยู่ลอยหน้าลอยตาให้หมั่นไส้ต่อไป จึงมีบางคนตั้งใจอย่างที่สุดเพื่อโจมตีโค่นล้มมู่เฉียนซีลง

“พวกเจ้าหมายความว่ายังไง ?” ฉูห้าวเอ่ยถามขึ้น

มีผู้คนยี่สิบถึงสามสิบคนมารวมตัวกันตรงหน้า พวกเขาดูดุร้าย เห็นได้ชัดว่ามาไม่ดีแน่

“หมายความว่ายังไงงั้นเรอะ ? ก็หมายความว่าพวกข้ามาจัดการกับพวกเจ้านยังไงล่ะ ? ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ” พวกเขาหัวเราะอย่างเย็นชา

ชายชุดขาวผู้หนึ่งก้าวออกมา เขาเอ่ยเสียงเย็น “หึ ๆ ข้าได้ยินมาว่าศิษย์น้องมู่เฉียนซีและเจ้าลูกกะจ๊อกฉูห้าวมีคะแนนอยู่ไม่น้อย ข้าจึงอยากยืมคะแนนสักหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะเต็มใจหรือเปล่า”

ฉูห้าวพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เต็มใจก็บ้าแล้ว พวกเจ้าทั้งกลุ่มมีคนมากมายแต่จะจัดการพวกข้าที่มีเพียงสองคน ช่างไร้ยางอายเสียจริง!”

“ผู้อาวุโสสํานักส่วนในบอกไปแล้วว่าจะใช้วิธีใดก็ได้ การที่พวกข้าอยากเข้าไปจัดการพวกเจ้าสองคนพร้อมกันแล้วจะทำไม ?”

“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะไม่ยอมแพ้” สีหน้าของฉูห้าวมืดครึ้ม เขามองมู่เฉียนซีก่อนจะถามว่า “พี่ใหญ่มู่ เราเอาไงดี ?”

“ยังจะทําอะไรได้อีกเล่า ? ลุย!” มู่เฉียนซีตะโกน

“ได้! ลุย!” ผ่านการสู้ด้วยกันมาประมาณหนึ่ง ฉูห้าวเริ่มเชื่อมู่เฉียนซีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเมื่อบอกว่าลุยเขาก็ลุย ร่วมมือกับหญิงฉลาดและเก่งกาจอย่างนางย่อมมีวิธีเอาชนะอย่างแน่นอน

— ปัง! ปัง! ปัง! —

ขวดยานับไม่ถ้วนถูกมู่เฉียนซีโยนขึ้นไปกลางอากาศก่อนที่ขวดพวกนั้นจะแตกปล่อยเอายาหกลงมาราวกับสายฝนโปรย

หากไม่ระวัง สัมผัสถูกยานี้เข้า พวกเขาจะรู้สึกชาไปทั้งตัว

— ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! —

เข็มยานับไม่ถ้วนพุ่งออกมา

ด้วยการโจมตีอย่างหนักทั้งสองแบบ มู่เฉียนซีโจมตีไปที่พวกเขาอย่างกะทันหัน ทำให้พวกเขานั้นไม่อาจรับมือได้ทันการ

“แย่แล้ว นั่นพิษ!”

“อาวุธลับ!”

“นางใช้วิธีการที่ไม่เป็นที่นิยมและต่ำช้าเช่นนี้นี่เอง ถึงว่าล่ะ นางถึงได้เอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้มากมายเช่นนั้นภายในเวลาไม่นาน”

“น่าแค้นใจจริง! พวกเรา อย่าปล่อยให้นางอวดดีต่อไปได้”

“ลุย! จัดการนาง!” พวกเขาตะโกนและลงมือกับมู่เฉียนซี

ทว่า… การทะเลาะวิวาทกับคนที่ชำนาญในการใช้พิษรุนแรงถือเป็นคนโง่เง่า พวกเขาพลาดแล้ว พลาด พลาด พลาด!

พวกเขาถูกวางยาพิษโดยไม่ทันตั้งตัวจนได้ อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูง

ฉูห้าวเองก็ตกใจจนพูดไม่ออก เขารู้ดีว่าพี่ใหญ่มู่ใช้พิษได้อย่างชำนาญมาก แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่านางจะใช้พิษที่มีพลังทําลายล้างรุนแรงได้มากขนาดนี้

ชายชุดขาวที่นําหน้ากระโดดออกมา เขายิ้มพลางกล่าวว่า “ข้าไป๋ฉาง คงดูเบาศิษย์น้องมู่เฉียนซีเกินไปแล้วจริง ๆ ดูเหมือนว่าข้าจะต้องลงมือจัดการด้วยตัวเอง”

มู่เฉียนซี “เมื่อครู่เจ้าไม่กล้าลงมือใช่ไหม ตอนนี้เจ้าคงรู้ถึงพิษที่ร้ายกาจของข้าแล้ว เจ้าถึงได้กล้าลงมือ”

ไป๋ฉาง “ทําไมศิษย์น้องมู่เฉียนซีถึงคิดแบบนั้นเล่า เมื่อครู่ข้าแค่ใจไม่แข็งพอที่จะทําร้ายเจ้า”

“ช่างเป็นคนหน้าซื่อใจคดซะจริง” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา

พลังของไป๋ฉางไม่ได้สูงไปกว่าหวงฉีเลย มู่เฉียนซีจึงไม่ได้กดดันมากนัก

“มังกรวารีพิฆาต!”

“ทักษะตี้ซวน!”

— ปัง! ปัง! ปัง! —

ภายใต้การโจมตีอย่างบ้าคลั่งของมู่เฉียนซี ไป๋ฉางก็พ่ายแพ้และถอยร่นไปอย่างต่อเนื่องจนไม่อาจทนได้อีกต่อไป

“เจ้า…”

“เจ้าเป็นเพียงแค่จักรพรรดิระดับหนึ่งได้ยังไง ? นี่มันเป็นไปไม่ได้เลย”

มู่เฉียนซี “การมาล้อมโจมตีข้า แน่นอนว่ามีราคาที่ต้องจ่าย”

“ทักษะเทียนซวน!”

“พรวด!” ทักษะเทียนซวนฟาดลงมาจากฟากฟ้า ร่างของไป๋ฉางจมลงสู่ก้นบึ้งของพื้นดิน เขากระอักเลือดออกมา

ส่วนคนอื่น ๆ เริ่มแย่ พิษเริ่มลงลึกขึ้นจนไม่มีแม้แต่แรงจะต่อสู้

ดวงตาของฉูห้าวเป็นประกาย พี่ใหญ่มู่ชนะอีกแล้ว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการรุมล้อมของคนจํานวนมากเช่นนี้กลับไม่เป็นอะไรเลย ดูเหมือนว่าอันดับหนึ่งของการทดสอบในครั้งนี้ต้องเป็นของพี่ใหญ่มู่อย่างแน่นอน

ฉูห้าวหัวเราะ “ไม่ต้องพูดมากแล้ว ส่งลูกซวนจูออกมาเถอะ”

หลังจากรับลูกซวนจูของพวกเขา คะแนนของมู่เฉียนซีก็เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ผู้ที่มีคะแนนสูงสุดกลายเป็นมู่เฉียนซี

อาจารย์ใหญ่พูดอย่างตื่นเต้น “มู่เฉียนซี อันดับหนึ่งเป็นของมู่เฉียนซี! สาวน้อยผู้นี้ช่างขยันทําให้คนประหลาดใจดีจริง ๆ”

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset