นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 33

 

“อุฮุฮุฮุฮุ♡ วิเศษไปเลยค่ะ โลกนี้มันช่างสดใสจริงๆเลยค่ะ คุณเรียว….!”

 

“อะ อื้ม เอาเถอะ แต่ช่วยมองไปข้างหน้าก่อนได้รึเปล่า?”

 

หลังจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ผมก็หนีออกมาพร้อมกับคุณไอริสได้สำเร็จ

สำหรับการหลบหนีของพวกเรา ทำได้จากเครื่องรางที่ได้รับมาจากคุณซึกิคาเงะหลายชิ้น

 

ดูเหมือนว่าเวทย์กระแสจิตจิตเมื่อกี้ก็จะมาจากเครื่องรางนี้เช่นกัน

ในเครื่องรางนั้นดูเหมือนจะมีสิ่งที่เรียกว่าวงเวทย์หรือยันต์เวทย์มนต์อยู่

เมื่อเปิดใช้งาน คนรอบๆข้างจะไม่รู้สึกถึงตัวตนของผู้ใช้เป็นระยะเลาหนึ่ง

 

ผมกับคุณไอริสจึงใช้เครื่องรางนั่นฝ่าออกไป

เพียงแต่ว่าการหายตัวไปอย่างกระทันหันของพวกเรามันสร้างความวุ่นวายให้แถวนั้นมากเลยล่ะ…

แต่ก็ดีกว่าต้องอยู่ที่นั่นต่อไปล่ะนะ

 

พวกผู้หญิงรอบๆนั่นจ้องที่ผมเขม็ง ตาไม่กระพริบกันเลยจริงๆ….

เหมือนถูกล้อมรอบไปด้วยมอนสเตอร์ระดับ S มากมายที่กระหายเลือด ขืนอยู่นานๆคงขวัญผวา

 

“ฮิฮิ♡ คุณเรียวเห็นหน้าสามคนนั้นรึเปล่าคะ? อาาา สดชื่นจังเลยค่ะ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกเลยตั้งแต่อยู่ในเมืองหลวงมาแล้วมีความสุขถึงขนาดนี้น่ะค่ะ”

 

เอาเถอะ ยังไงก็ดีแล้วล่ะที่ดูเหมือนว่าคุณไอริสจะกลับมาร่าเริงแล้ว

ตอนนี้เธอไม่ได้สวมเสื้อคลุมสีเทาเหมือนกับที่เธอสวมก่อนหน้านี้อีกต่อไป

ดูเหมือนว่าจากการที่เธอได้อวดเซ็กส์ของเธอที่สวนสาธารณะเมื่อกี้จะทำให้เธอก้ามข้าวผ่านความรู้สึกแย่ๆไปได้

 

เธอไม่ซ่อนหน้าตาของเธออีกแล้ว เธอเดินข้างๆโดยโอบแขนผม

บางครั้งคนที่เดินผ่านไปมาเห็นคุณไอริสก็มีขมวดคิ้วบ้างล่ะนะ

 

แต่ว่า พอเห็นคุณไอริสเดินควงแขนผมแบบนี้ ทุกคนก็ทำหน้าผวา

นอกจากนั้น ก็ยังได้เห็นท่าทางที่สง่างามของคุณไอริส

ทั้งยังเห็นใบหน้าที่ขี้อายของเธอมากขึ้นด้วย

 

ก่อนหน้านี้ผมเคยได้ยินมาว่าที่เมืองหลวง การที่ผู้หญิงมีคนรักเป็นผู้ชายหรือการแต่งงานกับผู้ชายมันถือเป็นสถานะอันยิ่งใหญ่ของผู้หญิงมากๆ

ดังนั้นพอเราสองคนเดินเคียงข้างกัน พวกผู้หญิงรอบๆจึงทำหน้าแบบรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่ากันทันที

 

—ทำไมผู้หญิงน่ารังเกียจแบบนั้นถึงได้เดินอยู่กับผู้ชายกันล่ะ

—น่าเกลียดขนาดนั้นแต่ยังคว้าผู้ชายไว้ได้ งั้นทำไมฉันจะทำไม่ได้กันล่ะ

 

คำพูดแบบนั้นถูกส่งมาถึงผมแบบไร้เสียง

 

“คุณเรียวคะ นี่ค่ะ เชิญเลยค่ะ”

 

“ขอบคุณนะ ราคาเท่าไหร่เหรอ?”

 

“ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินหรอกนะคะ! จะให้สุภาพบุรุษมาออกเงินแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ!”

 

“ถึงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ขอยินดีรับไว้ก็แล้วกันนะ”

 

“ค่ะ ขอรับไว้แค่ความรู้สึกนั้นก็พอแล้วล่ะค่ะ”

 

คุณไอริสที่กำลังอารมณ์ดี เดินมาหยุดอยู่ที่ร้านแผงลอยขายอาหารร้านหนึ่ง

และก็ยืนสั่งของกินเหมือนคุ้นเคยเป็นอย่างดี แล้วเธอก็ซื้อของกินให้ผม

 

เป็นแบบนี้มาพักนึงแล้ว ผมกับคุณไอริสที่ตอนนี้อยู่ห่างจากสวนสาธารณะไปนิดหน่อย

เดินซื้ออาหารกินตามร้านแผงลอยแบบนี้ไปเรื่อยๆ 

แทนที่จะไปนั่งกินด้วยกันที่แผงขายอาหารหลักๆและคุณไอริสก็ออกเงินให้ผมหมดทุกอย่าง

 

อืม หลังจากมีเซ็กส์กันในที่กลางแจ้งที่สวนสาธารณะนั่นแล้ว ก็ยังมีผู้หญิงมาเลี้ยงข้าวอีก…

แบบนี้ผมคงไม่ได้ตายดีแน่ๆเลยใช่มั้ยเนี่ย?

 

“อ๊ะ อันนี้อร่อยแฮะ”

 

“ถ้าถูกปากคุณเรียวล่ะก็ โล่งอกไปทีค่ะ”

 

พวกเราสองคนนั่งข้างกันตรงร้านแผงลอย

แป้งบางๆที่ใส่ผลไม้และครีมนี่ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าเครป

ท่าจะเป็นเมนูที่นิยมกันมากในเมืองหลวงมาสักระยะแล้ว

 

….แต่เมนูนี้มันดูเหมือนจะมีแคลอรี่เยอะไปหน่อยนะ แถมดูจะไม่น่ามีคุณค่าทางโภชนาการครบด้วย

แถมยังไม่สามารถทำให้อิ่มท้องได้อีกต่างหาก อาหารของปีศาจรึไงกันเนี่ย?

 

“จะว่าไปแล้ว นักผจญภัยดาร์กเอลฟ์สาวคนนั้น…..ชื่อซิลเวียใช่มั้ยนะ? เธอพูดจาแรงๆกับคุณไอริสจังเลยนะ”

 

ขณะที่ผมกำลังค่อยๆกินเครป ผมก็ถามคำถามที่ยังค้างคาอยู่ในใจของผม

 

“อาา…นั่นสินะคะ ยิ่งเป็นซิลเวียแล้วก็จะทะเลาะกับฉันเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเราเป็นญาติกันก็ได้ค่ะ….”

(เผ่าเอลฟ์กับดาร์กเอลฟ์ก็คงจะคล้ายๆเครือญาตินั่นแหละครับ เผ่าใกล้เคียงกัน)

 

“เป็นงั้นเหรอ?”

 

นอกจากนี้ผมยังมีข้อสงสัยอื่นๆที่เกี่ยวกับคุณซิลเวียอยู่อีก

ถึงแม้เธอจะเป็นคนที่ดูมีใบหน้าที่ดูแข็งแกร่ง แต่เธอก็เป็นคนที่สวยมาก

แต่ถ้าคิดตามบริบทโลกนี้แล้วเธอควรจะเป็นผู้หญิงที่น่าเกลียดไม่ใช่เหรอ

 

ไม่เหมือนกับคุณไอริสเลย คุณไอริสเธอกังวลถึงสายตาของคนรอบๆตัวและพยายามซ่อนหรือปิดบังตัวตน

แต่คุณซิลเวียกลับดูภูมิใจทั้งๆที่เปิดเผยใบหน้า สาเหตุของความแตกต่างนี่มันคืออะไรกันนะ?

 

“อ๊ะ… นั่นก็เพราะว่า ซิลเวียคือเอซของเฮียกกะเรียวรันไงล่ะคะ เธอถือว่าเป็นระดับแนวหน้าในพวกระดับสูงเลยล่ะค่ะ”

 

“ไม่ใช่แค่นั้นสินะ?”

 

“ซิลเวียน่ะแต่งงานแล้วน่ะค่ะ แถมเธอยังเป็นคนเดียวในเฮียกกะเรียวรันที่แต่งงานแล้วด้วยค่ะ แล้วถ้ามีใครไปดูถูกเธอล่ะก็เธอก็จะสวนว่า ‘แล้วหล่อนแต่งงานรึยังล่ะ? นี่สถานะของผู้หญิงของหล่อนนี่มันต่ำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?’ เพราะแบบนั้นแหละค่ะ จึงไม่ค่อยมีใครที่จะไปยุ่งกับซิลเวียได้ อันที่จริงแล้วฉันก็เคยเห็นเธอใช้คำพูดนั้น จัดการกับฝั่งตรงข้ามด้วยล่ะค่ะ”

 

คำพูดเหล่านั้นทำให้ผมตกใจ

 

“ตะ แต่งงานเนี่ย หมายความว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอย่างงั้นเหรอ!?”

 

“คะ….ค่ะ ก็หมายความแบบนั้นน่ะสิคะ?”

 

“แต่งงานแล้ว….มีคนที่แต่งงานกับดาร์กเอลฟ์….!”

 

“อะ เอ่อ…คุณเรียว?”

 

ไม่มีทาง ไม่มีทางน่า แต่งงานกับดาร์กเอลฟ์เนี่ยนะ!

มีใครบางคนในเมืองหลวงที่ต้องการตัวดาร์ฟเอลฟ์คนนั้นเป็นภรรยาเนี่ยนะ…!

 

กลับบ้านแล้วจะต้องได้เจอกับคำว่า ‘ยินดีต้อนรับกลับนะคุณคะ จะอาบน้ำก่อน♡ จะกินข้าวก่อน♡ หรือว่าจะเป็น….’ ต้องมีแบบนี้แน่ๆเลย..!!

แล้วจากนั้นก็ทำอะไรซุกซนกับหน้าอกของสาวผิวน้ำตาลนั่นบนเตียง….!

 

….มาคิดดูแล้ว หัวนมของดาร์ฟเอลฟ์นี่สีอะไรกันนะ

จะเป็นสีน้ำตาลเพราะสีผิวรึเปล่านะ? อืมมม อยากรู้จัง

 

“คะ คุณเรียว? เอ่อ ก็จริงอยู่ว่าซิลเวียเป็นดาร์กเอลฟ์ที่แต่งงานแล้วก็จริงอยู่ คือว่า….มีอะไรคาใจอยู่อย่างงั้นเรหอคะ?”

 

“เอ๊ะ? อะ….อา…มันก็คาใจแหละนะ ก็นั่นไง นั่นไงล่ะ ถ้าคุณซิลเวียเป็นภรรยาล่ะก็ ผมก็สงสัยว่าสามีเขาจะเป็นคนยังไงน่ะ”

 

ผมไม่กล้าที่จะตอบไปตามตรงว่าจริงๆแล้วผมกำลังคิดถึงสีหัวนมของดาร์กเอลฟ์อยู่

ผมก็เลยตอบคุณไอริสไปแบบนั้น

 

“บางทีแล้วเขาคนนั้นอาจจะมีความรู้สึกแบบเดียวกับผมอยู่ก็ได้นี่? ผมก็เลยคิดว่าอยากจะลองไปคุยกับเขาดูหน่อยน่ะ”

 

จากที่ได้ยินคำพูดของผม คุณไอริสก็ทำหน้าขุ่นมัวด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

“อย่างงี้นี่เอง เป็นอย่างงั้นเองสินะคะ แต่ว่านั่นอาจจะค่อนข้างเป็นเรื่องยากหน่อยนะคะ ก็เพราะว่าสามีของซิลเวียน่ะเป็นขุนนางน่ะค่ะ…”

 

“ขะ ขุนนางอย่างงั้นเหรอ….”

 

ถ้าอย่างงั้นก็คงคุยกันไม่ได้แล้วล่ะนะ

 

“เป็นภรรยาของขุนนางอย่างงั้นเหรอ….อ๊ะ ถ้างั้นก็แปลว่าคุณซิลเวียนี่ต้องมีชื่อเสียงมากในเมืองหลวงเลยใช่รึเปล่า?”

 

“เอ๊ะ?”

 

“ก็แบบ พวกนักผจญภัยหญิงที่ได้ขึ้นเป็นแรงค์ S ส่วนใหญ่ก็จะจบลงด้วยการแต่งงานกับพวกสุภาพบุรุษใช่มั้ยล่ะ?”

 

เอ๋? ถ้าเป็นที่โลกนี้มันก็น่าประมาณทามาโนะโคชิรึเปล่านะ?

ไม่สิ หรือจะเป็นทามาโนะโคชิกลับด้าน

 

เหรอ?

(อันนี้ไม่แน่ใจว่าคืออะไรแต่เท่าที่หามาเหมือนจะเป็นการแต่งงานที่แสวงหาผลประโยชน์ 

ทามาโนะโคชิคือได้เงินทองและฐานะทางสังคมจากการแต่งงานกับพวกผู้มีอำนาจ

ส่วนทามาโนะโคชิกลับด้านคือการแต่งงานโดยการใช้พลังอำนาจและเงินทอง)

(แปลง่ายๆก็น่าจะ แนวคิดที่แต่งงานหวังผลประโยชน์ กับ ใช้ผลประโยชน์ไปแต่งงาน)

 

“อืม…..นั่นน่ะมัน…ถึงจะบอกว่าซิลเวียแต่งงานแล้ว แต่…..ถึงจะเรียกว่าแต่งงานแต่เธอก็เป็นภรรยาคนที่สิบสองน่ะค่ะ…”

 

“สะ สิบสอง!?”

 

“เพราะแบบนั้นแหละค่ะ ถึงไม่ค่อยได้รับความนิยมจากประชาชนซักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างงั้นการที่สามารถแต่งงานกับสุภาพบุรุษได้นั้นก็ถือว่าเป็นสถานะที่มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในตัวของมันเองอยู่แล้วล่ะค่ะ ดังนั้นเลยไม่มีใครกล้าพูดไม่ดีกับเธอเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ที่บ้านของซิลเวียยังเป็นตระกูลพ่อค้ารายใหญ่อีกด้วยค่ะ”

 

อย่างงี้นี่เอง…..แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะนะ ภรรยาคนที่สิบสองเลยงั้นเหรอ

สำหรับขุนนางแล้ว การแต่งงานแบบนี้เป็นเรื่องปกติอย่างงั้นเหรอ ดูลำบากยังไงไม่รู้สิ

คงไม่มีวันไหนที่ผมรู้สึกขอบคุณในสามัญสำนึกแบบคนธรรมดาของตัวเองไปได้มากกว่าวันนี้แล้วล่ะ

 

จะว่าไปแล้วกิลด์มาสเตอร์เองก็มีภรรยาตั้ง 4 คนนี่นา

ผมสงสัยเหมือนกันนะว่าซักวันนึงถ้าผมจะแต่งงาน ผมจะมีภรรยาหลายคนแบบนั้นรึเปล่านะ?

 

ประเทศนี้ดูเหมือนจะสนับสนุนแนวคิดการมีภรรยาหลายคนด้วย

ดังนั้นวันที่ผมจะต้องแต่งงานก็อาจจะมาถึง….เอาเถอะ จะมานั่งคิดไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก

ตัวผมในตอนนี้ยังคงอยากไปไหนด้วยกันพร้อมๆกับทุกคนในโรเซนครูเซอร์อยู่ล่ะนะ

 

เอาล่ะ ก็อย่างที่ว่าไปนั่นแหละ ตอนนี้อากาศก็ค่อนข้างดีซะด้วยสิ

ไปเที่ยวชมเมืองหลวงกับคุณไอริสต่ออีกซักหน่อยดีมั้ยนะ

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset