ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 824 พยัคฆ์อัคคีผู้ปกปักษ์รักษา

มู่เฉียนซีกล่าว “ใช่! ดาบของข้ามีธาตุไฟที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง มันสามารถที่จะสยบหนามเพลิงเหล่านั้นเอาไว้ได้ ถึงได้โชคดีจัดการพวกมันได้

ถึงต่อให้ไม่พูดพวกเขาก็จะสงสัยอยู่ดี นั่นจึงมิสู้ยอมรับเปิดเผย

แม้พวกเขาจะคิดว่ากระบี่มังกรเพลิงมหัศจรรย์ แต่พวกเขาก็ไม่ได้สงสัยเลยว่ามันคือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของมู่เฉียนซีแล้วก็ได้มีผู้เกิดความโลภขึ้นมา

แต่ทว่ามู่เฉียนซีก็มิใช่เด็กสาวที่ไร้ซึ่งภูมิหลัง นางนั้นเป็นถึงศิษย์คนสนิทของผู้เฒ่าหมอเทวดา

เจ้าเฒ่านั่นไปล่วงเกินได้ไม่ง่ายเลย

ดังนั้นแล้วถึงแม้ว่าจะมีความโลภในของล้ำค่านั้น แต่ก็ไม่กล้าที่จะลงมือ

หลังจากกล่าวทักทายกันไปแล้ว เจ้าสำนักเฟินก็ได้กล่าวขึ้น “ตลอดทางนี้เจ้าจงพักผ่อนให้ดิบดี! ที่ป่าหัวใจเพลิงแห่งนี้ยังมีสิ่งประหลาดธาตุไฟที่แข็งแกร่งอีกมากมาย เมื่อถึงเวลานั้นเกรงว่าจะต้องให้สาวน้อยออกโรงอีกครั้ง!”

เห็นกันอยู่ว่าพลังความสามารถอ่อนแอที่สุด แต่ว่าเป็นเพราะมู่เฉียนซีได้แจ้งเกิดในการต่อสู้เพียงครั้งเดียว ผู้คนจำนวนไม่น้อยจึงนับถือนางเป็นอย่างมาก

ต่อจากนั้นพวกเขาก็ได้รีบเดินทางต่อ โชคของพวกเขานั้นก็ไม่ได้ร้ายเสมอไป!

หลังจากที่ได้พบกับหนามเพลิงที่เป็นสิ่งที่อันตรายอย่างที่สุดแล้วนั้น อันตรายต่อมาที่ได้พบเจอนั้นเป็นเหล่ามหาจักรพรรดิกลุ่มหนึ่ง แต่ยังสามารถที่จะจัดการได้อย่างสบาย ๆ

ความร้อนที่รอบด้านนั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาได้เข้าไปใกล้หุบเขาหัวใจเพลิงเป็นอย่างมากแล้ว

“โฮก!”

ระยะห่างจากจุดที่พวกเขาอยู่ไปยังหุบเขาหัวใจเพลิงเป็นระยะเพียงแค่หนึ่งลี้เท่านั้น พยัคฆ์อัคคีกลุ่มหนึ่งก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของพวกเขา

ราชาพยัคฆ์ที่เป็นผู้นํากล่าวว่า “มนุษย์ ที่แห่งนี้มิใช่ที่ที่พวกเจ้าควรมา พวกเจ้ารีบจากไปเสีย พวกเราไม่อยากที่จะเอาชีวิตพวกเจ้า”

พยัคฆ์อัคคีเป็นราชาแห่งสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในป่าหัวใจเพลิง

ถึงแม้ว่าพวกมันจะแข็งแกร่ง แต่พวกมันกลับไม่กระหายเลือด!

หัวหน้าสำนักเฟินกล่าวขึ้น “ตระกูลพยัคฆ์อัคคีคอยปกป้องที่รอบด้านของหุบเขาหัวใจเพลิงมาโดยตลอด ข้าว่าพวกเจ้าคงคอยปกป้องอะไรอยู่สักอย่างกระมัง!”

“โฮก!” ราชาพยัคฆ์อัคคีจ้องมองหัวหน้าสำนักเฟินอย่างดุร้าย

“มนุษย์ เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว เจ้าอย่าได้คิดว่าจะได้ข้อมูลอะไรจากปากของข้า” มันเปิดปากกล่าว

เจ้าสำนักเฟินกล่าว “ข้าเดาว่าสิ่งที่พวกเจ้าปกป้องอยู่นั้นก็คงเป็นหินแห่งมิติกระมัง!”

“มิติส่งตัวระยะไกลในแดนใต้ของพวกเราพังเสียแล้วและต้องการหินแห่งมิติ ดังนั้นถึงแม้จะต้องเปิดศึกกับพวกเจ้าพยัคฆ์อัคคี พวกเราก็จะต้องเข้าไปในหุบเขาหัวใจเพลิงให้ได้!”

พยัคฆ์อัคคีกล่าว “เรื่องของพวกเจ้าเหล่ามนุษย์ข้าไม่สน พวกเจ้าจงรู้เอาไว้เพียงว่า ที่แห่งนี้มิใช่ที่ที่พวกเจ้าเหล่ามนุษย์สามารถจะเข้ามาได้ก็พอแล้ว!”

หัวหน้าสำนักเฟินกล่าว “เจ้าหมายความว่า เจ้าจะลงมือกับพวกเราแล้ว?”

“ถ้าหากว่าพวกเจ้าต้องการที่จะบุกเข้าไปละก็ มิเพียงแค่ลงมือเท่านั้น พวกข้าจะฆ่าพวกเจ้า”

ทั้งสองฝ่ายต่างล้วนมีจุดยืนของตนเอง ล้วนแต่ไม่สามารถยอมโอนอ่อนให้อีกฝั่งหนึ่งได้

ในตอนนี้นั้นก็มีเพียงผลลัพธ์เดียว นั่นก็คือเปิดศึก!

ผู้ชนะถึงจะเป็นผู้มีสิทธิที่จะพูด!

“พวกเราเองก็จะไม่ยอมเช่นกัน เช่นนั้นมาตัดสินแพ้ชนะกันเถิด! พยัคฆ์อัคคี”

ตูม! ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มเปิดศึกกันขึ้นทันใด และต่อสู้กันอย่างดุเดือดจนถึงขั้นที่ทั้งคนและสัตว์ไม่สามารถที่จะแยกตัวออกจากกันได้

ปัก ปัก ปัก!

หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ได้การเป็นแน่ แต่ทว่ายังโชคดีที่พวกเขามีจำนวนคนมากกว่าฝั่งของพยัคฆ์อัคคีอยู่มาก

เจ้าสำนักเฟินกล่าวขึ้น “พวกเราแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม พวกข้าจะยื้อพยัคฆ์อัคคีเอาไว้ ส่วนผู้อื่นจงไปที่หุบเขาหัวใจเพลิง!”

จำเป็นที่จะต้องไปดูก่อนเพื่อที่จะให้แน่ใจว่ามีหินแห่งมิติอยู่หรือไม่ ถ้าหากว่าไม่มีหินแห่งมิติอยู่ พวกเขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสู้กับเหล่าพยัคฆ์อัคคีที่สู้กันอยู่อย่างไม่หยุดหย่อนนี้!

“ขอรับ!”

เมื่อได้แบ่งกำลังเป็นสองส่วน พลังความสามารถเช่นนี้ของมู่เฉียนซีและจวินโม่ซียากที่จะไปต่อกรกับเหล่าพยัคฆ์อัคคี จึงได้เลือกที่จะไปสำรวจเส้นทางด้านหน้า!

ฟึบ ฟึบ ฟึบ!

เมื่อเห็นว่ามีคนถือโอกาสพุ่งฝ่าออกไป พยัคฆ์อัคคีก็โกรธจัด

“พวกเจ้ามนุษย์ต่ำช้าน่ารังเกียจ!”

“โฮก!”

แผนการของพวกเขาได้ทำให้พยัคฆ์อัคคีโกรธเกรี้ยวจนหมดสิ้น แต่ถึงแม้ว่าพวกมันจะโกรธเกรี้ยวก็มิอาจที่จะหยุดยั้งพวกเขาเอาไว้ได้ทุกคน

ครั้งนี้มนุษย์พากันมามากมายนัก

อีกทั้งส่วนมากยังเป็นยอดฝีมือระดับมหาจักรพรรดิอีกด้วย มิใช่อะไรที่พวกมันนึกอยากจะหยุดยั้งก็สามารถหยุดยั้งเอาไว้ได้

หลังจากได้บุกแนวป้องกันของพยัคฆ์อัคคีไปได้แล้ว ไม่นานนักพวกเขาก็ได้มาถึงหุบเขาหัวใจเพลิง

เมื่อยืนอยู่บนหุบเขาที่แตกร้าว ที่ด้านล่างนั้นเป็นเหวลึกที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด

จะสัมผัสได้ก็เพียงแต่ไอร้อนลอยขึ้นมาจากด้านล่างที่สามารถเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างได้

ด้านล่างนั้นจะต้องเป็นเปลวเพลิงหินเหลวอย่างแน่นอน (ลาวา)

ที่แห่งนี้จะมีหินแห่งมิติอยู่จริง ๆ หรือ?

พวกเขาได้นำอาวุธวิญญาณที่สามารถตรวจจับสิ่งของได้มาด้วย นี่ล้วนแต่เป็นสมบัติเก่าเก็บของแต่ละสำนักใหญ่

“มีความผันผวนของพลังวิญญาณจากหินแห่งมิติ ที่แห่งนี้มีหินแห่งมิติอยู่”

“แต่ว่าหินแห่งมิตินั้นจะอยู่ที่แห่งใด? หรือว่ามันอยู่ที่ด้านล่างนั่นหรือ?”

“…….”

พวกเขาก้มหน้ามองลงไปยังหุบเหวลึกที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด พวกเขาล้วนรู้สึกหวั่นเกรงขึ้นมาบ้าง

เพราะหากตกลงไปจากที่ตรงนี้ คงจะได้สลายกลายเป็นฝุ่นผงเป็นแน่แม้ว่าจะเป็นยอดฝีมือระดับมหาจักรพรรดิก็ตาม

มู่เฉียนซีก็เหมือนกับทุกคน ถึงแม้สงสัยว่าหินแห่งมิติอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปหาได้จากตรงไหน

ในตอนนี้หอฉงโหลวบนเมฆาที่หลับใหลอยู่ได้ตื่นขึ้นมา

“นายท่าน นายท่าน ข้าสัมผัสได้ถึงความผันผวนของหินแห่งมิติ ที่ที่ท่านอยู่ในตอนนี้มีหินแห่งมิติอยู่” หอฉงโหลวบนเมฆาตื่นเต้นเป็นที่สุด

มันตื่นเต้นราวกับวิญญาณที่หิวตายมาหลายหมื่นปีได้กินอาหารเข้าไปก็มิปาน

มู่เฉียนซีตะลึงค้าง “เจ้าสามารถสัมผัสได้ถึงหินแห่งมิติ?”

หอฉงโหลวบนเมฆากล่าว “ข้าหอฉงโหลวบนเมฆาจะเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่ไม่ได้มีพลังที่แข็งแกร่งอะไรในการต่อสู้ แต่สำหรับในเรื่องของการเคลื่อนย้ายนั้นมันไม่เหมือนกัน หากข้าสัมผัสถึงหินแห่งมิติที่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ได้ เช่นนั้นก็แปลกแล้ว”

มู่เฉียนซีถามขึ้น “เช่นนั้น หินแห่งมิติมันอยู่ที่ใดกันเล่า?”

“ที่ที่นายท่านอยู่ในตอนนี้คือพื้นที่ที่เป็นรอยแตกเป็นหุบเหว มันมิเพียงแต่เป็นรอยแตกแค่บนพื้นผิวเท่านั้น ในขณะเดียวกันที่ในมิติก็เกิดรอยแยกเช่นกัน ที่ที่มันซ่อนอยู่มิใช่มิติแห่งนี้ที่นายท่านอยู่ ดังนั้นนายท่านจึงมองไม่เห็นมัน” หอฉงโหลวบนเมฆากล่าว

มู่เฉียนซีกล่าวถาม “เช่นนั้นเมื่อหามันพบแล้วก็เหมือนกับเปล่าประโยชน์ ในเมื่อไม่ได้อยู่ในมิติเดียวกัน เช่นนั้นมิใช่ว่าไม่สามารถเอามาได้หรือ?”

หอฉงโหลวบนเมฆาตอบ “ถ้าหากว่านายท่านไม่มีข้าและมิได้ให้ท่านสุ่ยจิงอิ๋งจัดการ ก็มิอาจที่จะเอามันมาได้เลย แต่เมื่อมีข้าอยู่ แน่นอนว่าข้าจะไม่ให้นายท่านพลาดหินแห่งมิติไป”

“นายท่าน ข้าจะออกไปแล้วนะ ข้าจะดึงดูดมิตินั้นออกมาให้มาเชื่อมเข้ากับมิติแห่งนี้ จากนั้นนายท่านก็จะสามารถมองเห็นมันได้แล้ว”

มู่เฉียนซีถามขึ้น “คงจะไม่เกิดปัญหาอะไรกับเจ้ากระมัง?”

หอฉงโหลวบนเมฆายิ้มแล้วกล่าว “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก! นี่เป็นเรื่องเล็ก ๆ เท่านั้น รอประเดี๋ยวให้หินแห่งมิติมาซ่อมแซม ข้าก็จะสูญเสียพลังไปเพียงนิดเดียว”

แสงสีขาวพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว และซ่อนตัวอยู่ในเมฆ

ทันใดนั้นท้องฟ้าทั้งหมดก็มืดลงทั้งที่ยังไม่ถึงเวลากลางคืน

ในอากาศมีบางสิ่งอยู่ในนั้น!

ทุกคนต่างพากันแหงนหน้าขึ้นไปมอง แม้แต่พยัคฆ์อัคคีก็ยังหยุดการฆ่าฟันกับเหล่ามนุษย์ลงและมองขึ้นไปบนฟ้าด้วยความตะลึง

หออันประณีตหอหนึ่งได้ปรากฏขึ้นกลางอากาศอย่างช้า ๆ

รอบด้านเต็มไปด้วยลมพายุที่น่าหวั่นพรึง และมันได้พุ่งไปที่ส่วนลึกสุดของหุบเหวหัวใจเพลิง

เจ้าสำนักเฟินกล่าว “นั่นคือ…หอฉงโหลวบนเมฆา!”

“หอฉงโหลวบนเมฆาในตำนานได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว”

“มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพแห่งมิติที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง!”

“มันปรากฏขึ้นมานั่นหมายความว่ามีหินแห่งมิติอยู่ที่นี่จริง ๆ ใช่หรือไม่?”

ทุกคนอดรู้สึกตื่นเต้นมิได้

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset