ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 718 ใครที่ต้องไสหัวลงไป

สํานักศึกษาซวนเสียพุ่งขึ้นไปสุดท้าย แต่ความเร็วกลับไม่ได้ช้าไปกว่าผู้อื่น!

พวกเขารู้ถึงอันตรายของสายฟ้า ดังนั้นทุกครั้งที่พวกเขาสังเกตเห็นสายฟ้าฟาดลงมา พวกเขาจะหลบอย่างรวดเร็ว

และเมื่อไม่สามารถหลบได้ ก็จะพยายามต่อต้านมันอย่างถึงที่สุด

สิ่งที่ไม่น่าเชื่อยิ่งกว่านั้นคือพวกเขารู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยพลัง

สภาพร่างกายของพวกเขาดีกว่าปกติมาก พวกเขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่?

“ลูกพี่เหลิ่ง! คนเหล่านั้นของสํานักศึกษาซวนเสีย พวกเราจะทําอย่างไรกันดี ?”

“สายฟ้านั่นเป็นอันตรายอย่างมาก พวกเราไม่สามารถประมาทได้! ผ่านรอบนี้ไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน แต่หากมีโอกาสก็อย่าได้ปล่อยพวกเขาไป!”

แม้ว่าเหลิ่งหลินจะอยากแก้แค้นมาก แต่เขาก็รู้ว่าการแข่งขันครั้งนี้สําคัญที่สุด และไม่สามารถละทิ้งได้

ตูม! ยิ่งขึ้นไปด้านบน พลังสายฟ้านั่นก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น

จนบางคนมิอาจต้านทานได้และกลิ้งตกลงมา

มู่เฉียนซีรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก นางฝึกฝนย่างก้าวเทวาลึกลับแล้ว ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมากทําให้สายฟ้าเหล่านี้ไม่สามารถทำอะไรนางได้

แน่นอนว่าในร้อยสำนักนี้ ก็ไม่ได้มีแต่มู่เฉียนซีคนเดียวที่รวดเร็ว

เมื่อขึ้นไปด้านบน ระยะความต่างของทุกคนก็ได้ปรากฏ พวกเขากล่าวว่า “รุ่นพี่ซวนอี้ สหายมู่เฉียนซี พวกเจ้าขึ้นไปก่อน! เพื่ออันดับหนึ่ง!”

“พวกเราจะค่อย ๆ ปีนขึ้นไป จะต้องพุ่งขึ้นไปก่อนพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างแน่นอน!”

มู่เฉียนซีกล่าว “ได้! พวกเราไปกันเถอะ!”

“อื้ม!” ซวนอี้พยักหน้า

เขารู้ความคาดหวังของอาจารย์ดี ครั้งนี้สํานักศึกษาซวนเสียของพวกเขาจะต้องขึ้นไปอยู่อันดับต้น ๆ ได้อย่างแน่นอน

ดังนั้นตั้งแต่เริ่มรอบแรก พวกเขายิ่งต้องทำให้ผู้คนเห็นถึงความพิเศษ

ความเร็วของมู่เฉียนซีและซวนอี้ไม่ช้าเลย ไม่นานก็นําหน้าคนไปมากมาย

ความแข็งแกร่งของซวนอี้ถือได้ว่ายอดเยี่ยมมากในร้อยสํานัก ความเร็วนั้นก็รวดเร็วอย่างสมเหตุสมผล แต่มู่เฉียนซี…

“ระดับจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หนึ่งกลับรวดเร็วถึงเพียงนี้ ข้าไม่ได้เกิดภาพหลอนใช่ไหม!”

“คาดไม่ถึงว่ายังมีสํานักศึกษาที่ส่งระดับจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หนึ่งมาเข้าร่วมการแข่งขันร้อยสํานักด้วย สํานักศึกษาของพวกเขาช่างขาดแคลนอัจฉริยะเสียจริง ๆ!”

“……”

ผู้ที่ล้าหลังมู่เฉียนซี พึมพําอยู่ด้านหลังของมู่เฉียนซี

เส้นทางสู่เขาจิ่วเหลยได้ดําเนินมาถึงครึ่งทางแล้ว พวกเขามาถึงครึ่งทางของภูเขา

ผลก็คือพวกเขาพบว่าด้านบนไม่มีฟ้าผ่าแต่ทุกครั้งที่พวกเขาก้าวเท้า เท้าทั้งคู่กลับหนักถึงหนึ่งพันจิน

ความเร็วของทุกคนเริ่มช้าลง

ในตอนแรกพวกเขายังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามปกติ แต่หลัง ๆ การก้าวเท้าเดินของพวกเขาได้กลายเป็นเรื่องที่ยากลําบากมาก

บึ้ม บึ้ม บึ้ม!

ใต้ครึ่งภูเขาจิ่วเหลยลงมา มีฟ้าแลบฟ้าร้อง ผู้สมัครทุกคนใช้ความเร็วสูงสุดในการหลบหลีกและปีนเขา

ส่วนอีกครึ่งทางบนของภูเขา ทุกคนก้าวเดินอย่างช้า ๆ และหายใจหอบอย่างต่อเนื่อง

แต่ขณะนี้ก้าวเดินของมู่เฉียนซีและซวนอี้กลับปกติมาก ซวนอี้กล่าว “เฉียนซี นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ความแข็งแกร่งของร่างกายข้า ไม่มีทางดีได้ถึงขั้นนี้อย่างแน่นอน?”

มู่เฉียนซียิ้มและกล่าวว่า “อาหารมื้อเมื่อคืนของพวกเจ้าคิดว่ากินไปอย่างเปล่าประโยชน์งั้นหรือ? งูพิษพวกนั้นมีค่ามาก! และด้วยการต้มสูตรเฉพาะของข้า แม้ว่าจะไม่สามารถทําให้พวกเจ้าเลื่อนระดับได้โดยตรง แต่ก็สามารถกลายเป็นพลังในร่างกายของพวกเจ้าได้ เพื่อช่วยให้พวกเจ้ายกระดับคะแนนของพวกเจ้าในการทดสอบนี้ ”

ซวนอี้กล่าว “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง?”

“ตอนนี้ร่างกายของเจ้าน่าจะมีแรงเหลือใช้ไม่สิ้นสุด! ดังนั้น รีบเร่งเข้า!”

“ได้!” ซวนอี้พยักหน้า

“ฮู้! ฮู้! ข้าทนไม่ไหวแล้ว”

“เดินไม่ไหว เดินไม่ไหวแล้ว ก่อนฟ้ามืดจะปีนขึ้นไปได้อย่างไรกัน!”

“……”

ยังไม่ทันถึงบันไดหนึ่งร้อยขั้น ก็มีคนทนไม่ไหวแล้ว

และในเวลานี้ ทุกสํานักศึกษาที่มีพรสวรรค์ซ่อนเร้น ก็เริ่มแสดงพลังวิเศษออกมาแล้ว

แต่ละคนหยิบเอายาหลากหลายชนิดออกมา เสริมด้วยอาวุธวิญญาณ เพื่อช่วยให้พวกเขาพุ่งขึ้นไปได้

ด้วยซุปงูบํารุงร่างกายเมื่อคืน มู่เฉียนซีจึงไม่จําเป็นต้องใช้ยา

ผ่านไปครึ่งค่อนวันแล้ว ตอนนี้มู่เฉียนซีและซวนอี้แซงหน้าผู้คนไปก็มากแล้ว ทั้งยังผ่อนคลายมากอีกด้วย

“เจ้า… เจ้า… เจ้ารอข้าด้วย!” เสียงหายใจไม่ทันดังมาจากด้านหลังของมู่เฉียนซี

มู่เฉียนซีหันกลับไปก็เห็นผู้ที่เจิดจ้าอย่างหาที่เปรียบมิได้ผู้หนึ่ง

“เป็นเจ้า สำนักศึกษาจินซิน”

“ข้าชื่อจินซ่านซ่าน ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า!” เขาใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะปีนขึ้นไปให้ถึงตําแหน่งของมู่เฉียนซี

“มีเรื่องอะไรเหรอ?” มู่เฉียนซีถาม

“ความแข็งแกร่งของเจ้าเป็นเพียงระดับจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หนึ่งเท่านั้นแต่กลับสามารถปีนภูเขาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ แท้จริงแล้วมีอาวุธลับอันใดกันแน่? ยังมีอีกไหม? ขายให้ข้าอันนึง ราคาตามแต่เจ้าต้องการ” จินซ่านซ่านกล่าวออกมา

สมแล้วที่เป็นสํานักศึกษาจินซินแห่งทวีปอวี้โจว ใจกว้างมากจริงๆ

มู่เฉียนซีกล่าว “มีสิ แต่ราคาย่อมไม่น้อยแน่!”

“ว่ามา! ข้ามีเงิน” จินซ่านซ่านกล่าวอย่างอาจหาญ

“สิบล้านหยกวิญญาณ ขาดตัว” มู่เฉียนซียิ้ม

“ได้! แต่ข้าจะให้หยกวิญญาณทั้งหมดที่มีตอนนี้แก่เจ้าแล้วขอติดหนี้ไว้ก่อนได้หรือไม่?”

“อย่างน้อยเจ้าก็ต้องทำบัตรแสดงหนี้!”

“อันนี้ง่าย!”

จินซ่านซ่านหยิบบัตรแสดงหนี้ออกมาและเขียนหยกวิญญาณที่ดีที่สุดสิบล้านชิ้นมอบให้กับมู่เชียนซี “แบบนี้ได้ไหม ?”

“ได้!”

มู่เฉียนซียกมือขึ้นและแทงเข็มลงบนแขนของจินซ่านซ่าน

“อ๊า!” จินซ่านซ่านกรีดร้องออกมา

“เจ้าแทงข้าทําไม ?”

“เจ้าดูสิ ตอนนี้ไม่ใช่ว่าเจ้ามีแรงปีนแล้วรึ!” มู่เฉียนซีกล่าว

เมื่อจินซ่านซ่านเดิน เขาพบว่าร่างกายของเขามีแรงอีกครั้งแล้ว เขายิ้มและกล่าวว่า “มีแรงแล้วจริง ๆ ด้วย เจ้าช่างเป็นคนดีเสียจริง!”

เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็อยู่ใกล้กับยอดเขาแล้ว

ในเวลานี้ซวนอี้ที่ขึ้นไปก่อนหน้ามู่เฉียนซี กลับต้องพบกับปัญหา

เมื่อเห็นว่ายังมีเวลาอยู่ เหลิ่งหลินไม่รีบร้อนที่จะปีนขึ้นไปบนยอด แต่มองชายหนุ่มรูปงามในชุดคลุมสีเงินผู้นั้นอย่างมืดครึ้ม

“ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าสามารถขึ้นมาได้เร็วขนาดนี้! แต่ถึงเจ้าจะขึ้นมาแล้ว ก็ไสหัวลงไปซะ!”

ใบหน้าของซวนอี้หม่นคล้ำและกล่าวว่า “ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าลงไป ก็ต้องดูว่าพวกเจ้าจะมีความสามารถหรือไม่?”

“หึหึหึ! เจ้าหนู เจ้ามันบ้าไปหน่อยแล้ว! มีความสามารถหรือไม่ ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้!”

ทันใดนั้น งูพิษทั้งหลายบนตัวของเหลิ่งหลินก็พุ่งเข้าหาเขา

มู่เฉียนซีเชี่ยวชาญด้านพิษและไม่ได้กลัวงูพิษเหล่านี้ แต่ซวนอี้นั้นไม่เหมือนกัน

ซวนอี้เผชิญหน้ากับการโจมตีของเหลิ่งหลินอย่างยากลำบากเป็นอย่างมาก

และมู่เฉียนซี ในเวลานี้ก็ได้ถูกคนของสํานักศึกษาเทียนเฉ๋อสามคนขวางกั้นเอาไว้

พวกเขามองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “แม่นาง เจ้าต้องการที่จะไสหัวลงไปเอง! หรือให้พวกข้าส่งเจ้าลงไป!”

“ข้าชอบเตะพวกเจ้าลงไปมากกว่า” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา พลังธาตุน้ำกวาดผ่านพวกเขาไป

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “มังกรวารีพิฆาต!”

ผู้คนที่อยู่ตีนเขาตะลึงงันและกล่าวว่า “ผู้สมัครได้ลงมือแล้ว”

อาจารย์ใหญ่เหลยกล่าวว่า “การปีนเขาในครั้งนี้ไม่ได้ห้ามไม่ให้ลงมือ การทําให้ฝ่ายตรงข้ามพ่ายแพ้ไปในรอบแรกเพื่อลดจำนวนฝ่ายตรงข้ามในอนาคตก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดี”

“ผู้ที่ใช้งูนั่นดูเหมือนจะเป็นคนของสํานักศึกษาเทียนเฉ๋อ แต่เจ้าหนูชุดคลุมสีเงินและสาวน้อยชุดม่วงนั่น ไม่รู้ว่ามาจากสํานักศึกษาไหน?

“ข้าตรวจสอบดูแล้ว นั่นเป็นนักศึกษาของสํานักศึกษาซวนเสียแห่งทวีปเสียโจว”

“สํานักศึกษาซวนเสียแห่งทวีปเสียโจว สํานักศึกษาเล็ก ๆ นั่นที่มีผลคนแนนไม่น่าพอใจในหลายปีที่ผ่านมา ในรอบนี้หากล่วงเกินสํานักศึกษาเทียนเฉ๋อ เกรงว่าคงจะต้องตกรอบไปตั้งแต่รอบแรกเสียแล้ว!”

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset